Friday, 3 May 2024
ยาเสพติด

‘นรข.มุกดาหาร’ สนธิกำลัง!! เข้ายึดยานรกข้ามน้ำโขง เกือบ 2 แสนเม็ด!!

สถานีเรือมุกดาหาร จ.มุกดาหาร นายบุญเรือง เมฆฉิม รองผู้ว่าราชการจังหวัด พ.อ.วรพรต แก้ววิจิตร รอง ผอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร และ น.ท.พิเชษฐ์ เมืองโคตร หน.สน.เรือมุกดาหาร แถลงข่าวตรวจยึดยาบ้าจากขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติได้ร่วมสองแสนเม็ด

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผบ.นรข. ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบ สน.เรือมุกดาหาร บริเวณบ้านส้มป่อย ต.นาสีนวน อ.มุกดาหาร จ.มุกดาหาร จึงได้สั่งการให้ น.ท.พิเชษฐ์ เมืองโคตร หน.สน.เรือมุกดาหาร จัดชุดลาดตระเวนชุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบดังกล่าว

ตามข่าวที่ได้รับแจ้งมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ซุ่มอยู่ได้ตรวจพบว่ามีเรือกีบแล่นมาจากทางฝั่งแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เข้ามาจอดฝั่งประเทศไทย บริเวณริมตลิ่งบ้านส้มปอย ต.นาสีนวน ซึ่งอยู่ห่างจากจนท.ชุดปฏิบัติการที่ชุ่มอยู่ประมาณ 50 เมตร จากนั้นก็ได้โยนถุงกระสอบบรรจุสิ่งของขึ้นมาบนตลิ่งริมน้ำเสร็จแล้วก็รีบหันหัวเรือกลับขับไปฝั่งสปป.ลาว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้เฝ้าสังเกตต่อไปว่าจะมีใครมารับวัตถุสิ่งของดังกล่าวหรือไม่ จนกระทั่งเวลา 04.30 น. ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดแสดงตัวเข้ามาเอาถุงกระสอบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว

 

“เสธ.ทบ.” ตรวจชายแดน ย้ำ ผบ.ทบ.ห่วงใยขบวนการผิดกฎหมายทั้งลักลอบเข้าเมือง และยาเสพติด ฉวยโอกาสช่วงปีใหม่กระทำผิด สั่งกำลังพลเพิ่มความเข้มข้นเป็น 10 เท่า 

พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก ลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดนที่อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบการลอบเข้าเมืองและขนสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งยาเสพติด สินค้า อาวุธร้ายแรง ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้กองทัพบกให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้ โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีนโยบายชัดเจนในการสนับสนุนการปฏิบัติการชายแดนให้การเผ้าระวังเป็นด่านหน้าให้ประเทศปลอดภัย ไม่มีการลักลอบเข้าเมือง ขนสินค้าผิดกฎหมาย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดอย่างเต็มกำลัง ให้สกัดกั้นทุกอย่างเพื่อไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาในประเทศ 

ทั้งนี้ นอกจากทหารบกแล้วยังมีการสนธิกำลังกับฝ่ายปกครอง และตำรวจตระเวนชายแดน  โดยในส่วนของกองทัพบกได้ส่งยุทโธปกรณ์เฝ้าระวัง อุปกรณ์เสริมในการร่วมปฏิบัติภารกิจที่ไม่ต้องใช้คน เช่น โดรน และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนสะดวกขึ้น เพราะปฏิบัติงานตลอดงาน 24 ชั่วโมง ด้วยความยากลำบากและเสียสละ 

ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่หยุดยาวต่อเนื่อง การปฏิบัติงานเพิ่มความเข้มงวดอย่างเต็มที่ เพราะในประเทศมีการเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ศบค.เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตการ ในขณะที่ชายแดนให้ความสำคัญในกระบวนการไม่นิ่งนอนใจ มีการกำหนดความถี่ของการเผ้าระวังมากขึ้น นำยุทโธปกรณ์ให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ การลาดตระเวนโดยยานพาหนะ และใช้อุปกรณ์ไร้คนขับ โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญจะทำงานร่วมกับงานการข่าวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างดี

‘ผช.ผบ.ตร.’ บินด่วนลงนราฯ!! แถลงผลเปิดยุทธการสยบไพรี ค้น 2 จังหวัด ทลายเครือข่ายยาเสพติด จับ! 3 ผู้ต้องหายึดทรัพย์มูลค่า 62 ล้านบาท!!!

วันที่ 17 ธ.ค. 64 ณ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผช.ผบ.ตร. ได้เดินทางมาเป็นประธานในการแถลงข่าวการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ตามแผนยุทธการสยบไพรี 65/1 โดยมี พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.ดุษฎี ชุสังกิจ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซ๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.อ.ก่อเกียรติ เข็มแดง รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส และนายปรีชา นวลน้อย ปลัด จ.นราธิวาส ได้ร่วมเดินทางมาแถลงข่าวให้ครั้งนี้

โดย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผช.ผบ.ตร.กล่าวว่า จากการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ตามแผนยุทธการสยบไพรี ในครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติต่อเนื่องจากแผนปฏิบัติการสยบไพรี 64/1 ในการจับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ นายวิเชียร เฉียงเมือง นายชัยยุทธ สุธรรม และนายยศวยศ ราตรีสวรรค์ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมยาบ้า 200,000 เม็ด เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 63 และสามารถยึดทรัพย์ของกลางมูลค่า 51 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 64 เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายดังกล่าวได้เพิ่มเติมอีก 6 คน ซึ่ง 1 ใน 6 คือ นายเชิดชาย สมรฤทธิ์ มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 125 ม.7 ต.ทุ่งกระดาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ที่มีเครือข่ายอยู่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผช.ผบ.ตร.ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า จากการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ตามแผนยุทธการสยบไพรี 65/1 ในครั้งนี้ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 17 ธ.ค. 64 ด้วยการปิดล้อมเป้าหมาย 11 จุด โดยแยกเป็นพื้นที่ จ.นราธิวาส 8 จุด ปัตตานี 3 จุด เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดของนายเชิดชาย ได้อีก 3 คน คือ 1. น.ส.ซากีรา บือโต ที่บ้านพักเลขที่ 95/1 ม.8 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส 2. น.ส.ซากียะ อาแว ที่บ้านพักเลขที่ 81 ถ.พิชิตบำรุง ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส และ 3. น.ส.สุพัชนี แประสามะ อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.7 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงเช้าของวันนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยทราบถึงเส้นทางที่หลบหนี พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินไปตรวจสอบ อาทิ บ้าน รถยนต์และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 265 ใบ ซึ่งมีมูลค่า 11 ล้านบาทไปตรวจสอบ

และหลังจาก พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผช.ผบ.ตร.แถลงข่าวแล้วเสร็จ ได้ถือโอกาสสอบสวนปากคำเบื้องต้น น.ส.ซากีรา บือโต ด้วยตนเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ ณ ห้องโถง ชั้น 2 ของ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส แต่ไม่ได้รับการเปิดเผยว่า น.ส.ซากีรา บือโต ให้การอย่างไรบ้าง

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจ "สารวัตรสืบสวน สภ.ฝาง พลีชีพ" ปะทะขบวนการค้ายาเสพติด พื้นที่ จ.เชียงใหม่ เตรียมปูนบำเหน็จความชอบ พร้อมสั่งล่าตัวผู้กระทำผิด!!

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา มีเรื่องน่าสลดใจเกิดขึ้น เมื่อข้าราชการตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชน ด้วยความตั้งใจ เสียสละ จนถึงขั้นเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 21.30 น. ชุดสืบสวน สภ.ฝาง และ สภ.แม่อายภ.จว.เชียงใหม่ ได้ออกสืบสวนติดตามขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากชายแดน เข้ามาในพื้นที่ อ.ฝางจว.เชียงใหม่ พบรถยนต์ต้องสงสัยขับมาจากเส้นทาง บ.โป่งไฮ - ถ.โชตนา จึงทำการติดตามไป เพื่อทำการจับกุมก่อนที่จะถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงใส่ ส่งผลให้ "พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ สุขุมานนท์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรฝาง ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่" ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอสดุดีวีรกรรมของ พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ สุขุมานนท์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรฝาง ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ เสียสละ จนวาระสุดท้ายของชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้เร่งติดตามล่าตัวผู้กระทำผิด มาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ของ พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ฯ ให้ดูแลสวัสดิการของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะ "พิจารณาการปูนบำเหน็จความชอบ และดูแลในเรื่องของเงินสวัสดิการ" ช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละ เพื่อเป็นการรักษา เยียวยา และให้กำลังใจผู้ที่ได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวนี้ ซึ่ง กรณี เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จะได้รับเงินสวัสดิการ250,000 – 500,000 บาท โดยในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แอปพลิเคชันแทนใจ และผู้ได้รับเงินเยียวยาจะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิชันแทนใจ อีกทางหนึ่งด้วย

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ รับทราบผลการปฏิบัติงาน ป.ป.ส. ประจำปี 63 จับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศกว่า 3 แสนราย กำชับหากพบเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องเครือข่ายยา เสพติด ให้ปลดออกไล่ออก

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2563 โดยมีการรายงานผลการจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ จำนวน 318,895 คดี และผู้ต้องหา 334,126 ราย ประกอบด้วยของกลาง จำแนกเป็น ยาบ้า 368 ล้านเม็ด ไอซ์ 27,609 กิโลกรัม เฮโรอีน 1,828 กิโลกรัม โคเคน 30 กิโลกรัม กัญชาแห้ง 16,980 กิโลกรัม กัญชาสด 11,806 กิโลกรัม พืชกระท่อม 97,835 กิโลกรัม ซึ่ง ป.ป.ส. ได้มีการขยายผลไปสู่มาตรการริบทรัพย์สินดำเนินคดีข้อหาสมคบ สนับสนุน เกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิดจำนวน 2,679 ราย พร้อมมีการดำเนินคดีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่เกี่ยวข้องกับกระทำความผิดทางอาญา รวมทั้งสิ้น 4 ราย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ป.ป.ส. ยังรายงานแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อาทิ 1) มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ ภายใต้แผนปฏิบัติการร่วมแม่น้ำโขงปลอดภัย เพื่อควบคุมยาเสพติด 6 ประเทศ ระยะ 4 ปี 2) มาตรการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย ประกอบด้วยแนวทางการสกัดกั้นยาเสพติด โดยเพิ่มช่องทางตามแนวชายแดนใน 15 จังหวัด และการปราบปรามกลุ่มการค้ายาเสพติด โดยดำเนินการในพื้นที่ 76 จังหวัด 3) มาตรการป้องกันยาเสพติด เช่น แนวทางเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวชายแดน สร้างพื้นที่ปลอดภัย 4) มาตรการบำบัดรักษายาเสพติด โดยนำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบำบัดรักษาผู้ใช้ยาเสพติด และ 5) มาตรการการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ เช่น การควบคุมและใช้ประโยชน์จากพืชเสพติด การทำให้ยาเสพติดเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เพชรบูรณ์ - รองผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ เปิดโครงการแก้ไขปัญหาผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติด!!

ที่ วัดโฆษา บ้านท่าช้าง ตำบลห้วยไร่  อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบหมายให้ นายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการแก้ไขปัญหาผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด ในรูปแบบค่ายศูนย์ขวัญแผ่นดินจังหวัดเพชรบูรณ์ (สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบูรณ์ สาขาหล่มสัก) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมี นายชาครินทร์ อินอิ่มวรปราชญ์ นายอำเภอหล่มสัก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีเปิดการอบรมฯ

นายวสันต์ เภรีวิค ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบูรณ์ สาขาหล่มสัก เป็นผู้กล่าวรายงานว่า  ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่องค์กรทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้ปัญหายาเสพติดลดน้อยลง ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและความเดือดร้อนในสังคมของประชาชนโดยรวม ต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบเพื่อลดจำนวนผู้ค้า ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ในพื้นที่แพร่ระบาด

 

นรข.มุกดาหาร จับ! ‘ขบวนค้ายาเสพติดชาวลาว’ พร้อมกัญชา 396 กก.

สถานีเรือมุกดาหาร พล.ร.ต.สมบัติ จุถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) พ.อ.วรพรต แก้ววิจิตร รอง ผอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร และ พ.อ.ปราโมทย์ เนียมสำเภา รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 (รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 1) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี แถลงข่าว นรข.ร่วมกับกองกำลังป้องกันชายแดนจังหวัดมุกดาหารจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศและตรวจยึดกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 396 กก.

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 มกราคม นาวาโทเฉลิมศักดิ์ ไชยจิตต์ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร ได้รับรายงานแหล่งข่าวว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากฝั่ง สปป.ลาว ข้ามมาส่งที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านหว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หมวดทำลายใต้น้ำจู่โจม บก.นรข. ร่วมกับสถานีเรือมุกดาหาร และกองกำลังป้องกันชายแดนจังหวัดมุกดาหาร เข้าตรวจบริเวณที่ได้รับแจ้ง พบเรือหางยาวแล่นเข้ามาจอดที่บริเวณริมตลิ่งจากนั้นได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 8 คนได้ช่วยกันยกห่อพลาสติกสีดำขนาดใหญ่จากเรือขึ้นมาไว้บนฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบปรากฏว่าเมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้พาวิ่งกลับขึ้นไปบนเรือหางยาวแล้วแล่นกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาว

นครพนม - เดินหน้าจัดระเบียบสังคมในสถานบริการ - ระดมกำลังปราบยาเสพติด จับยาบ้ากว่าสี่แสนเม็ด!!

ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พลเรือตรี สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง พันเอก ปราโมทย์ เนียมสำเภา รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พลตำรวจตรีธนชาติ รอดคลองตัน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายพรต ภูภักดิ์ ปลัดจังหวัดนครพนม และคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่

ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานตามยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขงที่ได้มีการบูรณางานทุกภาคส่วน ร่วมกันระดมกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ให้หมดไป ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดนครพนม (ศอ.ปส.จ.นพ.) ประจำปีงบประมาณ 2565 ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีการดำเนินการจับกุม ตรวจยึด สกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ รวมยาบ้าจำนวน 440,054 เม็ด กัญชา 200 กิโลกรัม และไอซ์ประมาณ 100 กรัม นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหา 3 ราย รถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน เรือกีบ 1 ลำ

โดยฝ่ายปกครองจังหวัดนครพนมได้มีการลงพื้นที่จัดระเบียบสังคมในสถานบริการ หอพัก โรงแรม รีสอร์ท ร้านค้า คาราโอเกะ และพื้นที่สาธารณะ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้จำนวน 2 คดี ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ยาบ้า จำนวน 54 เม็ด ในพื้นที่อำเภอนาทมและอำเภอศรีสงคราม รวมทั้งมีการกวดขันเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเป็นการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่สำนักงานตั้งอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดนครพนม จำนวน 760 คน ไม่พบผู้มีสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด

ขณะที่ด้านการสกัดกั้น จับกุม ตรวจยึดยาเสพติดตามแนวชายแดนหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้มีการบูรณาการข้อมูลข่าวสารจนทำให้ทราบว่าในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ขบวนการค้ายาเสพติดจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ในลักษณะกระจายจุดขึ้นพร้อมกันตามแนวชายแดน ดังนั้นจึงได้บูรณาการวางกำลังตามจุดต่าง ๆ เพื่อปฏิบัติการเฝ้าระวังป้องกัน ซึ่งหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงสามารถตรวจยึดของกลางเป็นกัญชาได้ จำนวน 200 แท่ง/กิโลกรัม ที่บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำโขงบ้านเชียงยืน ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน

ขณะที่กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดยกองบังคับการควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2109 สามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายไทยได้ 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 220,000 เม็ด ยาไอซ์ประมาณ 100 กรัม รถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน เรือกีบ 1 ลำ ที่บริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านแก้งส้มโฮง หมู่ 1 ตำบลพระทาย อำเภอท่าอุเทน ส่วนกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 สามารถตรวจยึดของกลางยาบ้าได้จำนวน 220,000 เม็ด ที่บริเวณทุ่งนาบ้านแพงใต้ หมู่ที่ 11 ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง

 

นครพนม - ปฏิบัติการฟ้าสางที่ฝั่งโขง!! ลุยจับผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ‘ยาเสพติด - อาวุธปืน’

ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และผู้ทรงคุณวุฒิป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พลเรือตรี สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พันเอก ปราโมทย์ เนียมสำเภา รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พลตำรวจตรีธนชาติ รอดคลองตัน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายพรต ภูภักดิ์ ปลัดจังหวัดนครพนม และคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานตามยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ที่ร่วมกันระดมกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่แบบต่อเนื่อง

โดยภายหลังการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ตรวจยึดยาบ้าได้ 440,054 เม็ด กัญชา 200 กิโลกรัม ไอซ์ประมาณ 100 กรัม รถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน และเรือกีบ 1 ลำ ปรากฏว่าในช่วงเย็นเวลา 19.30 น. หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงได้รับการประสานงานข่าว ว่าจะมีกลุ่มขบวนการเคลื่อนไหว โดยให้เน้นตรวจสอบรถกระบะสีขาวติดลูกกรงและมีผ้าใบสีดำคุมอยู่ด้านหลัง เจ้าหน้าที่จึงได้มีการบูรณาการวางจุดสกัดและเฝ้าระวังกระทั่งเวลา 21.00 น. ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒฐ 6484 กทม.บริเวณสามแยกบ้านต้อง จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าตรวจค้น แต่บุคคลที่อยู่ในรถได้พยายามขัดขืนขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งเครื่องติดตาม เมื่อเห็นว่าจวนตัวบุคคลต้องสงสัยได้จอดรถทิ้งไว้ริมทางแล้ววิ่งหลบหนีหายไปในความมืดบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2104 บ้านดอนพัฒนา ตำบลพิมาน อำเภอนาแก เจ้าหน้าที่พยายามค้นหาแต่ไม่พบบุคคลต้องสงสัยจึงย้อนกลับมาตรวจสอบรถคันดังกล่าวปรากฏว่าบนรถมีของกลางเป็นกัญชา 25 กระสอบ รวมน้ำหนัก 1,056 กิโลกรัม

ขณะเดียวกันฝ่ายปกครองจังหวัดนครพนมร่วมกับกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดยกองบังคับการควบคุมที่ 1 ฝ่ายความมั่นคงอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อส. ก็ได้มีการลงพื้นที่ออกลาดตระเวน ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย และจัดระเบียบสังคมตามสถานที่ต่าง ๆ จนนำไปสู่การจับกุมและตรวจยึดใน 3 พื้นที่ ประกอบไปด้วย พื้นที่อำเภอท่าอุเทน ซึ่งเป็นการออกลาดตระเวนแล้วตรวจพบ รถจักรยานยนต์ที่คนขับมีท่าทางน่าสงสัยเมื่อเจอเจ้าหน้าที่ประกอบกับท้ายรถจักรยานยนต์มีกระสอบบรรทุกวัตถุบางอย่างไว้ ที่บริเวณสามแยกบ้านท่าดอกแก้ว ตำบลท่าจำปา จึงพยายามเรียกให้จอดเพื่อสอบถาม แต่คนขับได้พยายามเร่งเครื่องหลบหนี เมื่อจวนตัวก็ได้โยนวัตถุใส่หน้ารถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่กำลังขับติดตามทำให้รถเสียหลักและผู้ต้องสงสัยได้อาศัยจังหวะดังกล่าวหลบหนีไปได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัตถุปรากฏว่าเป็นยาบ้าจำนวน 72,000 เม็ด และฝิ่น 1,026 กรัม

ตร.มุกดาหาร โชว์ฝีมือ!! จับแก๊งค้ากัญชาข้ามชาติได้ครบเซ็ต (ผู้ต้องหา-รถขน-รถนำ-กัญชา)

กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พล.ต.ต.ชัชชัย วงศ์สุนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร และ พ.ต.อ.สงกรานต์สันหกรณ์ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร  แถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดได้ผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางรถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน และกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 537 แท่ง

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร  ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติลักลอบลำเลียงกัญชาแห้งอัดแท่งใส่รถยนต์จากบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.หว้านใหญ่ เข้ามาในพื้นที่ อ.เมืองมุกดาหาร จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเดินทางเข้าไปบริเวณพื้นที่ถนนสายบ้านคำฮี-บ้านนาโสกน้อย ต.โพนทราย อ.เมืองมุกดาหาร ตามที่ได้รับแจ้งพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีดำ ทะเบียน กจ 5310  มุกดาหาร วิ่งนำหน้ารถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทา ทะเบียน 3 ฒจ 5385 กรุงเทพมหานคร ตรงตามที่ได้รับแจ้งจึงได้จัดชุดไล่ติดตามหยุดรถทั้ง 2 คันดังกล่าว และแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นรถยนต์กระบะด้านในแคปหลังเบาะคนขับพบกระสอบถุงดำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่จำนวน 4 กระสอบและด้านหลังกระบะมีผ้าใบปิดคลุมไว้เมื่อเปิดออกพบกระสอบถุงดำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่อีกจำนวน 8 กระสอบ รวมเป็น 12 กระสอบ

จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาร่วมทำการตรวจสอบพบว่าภายในกระสอบถุงดำเป็นกัญชาแห้งอัดแท่งรวม 537 แท่ง/กิโลกรัม จึงได้ควบคุมตัว น.ส.ไพวรรณ หรือก้อย คำมุงคุณ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 2 ต.ชะโนดน้อย อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะ และนายสหพันธ์ หรือหยอง อุระ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 5 ต.โพนทราย อ.เมืองมุกดาหาร คนขับรถยนต์เก๋งนำทาง

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top