Wednesday, 21 May 2025
เชียงใหม่

‘เจือ ราชสีห์’ ชี้!! ป่าไม้ถูกทำลาย สาเหตุหลักน้ำท่วมภาคเหนือ ฝาก ‘รัฐบาล‘ เร่งปลูกป่าอย่างจริงจัง ป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก

(7 ต.ค. 67) นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เปิดเผยกรณีอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า

มหันตภัย น้ำท่วมใหญ่ภาคเหนือ ภาพสะท้อนความไม่สมบูรณ์ของผืนป่า ผมขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล “อย่ามัวแต่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ” จนหลงลืมว่าปัจจัยสำคัญของมหันตภัยน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ คือ ป่าไม้ถูกทำลาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ปัญหา 

ถึงเวลาที่ “นายกรัฐมนตรี” ต้องขับเคลื่อนการเพิ่มพื้นที่ป่า ปลูกต้นไม้เพิ่มอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้

“ผมอยากให้รัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรี “ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุตั้งแต่วันนี้ ต้องช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่ม” ซึ่งก็ไม่ได้ใช้งบประมาณมากมาย ในทางกลับกันถ้าไม่ทำ ปีหน้าหรือปีต่อๆไปน้ำก็ท่วมในลักษณะนี้อีก ต้องสูญเสียชีวิตพี่น้องประชาชน บ้านเรือน ถนนหนทางเสียหาย ต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการฟื้นฟูและช่วยเหลือ“

ติดตามภารกิจ ‘บิ๊กเล็ก-ณัฐพล’ ลงพื้นที่ติดตามการทำงานไม่หยุดพัก ประสานงาน ‘ศปช.ส่วนหน้า’ ใกล้ชิด เร่งคือสาธารณูปโภคพื้นฐาน

(8 ต.ค. 67) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช.ส่วนหน้า ได้ลงพื้นที่ในตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อสำรวจผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในภารกิจ ‘30 วันกอบกู้แม่สาย’

พล.อ.ณัฐพล เปิดเผยว่า ปัจจุบันภารกิจในพื้นที่คืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 60 ประชาชนในพื้นที่เริ่มทยอยกลับเข้าอยู่อาศัย แต่อย่างไรก็ตามยังติดขัดในส่วนปัญหาสาธารณูปโภค เช่น น้ำประปา ไฟฟ้า ซึ่งเสียหายไปพร้อม ๆ กับเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม

ตนจึงได้ประสานงานไปยังนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะประธาน ศปช.ส่วนหน้า ให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยประธษน สปช.ส่วนหน้า ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น การประปาส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาสาธารณูปโภคโดยเร็ว

‘กลุ่ม ปตท.’ ผนึกพันธมิตร ระดมสรรพกำลัง ช่วยเหลือสัตว์ เหตุอุทกภัย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

1. มอบหญ้าฟ่อนแห้ง จำนวน 200 ฟ่อน
2. อาหารม้า Maxwin จำนวน 30 กระสอบ
3. สนับสนุนหญ้าแพงโกล่าตัดสด วันละ 1 ตัน
4. สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ ให้กับสัตว์ที่รับผลกระทบจากอุทกภัย
5. สำรวจความต้องการอาหารม้า Maxwin ในพื้นที่อุทกภัยต่อ
6. มอบอาหารสุนัข อาหารแมว และแตงโม ให้กับศูนย์อภิบาลและอนุรักษ์ช้าง
7. ประสานและสนับสนุนการเคลื่อนย้ายสัตว์ในพื้นที่

พันธมิตรที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือสัตว์ในครั้งนี้ ประกอบด้วย สมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย,กรมการสัตว์หทารบก, หน่วยม้าทรงประจำพระองค์, กองพันสัตว์ต่าง(ค่ายตากสิน), บี.กริม และ เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป

สมาพันธ์รวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว มอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เมื่อวานนี้ (8 ต.ค. 67) สมาพันธ์รวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียวร่วมกันกับสมาคมจีนต่าง ๆ ในประเทศไทย ส่งมอบสิ่งของจำเป็นและเงินจำนวนกว่า 3,800,000 บาทผ่านท่านทูตหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยน้ำท่วมระลอก 2 ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย โดยมีท่านอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เป็นสักขีพยาน และกระจายไปยังพื้นที่น้ำท่วมภาคเหนือ

คุณอมร อภิธนาคุณ ประธานสมาพันธ์รวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว เปิดเผยว่า เนื่องด้วยสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือทวีความรุนแรงมากขึ้น เกิดพายุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สะสมทับมาจนถึงเดือนตุลาคมนี้ ทำให้มีปริมาณฝนมากกว่าปกติถึง 50-60% จึงเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ น้ำไหลทะลักมาท่วมบ้านเรือนราษฎร เทียบเท่ากับเหตุน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 และบางพื้นที่เกิดความเสียหายมากกว่าเดิมอีกด้วย 

“สมาพันธ์รวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว ได้เล็งเห็นถึงวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ทวีความรุนแรงมากกว่าขึ้นกว่าทุกปี ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมากรวมถึงการฟื้นตัวจะต้องใช้เวลานาน โดยที่ผ่านมาเห็นว่าผู้ประสบภัยพิบัติส่วนใหญ่ยังขาดแคลนปัจจัย 4 อย่างฉับพลันโดยเฉพาะใน 24 ชั่วโมงแรก ซึ่งถือเป็นช่วงวิกฤตและความทุกข์ยากที่ประชาชนต้องประสบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ชาวจีนและสมาคมชาวจีนต่าง ๆ  รวมไปถึงนักธุรกิจชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย  เห็นถึงความยากลำบากของพี่น้องชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ จึงได้รวมพลังกันผ่านสมาพันธ์ฯ เพื่อระดมทุนและสิ่งของที่จำเป็นสำหรับน้ำท่วม เพื่อช่วยลดความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยภาคเหนือ ทั้งจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย”

โดยนักธุรกิจชาวจีนที่อยู่ในสมาคมต่าง ๆ ร่วมกันบริจาคทรัพย์ กว่า 17 องค์กร คือ 1.สมาพันธ์รวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว 2.สมาคมการค้าการส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจไทย-ซานตง 3. สมาคมเตี่ยอันเเห่งประเทศไทย 4.สมาคมการค้าไทย-ซานซี 5.สมาคมการค้าไทย-กวางตุ้ง 6.สมาคมการค้าไทย-หูหนาน 7.สมาคมหนานอัน 8.ชมรมนักธุรกิจโชคดี 9.สมาคมการค้ารวมใจนักธุรกิจรุ่นใหม่จีน-เอเชีย 10.สมาคมความปลอดภัย 11.สมาคมเจียงเจ้อหู้ 12.สมาคมเจียงซี 13.สมาคมกวางสี 14.สมาคมซูซาน 15.สมาคมฟูเจี้ยนอานซี 16.สมาคมย่าไท่ 17.สมาคมกวางตุ้งและร่วมบริจาคสิ่งของ คือ 1.หอการค้าเยาวชนแห่งเอเชียเพื่อสันติภาพและการพัฒนา บริจาคเป็น ปลากระป๋องใหญ่ มาม่า และครีมสำหรับน้ำท่วม 2.คุณหวังคาน เหอ บริจาคข้าวสาร 100 ถุง  3.คุณจาง จุนหมิง บริจาคผ้าห่ม 400 ผืน  4.คุณ ซูซานจงฮุ้ย บริจาคผ้าห่ม 100 ผืน 5.สมาคมซานตง บริจาคเป็นผ้าขนหนู จำนวนเงินกว่า 300,000 บาท 7.คุณเจิง ซูเจียน บริจาคเป็น เครื่องปั่นไฟ 2 เครื่อง  8.คุณอู่ปิงหลิน บริจาคเป็นเสื้อกันฝน 300 ตัว และอื่น ๆ 

“อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนให้ติดตามข่าวสาร เพื่อเตรียมตั้งรับกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นแบบฉับพลัน และขอให้ระมัดระวังอันตรายในการเดินทางสัญจรไปในที่ที่อาจจะเกิดอุทกภัย และเกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ซึ่งทางสมาพันธ์ฯ ก็ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในส่งมอบกำลังใจผ่านสิ่งของและเงินสมทบจากชาวจีนร่วมกับสมาคมจีนต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชน ขอให้ผู้ประสบภัยปลอดภัย และสามารถผ่านวิกฤตอุทกภัยครั้งนี้ในเร็ววัน และอยากส่งผ่านข้อความนี้ไปยังคนไทยทุกคนให้ทราบว่า คนจีนทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยไม่เคยนิ่งดูดายกับความเดือดร้อนที่ทุกท่านประสบ และจะหาทางช่วยเหลือเสมอ หากมีโอกาส”คุณอมรกล่าวในตอนท้าย

ด้านคุณสื่อ ต้าถัว ประธาน ประธานสมาคมการค้าการส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจไทย-ซานตง กล่าวว่า สมาคมมีแนวทางที่ยึดถือมาตลอดตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมคือ "อยู่ประเทศไทยเพื่อประเทศไทย อยู่ประเทศไทยรักประเทศไทย" และจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ทำให้น้ำไหลบ่าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้าง ส่งผลให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งมีประชาชนและสัตว์เลี้ยงติดค้างหลายราย ซึ่งถือเป็นอุทกภัยน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่และหนักที่สุดในรอบ 60 ปี ทางสมาคมฯ ไม่ได้นิ่งเฉย ได้ระดมสิ่งของและกำลังทรัพย์ของสมาชิกภายในสมาคม ที่เป็นนักธุรกิจคนจีนรวมเป็นเงินมูลค่า 750,000 บาท เพื่อร่วมส่งต่อความห่วงใยผ่านทางสมาพันธ์ฯ ไปยังประชาชนผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ

“การร่วมระดมกำลังทรัพย์เพื่อประชาชนคนไทยในครั้งนี้ เพราะประชาชนคนจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยนั้นตระหนักถึงความเดือดร้อน และความเสียหายคนไทยได้รับเป็นอย่างดี จึงร่วมแรงร่วมใจกันระดมความช่วยเหลือในทุกทางที่มีผ่านสมาคมต่าง ๆ เพื่อช่วยเยียวยาคนไทยและถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีนและไทยให้แนบแน่นยิ่งขึ้น และเป็นการสื่อสารที่ชัดขึ้นว่า คนจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ไม่มีวันทิ้งคนไทยที่ประสบความเดือดร้อนแน่นอน”

พิธีมอบเงินและสิ่งของบริจาคในครั้งนี้มีท่านอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นสักขีพยาน โดยมีท่านเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย หาน จื้อเฉียง เป็นผู้ส่งมอบ เพื่อแสดงถึงความห่วงใยและกำลังใจจากชาวจีนในประเทศไทยแก่ผู้ประสบภัย และจะมีการส่งต่อไปยังผู้ว่าในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายต่อไป

‘บางจาก’ จัดแคมเปญมอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวดแด่ผู้ประสบภัย ส่งต่อน้ำใจจากบางจาก-คนไทยให้ผู้ประสบภัยบรรเทาทุกข์

(9 ต.ค. 67) นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นายเสรี อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด, นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร 

ร่วมประชาสัมพันธ์แคมเปญ ‘บางจากฯ ชวนปันน้ำใจ ช่วยผู้ประสบภัย มอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวด’ เชิญชวนให้ลูกค้าที่ได้รับแจกน้ำดื่ม 1.5 ลิตรจากการเติมน้ำมันในสถานีบริการน้ำมันบางจากและเอสโซ่เดิมทั่วประเทศที่ร่วมรายการ ร่วมบริจาคน้ำดื่มให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต ตั้งแต่วันที่ 9 - 31 ตุลาคม 2567 หรือจนกว่าจะครบ 1 ล้านขวด

ลูกค้าที่ต้องการร่วมส่งต่อพลังน้ำใจทำได้โดยแจ้งความจำนงกับพนักงานหน้าลานในสถานีบริการ 
โดยบางจากฯ จะประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อกระจายน้ำดื่มไปยังผู้ที่เดือดร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ

‘บางจากฯ ชวนปันน้ำใจ ช่วยผู้ประสบภัย มอบน้ำดื่มหนึ่งล้านขวด’ เป็นการต่อยอดการส่งมอบ
ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย จากการช่วยเหลือผ่านบัตรเติมน้ำมัน เงินสด น้ำดื่ม ข้าวสาร วัตถุดิบในโรงครัว อุปกรณ์ของใช้จำเป็น ฯลฯ ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ 

รวมถึงการเชิญชวนให้ลูกค้าที่เป็นสมาชิกบางจาก กรีนไมลส์แลกแต้มสมาชิกเป็นเงินบริจาคมอบให้แก่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งพา (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยเพื่อนำไปปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ เพื่อบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ 

บางจากฯ หวังว่าการร่วมแรงร่วมใจในครั้งนี้ จะช่วยให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้ไปได้ พร้อมส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยในทุก ๆ พื้นที่ ด้วยความหวังว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติในเร็ววัน

ในการนี้ยังมีนายวัฒนา พรพัฒน์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานค้าปลีกน้ำมัน กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายวรากร โกศลพิศิษฐ์กุล  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) ร่วมกิจกรรมด้วย

‘สรวงศ์’ เผยแคมเปญ กระตุ้นการท่องเที่ยว!! ในพื้นที่ภาคเหนือ ททท. ออกให้ครึ่ง-นักท่องเที่ยวจ่ายเองอีกครึ่ง เริ่ม 1 พ.ย.นี้

(13 ต.ค. 67) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการออกมาย้ำถึงแคมเปญ ‘แอ่วเหนือคนละครึ่ง’ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้นำข้อมูลเพื่อมาแก้ไขปัญหา ซึ่งบางส่วนใช้งบของกระทรวงและบางส่วนต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ  

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. จึงเสนอโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง โดยจะมีการ คลิกออฟ ได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ผู้ประกอบการเตรียมที่จะฟื้นฟูและกลับเข้าสู่สภาพเดิมให้ได้ โครงการนี้ยังรวมไปถึง 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยทาง ททท. จะออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง ตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 800 บาทและนักท่องเที่ยวออกเองอีกครึ่งหนึ่ง

หากประสบผลสำเร็จก็จะมีการก็จะมีการเสนอของบประมาณจากครม.อีกครั้งหนึ่ง แต่การดำเนินการในครั้งนี้จะใช้งบประมาณของททท.ไปก่อน โดยจะพยายามอย่างยิ่งที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็นงานลอยกระทง ที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดมีความพร้อม

ส่วนการเตรียมมาตรการอื่นๆ เช่น การปล่อยกู้ อัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว  เรื่องนี้เตรียมที่จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่จากการรับฟังจากผู้ประกอบการหลายส่วน มีข้อเสนอแนะว่า ยังมีหลักเกณฑ์ต่างๆที่เข้าถึงยาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก จึงต้องมีการกลับมาปรับแก้กันในเร็ว ๆ นี้ เพื่อที่จะปรับแก้ไข ให้ผู้ประกอบการได้รับผลประโยชน์อย่างทั่วถึงในแคมเปญนี้ ซึ่งยังไม่สามารถที่จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีในวันอังคารนี้ได้ เพราะมีบางจุดที่จะต้องนำกลับมาแก้ไขและเปลี่ยนแปลง

เชียงใหม่-บิ๊กไก่ ลงพื้นที่เชียงใหม่ ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน พร้อมเน้นย้ำกองบิน 41 ดูแลประชาชนอย่างเต็มความสามารถ

เมื่อวันที่ (13 ต.ค. 67) พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมคุณมนทิรา  พัฒนกุล นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ และคณะ เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของกองบิน 41 ซึ่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเน้นย้ำกำลังพลของกองบิน 41 ดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ หากขาดตกบกพร่องสิ่งใดสามารถแจ้งมายังกองทัพอากาศได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกองทัพอากาศพร้อมให้การสนับสนุนกองบิน 41 ทั้งยุทโธปกรณ์และกำลังพลจากส่วนกลางในการฟื้นฟูพื้นที่เสียหายและบ้านเรือนของประชาชนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศและคณะ ได้เดินทางไปจุดบริการซ่อมรถจักรยานยนต์ฟรี ให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยมีรถจักรยานยนต์ของประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ในเฟสแรกที่เปิดให้บริการซ่อมวันละ 20 คัน และจะมีแนวทางขยายจำนวนการซ่อมในเฟสที่ 2 เพิ่มเป็น 50-100 คัน

จากนั้น คณะผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์ทำความสะอาดให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมถึงนำกำลังพลทหารกองประจำการจากกองบิน 41 ช่วยทำความสะอาด ฟื้นฟูบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนให้กลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

กองประชาสัมพันธ์
สำนักกิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ์
กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ
13 ตุลาคม 2567

รวมพลัง ‘เร่งฟื้นฟู - บรรเทาทุกข์’ ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงใหม่

1. เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวาง และสิ่งของภายในบ้านเรือน
2. ฟื้นฟู และทำความสะอาดพื้นที่ประสบภัย 
3. มอบถุงยังชีพกว่า 560 ถุง ให้ชุมชนรอบคลังน้ำมันเชียงใหม่ 
4. สนับสนุน เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง 
5. จัดหาอุปกรณ์ เช่น ไม้ดันน้ำ น้ำยาทำความสะอาด แปรงขัด และถุงขยะ 

CLICK ON CLEAR
แม้ว่า ปัจจุบันระดับน้ำในพื้นที่ส่วนใหญ่ลดลงเกือบทั้งหมด เหลือเพียงบางพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย แต่กลุ่ม ปตท. ยังคงเดินหน้าฟื้นฟู และช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นคืนสภาพความเป็นอยู่ที่ดีแก่ประชาชนต่อไป

เชียงใหม่-คณะพยาบาลศาสตร์  มช. จัดงาน 'บ้านสีแสดขอบคุณ ทุกความทรงจำ นำองค์กรสู่ความสุข'

ที่ประชุมอาจารย์และบุคลากร สมัยที่ 8 ร่วมกับ สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ สำนักงานคณะพยาบาลศาสตร์ และ ศูนย์บริการพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดงานบ้านสีแสดขอบคุณ ทุกความทรงจำ นำองค์กรสู่ความสุข (Say Love Say Thank You My Dean & Team) ในวาระครบรอบการบริหารงานของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ (พ.ศ. 2563-2567) ณ ข่วงม่วนใจ๋ อาคาร 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2567

ผลงานแห่งความสำเร็จภายใต้การบริหารงานของท่าน ได้แก่ ในปี พ.ศ. 2564 คณะฯ ผ่านการรับรองหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต จากสภาการพยาบาล ระยะเวลาสูงสุด 5 ปีการศึกษา (พ.ศ. 2564-2568) นำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้แก่องค์กรอย่างมาก นอกจากนี้ คณะฯ ได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ (Thailand Quality Class) ประจำปี 2565 รางวัลเกียรติยศแสดงถึงมาตรฐานด้านการบริหารจัดการองค์กรเทียบเท่าระดับมาตรฐานโลก จากสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม

ในปี พ.ศ. 2566 เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งคณะฯ ผ่านการตรวจรับรองหลักสูตรในระดับนานาชาติ โดยใช้เกณฑ์ International Accreditation: Accreditation Commission for Education in Nursing (ACEN) ประเทศสหรัฐอเมริกา (2022-2028) ประกอบด้วย 2 หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรปริญญาตรี) และ 10 หลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต (หลักสูตรปริญญาโท) แสดงถึงความมีคุณภาพมาตรฐานสากลที่สามารถส่งมอบคุณค่าแก่ผู้เรียนและผู้ใช้บัณฑิตเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนต่อไป

และ ในปี พ.ศ. 2567 คณะฯ ได้รับการจัดอันดับจาก QS World University Rankings by Subject 2024 (สาขาวิชา Nursing) ให้อยู่ในลำดับที่ 101-150 ของโลก และเป็นสถาบันทางการศึกษาพยาบาลอันดับ 1 ร่วมของประเทศ เป็นต้น

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอขอบพระคุณท่านคณบดีและทีมผู้บริหารทุกท่าน ตลอดทั้ง 4 ปี มีส่วนสำคัญในการพัฒนาคณะฯ ทุกด้าน ทำให้เจริญรุ่งเรืองแข็งแกร่ง มุ่งสรรค์สร้างให้คณะฯ เป็นแบบอย่างของสถาบันการศึกษาทางการพยาบาลที่มีคุณภาพ มาตรฐานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่ว่า "คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถาบันชั้นนำระดับสากลด้านการศึกษาและการวิจัย"

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 แถลงข่าว บก.สส.ภ.5 จับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 2,494,000 เม็ด 

(29 ต.ค. 67) เวลา 09.30 น.ตามนโยบายรัฐบาล สั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  ผบ.ตร, พล.ต.อ.ธนา ชูวงค์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ  เลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ มทภ.3 ได้รับบัญชาและข้อสั่งการนำไปสู่การปฏิบัติ

ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร  ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร, พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง  รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ประจำฯ ช่วยราชการ ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และพล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ฝ่ายทหาร นบ.ยส.35 โดย พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน มทน.3/ผบ.นบ.ยส.35ฝ่ายปกครอง โดย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่สำนักงาน ปปส.ภาค 5 โดย นายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญฯ รรท.ผอ. สำนักงาน ปปส.ภาค 5 แถลงผลการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ของ บก.สส.ภ.5 จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ยาบ้าประมาณ 2.5 ล้านเม็ด ที่ อาคารหอประชุม ภ.จว.เชียงใหม่ 

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 22.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.ภ.5 บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 คน คือนายอัครชัย อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่, นายภูมิพัฒน์ อายุ 30 ปี ภูมิลำเนา อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ และนายดุสิต อายุ 48 ปี ภูมิลำเนา อ.ดอยเต่า จว.เชียงใหม่พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าจำนวน 10 กระสอบ รวมประมาณ 2.5 ล้านเม็ด ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมัน ตั้งอยู่ที่ถนนเชียงใหม่ - หางดง หมู่ 6 ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ ต่อเนื่อง สวนลำไย พื้นที่หมู่ 6 ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จว.เชียงใหม่

คดีนี้ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.ภ.5 ติดตามพฤติการณ์กลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติด ที่มีช่องทางนำเข้าจากแนวชายแดน ทาง อ.เวียงแหง จว.เชียงใหม่ แล้วลำเลียงมาจุดพักยาเสพติดในพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.เชียงดาว - อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ และจะมีกลุ่มลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ

ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถจักรยานยนต์ PCX สีแดง ขับนำรถยนต์กระบะบรรทุกสิ่งของเต็มหลังกระบะ จากพื้นที่ อ.แม่แตง ผ่าน อ.แม่ริม - อ.เมืองเชียงใหม่ แล้ว วิ่งไปตามถนนสายเชียงใหม่ - หางดง จึงสกัดจับกุมที่บริเวณปั๊มน้ำมัน เขต ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมี นายภูมิพัฒน์ฯ ขับรถจักรยานยนต์ PCX สีแดง นำทาง และนายอัครชัยฯ ขับรถยนต์บรรทุกพบ ยาบ้าประมาณ 2.5 ล้านเม็ด บรรทุกอยู่บริเวณหลังรถ และต่อมาได้ขยายผลไปจับกุมนายดุสิตฯ ซึ่งเป็นคนว่าจ้าง/ติดต่อกลุ่มลำเลียงยาเสพติดที่บริเวณสวนลำไย พื้นที่หมู่ 6 ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จว.เชียงใหม่ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาเครือข่ายและตรวจยึดอายัดทรัพย์สินมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top