Monday, 19 May 2025
สหรัฐ

นายกฯ รับเสียดาย ‘ทักษิณ’ พลาดพบ ‘ทรัมป์’ ที่กาตาร์ ยันพ่อป่วยจริง-เตรียมไปศาลตามนัด 13 มิ.ย. นี้

(13 พ.ค. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลไม่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปกาตาร์ ทำให้พลาดโอกาสพบ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจช่วยเปิดทางเจรจาภาษีไทย-สหรัฐฯ ได้ โดยย้ำว่าทักษิณป่วยจริง มีประวัติการรักษามายาวนาน และจะขึ้นศาลตามนัดในวันที่ 13 มิ.ย.นี้

นายกฯ ยืนยันว่าแพทยสภายังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ และไม่เคยมีใครระบุชัดว่าเป็น 'การป่วยทิพย์' พร้อมระบุว่าตนเองไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้โดยตรง เพราะเหตุเกิดก่อนดำรงตำแหน่ง แต่ยอมรับว่ารู้สึกว่ากระทบมาตลอดตั้งแต่มีคำพิพากษาคดีของบิดา

สำหรับประเด็นการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ นายกฯ เปิดเผยว่าได้ส่งรายงานไปยัง สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR)  แล้ว และรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อหารืออย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าการที่จีนหรือชาติอื่นคืบหน้ากว่าไทยไม่ได้หมายถึงว่าไทยล่าช้า เพราะมีการพูดคุยกันในหลายระดับแล้ว

ส่วนกรณีข่าวสหรัฐฯ ระงับวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทยจากกรณีอุยกูร์ นายกฯ ระบุว่ายังไม่แน่ใจว่ามีการปลดล็อกหรือไม่ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง แต่ย้ำว่าตนไม่เคยถูกแบนวีซ่า และเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาในการเจรจาระหว่างประเทศในอนาคต

ทูตสหรัฐฯ ยืนยัน การเจรจาสันติภาพ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ ต้องได้รับ ‘ไฟเขียว’ จากปูติน ระบุหากไม่มีความคืบหน้า สหรัฐฯ พร้อมถอนตัว จากความพยายามไกล่เกลี่ย

(13 พ.ค. 68) สตีฟ วิตคอฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ระบุว่า ความเห็นชอบจากประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เป็นเงื่อนไขสำคัญของการบรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยย้ำชัดว่า “จะไม่มีข้อตกลงใดเกิดขึ้น หากไม่มีลายเซ็นของปูติน”

ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Breitbart เมื่อวันอังคาร วิตคอฟฟ์กล่าวว่าเขาได้พูดคุยกับทั้งประธานาธิบดีปูติน ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองฝ่าย พร้อมชี้ว่า “เขาเป็นผู้นำของสหพันธรัฐรัสเซีย การไม่พูดคุยกับปูตินจึงเป็นตรรกะที่ไม่เข้าใจ เราต้องเปิดโต๊ะเจรจากับทุกฝ่าย”

วิตคอฟฟ์ยังเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ได้กำหนดเส้นตายที่ชัดเจน หากไม่มีความคืบหน้าที่แท้จริงในการเจรจา สหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากกระบวนการทั้งหมด โดยเน้นว่าหน้าที่หลักของสหรัฐฯ คือการผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายมาเจรจา และแสดงให้เห็นว่าทางเลือกอื่นจะเลวร้ายกว่าการประนีประนอม

ทั้งนี้ การออกมาแสดงจุดยืนครั้งนี้สะท้อนถึงท่าทีจริงจังของฝ่ายสหรัฐฯ ต่อการหาทางยุติสงครามยูเครน ซึ่งยังคงยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี โดยความร่วมมือหรือการยอมรับจากรัสเซียถือเป็นปัจจัยชี้ขาดในกระบวนการสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

‘ทรัมป์’ เยือนซาอุดีอาระเบีย ปิดดีลขายอาวุธ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมประกาศยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย หวังฟื้นบทบาทอเมริกาในตะวันออกกลาง

(14 พ.ค. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย พร้อมลงนามข้อตกลงอาวุธ 142,000 ล้านดอลลาร์ ระหว่างเยือนซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นจุดหมายแรกในการเดินทางต่างประเทศของเขาในวาระที่สอง โดยย้ำว่าสหรัฐฯ “ไม่มีพันธมิตรใดที่แข็งแกร่งกว่า” ซาอุดีอาระเบีย

การเยือนครั้งนี้ประกอบด้วยพิธีต้อนรับอย่างหรูหรา พร้อมการประกาศข้อตกลงด้านการลงทุนระหว่างประเทศมูลค่ารวมอาจแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 33.29 ล้านล้านบาท) โดยทรัมป์ยังร่วมเวทีฟอรั่มการลงทุนกับผู้นำธุรกิจระดับโลกอย่างอีลอน มัสก์ และเจนเซ่น หวง CEO ของ Nvidia ที่ประกาศขายชิป AI กว่า 18,000 ชิ้นให้กับบริษัทซาอุฯ

ทรัมป์ย้ำจุดยืนใช้การค้าและการลงทุนแทนความขัดแย้ง พร้อมระบุว่าเขาจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรีย เพื่อสนับสนุนรัฐบาลใหม่ของประเทศ โดยบอกว่าเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” สำหรับซีเรียที่เพิ่งเปลี่ยนผู้นำหลังการโค่นล้มระบอบอัสซาด

นอกจากนี้ในคำปราศรัย ทรัมป์กล่าวถึงประชาชนในกาซาว่าสมควรมี “อนาคตที่ดีกว่า” แต่ไม่ได้เสนอแผนการชัดเจนในการแก้ไขปัญหาระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ขณะที่ซาอุฯ ยืนยันจะไม่เข้าร่วมข้อตกลงอับราฮัมจนกว่าสงครามในกาซาจะสิ้นสุดลงและมีหนทางสู่รัฐปาเลสไตน์

การเดินทางของทรัมป์ยังรวมถึงจุดแวะพักที่กาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีแผนลงทุนรวม 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ท่ามกลางความพยายามผลักดันเศรษฐกิจอเมริกันและเสริมบทบาทในตะวันออกกลางอีกครั้ง

'ดร.กอบศักดิ์' จับตาศึกการค้า สหรัฐฯ - จีน เชื่อยกนี้ "คงไม่ง่าย และ จีนอาจจะไม่ยอม”

(14 พ.ค. 68) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการ ธนาคารกรุงเทพ และประธานคณะกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ...

เริ่มยกสอง - US vs China !!!
หลังจาก Total Reset จากกรุงเจนีวา
ควันหลงก็ตามมา
ทั้งจีนและสหรัฐต่างพยายาม Claim ว่า

การปรับลดภาษีลงมาทั้งสองฝ่าย -115%
เป็นชัยชนะของตนเอง
โดยสหรัฐบอกว่าเป็นความสำเร็จ
สามารถสร้าง Geneva Mechanism สำหรับการพูดคุยของสองฝ่าย
ส่วนจีน ไปไกลถึงบอกว่า เป็นความสำเร็จในการต่อสู้ ยืนหยัด ไม่โอนอ่อน
สามารถรักษาศักดิ์ศรีของจีนไว้ได้

สุดท้ายสหรัฐก็ต้องยอม "Chicken Out" ยอมถอยไปเอง
ไม่ได้อะไรจากจีน
ต่างคน ต่างคิดคนละ 10% เท่ากัน ภายใต้ Reciprocal Tariffs
ต่างจากอีกหลายๆ ประเทศ ที่ต้องมายอมเอาใจสหรัฐ
หลังจากนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของยกสอง
แต่ยกนี้ คงไม่ง่าย
เพราะสหรัฐต้องการ

1. ปรับ Imbalances หรือความไม่สมดุลด้านการค้าที่ยิ่งใหญ่ ดังแสดงในภาพ
ซึ่งจีนเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สู่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์
พร้อมๆ กับการที่สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นทะลุ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ เช่นกัน
ความไม่สมดุลนี้ สะสมมาหลายปี เป็น Gap ใหญ่มาก จะเปลี่ยนได้ จีนต้องเปลี่ยนใหญ่หลายเรื่อง
2. ย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐ ในบางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสำคัญๆ
3. เปิดตลาดจีนในอุตสาหกรรมต่างๆ ให้บริษัทสหรัฐ รวมถึง Google, Facebook, X, YouTube
4. ขอให้จีนบริโภคให้มากขึ้น ออมน้อยลง

ซึ่งแต่ละอย่าง ต้องขอบอกว่า "ไม่ง่าย" และ จีนอาจจะไม่ยอม
มาดูกันครับ ทั้งสองฝ่าย
จะตกลงกันได้ไหมในช่วง 90 วันข้างหน้า
จะกลับมาทะเลาะกันอีกครั้งหรือไม่
แต่รอบนี้ คงไม่ลุกลามเหมือนรอบที่แล้ว
เพราะคงได้บทเรียนกันทั้งสองฝ่ายแล้วว่า

ผลกระทบที่ตามมาต่อธุรกิจ โรงงาน แรงงาน
สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงกับทั้งสองฝ่าย
และ Geneva Mechanism ที่ท่าน รมต Bessent บอก
ก็จะช่วยเป็นกันชน ไม่ทะเลาะกันผ่านสื่อ
ไม่รอว่าใครจะโทรหาก่อน
ช่วยลดความร้อนแรงไปบางส่วน

จีนประกาศลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ สั่งระงับในอัตรา 24% เป็นเวลา 90 วัน แต่คงอัตราภาษี 10 % สินค้าบางรายการ ชี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ

(14 พ.ค. 68) จีนประกาศปรับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 12.01 น. ของวันพุธที่ 14 พ.ค. โดยคณะกรรมการภาษีศุลกากรแห่งคณะรัฐมนตรีจีนระบุว่าจะมีการระงับอัตราภาษีบางส่วนเป็นเวลา 90 วัน พร้อมคงอัตราภาษีตามมูลค่าไว้ที่ร้อยละ 10 สำหรับสินค้าบางรายการ

การปรับครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงจากประกาศก่อนหน้า ซึ่งกำหนดภาษีเพิ่มเติมที่ร้อยละ 84 และ 125 กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้ต่อมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่จีนมองว่าไม่เป็นธรรม

ภายใต้มาตรการล่าสุด จีนจะยกเลิกอัตราภาษีที่เคยปรับเพิ่มตามประกาศฉบับที่ 5 และ 6 ที่ออกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อคลายความตึงเครียดและส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ

คณะกรรมการภาษีศุลกากรฯ ระบุว่า การปรับลดภาษีในครั้งนี้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ผลิตและผู้บริโภคทั้งในจีนและสหรัฐฯ และมีส่วนช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ รวมถึงส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม

รมต.สหรัฐฯ เผย ศึกทะเลแดงทำคลังอาวุธลดฮวบ เร่งร่วมเอกชนเสริมกำลังด่วน!! แม้เริ่มมีสัญญาณยุติ

(15 พ.ค. 68) จอห์น เฟลาน (John Phelan) รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ได้ใช้อาวุธป้องกันภัยทางอากาศจำนวนมากในการสู้รบกับกลุ่มฮูตีในทะเลแดงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 และกำลังร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อเติมเต็มคลังอาวุธที่ลดลง เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อเนื่อง

กลุ่มฮูตี หรือ อันซาร์ อัลลาห์ ซึ่งควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือของเยเมนและชายฝั่งทะเลแดง ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนปาเลสไตน์และประกาศโจมตีเรือที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล หลังจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีฉนวนกาซาเมื่อเดือนตุลาคม 2566 สถานการณ์นี้ส่งผลให้หลายบริษัทระงับการเดินเรือผ่านเส้นทางดังกล่าว และสหรัฐฯ จัดตั้งพันธมิตรนานาชาติเพื่อปกป้องเส้นทางเดินเรือ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าสหรัฐฯ อาจยุติปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮูตี หลังจากที่กลุ่มดังกล่าวประกาศหยุดการโจมตีเรือในทะเลแดง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบวกต่อเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ในระยะต่อไป

‘กาตาร์แอร์เวย์ส’ เซ็นซื้อเครื่องบินจากโบอิ้ง จำนวน 210 ลำ มูลค่ากว่า 96,000 ล้านดอลลาร์

สายการบินกาตาร์แอร์เวย์สตกลงสั่งซื้อเครื่องบินสูงสุด 210 ลำจากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าเป็นคำสั่งซื้อมูลค่าสูงถึง 96,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.46 ล้านล้านบาท) ถือเป็นหนึ่งในดีลสำคัญระหว่างการเยือนตะวันออกกลางของเขา

ทำเนียบขาวระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะสนับสนุนการจ้างงานในสหรัฐฯ ราว 154,000 ตำแหน่งต่อปี และถือเป็นคำสั่งซื้อเครื่องบิน 787 Dreamliner ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโบอิ้ง

แม้โบอิ้งจะเผชิญปัญหาการผลิตและขาดทุนกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วจากเหตุเครื่องบินขัดข้อง แต่ล่าสุดบริษัทเริ่มฟื้นตัว หุ้นเพิ่มขึ้นราว 20% ตั้งแต่ต้นปี และมีแผนส่งมอบเครื่องบินกว่า 130 ลำในไตรมาสแรก

ดีลนี้รวมถึงเครื่องบิน Dreamliner 130 ลำ, รุ่น 777-9 อีก 30 ลำ และตัวเลือกสำหรับเครื่องบินรุ่นอื่นอีก 50 ลำ ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางเศรษฐกิจมูลค่ารวมกว่า 240,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างสหรัฐฯ และกาตาร์

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่าการสั่งซื้อครั้งนี้เป็นชัยชนะเชิงสัญลักษณ์สำหรับโบอิ้ง แต่ยังไม่สะท้อนความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้น เพราะความท้าทายหลักยังอยู่ที่การผลิตเครื่องบินให้ทันตามกำหนดส่งมอบในอนาคต

‘เงินดอลลาร์’ ร่วงแตะระดับต่ำสุดในประวัติการณ์!! หลายประเทศแห่เทขาย หันถือเงินเยน-ทองคำ แทน

(16 พ.ค. 68) รายงานจากนิกเคอิเอเชียเผยว่า สัดส่วนการถือครอง 'เงินดอลลาร์สหรัฐ' ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลก ลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 57.8% ณ สิ้นปี 2567 สะท้อนแนวโน้มที่ประเทศต่าง ๆ ทยอยกระจายความเสี่ยงโดยหันไปถือครองสินทรัพย์ทางเลือกแทนดอลลาร์

หนึ่งในทางเลือกสำคัญคือ 'ทองคำ' ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินของสหรัฐ เช่น รัสเซีย ที่ปัจจุบันมีทองคำสำรองราว 2,300 ตัน คิดเป็น 32% ของทุนสำรองทั้งหมด เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในรอบทศวรรษที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน 'เงินเยน' สกุลเงินของญี่ปุ่น เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 5.82% เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับดอกเบี้ยให้สูงกว่า 0% ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นน่าดึงดูดขึ้น

นักวิเคราะห์หลายรายมองตรงกันว่า โลกกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศจากที่พึ่งพาเงินดอลลาร์เพียงสกุลเดียว ไปสู่ระบบใหม่ที่มีหลายสกุลเงินหลัก เช่น ยูโร เยน และทองคำ เข้ามาแบ่งบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีเงินทุนสำรองรวมเกือบครึ่งของโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top