Wednesday, 21 May 2025
เชียงใหม่

เชียงใหม่-คณะพยาบาลศาสตร์ มช. ร่วมกับ 8 มหาวิทยาลัยต่างประเทศ จัดการประชุมวิชาการนานาชาติ Global Health Recalibration 2024

(4 ก.ย.67) คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ 8 มหาวิทยาลัยต่างประเทศ จัดประชุมวิชาการนานาชาติ ‘การเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพโลก’: การสร้างความเข้มแข็งด้านผลลัพธ์ทางสุขภาพ การศึกษา การปฏิบัติทางคลินิก และวิจัย (Global Health Recalibration: Strengthening Outcomes, Education, Clinical Practice, and Research) โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดการประชุม พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทพ.พิริยะ เชิดสถิรกุล  รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตลอดจนนักวิชาการ นักวิจัยด้านสุขภาพ นักศึกษาจากประเทศไทยและต่างประเทศ  เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ 1) University of Adelaide 2) Columbia University 3) Duke University 4) University of Illinois at Chicago 5) Johns Hopkins University 6) Kagawa University 7) University of Michigan และ 8) Taipei Medical University ได้จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพโลก: การสร้างความเข้มแข็งด้านผลลัพธ์ทางสุขภาพ การศึกษา การปฏิบัติทางคลินิก และวิจัย (Global Health Recalibration: Strengthening Outcomes, Education, Clinical Practice, and Research) กำหนดจัดในระหว่างวันที่ 4 – 6 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ 

ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นักวิชาการ นักวิจัยด้านสุขภาพ รวมทั้งนักศึกษาจากประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 433 คน จากทั่วโลก ได้แก่ ออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน จีนไทเป เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มัลดีฟส์ นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออภิปรายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพโลก ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลลัพธ์ทางสุขภาพที่เข้มแข็ง การศึกษา การปฏิบัติทางคลินิก และวิจัย รวมถึงโอกาสและความท้าทาย ของการสร้างผลลัพธ์ที่เข้มแข็งทางด้านสุขภาพ ผ่านความร่วมมือระหว่างสหวิชาชีพ นอกจากนั้น ยังเป็นเวทีสำหรับสหวิชาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพในการสร้างเครือข่าย อันจะนำไปสู่การพัฒนาทีมสุขภาพและการพัฒนาสุขภาพโลกในระดับภูมิภาคและระดับโลก 

การประชุมวิชาการนานาชาติ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพโลก: การสร้างความเข้มแข็งด้านผลลัพธ์ทางสุขภาพ การศึกษา การปฏิบัติทางคลินิก และวิจัยในครั้งนี้ นับเป็นการจัดประชุมวิชาการนานาชาติครั้งที่ 7 ที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุม ซึ่งจะเป็นการสานต่อ และพัฒนาองค์ความรู้ ด้านการส่งเสริมสุขภาพของโลกต่อเนื่องมาจากการจัดประชุมวิชาการนานาชาติที่คณะพยาบาลศาสตร์ได้จัดไปแล้ว จำนวน 6 ครั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2544, พ.ศ. 2547, พ.ศ. 2551, พ.ศ. 2555, พ.ศ. 2559, และ พ.ศ. 2563 (จัดทุก 4 ปี) ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้จากการที่มีผู้เข้าร่วมการประชุมมาจากทั่วโลก ทั้งนี้ยังได้ดำเนินกิจกรรมพบปะสนทนาระหว่างผู้แทนจากเครือข่ายของศูนย์ความร่วมมือทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขององค์การอนามัยโลก The Global Network of WHO Collaborating Centers จากนานาประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กระชับความสัมพันธ์ และส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างศูนย์ความร่วมมือและสมาชิกพันธมิตร

สำหรับการจัดประชุมวิชาการนานาชาติ Global Health Recalibration 2024 จะเป็นการเผยแพร่ให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากวิทยากร/ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในระดับโลก จำนวน 15 คน นอกจากนี้ ในการประชุม ได้มีการนำเสนอผลงานวิจัย จำนวน 236 เรื่อง แบ่งเป็นการนำเสนอแบบปากเปล่า (Oral Presentation) 120 เรื่อง และนำเสนอด้วยโปสเตอร์ 116 เรื่อง และได้มีการจัดนิทรรศการวิชาการจากสถาบันการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถเลือกชมกิจกรรม และความก้าวหน้าของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ อีกด้วย 

เชียงใหม่- เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรม 'Blooming Party with Chiang Mai Night Safari 2024'

เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.67) เวลา 17.00- 22.00 น. เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรม"Blooming Party with Chiang Mai Night Safari 2024" สานสัมพันธ์สื่อมวลชน โดยมี นายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวเปิดงาน ณ ห้องประชุมวารีกุญชร เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 

นายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์สื่อมวลชน 'Blooming Party with Chiang Mai Night Safari 2024' ขึ้น เพื่อเป็นการขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชน ที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญในการเผยแพร่ข่าวสารให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง และมีความน่าเชื่อถือ ทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสื่อมวลชนและองค์กรอีกด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) กำกับดูแลสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่เที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติและสัตว์ป่าที่สร้างรายได้ พร้อมกระจายรายได้สู่ชุมชนโดยรอบพื้นที่ 

โดยในปี 2567 นี้ ทำรายได้ไปแล้วมากกว่า 177 ล้านบาท และในปี 2568 วางเป้าหมายรายได้อยู่ที่ประมาณ 230 ล้านบาท และในปี 2568 นอกจากกิจกรรมหลักๆ แล้ว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้พัฒนากิจกรรมให้มีความสนใจมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่น กิจกรรม ChiangMai Night Safari Learning Center เป็uศูนย์การ เรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่า ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ด้านสัตว์ป่า ผ่านกิจกรรมและสื่อต่าง ๆ อาทิ เกมอนุรักษ์ธรรมชาติ สัตว์ 3D animation หนังสือ AR book เป็นต้น 

และพบกับกิจกรรม Farnily Zone เป็นกิจกรรมใหม่สำหรับเด็ก ๆ และครอบครัว ในการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์น่ารักโดยเฉพาะสัตว์ฟันแทะ โดยจะพบกับกระต่ายสายพันธุ์ต่าง ๆ อาทิ กระต่ายยักษ์, กระต่ายจิ๋ว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสัตว์น่ารักอื่น ๆ อาทิ แพ รีด็อก เมียร์แคท ที่สามารถเข้ามาเล่นและสัมผัสอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้เรายังได้ปรับปรงพื้นที่ในกิจกรรม TiperShow เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ต่อไป

เชียงใหม่-เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้รับรางวัล TRIP.Best 2024 Global 100 Family-Friendly Attractions 

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้รับรางวัล TRIP.Best 2024 Global 100 Family-Friendly Attractions การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแบบครอบครัวที่ไหนรับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก                                             

เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.67) สำนักงานพัฒนาพิงคนคร(องค์การมหาชน)โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ให้การต้อนรับคณะบริษัท TRIP.Besf 2024 Global 100 Family-Friendly Attractions ให้กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยมีนายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ปฎิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เป็นประธานเป็นผู้ให้การต้อนรับพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ณ.ห้องประชุมวารีกุญชร สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  

นายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวว่าการได้รับรางวัลนี้ เนื่องจากเชียงใหม่ไนท์เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของจังหวัดเชียงใหม่ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆมาโดยตลอดจนทำให้เกิดการรีวิวและบอกต่อ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีแห่งนี้ให้คนทั่วโลกได้เห็นและรู้จักซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้รับรางวัลจากTrip.com แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการ การเดินทางแบบครบวงจรระดับนานาชาติ ในประเภท Trip.Best 2024 global 100 Family Friendly attraction ซึ่งเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในหมวดหมู่การท่องเที่ยวแบบครอบครัว ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกและเป็นการจัดลำดับการท่องเที่ยวที่จัดทำขึ้นโดยอิงจากรีวิวจริงของผู้ใช้และความนิยมในการขายตลอดทั้งปี

เชียงใหม่- ผบช.ภ.5แถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ

ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ของ สภ.แม่พริก จว.ลำปาง จำนวน 2 คดี รวมของกลางยาบ้ากว่า 3,280,000 เม็ด ผู้ต้องหารวม 5 คน รถยนต์ของกลางรวม 4 คัน

เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.67) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร  ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ประจำฯ ช่วยราชการ ภ.5, พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, ผชช.ปปส.ภาค 5, รอง ผบ.กกล.ผาเมือง, เสธ.นบ.ยส.35 และนายอำเภอแม่พริก
ร่วมแถลงผลการจับกมุยาเสพติดรายสำคัญ ของ สภ.แม่พริก จว.ลำปาง จำนวน 2 คดีดังนี้

คดีที่ 1 จับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 2,006,000 เม็ด และรถยนต์ 2 คัน ของ สภ.แม่พริก จ.ลำปาง 
คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 1,274,000 เม็ด และรถยนต์ 2 คัน ของ สภ.แม่พริก จ.ลำปาง

สรุปผลการจับกุมยาเสพติด ของ ตำรวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.66 – 20 ก.ย.67

จับกุมคดียาเสพติด    
- จำนวน 24,985 คดี       
- เป็นคดีรายสำคัญ 197 คดี

ตรวจยึดของกลางยาเสพติด    
- ยาบ้า 226 ล้านเม็ด      
- ไอซ์ 1,910 กิโลกรัม
- เฮโรอีน 305 กิโลกรัม      
- เคตามีน 52 กิโลกรัม
- ฝิ่น 270 กิโลกรัม

ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 2,088 ล้านบาท

'เชียงราย' ยาบ้าทะลักแม่น้ำสาย!! ฉก.ทัพเจ้าตากยึดยาบ้า 1.1 ล้านเม็ด 'ชายแดนแม่สาย'

(21 ก.ย.67) เวลา 05.20 นาฬิกา กองกำลังผาเมือง โดย หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จัดกำลังจาก กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ทำการเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ บ้านป่าซางงาม หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังจากทราบข่าวว่ากลุ่มขบวนการพยายามที่จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยด้านอำเภอแม่สาย ซึ่งขณะปฏิบัติภารกิจได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2 คน พร้อมกล่องต้องสงสัยขณะกำลังวางซุกซ่อนบริเวณข้างถนน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ทิ้งกล่องต้องสงสัยและอาศัยความมืดหลบหนีข้ามแม่น้ำสายกลับไปยังฝั่งประเทศเมียนมา ไม่สามารถจับกุมได้

ต่อมาเมื่อเวลา 06.00 นาฬิกา พันเอก ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่ในกล่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำนวน 6 กล่องๆ กล่องละ 200,000 เม็ด จำนวน 5 กล่อง และกล่องละ 100,000 เม็ด จำนวน 1 กล่อง รวมยาบ้าทั้งสิ้น 1,100,000 เม็ด หลังจากนั้นจึงได้เพิ่มเติมกำลังอีก 2 ชุดปฏิบัติการ เข้าควบคุมพื้นที่ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบของกลางอีกครั้งหนึ่ง

และเมื่อเวลา 11.00 นาฬิกา พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้มอบหมายให้ พันเอก กิดากร จันทรา รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วยฝ่ายปกครองโดยนาย ณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สายได้มอบหมายให้นาย ยศพงศ์ ตุลาชม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สายและ

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าวหลังจากนั้นจึงได้นำของกลางส่งให้สถานีตำรวจภูธรแม่สายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ซึ่งถึงแม้ว่าในห้วงนี้ในพื้นที่ชายแดนจะประสบอุทกภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มอย่างต่อเนื่อง หน่วยได้แบ่งกำลังไปช่วยเหลือประชาชนส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็ยังคงปฏิบัติภารกิจสกัดกั้นบริเวณชายแดนอย่างเข้มแข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มขบวนการอาศัยจังหวะช่วงเกิดภัยธรรมชาตินำยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศได้

‘ในหลวง’ พระราชทานเพลิงศพ ‘เอส ดิอาร์ค’ อาสาสมัครช่วยหมาแมว ที่เสียชีวิต ขณะปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง ที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย

(22 ก.ย. 67) ที่เมรุวัดวังธาร อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายภรัญโรจน์ กิตติภัทร์ฐากรณ์ หรือเดิมชื่อ นายเกรียงสิทธิ์ จันทร์ทา รองประธานมูลนิธิดิอาร์ค ในพระราชูปถัมภ์ ที่เสียชีวิตระหว่างการไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือสุนัขและแมวที่ประสบอุทกภัยที่จังหวัดเชียงรายเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา โดยมี นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ข้าราชการ ครอบครัว ญาติพี่น้อง และประชาชนร่วมพิธีไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก สร้างความปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้

ทั้งนี้ เมื่อขบวนอัญเชิญไฟพระราชทานมาถึงบริเวณพิธี ข้าราชการ ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตได้ตั้งแถวเพื่อรอรับไฟพระราชทาน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้อัญเชิญไฟพระราชทานขึ้นวางประจำจุดเตรียมประกอบพิธี จากนั้นตัวแทนเจ้าภาพได้อ่านหมายรับสั่งสำนักพระราชวัง อ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และอ่านประวัติผู้ถึงแก่อนิจกรรม พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่เชิญผู้ร่วมพิธีร่วมยืนไว้อาลัยแด่ผู้ถึงอนิจกรรมเป็นเวลา 1 นาที ซึ่งโอกาสนี้ พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง ประธานในพิธี ได้ทอดผ้าบังสุกุลหน้าหีบศพของผู้เสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธีประโคมปี่ไฉนและกลองชนะเสร็จแล้ว ประธานสงฆ์พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล และประธานในพิธีประกอบพิธีพระราชทานเพลิงและวางดอกไม้จันทน์ ก่อนประธานสงฆ์วางดอกไม้จันทน์ ตามด้วยพระสงฆ์ สามเณร ข้าราชการ ญาติพี่น้อง และประชาชนที่มาร่วมพิธี เพื่อร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้ายให้กับนายภรัญโรจน์

เชียงใหม่-เริ่มแล้ว! งาน “มหกรรมเสน่ห์ไทย@เชียงใหม่: HOP Chiangmai Art and Music Festival” สุดคึกคัก

(22 ก.ย. 67) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ จังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงใหม่ จัดงาน “มหกรรมเสน่ห์ไทย@เชียงใหม่:HOP Chiangmai Art and Music Festival” ในวันที่ 20-29 กันยายน 2567 ต่อยอดแนวคิดเมือง แห่งเทศกาล “เชียงใหม่ 12 เดือน 12 ธีม” โดยนำดนตรีและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นผนวกเข้ากับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้คอนเซปต์ Music Hopping “Harmony & Art Performance” ส่งมอบประสบการณ์แห่งความสุขด้วยเทศกาลดนตรี 3 เวที 3 สไตล์ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ พบกับการแสดงของศิลปินชื่อดัง ศิลปินท้องถิ่น และการแสดงวัฒนธรรมร่วมสมัย พร้อมประดับไฟ 3 จุดแลนด์มาร์กสำคัญ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวช่วงนอกฤดูกาล และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมรองรับการท่องเที่ยวในหลากหลายรูปแบบ โดยได้มีการสร้าง City Branding ภายใต้แนวคิดงานเทศกาล “เชียงใหม่ 12 เดือน 12 ธีม” สอดรับกับการที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับเลือกให้เป็น เมืองเทศกาลโลก (World Festival and Event City) ประจำปี 2565 จากสมาคมงานเทศกาลนานาชาติ (International Federation of Technical Analysts : IFTA) ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ตามความสนใจตลอดทั้งปี โดยในเดือนกันยายน แม้ว่าจะเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ แต่เป็นเดือนแห่งการแสดงผลงานและกิจกรรมของศิลปินหลากหลายแขนง ทั้ง Music และ Performing Art  สอดคล้องกับการจัดงาน “มหกรรมเสน่ห์ไทย@เชียงใหม่ : HOP Chiangmai Art and Music Festival” ในครั้งนี้ที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว สร้างการรับรู้อัตลักษณ์ท้องถิ่นของเชียงใหม่ ทั้งยังเป็นโอกาสอันดีในการนำเสนอขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดและยกระดับคุณภาพมาตรฐานการท่องเที่ยว ตลอดจนผลักดันจังหวัดเชียงใหม่เป็น Word Class Event Hub ต่อไปในอนาคต

นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ รองผู้ว่าการ ด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. เดินหน้ากระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยการจัดงานมหกรรมเสน่ห์ไทย 5 ภูมิภาค นำเสนออัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ด้วยกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์    ภายใต้แนวคิด “เสน่ห์ไทย หรือ Soft Power” จัด Event Marketing ยิ่งใหญ่ตลอดเดือนกันยายนใน 5 พื้นที่ 5 ภูมิภาค สำหรับในพื้นที่ภาคเหนือกำหนดจัดงาน “มหกรรมเสน่ห์ไทย@เชียงใหม่ : HOP Chiangmai Art and Music Festival” ในระหว่างวันที่ 20-29 กันยายน 2567 นำเสนอประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด  5 Must Do in Thailand

เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางกระจายเข้าสู่พื้นที่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) สะท้อนศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างงาน สร้างรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึง เพื่อให้คนในท้องถิ่นได้รับประโยชน์สูงสุด  คาดว่าจะสามารถสร้างรายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้จากการเดินทางเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 314 ล้านบาท

มหกรรมเสน่ห์ไทย@เชียงใหม่ : HOP Chiangmai Art and Music Festival ททท. ตั้งใจส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดพิเศษด้วยเทศกาลดนตรีและศิลปะใจกลางเมืองเชียงใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ Music Hopping “Harmony & Art Performance” นำดนตรี ศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นมาเป็นจุดแข็งจุดขาย สร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ควบคู่กับการนำเสนอ“เสน่ห์ไทย” ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวภายในงาน ตามแนวคิด 5 Must Do in Thailand ประกอบด้วย Must Taste : ยกทัพอาหารถิ่นมาให้ลิ้มลอง / Must Try : ร่วมสะสมสแตมป์ Hopping Passport แลกรับของที่ระลึกและสิทธิพิเศษจากผู้ประกอบการในพื้นที่ /  Must Buy : เลือกซื้อสินค้าและบริการจากพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ โรงแรม คาเฟ่ ร้านอาหาร ตลอดจนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น Art & Craft / Must Seek : สัมผัสประสบการณ์แห่งเทศกาลดนตรีรูปแบบเวที Hopping และเช็กอินจุดประดับไฟทั่วเมืองเชียงใหม่ / Must See : เข้าชมการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง ศิลปินท้องถิ่น และการแสดงวัฒนธรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่

กิจกรรมไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ การแสดงคอนเสิร์ต โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงและศิลปินท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ โดยจัดให้มีเวทีการแสดงกระจายตามจุดต่าง ๆ (Hopping) ในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ เวที Main Stage – Pop Stage ณ ลานประตูท่าแพ, เวที Classic Stage- Local music and Performance ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และเวที Hopping Stage – Bus Stage เวทีบนรถบัสที่จะเคลื่อนไปส่งความสนุกตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ จำนวน 3 จุด ในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ หน้าห้างสรรพสินค้า MAYA วันที่ 20-22 กันยายน 2567, ลาน More Space วันที่ 23-26 กันยายน 2567 และลานข้างโรงแรม Dusit d2 เชียงใหม่ไนท์บาซ่า : วันที่ 27-29 กันยายน 2567 ซึ่งจะได้พบกับศิลปินชื่อดัง อาทิ เจนนิเฟอร์ คิ้ม, บุรินทร์, ตู่  ภพธร, ลานนา คัมมินส์, นุนิว (NU NEW), THE TOYS, ไม้เมือง, เขียนไขและวานิช และการแสดงของศิลปินท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ คณะสุเทพการบันเทิง, พาวิน หนึ่งเดอะสะล้อ, Worthless Boy, The Bundit Boy, Chiangmai Blues, สภาพสุภาพ, LAWN, The Funckster, Money Shelby Bar

นอกจากนี้ ททท. ยังได้สร้างบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ให้คึกคักยิ่งขึ้นด้วยซุ้มไฟและ Art Installation ใน 3 พื้นที่แลนด์มาร์ก ได้แก่ ประตูท่าแพ พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา และสะพานขัวเหล็ก ให้ผู้ร่วมงานได้แชะ แชร์ โมเมนต์แห่งความสุขให้สุขทันทีที่เที่ยวไทย รวมทั้งร่วมกับผู้ประกอบการโรงแรม/ที่พัก ร้านอาหาร ธุรกิจสถานบันเทิง ร้านกาแฟในพื้นที่กว่า 200 แห่ง มอบสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยวผ่านกิจกรรม Passport Stamps โดยรับ Passport จากสถานที่จัดงานและโรงแรม/ที่พักที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อสะสมแสตมป์ประทับการเข้าร่วมงานฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ครบ 3 จุด แลกรับกระเป๋าผ้าของที่ระลึก ส่วนลดราคาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวตามเงื่อนไขที่ ททท. กำหนด

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน “มหกรรมเสน่ห์ไทย@เชียงใหม่: HOP Chiangmai Art and Music Festival” สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: GoNorthThailand  / HOP Chiangmai Instagram: hopchiangmai และ TAT Contact Center 1672 Travel Buddy

นภาพร/เชียงใหม่

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทีมบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนพลอีกครั้ง..จัดทีม 'ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงใหม่'

(26 ก.ย. 67) พร้อมกระจายเครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทีมอาสาฯ 'ช่วยเหลือชาวลำปาง' !! และเปิดลานสักการะหลวงปู่ฯ ระดมเจ้าหน้าที่-จิตอาสาแพ็กถุงยังชีพฉุกเฉิน ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

ตามที่ในหลายจังหวัดของภาคเหนือยังคงเกิดอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดลำปางที่ทีมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งกำลังอยู่ระหว่างการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ขณะนี้ ล่าสุดได้เกิดเหตุน้ำปิงล้นตลิ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ บางพื้นที่รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ วานนี้ (วันพุธที่ 25 กันยายน 2567) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมคณะกรรมการฯ ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม เร่งสั่งการให้

นายวรพจน์ จรัสเศรษฐสิริ รักษาการผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ จัดกำลังทีมกู้ชีพ-กู้ภัย พร้อมอุปกรณ์ตอบโต้ภัยพิบัติ ยานพาหนะกู้ภัย กู้ชีพโฟวิล [4x4] โรงครัวเคลื่อนที่ เครื่องอุปโภคบริโภค ชุดยาสามัญประจำบ้าน ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยชาวเชียงใหม่ในทันที โดยมี หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ พร้อมจัดตั้งกองอำนวยการ และโรงครัวประกอบอาหารปรุงสุก ณ วัดกองทราย อําเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และในขณะนี้ ทีมบรรเทาสาธารณภัย อยู่ระหว่างการอพยพประชาชน รวมถึงการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในพื้นที่ประสบภัย อาทิ ตำบลท่าวังตาล และตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้แผนกอาสาสมัครมูลนิธิฯ ระดมสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคสมทบอาสาฯ กู้ภัย ซึ่งในขณะนี้ได้จัดกำลังพร้อมเรือท้องแบนลงพื้นที่จังหวัดลำปาง เร่งเข้าช่วยเหลืออพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2567 เป็นต้นมา และได้จัดตั้งโรงครัวเคลื่อนที่ ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เทศบาลตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ประกอบอาหารปรุงสุกบรรจุกล่องพร้อมน้ำดื่มนำแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

และในวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2567) ที่ลานสักการะหลวงปู่ไต้ฮง ฝั่งสำนักงานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ นำโดยนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย จัดระดมทีมเจ้าหน้าที่  และจิตอาสาหน่วยงานในเครือ เร่งบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค รวมทั้งสิ่งของที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค และชุดยาสามัญประจำบ้าน บรรจุถุงมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  จัดเป็น “ถุงยังชีพฉุกเฉิน” เพื่อจัดส่งให้ทีมบรรเทาสาธารณภัยนำออกแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่อไป

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สละแรงกาย แรงใจ  สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ  ทั้งที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ และที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป 

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ แผนกบริจาคสัมพันธ์ รวมทั้ง ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org  เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/pohtecktungofficial

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรวมพลังส่งต่อธารน้ำใจสู้ภัยน้ำท่วม

ผู้ประกอบการไนท์บาซาร์ครวญ น้ำท่วมทำเจ็บหนัก เซ็ง!! หน่วยงานรู้ว่าจะท่วมแต่ไม่เห็นช่วยป้องกัน

(27 ก.ย. 67) รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 26 ก.ย. หลายพื้นที่ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกน้ำท่วมเนื่องจากน้ำในแม่น้ำปิงล้นตลิ่ง แม้ว่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงจะเริ่มค่อย ๆ ลดลงแล้ว หลังจากที่ขึ้นสูงสุด 4.93 เมตร เมื่อเวลา 02.00 น. โดยที่ย่านไนท์บาซาร์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการค้าสำคัญ ที่ถูกน้ำไหลเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้นั้น ในวันนี้น้ำยังคงท่วมสูง 50-80 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านค้าและร้านอาหาร รวมทั้งโรงแรมที่พักกว่า 200 ราย ที่ส่วนใหญ่ต่างจำเป็นต้องปิดร้านและหยุดให้บริการชั่วคราว

ทั้งนี้ผู้ประกอบการหลายราย สะท้อนปัญหาว่า แม้จะมีการแจ้งเตือน แต่การช่วยเหลือสนับสนุนต่าง ๆ จากหน่วยงานรัฐยังไม่ดีพอ โดยตั้งข้อสังเกตว่าในเมื่อคาดการณ์ว่าน้ำจะไหลเข้าท่วมย่านไนท์บาซาร์ แต่ทำไมถึงไม่ได้มีการเตรียมการป้องกันใด ๆ อย่างเช่นนำกระสอบทรายมาช่วยสนับสนุนเพื่อให้วางกั้นป้องกันไว้ล่วงหน้า เพราะน้ำท่วมในครั้งนี้แต่ละร้านต่างต้องดูแลตัวเองและต้องไปรับกระสอบทรายที่มีการตั้งจุดเตรียมไว้ห่างไกล โดยหลังจากน้ำลดแล้วอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย เพราะไม่เพียงต้องขาดรายได้จากการปิดร้าน แต่ยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมฟื้นฟูร้านอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจุดต่าง ๆ นั้น ยังคงขยายวงกว้างไหลเข้าท่วมในจุดลุ่มต่ำรัศมีกว่า 1 กิโลเมตรจากแนวริมตลิ่งแม่น้ำปิง โดยที่บริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่ถูกน้ำท่วมเช่นกัน แต่ยังคงให้บริการผู้โดยสารด้วยการจัดรถบัสรับจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ไปส่งขึ้นรถไฟที่สถานีลำปาง เนื่องจากทางรถไฟช่วงระหว่างลำพูน-ลำปาง ถูกน้ำป่าซัดขาดเมื่อหลายวันก่อนจนต้องปิดเส้นทางช่วงดังกล่าวชั่วคราว ซึ่งหากผู้โดยสารรายใดที่ซื้อตั๋วไว้แล้วและต้องการยกเลิก ทางการรถไฟจะคืนเงินให้เต็มจำนวน

ด้านนายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 กล่าวว่า หาก วันนี้ (27 ก.ย. 67) ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม จะสามารถระบายมวลน้ำที่เอ่อท่วมในบางพื้นที่ของตัวเมืองเชียงใหม่ กลับลงไปในแม่น้ำปิงได้แล้ว เพราะมวลน้ำก้อนใหญ่ได้ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ไปแล้ว ส่วนมวลน้ำที่ล้นอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉินของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ซึ่งขณะนี้ล้นออกไปแล้วประมาณ 30 เซนติเมตร จะไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำปิงอย่างแน่นอน เนื่องจากระดับน้ำจากต้นน้ำในอำเภอแม่แตงและอำเภอเชียงดาวลดลงไปมากแล้ว

ศูนย์บริบาลช้างแม่แตง แจ้งข่าวน้ำท่วมศูนย์หนัก ต้องการเรือ-กรงสัตว์ ขนย้ายสัตว์หนีน้ำขึ้นเขา

(4 ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์บริบาลช้าง แม่แตง-เชียงใหม่ หรือ 'Elephant Nature Park' ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของศูนย์ ว่า

สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่หนักที่สุด ! 
น้ำป่าลงมาจากเขาเร็วมากเข้าท่วมพื้นที่ของศูนย์บริบาลเวลานี้ หนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา บางพื้นที่ที่ไม่เคยท่วมก็ท่วมแล้ว ควาญช้างและอาสาสมัครของเราทำงานกันอย่างหนักในการขนย้ายทุก ๆ ชีวิตขึ้นพื้นที่ปลอดภัย

และล่าสุดเมื่อประมาณ 10.00 น. ทางศูนย์บริบาลช้าง แม่แตง-เชียงใหม่ ได้โพสต์ว่า 

ต้องการอาสาสมัครและกรงค่ะ เพราะต้องย้ายสัตว์ไปบนเขาด่วน เนื่องจากถนนถูกตัดทั้งสองทาง

ดังนั้นจึงขอความช่วยเหลือเรื่องเรือค่ะ เพราะอาสาจะเข้าพื้นที่ไม่ได้เลย ถนนบางจุดสองเมตรแล้วค่ะ ถนนที่ปางไม้แดงเป็นเส้นทางเดียวที่ยังจะไปได้ แต่ตอนนี้ดินสไลด์ถนนปิด 

ดิฉันได้ประสานงานท่านรองผู้ว่าจังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้ช่วยเหลือเปิดทาง เส้นทางที่จะไปได้คือสายบ้านช้างปางไม้แดง 

สิ่งที่เราต้องการที่สุดในเวลานี้คือ เรือ และกรงขนสัตว์เล็ก และผ้าเต้นท์กันฝน ค่ะ เพราะน้ำท่วมหมดต้องย้ายพวกเขาไปอยู่บนเขาเท่านั้น 

ถ้าท่านใดต้องการเข้าไปช่วยในพื้นที่ ติดต่อพนักงานที่ออฟฟิศตามเบอร์ข้างล่างนี้ เพราะในพื้นที่สัญญาณอ่อนมากค่ะ

คุณดาด้า 098-6566685
064-44688989
คุณยุ้ย 095-361515
คุณเปรี้ยว 095-3615156
คุณไพลิน 088-9172668
สำนักงานมูลนิธิ 053-272855
ขอความช่วยเหลือด่วนค่ะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top