Wednesday, 21 May 2025
เชียงใหม่

เชียงใหม่-เปิดประวัติศาสตร์บันทึกสถิติโลกสำเร็จ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ฟ้อนเล็บมากที่สุดในโลก 

(20 เม.ย. 68) “สุดาวรรณ” รวมใจชาวเชียงใหม่ร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ “ฟ้อนเล็บอัตลักษณ์แบบคุ้มเจ้าหลวงพระราชชายาเจ้าดารารัศมีลงใน "กินเนสส์เวิลด์ เรคคอร์ดส์" เนื่องในโอกาสที่จังหวัดเชียงใหม่จะก้าวสู่ 730 ปี สำเร็จ 7,218 คน ทุบสถิติเดิมที่เคยบันทึกไว้ 5,255 คน ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 729 ปี แห่งการสถาปนาเมืองเชียงใหม่ ปูทางสร้างการรับรู้และผลักดันเมืองเชียงใหม่ก้าวสู่เมืองมรดกโลก 

วันที่ 19 เมษายน 2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดการบันทึกการฟ้อนเล็บอัตลักษณ์แบบคุ้มเจ้าหลวงพระราชชายาเจ้าดารารัศมีลงใน "กินเนสส์บุ๊ก" หรือ "กินเนสส์เวิลด์ เรคคอร์ดส์" (Guinness Book of World Records)"Guinness world record The largest Thai dance" โดยมีนางเทียบจุฑา ขาวขำ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ผู้แทน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มาดามหยก กชพร เวโรจน์ ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และ ประธานคณะทำงาน บันทึก World Records งานสมโภช 729 ปีเมืองเชียงใหม่  นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องประชาชน สื่อมวลชน เข้าร่วมจำนวนมาก

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นสักขีพยานในการบันทึกการฟ้อนเล็บ อัตลักษณ์แบบคุ้มเจ้าหลวงพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ลงใน "กินเนสส์บุ๊ก" หรือ "กินเนสส์เวิลด์ เรคคอร์ดส์" "Guinness world record The largest Thai dance" ในวันนี้ แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีศิลปะและวัฒนธรรมที่โดดเด่น ประชาชนมีความเข้มแข็ง มีความรักความสามัคคี มีความสุข และร่วมกันอนุรักษ์สืบสาน รักษา และต่อยอด ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นไว้ได้อย่างดียิ่ง

จึงมีความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก และเนื่องในโอกาสที่จังหวัดเชียงใหม่จะก้าวสู่  730 ปี จึงขอถือโอกาสนี้สร้างการรับรู้ให้เด็ก เยาวชน ประชาชนมีจิตสำนึกแสดงกตเวทิตาต่อบูรพกษัตริย์ล้านนา เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และผลักดันให้เมืองเชียงใหม่ก้าวสู่เมืองมรดกโลกขององค์การยูเนสโก 

“กระทรวงวัฒนธรรมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดงาน พิธีสมโภชเชียงใหม่๗๒๙ ปี "นครเชียงใหม่เมืองแห่งความสุขด้วยวิถีวัฒนธรรมอย่าง ยั่งยืน" ถือเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทำให้มีความโด่นเด่นด้านศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ประเพณีที่มีเอกลักษณ์ล้านนา สืบสานเสน่ห์ความเป็นล้านนาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรู้จัก จังหวัดเชียงใหม่ในนามเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประเพณีที่งดงามของประเทศไทย เป็นไปตามที่รัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรม 

ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปสู่ระดับนานาชาติ นำเศรษฐกิจวัฒนธรรม ผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ยกระดับการ ท่องเที่ยว และเทศกาสสู่เวทีโลก โดยมีเป้าหมาย "ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 25 ประเทศ ที่มีอิทธิพลด้าน Soft Power ในมิติวัฒนธรรม เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกมาเที่ยวในมิติด้านศาสนา ศิลปะและ วัฒนธรรม

เชียงใหม่-ภ.5 แถลงผลการจับกุมการลักลอบค้าอาวุธปืนสงคราม จำนวนมาก เตรียมส่งชายแดนแม่ฮ่องสอน

ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการปฏิบัติคดีอาชญากรรมรายสำคัญ "สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่จับกุมการลักลอบค้าอาวุธปืนสงคราม ผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมอาวุธสงครามจำนวนมาก เตรียมส่งชายแดนแม่ฮ่องสอน"

เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.68) เวลา 11.00 น.พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติคดีอาชญากรรมรายสำคัญในพื้นที่ ภ.5 โดยมี พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, รอง ผบก.สส.ภ.5, รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ร่วมแถลงผลการจับกุม ณ ห้องประชุม สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์  ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่

กรณีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 สภ.ภูพิงคราช นิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งจุดตรวจแยกเกษตรอินทรีย์ เลียบคลองชลประทาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ สกัดจับผู้ต้องหา 2 ราย รับจ้างขนอาวุธปืนสงคราม M4A1 จำนวน 10 กระบอก, M79 จำนวน 14 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เตรียมนำส่งชายแดนพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และต่อมา ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการค้าอาวุธสงครามอีก 2 ราย ได้ในท้องที่ ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ และ จว.กำแพงเพชร

ผลการตรวจค้นพบ สิ่งของที่สำคัญหลายรายการ ได้ทำการจับกุมในข้อกล่าวหา ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ พร้อมทั้งตรวจยึดสิ่งของต่างๆ เพื่อดำเนินการต่อไป

โดยของกลาง ประกอบด้วย อาวุธปืนเล็กขาว ทรง AR ขนาด 5.56 มม. ไม่ปรากฏเลข/เครื่องหมายประจำปืน จำนวน 10 กระบอก ซองกระสุนขนาด 5.56 มม. ขนาดบรรจุ 30 นัด จำนวน 10 ซอง เครื่องยิงลูกระเบิด ความกว้างปากลำกล้อง 40 มม. จำนวน 14 กระบอก ของกลางเพิ่มเติม (จว.กำแพงเพชร) อาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก เงินสด 2 ล้านบาท เสื้อเกาะกันกระสุน จำนวน 1 ตัว วิทยุสื่อสาร จำนวน 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง 

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดของกลางยาบ้า 6 ล้านเม็ด ไอซ์ 20 กก.

ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ของสภ.ห้วยไร่ จว.แพร่ จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 6,000,000 เม็ดและไอซ์ จำนวน 20 กิโลกรัม

เมื่อวันที่ (29 เม.ย.68) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท. กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานการแถลงผลการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด รายสําคัญ ของสภ.ห้วยไร่ จัวหวัดแพร่ จับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยาบ้าจํานวน 6,000,000 เม็ด และไอซ์ จำนวน 20 กิโลกรัม ณ ด่านตรวจห้วยไร่ จว.แพร่ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568

โดยมี  พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.5, นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รอง ผวจ.แพร่, พล.ต.ต.พงษ์เดช คำใจสู้ ผบก.ภ.จว.แพร่, รอง ผบก.สส.ภ.5, รอง เสธ.นบ.ยส.35, ผู้แทน ปปส.ภ.5 และ สวญ.สภ.ห้วยไร่ ร่วมแถลงผลการจับกุม ณ ลานแถลงข่าว อาคารกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่

สืบเนื่องจากวันที่ 24 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 08.00 น. ร.ต.อ.อาลักษณ์ วรรณา รอง สวป.(ชส) สภ.ห้วยไร่ พร้อมชุดปฏิบัติการ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ตั้งจุดตรวจสกัดกั้นยาเสพติด ณ ด่านตรวจห้วยไร่ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จว.แพร่ และได้รับแจ้งจากสายลับ (ไม่ประสงค์ออกนามประสงค์รับเงินรางวัลยาเสพติด)  แจ้งมีกลุ่มลำเลียงยาเสพติดใช้รถยนต์บรรทุกหกล้อ มีลักษณะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยใช้รถยนต์หกล้อบรรทุกสินค้าปะปนอยู่ในท้ายบรรทุก ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการเข้มข้นในการคัดกรองรถยนต์บรรทุกหกล้อ  

ต่อมาเวลาประมาณ 13.54 น. (24 เมษายน 2568) พบรถยนต์บรรทุกหกล้อ หมายเลขทะเบียน 71-2199 เชียงใหม่ ขับขี่เข้าด่านตรวจห้วยไร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้สัญญาณหยุดรถและได้เรียกเข้าจุดตรวจค้น โดยมีนายสุดใจ เป็นผู้ขับขี่ โดยบรรทุกสินค้าเป็นผ้าอัดกระสอบ โดยได้คุมผ้าใบปิดบังมิดชิด แจ้งว่ามาจากพื้นที่ จว.เชียงราย ไปส่งปลายทางที่ จว.สมุทรสาคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้นายสุดใจ นำรถยนต์บรรทุก ไปทำการ X-RAY ที่ด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่(X-RAY) ผลการ X-RAY พบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายยาเสพติด ซึ่งมีกระสอบผ้าอัดก้อนปิดทับไว้เป็นชั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจสอบกระสอบผ้าอัดก้อนดังกล่าว 

พบยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 30 กระสอบ จำนวน 6,000,000 เม็ด และ ไอซ์จำนวน 20 กิโลกรัม จากนั้นได้ทำการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นของนายสุดใจ ผลการตรวจเบื้องต้นเป็นลบ จึงได้จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้นายสุดใจทราบ และทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยไร่ จว.แพร่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจภูธรภาค 5 บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาค ส่วน ทั้ง ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครองสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และนำบัญชาข้อสั่งการของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดไม่ให้เข้าไปสู่พื้นที่ตอนในอย่างเข้มข้นและจริงจัง และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

สรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจฎธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.67 - 25 เม.ย.68  จับกุมคดียาเสพติด จำนวน 12,684 คดี คดียาเสพติดรายสำคัญ 122 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 122 ล้านเม็ดเศษ ไอซ์ 8,120 กิโลกรัมเศษ เฮโรอีน 148 กิโลกรัม เคตามีน 993 กิโลกรัมเศษ ฝิ่น 60 กิโลกรัมเศษ ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 377 ล้านบาทเศษ

เชียงใหม่-ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงผลการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี

เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.68) เวลา 10.30 น. ณ ลานแถลงข่าว อาคารกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ตามนโยบายรัฐบาล สั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ ได้รับบัญชาและข้อสั่งการนำไปสู่การปฏิบัติ

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงผลการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสําคัญ จำนวน  2 คดี ดังนี้ 1.สภ.แม่พริก จ.ลำปาง จับกุมผู้ต้องหา 7 คน รถยนต์ 2 คัน พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 305 กก. 2.สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย จับกุมผู้ต้องหา 2 คน  รถยนต์บรรทุก 1 คัน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,576,000 เม็ด 

โดยมี นายปฤษปฎางค์ สามัคคีนิชย์ นายอำเภอแม่สรวย, นายกองตรีปิยะวุฒิ พิทักษ์บริบาล นายอำเภอแม่พริก, พ.ต.อ.ชาญชัยวัฒน์ เปล่งสันเทียะ เสนาธิการ กอ.รมน.ภ.3 สย.2, พล.ต.ต.วรพงศ์  คำลือ ผบก.สส.ภ.5, รอง ผบก.สส.ภ.5, รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง, รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย, ผู้แทน เสธ.นบ.ยส.35, ผู้แทน ปปส.ภ.5 ร่วมแถลงผลการจับกุม

คดีที่ 1วันที่จับกุม วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 06.30 น. สถานที่เกิดเหตุ อุโมงค์เอกซเรย์ด่านตรวจแม่พริก ม.5 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จว.ลำปาง ผู้ต้องหา 7 คน ขณะทำการตรวจสอบ ได้แสดงอาการพิรุธหน้าซีดตัวสันคล้ายกับคนมีสิ่งของ ผิดกฎหมายซุกซ่อน ก่อนการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้บุคคล ทั้ง 7 คน ดูจนเป็นที่พอใจและยินยอมให้ตรวจสอบด้วยความสมัครใจ ตรวจค้นบุคคลทั้ง 4 คน ที่มากับรถนำ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายตรวจค้นบุคคลทั้ง 3 คน และรถยนต์ (รถตู้นั่งสี่ตอน) พบกระสอบต้องสงสัยว่า อาจจะซุกซ่อนยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้เชิญตัวทั้ง 7 คน พร้อมรถยนต์ทั้ง 2 คัน มายังด่านตรวจแม่พริก 

ผลการตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์หรือไอซ์) จำนวน 13 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 305 กิโลกรัม จึงได้จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทั้ง 7 คนทราบ และทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก จว.ลำปาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 2 วันที่จับกุมวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 07.30 น.สถานที่เกิดเหตุ ด่านตรวจยาเสพติดท่าก๊อ ม.14 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จว.เชียงราย (ผู้ต้องหาที่ 1) ต่อเนื่อง จุดตรวจยาเสพติดถ้ำปลา ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จว.เชียงราย (ผู้ต้องหาที่ 2) ผู้ต้องหา 2 คน ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 8 กระสอบ เป็นยาบ้าจำนวนประมาณ 1,576,000 เม็ด และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการขยายผลการจับกุม จนสามารถจับกุมนายณรงค์ชัยได้ที่บริเวณจุดตรวจยาเสพติดถ้ำปลา ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จว.เชียงราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ. แม่สรวย จว.เชียงราย

ตำรวจภูธรภาค 5 บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้ง ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และนำบัญชาข้อสั่งการของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดไม่ให้เข้าไปสู่พื้นที่ตอนในอย่างเข้มข้นและจริงจัง และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

สรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 - 7 พฤษภาคม  2568  จับกุมคดียาเสพติด จำนวน 13,357 คดี คดียาเสพติดรายสำคัญ 140 คดี  ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 131 ล้านเม็ดเศษ ไอซ์ 8,450 กิโลกรัมเศษ เฮโรอีน 148 กิโลกรัม เคตามีน 1,100 กิโลกรัมเศษ ฝิ่น 64 กิโลกรัมเศษ ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 392 ล้านบาทเศษ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top