Saturday, 18 May 2024
เพื่อไทย

‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘36 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง’ เผยสัญญาณเลือกตั้งใหญ่เริ่มชัด ถึงเวลาพาไทยพ้นวิกฤต

เดินหน้าแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘36 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง’ ปลุกเลือกให้ยกจังหวัด จับมือตั้งรัฐบาลประชาชน เผยสัญญาณเลือกตั้งใหญ่เริ่มชัด เป็นโอกาสพาประเทศพ้นวิกฤต

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยาและประธาน ส.ส. และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ภาคกลาง เบื้องต้น 36 คน ในพื้นที่ 15 จังหวัด ซึ่งเป็นการยืนยันความพร้อมของพรรคเพื่อไทย ในการดูแลพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เหล่านี้ พร้อมอาสาจะมาเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย ในการดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนและเสนอตัวเข้าสู่กระบวนการสรรหาเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป  

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ภาคกลางถือเป็นพื้นที่สำคัญของประเทศ ถือเป็นแกนกลางและเป็นหัวใจในการพัฒนาประเทศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยจึงเป็นเสมือนจุดเชื่อมของพรรคกับพี่น้องประชาชน เพื่อไปบอกกับพี่น้องประชาชนว่า เราจะต้องช่วยกันนำพาประเทศออกจากวิกฤตครั้งนี้ให้ได้ พรรคเพื่อไทย มุ่งมั่นที่จะส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขต ในพื้นที่ภาคกลาง แต่วันนี้เราขอเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ภาคกลางเบื้องต้น 36 เขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผู้อาสามาเป็นตัวแทนในการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ส่วนผู้สมัครในพื้นที่เขตอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาผู้ที่เหมาะสมและจะเปิดเผยต่อไป 

“8 ปีที่ผ่านมาเราสูญเสียโอกาสต่างๆ ไปเยอะมาก ทั้งในเรื่องการทำมาหากิน ปากท้อง เศรษฐกิจ ไปจนถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่ถูกทำลายไปอย่างย่อยยับ เราอยากบอกกับพี่น้องว่าขอให้ช่วยกันนำพาประเทศออกจากวิกฤตครั้งนี้ให้ได้ การเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ซึ่งคาดการณ์เอาไว้ว่าอาจจะมีการยุบสภาหลังประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก ในช่วงปลายปี 2565 และอาจมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในช่วงต้นปี 2566 พรรคเพื่อไทยเห็นความเป็นอยู่ของพี่น้องเป็นเรื่องสำคัญ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องให้มาร่วมกันเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างแลนด์สไลด์ และไม่ต้องลังเล เพื่อร่วมกันช่วยกันให้ออกจากวิกฤต 8 ปีที่เรายากลำบากให้ได้ โดยแลนด์สไลด์จะเป็นกลไก ในการป้องกันอำนาจมิชอบและเป็นการปิดสวิตช์ ส.ว. ที่จะตั้งนายกรัฐมนตรีไปโดยปริยาย” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว   

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ด้วยนโยบายที่ทำได้จริง และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนจนสามารถลืมตาอ้าปากได้ อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตามที่พรรคยึดมั่นหัวใจหลักสำคัญ คือ ประชาชนเป็นศูนย์กลาง จนพูดได้อย่างเต็มภาคภูมิว่า พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน เราพร้อมที่จะทุ่มเททุกสรรพกำลังในการทำงานดูแลพี่น้องคนไทยทุกคน เราและพี่น้องประชาชนจะจับมือกันสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน เหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีตที่ทำให้เราได้รัฐบาลของประชาชนที่แท้จริง ทั้ง รัฐบาลไทยรักไทย รัฐบาลพลังประชาชนและรัฐบาลเพื่อไทย ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยยกจังหวัด เลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทุกจังหวัด ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน แล้วเราจะก้าวพ้นวิกฤต กลับคืนสู่การมีชีวิตและอนาคตที่ดีกว่าไปด้วยกัน

อนุสรณ์ อัด!! สัญญาค่าแรงขั้นต่ำ 425 รัฐทำไม่ได้ เป็นการตระบัดสัตย์ หลอกประชาชนหวังผลคะแนน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี มติคณะกรรมการค่าจ้างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2565 ชลบุรี, ระยอง, ภูเก็ต ค่าแรง 354 บาทต่อวัน ส่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้, น่าน และอุดรธานี ถูกสุด 328 บาทต่อวัน ว่า พรรคพลังประชารัฐที่ตอนนี้มีหัวหน้าพรรคเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี รู้สึกอย่างไร ที่นโยบายหาเสียงเป็นสัญญาประชาคมกับประชาชน ไม่สามารถทำได้ตามสัญญาทั้งที่มีอำนาจล้นมือ ถือเป็นการตระบัดสัตย์ หลอกลวง เพื่อหวังผลคะแนนตอนเลือกตั้งหรือไม่ 

ตอนหาเสียงบอกว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท เท่ากันทั่วประเทศ พอมาเป็นรัฐบาลปรับแต่ละครั้งกะปริบกะปรอย แต่ละพื้นที่ก็ปรับไม่เท่ากัน ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำ จนปลายอายุรัฐบาล จังหวัดที่ได้มากที่สุดก็ยังห่างไกลจาก 425 บาทที่หาเสียงอยู่มาก แทนที่จะพูดในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่พูด กลับพูดแล้วไม่ทำ และอาจเตรียมไปพูดโม้ใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เกียรติภูมิของความเป็นพรรคการเมืองแทบไม่เหลือ กกต.จะดำเนินการอย่างไร ถ้าพรรคการเมืองไปหาเสียงแล้วทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ แล้วไม่เกิดผลอะไรทางกฎหมาย ต่อไปพรรคไหนอยากพูดอะไร อยากสัญญาอะไร พอทำไม่ได้ก็ไม่มีความผิด ไม่ต้องรับผิดชอบ กลายเป็นเพียงคำสัญญาที่ว่างเปล่าหลอกลวงประชาชน นโยบายที่ใช้หาเสียงแล้วทำไม่ได้ควรมีราคาที่ต้องจ่าย จะยุบพรรคหรือถูกลงโทษอย่างไรก็ควรต้องมีบรรทัดฐาน 

'อนุสรณ์' เหน็บ 'บิ๊กตู่' เห็นเล็งปืนแล้วนึกถึงงานวัด แนะนำให้ลาออก เพราะตอนนี้หมดสภาพผู้นำประเทศ

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า ไม่รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะทนอยู่ให้ตัวเองลำบากใจไปเพื่ออะไร ถึงเวลาต้องทำใจ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ เมื่อวานนี้ (29 สิงหาคม) ไปเล็งปืน ดูนิทรรศการอาวุธได้ แต่วันถัดมากลับเข้าประชุมครม. ที่ทำเนียบไม่ได้ ต้องประชุมผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ เดือดร้อนไปถึงพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมครม. แต่ไม่กล้านั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ต้องปล่อยเว้นว่างไว้ ใครจะการันตีความสัมพันธ์ของ 3 ป.อย่างไร

“นาทีนี้น่าจะไม่เหมือนเดิม พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนจะพยายามทำตัวให้ดูดี มีสปิริต ทำหน้าที่แข็งขันไม่ว่าจะตำแหน่งไหน แต่คำถามคือ ตอนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการรกระทรวงกลาโหม ไม่เห็นจะใส่ใจการงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขนาดนี้ เห็นพล.อ.ประยุทธ์เล็งปืน นึกถึงบรรยากาศงานวัด หมดสภาพผู้นำจากการรัฐประหารยึดอำนาจ จับคนไปปรับทัศนคติ มีมาตรา 44 ตอนเล็งปืนพล.อ.ประยุทธ์ เล็งเห็นอนาคตตัวเองหรือไม่ ได้เล็งเห็นอนาคตประเทศในวันที่ไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ อย่างไร” นายอนุสรณ์ กล่าว

'เพื่อไทย' แนะ 'ประวิตร' เร่งแก้หนี้นอกระบบ ชี้!! หากชักช้าจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมประชาชน

นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม ในฐานะรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจครึ่งแรกของปี 2565 พบผู้ประกอบการปิดกิจการสูงถึง 7,500 บริษัท ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย ที่ชี้ชัดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยยังไม่พ้นปากเหว นับแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ภายหลังเกิดปัญหาการระบาดของโควิด รัฐบาลประเมินสถานการณ์ผิดพลาด และออกมาตรการที่ไม่จริงใจส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการรายย่อยหลายแสนรายปิดตัวลง

ผลที่ออกมาอยากให้รัฐบาลย้อนไปดูตัวเองว่า บริหารประเทศอย่างไร เงินกู้จำนวน 1.5 ล้านล้าน ที่รัฐบาลบอกว่าจะนำมาช่วยผู้ประกอบการ ก็ไม่เป็นความเป็นจริงไม่มีผู้ประกอบการหลายหมื่นบริษัท เข้าไม่ถึงเงินกู้ที่รัฐบาลจัดไว้ ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หลายแห่งต้องประสบปัญหาด้านเงินทุน จนไปต่อไม่ได้

'เพื่อไทย' แนะ 'กยศ.' ต้องเปลี่ยนเงื่อนไขกู้ยืม เปิดโอกาสให้กลุ่มวิชาชีพ-ดอกเบี้ยต่ำ-งดฟ้องร้อง

ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....หรือ กยศ. โดยสรุปว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นนโยบายที่ดี เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาที่ยากจน ได้มีโอกาสกู้ยืมเงินมาศึกษาเล่าเรียนเพื่อสร้างอนาคต แต่ในกระบวนการกู้ยืมเงินมีปัญหาและอุปสรรค ตั้งแต่การจำกัดให้เฉพาะนักเรียนหรือนักศึกษาในระบบการศึกษาเท่านั้นที่สามารถกู้ยืมได้ แต่ประชาชนทั่วไปที่อยู่นอกระบบการศึกษากลับไม่มีโอกาสเข้าถึงเงินกองทุนกู้ยืม เงื่อนไขการกู้ยืมเงินที่ยุ่งยาก ต้องมีการพิสูจน์ความยากจน มีอัตราดอกเบี้ยสูง และต้องมีบุคคลค้ำประกันเงินกู้ เพราะสำหรับคนจนซึ่งยากจนอยู่แล้ว ก็ยิ่งหาคนมาช่วยค้ำประกันได้ยากยิ่งกว่า 

เมื่อสำเร็จการศึกษาและถึงกำหนดชำระหนี้เงินกู้ ถ้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดก็จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจนเป็นข่าวแพร่หลายว่าผู้ค้ำประกันหนี้เงินกู้ต้องถูกฟ้องยึดบ้านยึดไร่นาเพื่อใช้หนี้ กยศ. 

ส.ส.พรรคเพื่อไทย จึงร่วมอภิปรายแสดงความเห็น เสนอแนวคิดให้นักศึกษาที่ศึกษาในสถาบันการศึกษาเอกชนนอกระบบก็สามารถกู้ยืมเงินกองทุนได้ อาทิ โรงเรียนฝึกมวยไทยอาชีพ การกู้ยืมเงินกองทุนไม่ควรต้องพิสูจน์เรื่องความยากจน ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน และควรมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงรัฐควรยุติฟ้องคดีหนี้ กยศ.ชั่วคราว เพราะการฟ้องร้องคดี กยศ. เป็นการทำลายอนาคตของนักศึกษาและสร้างภาระความเดือดร้อนแก่ผู้ค้ำประกัน

[+นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ]
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ควรครอบคลุมถึงสถาบันการศึกษาเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งในส่วนสถาบันการศึกษานอกระบบนี้ยังรวมถึงการฝึกอบรมวิชาชีพต่าง ๆ เช่น การนวดแผนโบราณ หรือสถาบันฝึกมวยไทยอาชีพ เพราะวิชาชีพเหล่านี้เป็นอาชีพให้พี่น้องสร้างรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาจำนวนมากและชอบการนวดแผนไทย ชอบมวยไทย ดังนั้น เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขนิยามแล้ว ก็ควรให้กลุ่มวิชาชีพนอกระบบนี้อยู่ในเกณฑ์กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาดังกล่าวได้

[+จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.]
กยศ. ควรมีการจัดทำข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับนักเรียนและนักศึกษาเพื่อประกอบการตัดสินใจการเลือกคณะที่จะศึกษาต่อ โดยเฉพาะข้อมูลด้านสถิติการมีงานทำ ประเภทงานที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ประเภทงานที่ขอให้กู้ยืมเงินรวมถึงการคาดการงานที่จำเป็นในตลาดแรงงานอันใกล้ ซึ่งเป็นข้อมูลจำเป็นที่ กยศ. ควรมีอย่างต่อเนื่อง ชี้แจงให้นักเรียนนักศึกษาได้ทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจการเลือกคณะที่เรียนและขอกู้เงินอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนหรือนักศึกษาต้องตกงานภายหลังสำเร็จการศึกษา

[+นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร]
ประเทศไทยยังมีพี่น้องชาติพันธุ์ ที่มีปัญหาไม่ได้รับสัญชาติไทย แต่เขาเกิดบนแผ่นดินไทย เมื่อไม่มีสัญชาติก็ไม่มีโอกาสด้านการศึกษา เมื่อเขาขาดโอกาสจากในโรงเรียนปกติ เราควรเปิดโอกาสให้เขาได้เรียนในโรงเรียนฝึกอาชีพอื่นๆ เปิดช่องทางให้เขาได้กู้ยืมได้เรียนหรือไม่ เพราะนี่คือการให้โอกาส ถ้าเขาได้ยืมเงิน ได้เรียน ได้ใช้มันสมองในการพัฒนาอาชีพ เลี้ยงชีวิต ก็จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ขออย่าได้กีดขวางเขาเพียงแค่ต้องเรียนในระบบเท่านั้น

[+คมเดช ไชยศิวามงคล  ส.ส.กาฬสินธุ์]
ปกติแล้ว การค้ำประกันจะเกี่ยวเนื่องพัวพันไปถึงการดำเนินคดี การยึดทรัพย์ การขายทอดตลาด ตลอดจนถูกฟ้องล้มละลาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 ปีที่ผ่านมาปรากฏว่านักเรียนนักศึกษา รวมถึงผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดระบาด ต้องเดือดร้อนตกงาน จึงถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ตกเป็นจำเลยทั้งตัวนักเรียนนักศึกษาครอบครัวต้องเดือดร้อน และเดือดร้อนไปถึงผู้ค้ำประกันที่ถูกฟ้องยึดทรัพย์ จึงควรหาหนทางแก้ไขปัญหา ดังนั้น ปัญหาหนี้ กยศ. การฟ้องร้องไม่น่าจะใช่ทางออกของการแก้ปัญหา การกู้ยืมเงิน กยศ. ไม่ควรมีการค้ำประกัน และเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติ ปัญหาฟ้องร้องเหล่านี้น่าจะลดน้อยลง

'เพื่อไทย' ชี้!! รัฐต้องหยุดจัดการน้ำแบบสะเปะสะปะ แนะควรเพิ่มบทบาท ‘ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ’ ให้มากขึ้น

เพื่อไทย ชี้รัฐบาล อยู่มา 8 ปี ‘ยิ่งแก้ น้ำยิ่งท่วม’ แนะเพิ่มบทบาท ‘ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ’ เตือน ปชช.ให้มีประสิทธิภาพ - ว่าที่ส.ส.กทม. ส.ก.เพื่อไทย จับมือสำรวจท่อรอบกรุง เปิดทางรอระบายน้ำ

ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในปี 2565 ภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศมา 8 ปี ทำให้ประเทศตกอยู่ในสภาพ ‘ยิ่งแก้ น้ำยิ่งท่วม’ สาเหตุเป็นเพราะ 

1.) กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท เน้นสร้างถนนให้สูงขึ้น เพื่อหนีน้ำ ทำให้ถนนกลายเป็นเขื่อนกั้นน้ำ ป้องกันไม่ให้น้ำท่วมข้างล่าง แต่ด้านบนท่วมหมด เป็นการมองเพียงมิติวิศวกรรม ไม่ได้มองในเรื่องของการระบายน้ำ

2.) กรมโยธาธิการและผังเมือง เน้นทำกำแพงป้องกันตลิ่งจนเกิดปัญหา ‘ล้ำลำน้ำ’ ทำให้คลองมีความแคบลง การระบายน้ำทำได้ยากขึ้น ทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ท้ายน้ำ

3.) ฝ่ายทหารขยันขุดลอกคลอง เอาดินที่ขุดออกมาเสริมกั้นหรือแปะสองข้างตลิ่ง ทำให้ตลิ่งและคลองแคบลง การระบายน้ำจึงเป็นไปได้ยาก 

ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรสร้างแหล่งน้ำและระบบชลประทานที่ไม่มีประสิทธิภาพ และต้องหยุดบริหารแบบ ‘สะเปะสะปะ’ เพราะจะทำให้เกิดสถานการณ์ ‘เดี๋ยวท่วมเดี๋ยวแล้ง’ ควรบริหารแต่ละลุ่มน้ำให้ดีก่อน และผันน้ำอย่างเป็นระบบ ขอให้ระมัดระวัง ‘น้ำฟ้า’ มากกว่า’ น้ำท่า’  เป็นหลัก เวลานี้สภาพอากาศแปรปรวนมาก ยากต่อการคาดคะเน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ประเทศไทยจะเสี่ยงวิกฤต ซึ่งการรับมือและการจัดการกับสถานการณ์ไม่ปกติแบบนี้ จะคิดแบบเดิมไม่ได้ เตือนไทยเตรียมรับมือสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุด เช่น ระเบิดฝน (Rain Bomb) แบบที่ขึ้นแล้วในเกาหลีและปากีสถาน สามารถเกิดในไทยได้ 

ดร.ปลอดประสพ กล่าวอีกว่า ขณะที่การรายงานและเตือนภัยของรัฐบาล ควรปรับปรุงอย่างเร่งด่วน เพราะที่ผ่านมาทำแบบ ‘ต่างคนต่างพูด’ การรายงานและการเตือนภัยเป็นไปคนละทิศคนละทาง กรมอุตุวิทยา พูดเรื่องอากาศ และน้ำฝน, กรมชลประทาน พูดเรื่องน้ำท่า, สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA พูดเรื่องภาพถ่ายทางอากาศ ทำให้ประชาชนเอาภาพมาต่อกันไม่ได้ 

ดังนั้น รัฐบาลมีความจำเป็นต้องเพิ่มบทบาทการรายงานและเตือนภัยให้กับ ‘ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ’ เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนอย่างรอบด้าน หน่วยงานนี้ตนเองเป็นผู้ก่อตั้ง เพื่อทำหน้าที่สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ และจัดการมหาวิกฤต 2554 มาแล้ว  เสียดายที่หน่วยงานนี้ปัจจุบันไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร

'จิรายุ' โวย รัฐบาลห่วยแตก ปล่อยข้าวของแพง ชี้!! ค่าไฟพุ่งเกิน 5 บาทต่อหน่วยก่อนสิ้นปีแน่นอน

หลังรัฐบาลบิ๊กตู่อยู่มา 8 ปี โอบอุ้มแต่นายทุนพลังงาน ล่าสุดกู้แสนล้านชดเชยต้นทุนค่าไฟให้ EGAT ไปแล้วแสนล้าน แต่กลับไม่เจรจากับเอกชนที่รัฐต้องจ่ายค่าความพร้อมอีกปีแปดหมื่นล้าน แต่ดันจะซื้อไฟเอกชนไทยในลาวอีก 5 แห่ง 3,800 เมกฯ ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจถดถอย ความต้องการไฟโอเวอร์ซัปพลายสุดท้ายกรรมตกไปที่ประชาชนต้องรับเวรค่าน้ำค่าไฟค่าน้ำมันแพงไปแทน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการได้พิจารณากรณีต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นและแนวโน้มที่รัฐบาลจะพลักภาระที่เกิดจากความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไปให้กับประชาชน ด้วยการขึ้นค่าไฟเพิ่ม ซึ่งคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 5 บาท/หน่วยก่อนสิ้นปีแน่นอน ถือเป็นความห่วยแตกในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล กรรมาธิการส่วนใหญ่มีความเห็นว่า หากรัฐบาลยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน กรรมจะตกกับคนไทยทั้งแผ่นดิน

ทั้งนี้ตนขอให้รักษาการนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ไขเป็นวาระเร่งด่วนเนื่องจากจะเกิดสึนามิทางพลังงานและค่าครองชีพที่แพงมหาโหดจะโถมเข้าใส่ประชาชนตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยกรรมาธิการมีความเห็นว่า 

1.) ขอให้ยกเลิกการกู้เงินเพื่อมาชดเชยให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตซึ่งกู้เงินไปแล้ว 110,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะขอกู้เพิ่มอีกเนื่องจากสถานการณ์พลังงานของประเทศและโลกจะเข้าสู่โหมดราคาสูงในช่วงหน้าหนาว

'อนุสรณ์' แซะ 'บิ๊กตู่' ลงพื้นที่แบบคนหิวแสง แนะ!! คืนรถแล้ว คืนตำแหน่งนายกฯ ให้ปชช.ด้วย

(3 ก.ย. 65) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ว่า ประเทศไทยไม่ควรอยู่ในสภาพเหมือนมีนายกรัฐมนตรีพร้อมกัน 2 คน แต่ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ นานทีปีหน ประชาชนไม่ค่อยได้เห็นพล.อ.ประยุทธ์ ออกจากบ้าน ลงพื้นที่ทำงานในวันเสาร์อาทิตย์ สถานการณ์โควิดก็เป็นนายกฯ เวิร์กฟอร์มโฮม ทำงานจากบ้านในค่ายทหารมาแล้ว

"ถ้าไม่คับขันเข้าตาจน กลัวประชาชนลืม อาจไม่ได้เห็นพล.อ.ประยุทธ์พยายามหนักขนาดนี้ นักข่าวไม่มาก็ลงทุนถ่ายภาพส่งแจกให้นักข่าว อำนวยความสะดวกให้เต็มเหนี่ยว เพื่อส่งรูป ขอมีซีน เหมือนคนหิวแสง" นายอนุสรณ์ กล่าว

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า แต่คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด ลงพื้นที่ยังถูกชาวบ้านด่า เหตุไม่เปิดกระจกรถทักทายกองเชียร์ จนต้องรีบออกมาขอโทษ อ้างนั่งรถกันกระสุนเลยลดกระจกลงไม่ได้ ทำชาวบ้านย้ายค่าย จากกองเชียร์ เปลี่ยนเป็นกองแช่ง ถ้ามีปัญหามาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดนั่งรถกันกระสุน แล้วนั่งลงฟังกระแสประชาชน แบบไม่สร้างภาพจัดฉาก จะได้รู้ว่าชาวบ้านอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากตำแหน่งนายกฯ มากขนาดไหน ประชาชนไม่อยากเห็นสภาพการประลองกำลังวัดบารมี ลงพื้นที่ช่วงชิงพื้นที่สื่อ แต่ไม่ได้แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ 
 

“วรวัจน์”ปิ๊งไอเดีย ‘ข้าวหลามตามสั่ง’ จับมือเชฟดัง จัดแข่งแปรรูปอาหารไทยใส่กระบอกข้าวหลามสร้างรายได้ปชช.

เมื่อวันที่ 3 กันยายน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ตน ร่วมกับนายชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลินสตาร์ 2 ดาว คิดพัฒนาแปรรูปอาหารไทยโดยเฉพาะอาหารสตรีทฟู๊ดให้ออกมาในรูปแบบของข้าวหลามกระบอกเล็กๆ เพราะทำให้สามารถพกพาง่าย นำขึ้นเครื่องบินได้ง่าย ติดตัวเดินทางได้สะดวก และสามารถนำมาอุ่นรับประทานได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งการคิดพัฒนาแปรรูปอาหารไทยครั้งนี้สืบเนื่องจากการสำรวจความต้องการของตลาดทั้งไทย และต่างประเทศ พบว่าปัจจุบันประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วโลกจำนวนมากอาศัยอยู่บนอาคาร ตึกแถว และคอนโดมิเนียมที่มีกฏห้ามใช้เตาแก๊สในการประกอบอาหาร หรือที่อยู่อาศัยไม่เอื้ออำนวยต่อทำอาหารที่มีกลิ่นรับประทาน ทำให้เกิดความต้องการอาหารสำเร็จรูปอย่างมาก ซึ่งตนเห็นว่า นี่เป็นทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ และเพิ่มช่องทางในการทำเงินให้กับพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ เรามีแนวคิดที่จะใช้นวัตกรรม “ไนโตรเฟรช” ซึ่งเป็นการใช้ไนโตรเจนเหลวคงความสดใหม่ของอาหารให้อร่อยเหมือนเพิ่งปรุงเสร็จใหม่ และเก็บได้ยาวนานกว่า 2 ปี เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องการเก็บรักษาอาหาร เพื่อให้ประชาชนสามารถนำข้าวหลามไนโตรเฟรชส่งออกไปขายทั่วโลกได้ในอนาคตด้วย

‘อรุณี’ รองเลขาฯ เพื่อไทย เรียกร้อง ‘พล.อ.ประวิตร’ ผอ.กอ.รมน.สั่งตรวจสอบระบบการฝากกำลังพลใน กอ.รมน. หลังเกิดกรณี ‘ส.ต.ท.หญิง’ ไม่ใช่แก้ไขรายกรณี ชี้ 8 ปี ‘พล.อ.ประยุทธ์’ สร้างระบบเผด็จการ แผ่อำนาจ กอ.รมน.

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณี ผลการสอบของคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เรื่องการมาช่วยราชการของ ส.ต.ท.หญิง เป็นการขอมาช่วยราชการเอง พิจารณาแล้วเหมาะสม และได้มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่โดยมีผลย้อนหลังนั้น การกระทำดังกล่าวถือว่าจบ แต่คำถามที่สังคมสงสัย คือกรณีแบบนี้มีอีกกี่คน และใครควรต้องรับผิดชอบ กอ.รมน.เองใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ประชาชนทุกข์ยากลำบากจากสภาวะเศรษฐกิจแค่ไหน แต่ก็ยังต้องจ่ายภาษีทุกวัน เพื่อให้ผู้มีอำนาจบางคนถลุงเงินภาษีไปในทางที่ไม่เหมาะสม

น.ส.อรุณี กล่าวว่าที่ผ่านมา ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศ ได้มีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 312/2562 แบ่งโครงสร้าง กอ.รมน.ใหม่ 17 หน่วยงาน ให้หน้าที่ อำนาจส่วนงาน ศูนย์ประสานการปฏิบัติ กอ.รมน.ภาค จังหวัด ขึ้นตรงกับ ผอ.กอ.รมน. ส่วนอัตรากำลังให้ ผอ.กอ.รมน. จัดสรรจำนวนตามที่ ครม.กำหนดให้เพียงพอกับความจำเป็นและยังให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนตามที่ได้รับการประสานและร้องขอ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top