Sunday, 18 May 2025
น้ำท่วม

‘ทูตนริศโรจน์’ เคลียร์ปมสงสัยทุกประเด็น กรณี ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ ช้างไทยที่เคยอยู่ในศรีลังกา

(24 ต.ค. 67) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย  โพสต์เฟซบุ๊ก   Fuangrabil Narisroj  ระบุข้อความว่า

มีเพื่อนบางคนถามเรื่องพลายศักดิ์สุรินทร์ที่คุณหนูนาได้นำกลับมารักษาที่เมืองไทยว่าแตกต่างจาก กลุ่มขบวนการทวงช้างคืนจากศรีลังกาอย่างไร

ผมขออธิบายสรุปคร่าวๆ ดังนี้

1.ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ช้างที่ไทยเราเคยมอบให้ศรีลังกา เป็นไปตามความตกลงระหว่างประเทศ เป็นการมอบให้แบบ G2G ช้างที่มอบให้ศรีลังกาไปแล้ว ศรีลังกามีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์

2.กรณีพลายศักดิ์สุรินทร์ เนื่องจากควาญที่ดูแลพลายศักดิ์สุรินทร์มาตั้งแต่แรกเสียชีวิต และพลายศักดิ์สุรินทร์ป่วยไม่สบาย ทางไทย (โดยคุณหนูนาและคุณท๊อป) ก็ได้ขออนุญาตต่อทางการศรีลังกา ขอรับพลายศักดิ์สุรินทร์มาทำการรักษาพยาบาลที่ไทย 

3.สถานที่รักษาพยาบาลก็คือ สถาบันคชบาล ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งก็เป็นไปตามความตกลงระหว่างประเทศ ที่หากมีการรับส่งช้างก็ต้องดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐเป็นผู้รับ (แบบ G2G) ไม่ใช่ส่งคืนให้ “มูลนิธิ” ของเอกชน ! 

4.การดำเนินการขอรับพลายศักดิ์สุรินทร์มารักษาที่ไทย ไม่ใช่การทวงคืนช้างจากศรีลังกา ซึ่งกรณีนี้ทางการศรีลังกาก็ยังแสดงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อรักษาเสร็จแล้ว ขอรับพลายศักดิ์สุรินทร์กลับคืนศรีลังกาต่อไป

5.ในหลวง ร.10 เมื่อทรงทราบเรื่องก็ได้พระราชทานความช่วยเหลือรับพลายศักดิ์สุรินทร์ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และตรงนี้เองที่เราได้ใช้อ้างกับทางศรีลังกาในการรักษาพยาบาลพลายศักดิ์สุรินทร์ไปเรื่อยๆโดยไม่มีกำหนด

6.ส่วนกรณีที่เกิดกลุ่มขบวนการทวงช้างคืนจากศรีลังกานั้น เมื่อเห็นการนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมาไทยได้ ก็เลยต้องการเลียนแบบ เปิดประเด็นว่าพลายประตูผา กับ พลายศรีณรงค์ ได้รับการปฏิบัติไม่ดี มีการทรมานใช้ออกงาน เลยไปทำแคมเปญทวงคืนช้างไทย โดยมีมูลนิธิหนึ่งเป็นตัวตั้งตัวตี มีนักการเมืองพรรคนึงสนับสนุน นัยว่าจะทวงคืนช้างมาไว้ที่มูลนิธิ 

7.มีการปั่นข้อมูลบิดเบือน จับแพะชนแกะ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการทวงคืนช้าง โดยไม่สนใจว่าจะกระทบต่อมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จนเกิดกรณีลุกลามมีชาวศรีลังกาบางส่วนไม่พอใจต่อกลุ่มขบวนการทวงช้างคืน จนกลายเป็นวิวาทะระหว่างประเทศ ชาวศรีลังกาบางส่วนออกมาแอนตี้ต่อต้าน

8.ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยเช่น สถานทูตไทยที่ศรีลังกาก็ได้พยายามอธิบายเหตุผลและขั้นตอนต่างๆต่อกลุ่มขบวนการทวงคืนช้างตามนัยของข้อ 1-4 ข้างต้นแล้ว แต่ทางกลุ่มก็ไม่ยอมรับฟัง และไม่หยุดดำเนินการ

9.ทางสถานทูตไทยได้ร่วมกับสัตวแพทย์ทั้งไทยและศรีลังกาไปตรวจสุขภาพพลายประตูผา และพลายศรีณรงค์ก็พบว่าตัวนึงสุขภาพเกินกว่ามาตรฐาน และอีกตัวนึงมีปัญหาสุขภาพบ้างตามอายุขัย แต่อยู่ในการควบคุมดูแลได้ และพลายทั้งสองเชือกยังมีควาญที่เลี้ยงมาแต่แรกดูแลอยู่

10.สรุปอีกที กรณีพลายศักดิ์สุรินทร์ ไม่ใช่การทวงช้างคืน แต่เป็นการขอรับพลายศักดิ์สุรินทร์มารักษาที่ไทย ซึ่งได้รับการอนุมัติจากทางการศรีลังกาให้ดำเนินการได้ ส่วนกรณีของกลุ่มขบวนการทวงช้างคืนนั้น เป็นการอ้างว่าขอเอาช้างที่มอบให้ศรีลังกาไปแล้วกลับคืนเพื่อเอามาไว้ที่มูลนิธิของเอกชน แต่ทางการศรีลังกาไม่อนุมัติ

‘เอกนัฏ’ บุกอยุธยา ลงพื้นที่ 2 สถานที่ลักลอบทิ้งกากสารพิษ ขึงแผนแก้ปัญหาระยะยาว มั่นใจ!! เขตอุตสาหกรรมน้ำไม่ท่วม

(25 ต.ค. 67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่เพื่อป้องกันผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและประเทศ โดยมีนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วม

“การลงพื้นที่วันนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ทางนิคมฯ เขตประกอบการฯ สวนอุตสาหกรรม และโรงงานต่าง ๆ มีการเตรียมความพร้อมที่ดีและเพียงพอต่อการรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยที่มีแนวโน้มว่าจะค่อนข้างรุนแรงกว่าปีก่อน แม้ว่าขณะนี้พื้นที่โดยรอบของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยบ้างแล้ว แต่พื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ยังไม่ได้รับผลกระทบ 

ขอให้เชื่อมั่นว่าเราได้เตรียมการรับมืออย่างเต็มกำลัง มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลากอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและประชาชน ด้วย 8 มาตรการหลัก ได้แก่ 

1.จัดการระบบระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ 2.เสริมคันกั้นน้ำ 3.ระบบสูบน้ำพร้อมใช้ 4.อุปกรณ์ครบพร้อมช่วยเหลือ 5.ติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง 6.เฝ้าระวังประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง 7.ซ้อมแผนรับมือเป็นประจำ และ 8.สื่อสารแจ้งเตือนผ่านทุกช่องทาง“ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว

และช่วงบ่ายนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะ ได้ลงพื้นที่อำเภอภาชีและอำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมใน 2 พื้นที่ คือ 

1) โกดังเก็บของเสียและวัตถุอันตราย อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมประมาณ 4,000 ตัน ถูกเททิ้งอยู่โดยรอบอาคารโกดังเก็บของเสียอันตรายจำนวน 5 โกดัง และมีการลอบวางเพลิงเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ทำให้เกิดปัญหาการแพร่กระจายของมลพิษ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจัดทำคันดินป้องกันการรั่วซึมและการชะล้างสารเคมีในช่วงฤดูฝน และได้ว่าจ้างบริษัทผู้รับกำจัดเข้าทำการบำบัดกำจัดกากของเสียและสารอันตรายในระยะเร่งด่วน ด้วยงบประมาณ 6.9 ล้านบาท โดยได้เริ่มเข้าดำเนินการตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2567 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในเบื้องต้น 

2) บริษัท เอกอุทัย จำกัด อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบการเททิ้งของเสียบริเวณหน้าพื้นที่โรงงาน มีร่องรอยการเททิ้งของเหลวที่เป็นวัตถุอันตรายที่มีสภาพเป็นกรดเข้มข้นเต็มพื้นที่บริเวณโรงงาน ซึ่งปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมได้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน พร้อมดำเนินคดี และสั่งการให้บริษัทฯ นำกากของเสียและสารอันตรายไปกำจัดและบำบัดให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน จึงได้จัดทำคันดินป้องกันการรั่วซึมและการชะล้างสารเคมีในช่วงฤดูฝน และได้ว่าจ้างบริษัทผู้รับกำจัดเข้าทำการบำบัดกำจัดกากของเสียและสารอันตรายในระยะเร่งด่วน ด้วยงบประมาณ 4 ล้านบาท โดยได้เริ่มเข้าดำเนินการตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2567 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในเบื้องต้น

“กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ โดยการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว รัดกุม และครอบคลุมถึงการบรรเทาเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบตลอดจนการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันกำลังเร่งดำเนินการยกร่าง กฎหมายเพื่อการจัดการกากอุตสาหกรรม ขยะอิเล็กทรอนิกส์ และการจัดตั้งกองทุนเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะทำการตรวจสอบกำกับดูแล เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาลักลอบทิ้งกากของเสียจากภาคอุตสาหกรรมเชิงรุกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตรวจกำกับ สั่งการ เพิกถอนใบอนุญาต และขอยืนยันว่าจะมีการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดจนถึงที่สุด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปิดท้าย

สนง.คลองเตย ฉกโอกาสช่วงฝนตกหนัก เร่ง ประชาสัมพันธ์งานบริการประชาชน

(25 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อวานนี้ (24 ต.ค. 67) เป็นเหตุให้มีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ แต่อย่างไรก็ดีสำนักงานเขตคลองเตยกลับอาศัยโอกาสนี้ทำการประชาสัมพันธ์ได้อย่างน่าประทับใจ 

โดยประชาสัมพันธ์จุดที่น้ำท่วมขัง และจุดที่น้ำลดพร้อมระยะเวลา อีกทั้งยังมีการส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจอำนวยความสะดวกในจุดที่น้ำท่วมขัง ผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของทางสำนักงานเขต 

โดยในโพสต์ดังกล่าว มีประชาชนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น มีหลายซอยให้ชมเลยค่า มีน้ำท่วมขังไม่ถึง30นาทีเลยค่า, เยี่ยมค่ะ แถวบ้านช.ม.ที่แล้วน้ำเต็มซอย ตอนนี้ลดลงแล้วเหมือน ซ.22 เลย เป็นต้น 

‘บางปะหัน’ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส จากพื้นที่หน่วงน้ำสู่การท่องเที่ยว

(28 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘คนปากน้ำคุยอะไรกัน’ ได้เผยแพร่โพสต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ณ อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเกิดจากการเป็นพื้นที่รับน้ำของพื้นที่ จนสามารถเป็นแหล่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้ ความว่า

จุดเช็คอินใหม่!!
เที่ยวใกล้กรุง ทุ่งตาลเอน บางปะหัน พระนครศรีอยุธยา
พื้นที่ทุ่งรับน้ำเหนือ ให้ไหลมากรุงเทพฯ และปริมณฑลน้อยลง ชะลอน้ำไปได้มาก #พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ 
อยากให้มีคนไปเที่ยว ไปเช็คอิน ชมบรรยากาศ เล่นน้ำกันเยอะๆ ค่ะ 
ปล. ศึกษาเส้นทางก่อนไปเที่ยวกันด้วยนะ 

ทั่วโลกรับมือภัยพิบัติธรรมชาติถ้วนหน้า สเปนอ่วม!! ภาวะน้ำท่วมทำตาย 95

(31 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะนี้ทั่วโลกอยู่ระหว่างการเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดย THE STATES TIMES รวบรวมมานำเสนอ ดังนี้

>>>ประเทศญี่ปุ่น
สื่อในประเทศญี่ปุ่นอย่าง Asahi ได้รายงานว่า ‘ภูเขาไฟฟูจิ’ หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ไม่มีหิมะปกคลุมเมื่อเริ่มเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 130 ปีที่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น 

>>>ประเทศสเปน
สื่อดังประเทศเยอรมันอย่าง DW ได้รายงานว่า แคว้นบาเลนเซีย(Valencia) ประเทศสเปน ได้ประสบอุทกภัยอย่างหนัก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 92 ราย จากจำนวนผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม 95 รายในประเทศสเปน ล่าสุดทางสหภาพยุโรป(EU) ได้เสนอความช่วยเหลือแล้ว 

>>>ไต้หวัน
สำนักข่าว CNN รายงานว่า เกาะไต้หวันกำลังเผชิญหน้ากับพายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงระดับสูง โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย นอกจากนี้ทางรัฐบาลไต้หวันได้เตรียมความพร้อมกำลังพลถึง 36,000 นายเพื่อให้การช่วยเหลือและฟื้นฟูเกาะ

‘สเปน’ ระดมพลครั้งใหญ่!! หลายหมื่นนาย เพื่อกู้ภัยน้ำท่วมครั้งร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์

(3 พ.ย. 67) นายเปโดร ซานเชส นายกรัฐมนตรีสเปน แถลงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในพื้นที่แคว้บบาเลนเซีย โดยระบุว่า รัฐบาลส่งทหารจำนวน 5,000 นาย ไปสนธิกำลังกับตำรวจ และกองกำลังพลเรือน อีกจำนวน 5,000 นาย เพื่อเข้าไปช่วยเหลือด้านการกู้ภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยดังกล่าว ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่ทางการสเปนระดมกำลังพลครั้งใหม่ล่าสุด ทำให้ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม มีเจ้าหน้าที่ของทางการเข้าไปช่วยกู้ภัยมีจำนวนมากกว่า 17,000 นายแล้ว ซึ่งถือเป็นการระดมพลด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงที่ประเทศปลอดสงคราม

ขณะที่ จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมข้างต้น เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 214 รายแล้ว ซึ่งถือเป็นเหตุอุทกภัยที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในรอบ 57 ปีของภูมิภาคยุโรป หลังจากเมื่อปี 1967 (พ.ศ. 2510) เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ที่โปรตุเกส ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 500 รายด้วยกัน

'ตชด.ภาค 4' ระดมกำลังลงพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ ช่วยเหลือชาวบ้าน ขนของหนีน้ำท่วมโรงพยาบาล 

(27 พ.ย.67) พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ( รอง ผบช.ตชด. ) ในฐานะ โฆษก บช.ตชด. เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้น้ำท่วมภาคใต้ฝั่งตะวันออกหลายจังหวัด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) ได้สั่งการตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ทุกกองร้อยระดมกำลังออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงยาก มีน้ำท่วมสูง 

โฆษก บช.ตชด.กล่าวด้วยว่า บช.ตชด.ได้กำชับ ให้ ตชด. พร้อมนำยานพาหนะ เรือยาง เรือท้องแบน ช่วยอพยพประชาชาชนโดยเฉพาะผู้ป่วย คนชรา และเด็ก ออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมเข้าสนับสนุนช่วยเหลือในพื้นที่หน่วยราชการสำคัญ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นต้น รวมถึงให้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และเข้าช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กองร้อย ตชด.446 นำโดยพ.ต.ท.อเนชา ตาวัน ผบ.ร้อย ตชด.446 ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสำรวจระดับน้ำในพื้นที่ อำเภอ.แว้ง จว.นราธิวาส ช่วยขนสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง

ช่วงเช้าวันนี้ ( 27 พฤศจิกายน 2567 ) พ.ต.อ.มานิต นาโควงศ์ ผกก.ตชด.44 มอบหมายให้ พ.ต.ต.เศรษฐา แสงโพธิ์ดา สว.กก.ตชด.44 จัดกำลังพลช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.เมือง จว.ยะลา โดยเข้าอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และยกสิ่งของไว้ที่สูงให้กับประชาชนที่น้ำท่วมบ้านเรือน

ส่วนในพื้นที่ จว.สงขลา เช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.ภัคพล คุ้มวงศ์ ผบ.ร้อย ตชด.437 ร.ต.อ.ชวิศา บุญมี หน.ชป.ขล.ร้อย ตชด.437 ได้สั่งการให้ชุดจิตอาสาของ กองร้อย ตชด.437 เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านน้ำลัด ต.สำนักแต้ว อ.สะดา จว.สงขลา 

ด้าน พ.ต.ท.วีระเทพ หลางหวอด รอง ผบ.ฉก.ตชด.43 (1),ร.ต.อ.หญิง สุรัตน์ ฤทธิรัตน์  หน.ฝกร.ฉก.ตชด.43 นำกำลังพร้อมด้วยนางอุบล อุบลมณี ประธานโฆษกชาวบ้านจังหวัดสงขลาและชาวบ้านในพื้นที่เข้าช่วยเหลือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลฉาง อ.นาทวี จว.สงขลา ช่วยขนของขึ้นชั้น 2 เนื่องจากน้ำท่วมในบริเวณชั้น 1

และในพื้นที่ จว.สตูล พ.ต.ท.คำนึง อุ่นปลอด ผบ.ร้อย ตชด.436 มอบหมายให้ ร.ต.อ.อดิเทพ พัดลม ผบ.มว.ฯ/ หน.ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกำลังพล ออกแจ้งเตือนประชาชน และช่วยยกของขึ้นที่สูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

‘เอกนัฏ’ เร่งช่วย ‘น้ำท่วมใต้’ สั่งด่วน!! กระทรวงอุตฯ รีบส่ง!! ‘ถุงยังชีพ’ ให้ชาวบ้าน พร้อมมาตรการช่วยเหลือ

(30 พ.ย. 67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อม วัสดุ อุปกรณ์ บุคลากร และประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งดูแลอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยด่วน รัฐมนตรีฯ พร้อมลงไปช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ด้วยตัวเอง หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นในเร็ววัน นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม จะดำเนินมาตรการ ‘อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย’ โดยจัดตั้งศูนย์ประสานงานกระจายความช่วยเหลือที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 จังหวัดสงขลา เพื่อจัดส่งถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคไปบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา ได้ลงพื้นที่มอบของอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสงขลาแล้ว ได้แก่ ตำบลพังลา ตำบลคลองแงะ ตำบลพะตง จังหวัดสงขลา เพื่อแบ่งปันน้ำใจช่วยผู้ประสบน้ำท่วมภาคใต้

“ขอร่วมส่งกำลังใจให้กับพี่น้องชาวใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ ขอให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้และกลับมาดำเนินชีวิตในรูปแบบปกติได้โดยเร็ว กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมเดินเคียงข้างพี่น้องประชาชนให้ก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้” นายเอกนัฏ กล่าวทิ้งท้าย

‘รวมไทยสร้างชาติ’ ระดมทรัพยากรช่วยเหลือปชช. ที่ประสบภัยน้ำท่วม เผย!! พร้อมเคียงข้าง ให้กำลังใจ เพื่อผ่านพ้น วิกฤตอุทกภัย ในครั้งนี้

(30 พ.ย. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า 

จากสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง และได้กำชับให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมถึงอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อน้ำท่วม ซึ่งได้มีการปฏิบัติการในพื้นที่ เช่น

นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพัทลุง เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ลงพื้นที่มอบของใช้จำเป็นให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม

นายศาสตรา ศรีปาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ดำเนินการตั้งโรงครัวกลางเพื่อมอบอาหารและน้ำดื่มแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

รวมถึงนายวัชระ ยาวอหะซัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนราธิวาส เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ลงพื้นที่มอบสิ่งของจำเป็น พร้อมกับประสานหน่วยงานเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ทั้งนายพีระพันธุ์ และนายเอกนัฏ ยังได้กำชับหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมให้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง เช่น มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ สิ่งของถุงยังชีพ เป็นต้น

ทั้งนี้ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่เพื่อดำเนินการตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยงานแกนกลางที่บูรณาการทั้งหมดในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุกภัยอย่างเร่งด่วน

พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจ และพร้อมเคียงข้างประชาชนผู้ประสบอุทกภัยให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตที่ยากลำบากนี้ไปได้ในเร็ววัน นายอัครเดช กล่าวทิ้งท้าย

‘นิพนธ์’ จับมือ!! พันธมิตร เดินหน้าแจกอาหาร 5,000 กล่อง เล็ง!! เปิดครัวเพิ่มอีก 1 จุดในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา

(30 พ.ย. 67) ที่ วัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เริ่มแล้วเป็นวันที่สองกับโครงการ ‘เนชั่นปันน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม’ โดยมูลนิธิเนชั่น ร่วมกับ เครือข่ายช่วยเหลือประชาชนภาคใต้และภาคเอกชน ปักหมุดช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จัดตั้งโรงครัวอาสา ปรุงอาหารแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัย ณ โคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

โดยเมื่อเวลา 10.00 น. สามารถผลิตอาหารกล่องแจกจ่ายแล้วกว่า 2,500 กล่อง และช่วงเย็น จะผลิตอีก 2,500 กล่องให้ได้ตามเป้าวันละ 5,000 กล่อง โดยจะส่งถึงมือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่กระจายทั่วทุกพื้นที่  ซึ่งขณะนี้เราได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรที่ดีเช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ สนับสนุนเนื้อไก่สดรวม  1,300 กิโลกรัม และไข่ไก่รวม 15,000 ฟอง โดยมีคุณจอมกิตติ  ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส และผู้บริหารสูงสุด ด้านบริหารกิจการสัมพันธ์  เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เป็นผู้แทนส่งมอบ นอกจากนี้ยังมี บริษัทสยามอินเตอร์ฟู้ด จำกัด ,บริษัททีพีไอโพลีนจำกัด , บริษัทสมิหลาโคลสโตเรจ จำกัด 

ขณะเดียวกันนายนิพนธ์  บุญญามณี ตัวแทนพันธมิตร เปิดเผยว่า วันนี้เราได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรที่ดีเพิ่มขึ้นทั้งน้ำดื่ม และ บริจาคเป็นจำนวนเงินมา และในวันนี้ก็ได้รับเกียรติจาก คุณจอมกิตติ  ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส และผู้บริหารสูงสุด ด้านบริหารกิจการสัมพันธ์  เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มามอบไก่สดเพิ่มอีก 300 กิโลกรัม และไข่ไก่อีก 3,000 ฟองด้วยตัวเองและวันนี้เราจะเปิดครัวเพิ่มอีก 1 จุด ในอำเภอเมืองสงขลา หลังจากนั้นก็จะประเมินว่าแจกเป็นถุงยังชีพให้กับชุมชนด้านในที่ได้รับความเดือดร้อนแต่ออกมาไม่ได้ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) 

ทั้งนี้ โรงครัววัดโคกสมานคุณจะเปิดทำอาหารกล่องแจกจ่ายวันละ 2 มื้อในเวลา 10.00 น. และเวลา 17.00 น.และจะเปิดโรงครัวเพิ่มอีก 1 จุดในพื้นที่อ.เมืองสงขลาโดยจะเริ่มแจกเป็นมื้อแรกในเย็นวันนี้ (30 พ.ย. 67)  โดยจะดำเนินการไปจนกว่าสถานการณ์

สำหรับภาครัฐบาลยังไม่เห็นอะไรเป็นเรื่องเป็นราว บรรดาคณะรัฐมนตรี ยังคงปักหลักประชุม ครม.สัญจร ภาคเหนือเป็นวันที่ 2 แล้ว อนุทิน ชาญวีระกูล รมว.มหาดไทย กลับบอกว่า น้ำท่วมภาคใต้ ไม่น่าห่วงเท่าภาคเหนือ ภาคใต้กลไกรัฐยังรับมือได้ ทั้งนายอนุทิน และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ ลงไปสงขลา เพียงเพื่อไปร่วมงานวันเกิด สมยศ พลายด้วง แห่งพรรคประชาธิปัตย์ คนร่วมงานเป็นหมื่นคน แกงวัว แกงแพะ นับ 50 ตัว ตั้งโต๊ะ 1000 โต๊ะ มีดนตรี 3-4 วง รัฐมนตรีทั้งสองใช้เวลาเพียงน้อยนิดไปเยี่ยมชาวบ้าน ตามที่เดชดิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข วางกำหนดการให้ไปเยี่ยมชาวบ้านย่านควนเนียง ซึ่งน้ำท่วมน้อย จะนะ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี ท่วมหนัก แต่ไม่ได้ไปรีบกลับ บินต่อไปประชุม ครม.สัญจรที่เชียงใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top