ผู้ประกอบการไนท์บาซาร์ครวญ น้ำท่วมทำเจ็บหนัก เซ็ง!! หน่วยงานรู้ว่าจะท่วมแต่ไม่เห็นช่วยป้องกัน

(27 ก.ย. 67) รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 26 ก.ย. หลายพื้นที่ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกน้ำท่วมเนื่องจากน้ำในแม่น้ำปิงล้นตลิ่ง แม้ว่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงจะเริ่มค่อย ๆ ลดลงแล้ว หลังจากที่ขึ้นสูงสุด 4.93 เมตร เมื่อเวลา 02.00 น. โดยที่ย่านไนท์บาซาร์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการค้าสำคัญ ที่ถูกน้ำไหลเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้นั้น ในวันนี้น้ำยังคงท่วมสูง 50-80 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านค้าและร้านอาหาร รวมทั้งโรงแรมที่พักกว่า 200 ราย ที่ส่วนใหญ่ต่างจำเป็นต้องปิดร้านและหยุดให้บริการชั่วคราว

ทั้งนี้ผู้ประกอบการหลายราย สะท้อนปัญหาว่า แม้จะมีการแจ้งเตือน แต่การช่วยเหลือสนับสนุนต่าง ๆ จากหน่วยงานรัฐยังไม่ดีพอ โดยตั้งข้อสังเกตว่าในเมื่อคาดการณ์ว่าน้ำจะไหลเข้าท่วมย่านไนท์บาซาร์ แต่ทำไมถึงไม่ได้มีการเตรียมการป้องกันใด ๆ อย่างเช่นนำกระสอบทรายมาช่วยสนับสนุนเพื่อให้วางกั้นป้องกันไว้ล่วงหน้า เพราะน้ำท่วมในครั้งนี้แต่ละร้านต่างต้องดูแลตัวเองและต้องไปรับกระสอบทรายที่มีการตั้งจุดเตรียมไว้ห่างไกล โดยหลังจากน้ำลดแล้วอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย เพราะไม่เพียงต้องขาดรายได้จากการปิดร้าน แต่ยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมฟื้นฟูร้านอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจุดต่าง ๆ นั้น ยังคงขยายวงกว้างไหลเข้าท่วมในจุดลุ่มต่ำรัศมีกว่า 1 กิโลเมตรจากแนวริมตลิ่งแม่น้ำปิง โดยที่บริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่ถูกน้ำท่วมเช่นกัน แต่ยังคงให้บริการผู้โดยสารด้วยการจัดรถบัสรับจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ไปส่งขึ้นรถไฟที่สถานีลำปาง เนื่องจากทางรถไฟช่วงระหว่างลำพูน-ลำปาง ถูกน้ำป่าซัดขาดเมื่อหลายวันก่อนจนต้องปิดเส้นทางช่วงดังกล่าวชั่วคราว ซึ่งหากผู้โดยสารรายใดที่ซื้อตั๋วไว้แล้วและต้องการยกเลิก ทางการรถไฟจะคืนเงินให้เต็มจำนวน

ด้านนายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 กล่าวว่า หาก วันนี้ (27 ก.ย. 67) ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม จะสามารถระบายมวลน้ำที่เอ่อท่วมในบางพื้นที่ของตัวเมืองเชียงใหม่ กลับลงไปในแม่น้ำปิงได้แล้ว เพราะมวลน้ำก้อนใหญ่ได้ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ไปแล้ว ส่วนมวลน้ำที่ล้นอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉินของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ซึ่งขณะนี้ล้นออกไปแล้วประมาณ 30 เซนติเมตร จะไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำปิงอย่างแน่นอน เนื่องจากระดับน้ำจากต้นน้ำในอำเภอแม่แตงและอำเภอเชียงดาวลดลงไปมากแล้ว


ที่มา: MGROnline / Bangkokbiznews