Sunday, 28 April 2024
ประยุทธ์

'ประธาน PIF แห่งซาอุฯ' เข้าเยี่ยมคารวะ 'นายกฯ' หารือความร่วมมือการค้า-การลงทุน-พลังงาน

วันที่ 15 พ.ค. 65 เมื่อเวลา 06.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร (บน.6) นายยาเซอร์ บิน อุสมาน อัล-รูมัยยาน (Yasir bin Othman Al-Rumayyan) ประธานกรรมการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund: PIF) ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือว่า นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกันในวันนี้ ยินดีด้วยกับกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย PIF ได้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าอันดับหนึ่งของโลก ขณะนี้ไทยกำลังยกเลิกมาตรการเข้าประเทศซึ่งเป็นไปตามพัฒนาการด้านการจัดการโควิด-19 ทั้งนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกความร่วมมือระหว่างไทยซาอุได้ดีขึ้น โดยที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปด้วยดีแล้ว ไทยยินดีที่จะพัฒนาความร่วมมือ และความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

'โฆษกรบ.' ฉะ!! 'เสรีพิศุทธ์' ไม่รู้จริงอย่าพูด ยัน!! นายกฯ ไม่เคยพูดคนจนจะหมดประเทศ

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวพาดพิงนายกรัฐมนตรีว่า พูดในสิ่งที่ทำไม่ได้ หลังเคยบอก 4 เดือนคนจนจะหมดประเทศว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่เคยพูดว่าอีก 4 เดือนคนจนจะหมดประเทศ สามารถไปย้อนดูได้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปเอาที่ไหนมาพูด การที่ท่านชอบย้ำนักหนาว่าตัวเองเป็นถึงอดีต ผบ.ตร. แต่กลับอ่านข่าวแบบลวก ๆ แล้วเอามาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นนั้น มีแต่จะทำให้ท่านเองถูกคนอื่นมองว่าไม่สมราคาคุย ท่านควรจะตรวจสอบให้ดีก่อนว่า ในข้อเท็จจริงแล้วท่านนายกฯ ได้พูดแบบนั้นจริงหรือไม่ ไม่ใช่รีบออกมาตีกิน เพื่อหวังเรียกความนิยมให้ตัวเองแบบนี้

‘ไพศาล’ เย้ยไอโอลุง เคลมผลงานพลาด ซื้อทองคำเข้าทุนสำรอง ไม่เกี่ยวกับลุง

(14 มิ.ย.2565) นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า…

io เชียร์ลุงปล่อยไก่ตัวใหญ่ อีกแล้ว

ไอโอเชียร์ลุง สร้างกระแสเชียร์กันยกใหญ่ว่า ‘ธนาคารกลาง’ ได้ซื้อทองคำเข้าคลังเป็นจำนวนมากเป็นผลงานของพลเอกประยุทธ์

ก็ฮากันทั้งเมืองสิครับ

เพราะว่าธนาคารกลาง หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น เป็นอิสระจากรัฐบาล ไม่ได้รับนโยบายหรือคำสั่งจากรัฐบาล

'ทักษิณ' ฟาด 'บิ๊กตู่' จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC เพื่อ? ชี้ ปท.ไทยยังไม่พร้อม ส่วน 'ดอน' ก็หมดไฟ - ไม่ฉลาด

'ทักษิณ' ฟาดแหลก 'ประยุทธ์' จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC เพื่ออะไร อย่าเป็นเลย ความไม่พร้อมของประเทศไทยสูงมาก 'ดอน'คงหมดไฟแล้ว เครื่องบินพม่ารุกล้ำเข้าไทย เรายังไม่เห็นคำขอโทษจากพม่าเลย ไทยแก้ตัวให้หมด ชี้ต้องเรียกทูตมาประท้วง

(6 ก.ค. 2565) เฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดของ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ในรายการ CareTalk x Care ClubHouse หัวข้อ "ผู้นำต้องทำงาน ไม่ใช่ผลาญแต่ภาษี" เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ตอนหนึ่งว่า

“...ประยุทธ์จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC เพื่ออะไร เพราะความไม่พร้อมของประเทศไทยสูงมาก...”

กรณีที่คุณดอน (รมว.ต่างประเทศ) ขอโทษแทนพม่า ต้องยอมรับว่าคุณดอนคงหมดไฟแล้ว เพราะขนาดไปประชุมระดับโลกยังใช้ที่ปรึกษาไปแทนเลย พอการต่างประเทศของไทยเป็นแบบนี้ เอาจริง ๆ ผมมองไม่ออกเลยว่า ท่านประยุทธ์จะอยู่เป็นเจ้าภาพ APEC ไปเพื่ออะไร หรือแค่อยากจะแข่งกับผม เห็นผมเป็นเลยอยากเป็นบ้าง ผมไม่เคยคิดแข่งกับใคร

แต่ว่านะ ท่านอย่าเป็นเลย ความไม่พร้อมของประเทศไทยสูงมากสำหรับการประชุม APEC เพราะมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างประเทศสูงมาก และรัฐมนตรีการต่างประเทศต้องฉลาด ต้องคล่องตัวและมีความสัมพันธ์กับหลายประเทศ เราจะรับมือยังไง วันนี้การต่างประเทศไทยไม่แข็งแรง พาณิชย์กับคลังก็ไม่แข็งแรง นายกฯนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้า 2-3 ขานี้ไม่แข็งแรง นายกฯก็จะยิ่งเปลี้ยใหญ่

อดีตบิ๊กศรภ. ชี้!! ถ้ายังมี 'โทนี่' ก็ต้องมี 'นายกตู่' ต่อไป เพื่อไทยไม่มีทางได้แลนด์สไลด์ เพราะ 'อุ๊งอิ๊ง' แน่นอน

10 ก.ค. 65 -​ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตราบใดยังมี 'โทนี่' ตราบนั้น 'ตู่' ก็ยังเป็นนายกฯ ต่อไป

ภาพการเมืองไทยในปัจจุบัน มองดูแล้วก็ขาดความตื่นเต้นเร้าใจครับ ทุกอย่างแทบไม่มีทางเป็นไปแบบที่สื่อมวลชนส่วนหนึ่งเห็นว่าจะมีเหตุรุนแรงถึงขั้น นายกต้องหลุดจากตำแหน่ง และยังมองข้ามไปอีกว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ขึ้นจาก 'อุ๊งอิ๊ง' อีกด้วย

การอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ลุงตู่ลอยลำ แม้คะแนนจะไม่มาที่ 1 แพ้ลุงป้อม หรือคุณอนุทิน นิดหน่อยก็เป็นเรื่องตามปกติ ของพวกมีเส้นสาย และจะมี รมต.บางคน ที่คะแนนตกต่ำลง ไปบ้างก็ไม่เป็นไร สบายๆ ครับ

เลขา ครป. ซัด!! 3 แกน 'นายกตู่' ต้นเหตุของปัญหาในไทย เกิดความเหลื่อมล้ำ ยากจน เพราะบริหารแบบทุนนิยมเผด็จการ

เลขา ครป. ชี้ 3 แกนของนายกฯ เป็นต้นเหตุความเหลื่อมล้ำและความยากจนของคนไทยทั้งประเทศ เพราะบริหารแบบทุนนิยมเผด็จการ หยุดสร้างหนี้และหลอกขายฝันประชาชน

10 ก.ค. 65 – นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เสนอ 3 แกนแก้ปัญหาความยากจนในประเทศไทยว่า ตนเองเห็นว่าความคิดของประยุทธ์ เพ้อเจ้อ หลอกขายฝันประชาชนไปวันๆ ทั้งๆ ที่ 8 ปีที่ผ่านมา ประยุทธ์ เป็นแก่นแกนแห่งความยากจนของคนไทยทั้งประเทศ ถามว่าวันนี้นายกฯ ไปกู้เงินมากี่ล้านล้านบาทแล้ว ทำไมประชาชนไทยยังจน

นายเมธา กล่าวต่อว่า นโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาทำให้ช่องว่างการกระจายรายได้ระหว่างคนจน-คนรวยแย่ที่สุดในโลก 3 แกนการพัฒนาของนโยบายประชารัฐ โดยให้เอกสิทธิ์กลุ่มทุนพวกพ้องเข้ามาช่วยทำ นำไปสู่ประชาชนไทยเป็นหนี้ และยากจนลง จึงต้องมีโครงการแจกเงินคนจนหมุนเวียนรายเดือน เพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียนจากบนลงล่าง และจากล่างขึ้นบนไปสู่กระเป๋าเจ้าสัวในที่สุด ทำให้คนจนจนลง เกิดการกระจุกตัวของความร่ำรวยเฉพาะบางกลุ่ม

นายเมธา ระบุว่า ข้อเสนอของประยุทธ์ แกนที่ 1 คือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ให้สัมปทานเฉพาะเจ้าสัวกลุ่มทุนผูกขาดที่อิงแอบกับรัฐบาล ยึดทรัพยากรของรัฐ ไฟฟ้า พลังงาน ไปให้สัมปทานเอกชน บางโครงการให้งบรัฐไปอุดหนุน กำไรเอกชนเอาไป ยกตัวอย่างแอร์พอร์ตลิ้งค์ที่รัฐลงทุนหลายหมื่นล้านก็จะยกให้เอกชนไป การที่รัฐเป็นเจ้าของ 100% แล้วจ้างเอกชนบริหารจัดการไม่เหมือนกับยกให้เอกชนร่วมเป็นเจ้าของทรัพย์สินแล้วบริหารเอากำไร จริงๆ แล้ว ปตท.กระทรวงการคลังควรถือหุ้น 100% แทนคนไทยทั้งชาติแล้วจ้างบริษัทมหาชนบริหารจัดการได้

"แต่รัฐพยายามยกเอกสิทธิ์ทุกอย่างให้กลุ่มทุนผูกขาดผลประโยชน์แทนคนไทย โดยอ้างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จะมีประโยชน์อะไรถ้าโครงสร้างตึกรามใหญ่โตนั้นรัฐไม่ได้เป็นเจ้าของแล้วประชาชนต้องจ่ายราคาแพง ทั้งค่าน้ำมันราคาแพง ค่ารถไฟฟ้าขึ้นราคา ค่าทางด่วนไม่รู้กี่ทอด ทั้งยังค่าไฟขึ้นราคาอีก ผูกขาดไปทุกระบบ ผลประโยชน์ตกกับกลุ่มทุน รัฐเป็นหนี้มหาศาลและมากที่สุดในประวัติศาสตร์” นายเมธา ระบุ

รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ เข้าเยี่ยมคารวะ 'นายกฯ ไทย' พร้อมหารือ ด้านเศรษฐกิจ - สิ่งแวดล้อม - ป้องกันการค้ามนุษย์

นายกฯ หารือ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน เดินหน้าความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ป้องกันการค้ามนุษย์ ทั้งในกรอบทวิภาคี และพหุภาคี

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 กรกฎาคม 2565 ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายแอนโทนี บลิงเกน (H.E. Mr. Antony J. Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับ พร้อมได้กล่าวฝากความระลึกถึงประธานาธิบดีไบเดน พร้อมขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในโอกาสการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับในช่วงการประชุมระดับผู้นำเอเปกที่กรุงเทพฯ ปลายปีนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ มีพลวัตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นมิตรประเทศที่มีความใกล้ชิด โดยในปีหน้า จะร่วมฉลองครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐฯ และยินดีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย-สหรัฐฯ ได้ร่วมลงนามแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการดำเนินการตามเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาพบในวันนี้ แถลงการณ์ที่ได้ลงนามไปในวันนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นพันธมิตรสำคัญ และแสดงให้เห็นถึงความแน่นแฟ้นในความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะเป็นบรรทัดฐานของความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ไปอีก 190 ปีข้างหน้า พร้อมย้ำถึงสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์กับไทย ชื่นชมบทบาทของนายกรัฐมนตรีและไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปก และเมื่อสหรัฐฯ รับไม้ต่อการเป็นเจ้าภาพในปีถัดไป ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

'อนุสรณ์' ชี้ 8 ปี 'ประยุทธ์' ยังทำพังขนาดนี้ ขออีก 2 ปี ใครจะไปเชื่อ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการณ์กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต ทำประเทศเดินหน้าใน 2 ปี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มา 8 ปี ผ่านงบฯ ไป 12 ครั้ง ใช้เงินไป  28.5 ล้านล้านบาท แต่เศรษฐกิจทรุด ทุจริตฟู กู้เก่ง แต่บริหารไม่เป็น ทำประเทศล้มเหลวแทบทุกด้าน อย่าว่าแต่ขอเวลาอีก 2 ปีเลย 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ พังแทบทุกมิติ อยู่ในสภาพประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม พอจวนตัวเห็นสัญญาณจะไม่ได้ไปต่อ เผชิญวิกฤตศรัทธา ก็ออกมาสร้างเรื่องให้ความหวังเรื่องใหม่กลบเรื่องเก่าที่ทำไม่สำเร็จไปเรื่อยๆ 

เฉพาะเรื่องคนจนจะหมดประเทศ 8 ปี พูดมากี่ครั้ง ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ ประชาชนที่ไหนจะไปเชื่อ วาระสุดท้ายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เหมือนคนกำลังจะจมน้ำ อะไรผ่านมาก็คว้าไว้หมด ขนาดยอมเสียทรงจนถูกตั้งคำถามว่า ไปแทรกแซงเปลี่ยนสูตรคำนวณ ส.ส.จากหาร 100 เป็นหาร 500 เพื่อประโยชน์ในการสืบทอดอำนาจของตัวเองหรือไม่

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พท. เชื่อ!! 'ประยุทธ์' หวังอยู่ยาว ซัด!! 'ส.ว. - พรรคร่วม' โอบอุ้มค้ำอำนาจ ไม่เห็นหัวปชช.

'วิสาระดี' เชื่อ 'ประยุทธ์' หวังกุมอำนาจยึดประเทศยาวเกิน 10 ปี อัด ส.ว. และพรรคร่วมรัฐบาลลดตัวเป็นนั่งร้าน ค้ำอำนาจ ไม่เห็นหัวประชาชน 

นางสาว วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ยึดอำนาจจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และก้าวขึ้นบริหารประเทศในตำแหน่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. จนถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนถึงปัจจุบัน ยังคงใช้อำนาจตามอำเภอใจ และบริหารประเทศแบบไร้ทิศทางและไร้ประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิง

การบริหารที่ผ่านมา รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนใกล้ชิด มองที่ผลประโยชน์กลุ่มนายทุนใกล้ชิดมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน ไม่เคยเห็นหัวประชาชน โดยเฉพาะภาคเกษตรกร โดนนายทุนอัดเอาเปรียบกดราคารับซื้อสินค้าทุกชนิด อาทิ ข้าวเปลือกราคาตก แต่ข้าวสารแพง ราคาหมู ไก่ ปรับราคาขึ้นทุกวัน แต่หน้าฟาร์มราคากลับไม่ขยับ พลเอกประยุทธ์ในฐานะ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ควรที่จะศึกษาเพื่อหาต้นทุนที่แท้จริง ทั้งนี้ราคาซื้อกับราคาขายที่ห่างกันมาก ประโยชน์ตกกับนายทุนใกล้ชิดรัฐบาล

นายกฯ ปลื้มไทยได้โควตาส่งแรงงานไปอิสราเอลเพิ่ม ผลจากการรับมือโควิด – ทักษะแรงงานไทย

นายกฯ ปลื้มไทยได้โควต้าส่งแรงงานไปรัฐอิสราเอลเพิ่มขึ้น ผลจากชื่อเสียงการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาล - ทักษะและความรับผิดชอบของแรงงานไทย สร้างความต้องการจ้างงานสูงขึ้น

(15 ก.ค 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีต่อความก้าวหน้าในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในภาคเกษตรของรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย - อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน (Thailand – Israel Cooperation on the Placement of Workers: TIC) ซึ่งในปี 2565 ไทยได้จัดส่งแรงงานแล้วทั้งสิ้น 3,759 คน โดยนายกรัฐมนตรีให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและอำนวยความสะดวก พร้อมหาแนวทางขยายตลาด เสริมสร้างทักษะที่จำเป็นและเป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสให้แรงงานไทยในตลาดโลก

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2565 ประเทศไทยได้รับโควต้าจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในภาคเกษตรของรัฐอิสราเอล จำนวน 6,800 คน เพิ่มขึ้น 1,800 คน จากปีงบประมาณ 2564 ที่ได้โควตาทั้งหมด 5,000 คน ทั้งนี้ เนื่องจากชื่อเสียงไทยมีมาตรการบริหารจัดการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่ดี รวมถึงแรงงานไทยมีทักษะและความรับผิดชอบ เป็นที่ต้องการของนายจ้างในรัฐอิสราเอล ทำให้มีความต้องการจ้างงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ แรงงานไทยจะได้รับการอบรมคนหางานก่อนการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ และจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำก่อนหักภาษีเดือนละ 5,300 เชคเกล หรือประมาณ 54,852 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) ซึ่งหากทำงานจนครบสัญญาจ้างงานสูงสุด 5 ปี 3 เดือน จะมีรายได้มากกว่า 3 ล้านบาทต่อคน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top