Tuesday, 30 April 2024
ซาอุดีอาระเบีย

‘ซาอุฯ - ญี่ปุ่น’ เอาชนะอดีตแชมป์บอลโลก ผลสำเร็จจาก ‘ทีมเวิร์กสุดปัง - แรงบันดาลใจสุดเจ๋ง’

เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้ มีเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึงในวงกว้างอย่างมาก ทั้งในโลกออฟไลน์และโลกออนไลน์ นั่นก็คือ ‘ฟุตบอลโลก 2022’ ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพ โดยประเด็นที่ทำแฟนบอลทั่วโลกตกตะลึงก็คือ การที่ทีมชาติซาอุดีอาระเบียสามารถเอาชนะทีมชาติอาร์เจนตินา ทีมที่เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกหลายสมัย และมีสตาร์ดังอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ไปด้วยด้วยสกอร์ 2-1 อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

แต่ความตะลึกยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะถัดมาอีกวันทีมชาติญี่ปุ่น ก็สามารถเอาชนะทีมแนวหน้าของโลกอย่างเยอรมนีไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 เช่นกัน 

กลายเป็นว่าคอบอลทั่วโลก (อาจจะรวมถึงแฟนบอลในชาตินั้นๆ) ต้องตกตะลึงถึง 2 วันติดกัน เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าทีมชาติทั้ง 2 ประเทศจากทวีปเอเชีย ที่เคยเป็นเพียงทีมไม้ประดับของเทศกาลฟุตบอลโลก จะสามารถพลิกเกมกลับมาชนะทีมระดับชั้นนำและอยู่ในแนวหน้าของโลกลูกหนังไปได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมนักวิชาการ นักเคลื่อนไหวทางสังคม และอาจารย์ ได้แสดงความคิดเห็นไว้ในคลิปวิดีโอ ที่เผยแพร่ทางช่องยูทูบ ‘Suriyasai Channel’ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 65 ไว้อย่างน่าสนใจ สรุปได้ว่า…

นัดเปิดสนามระหว่างทีมเอกวาดอร์เจอกับทีมชาติกาตาร์ (เจ้าภาพ) จบที่ความปราชัยของเจ้าภาพที่สกอร์ 2-0 จากนั้นในนัดถัดมา ก็เป็นการดวลระหว่างทีมชาติอังกฤษกับทีมชาติอิหร่าน ซึ่งอิหร่านก็พ่ายแพ้ไป 6-2 

จากผลลัพธ์ของทีมเอเชียทั้งสอง ทำให้หลายคนกังวลใจว่าทีมชาติที่มาจากทวีปเอเชียดูจะไม่มีพัฒนาการที่จะไปสู้ทีมชาติจากทวีปอื่นๆ เทียบกับทวีปแอฟริกาแล้ว ยังผลักดันตนเองสามารถพัฒนาทีมมาเป็นคู่แข่งเทียบชั้นชาติแนวหน้าในละตินและยุโรปได้มากกว่า

จนกระทั่ง เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย. 65 ตามเวลาไทย ทีมชาติซาอุดีอาระเบียต้องฟาดแข้งกับทีมชาติอาร์เจนตินา ขณะที่ทีมชาติญี่ปุ่นฟาดแข้งกับเยอรมนีในวันที่ 23 พ.ย.65 ทั้ง 2 ทีมชาติจากเอเชีย สามารถเอาชนะมาได้ จึงเป็นการลบล้างคำสบประมาทต่างๆ นานาออกไปได้ทันที เพราะว่าทั้งซาอุฯ และญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่เก็บชัยชนะ แต่พวกเขาสามารถโค่นเต็งแชมป์และอดีตแชมป์โลกมาหลายสมัยลงได้

เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น น่าจะทำให้ทีมชาติจากเอเชียถูกจับตามองมากขึ้นอีกแน่ ๆ 

ทั้งนี้หากเทียบความแตกต่างของทั้ง 2 ชาติ คือ ซาอุฯ อาจจะได้เปรียบญี่ปุ่นหน่อย ตรงเรื่องของรูปร่างนักเตะ ซึ่งกายภาพของนักเตะซาอุฯ สามารถเทียบชั้นกับยุโรปได้เลย ในขณะที่ญี่ปุ่นน่าจะพอ ๆ กับไทย 

ซาอุฯ ทุ่มลงทุนไทย 3 แสนล้านบาทปีหน้า เจาะ 'ท่องเที่ยว-เมดิคัลแคร์-น้ำมัน-ปิโตรเคมี'

ซาอุดีอาระเบีย ระดมลงทุนในไทย ทุ่มปีเดียว 3 แสนล้านบาท เจาะธุรกิจท่องเที่ยว เมดิคัล แคร์ น้ำมัน และปิโตรเคมี พร้อมมั่นใจนโยบายสร้างไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์อีวีในภูมิภาคอาเซียนสำเร็จแน่นอน

นายคณิศ แสงสุพรรณ ประธานที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.หรืออีอีซี) เผยผลการหารือร่วมกับทางรัฐบาลและภาคเอกชนของซาอุดีอาระเบีย ว่าในปี 2566 ปีเดียว จะมีการลงทุนขนานใหญ่จากซาอุดีอาระเบียมายังประเทศไทยสูงถึง 300,000 ล้านบาท โดยแจ้งว่า มีความประสงค์จะลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมเมดิคัล แคร์ อุตสาหกรรมน้ำมัน และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยอุตสาหกรรมเป้าหมายส่วนใหญ่ของซาอุดีอาระเบียอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

ก่อนหน้านี้อีอีซีเคยเสนอว่าจะช่วยดึงการลงทุนของประเทศ จากเป้าหมายที่ควรมีการลงทุนปีละ 600,000 ล้านบาท ทางอีอีซีจะช่วยให้มีการลงทุนในพื้นที่ให้ได้ 400,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2566 ไม่ต้องกังวลแล้วเพราะซาอุดีอาระเบียประเทศเดียวก็ลงทุน 300,000 ล้านบาทแล้ว และส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อีอีซี อย่างไรก็ตาม ทางซาอุดีอาระเบียแจ้งขอให้ธุรกิจของไทยไปลงทุนที่ประเทศซาอุดีอาระเบียบ้าง โดยเฉพาะการก่อสร้างที่อยู่อาศัย

อีกทั้งตอนนี้เราสามารถมั่นใจได้แล้วว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างแน่นอน เห็นได้จากการที่ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ได้เลือกไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์สันดาปหรือรถยนต์ใช้น้ำมันอยู่แล้วปีละ 2 ล้านคัน ไทยจึงเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และมีบุคลากรด้านยานยนต์พร้อม ทำให้ประเทศไทยสามารถปรับตัวมาเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้เร็วที่สุด จนคนเกิดความสนใจกันทั่วประเทศ

'สีจิ้นผิง’ เยือนซาอุฯ กระชับสัมพันธ์อาหรับ MBS ต้อนรับสมเกียรติ ผิดกับครั้ง ‘ไบเดน’

มกุฎราชกุมาร เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย ต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี (8 ธ.ค.) ด้วยพิธีการซึ่งมุ่งให้เกียรติอย่างเต็มที่ เป็นการส่งสัญญาณว่า ‘ริยาด’ มีความสนใจเพิ่มพูนสายสัมพันธ์กับปักกิ่งให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ถึงแม้สหรัฐฯแสดงท่าทีจับตามองอย่างระแวงระวัง

กองทหารราชองครักษ์ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งขี่ม้าอาหรับและถือธงชาติจีนและธงชาติซาอุดีฯ เข้าคุ้มกันรถยนต์ของ สี ขณะที่แล่นเข้าสู่พระราชวังหลวงในกรุงริยาด และเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ออกมาต้อนรับด้วยการยื่นมือให้สัมผัสพร้อมรอยยิ้มสดชื่น ในทันทีที่ผู้นำจีนก้าวลงจากรถ

จากนั้นผู้นำทั้งสองได้จัดการประชุมอย่างเป็นทางการ โดยที่มกุฎราชกุมาร ‘แสดงความปรารถนาให้เขา, คณะผู้แทนของเขา พำนักอย่างมีความสุข’ ระหว่างอยู่ในซาอุดีอาระเบีย สำนักข่าวเอสพีเอ ของทางการซาอุดีอาระเบียรายงาน

บรรยายกาศเช่นนี้ช่างตรงกันข้ามกับการต้อนรับแบบเรียบ ๆ ที่จัดให้แก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางสายสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองที่มีรอยร้าวฉานสืบเนื่องจากสหรัฐฯ ไม่พอใจนโยบายด้านน้ำมันของซาอุดีฯ และกรณีสังหารโหด ‘จามาล คาชอกกี’ นักหนังสือพิมพ์ซาอุดีเมื่อปี 2018

ทั้งนี้ในคราวนั้นเจ้าชายโมฮัมเหม็ด เพียงแต่ยกกำปั้นมาชนกับไบเดนเท่านั้น ไม่ได้มีการจับมือกัน

สหรัฐฯ ซึ่งเฝ้าจับตามองอย่างระแวงระวังทั้งต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของจีน และการที่สายสัมพันธ์ที่มีอยู่กับ ริยาด กำลังอยู่ในช่วงต่ำสุด ให้ ‘จอห์น เคอร์บี้’ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ออกมาแถลงในวันพุธว่า การเยือนครั้งนี้เป็นตัวอย่างของความพยายามของจีนที่จะแผ่อิทธิพลไปทั่วโลก แต่จะไม่ทำให้นโยบายที่สหรัฐฯ มีต่อตะวันออกกลางเปลี่ยนแปลงไป

สี เดินทางถึงซาอุดีอาระเบียตั้งแต่วันพุธ โดยกระทรวงการต่างประเทศจีรายงานว่า ทางกองทัพอากาศซาอุดีฯ ได้ส่งเครื่องบินมาคุ้มกันตั้งแต่ที่เครื่องบินของผู้นำจีนเข้าสู่น่านฟ้าของซาอุดีอาระเบีย และเมื่อเดินทางมาถึง ก็มีการยิงปืนสลุต 21 นัด รวมทั้งมีเชื้อพระวงศ์อาวุโสของซาอุดีหลายท่านมาต้อนรับ สี ที่สนามบิน

ทางด้าน เจ้าชายอับดุลลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย แถลงวันพุธว่า ริยาดจะยังคงเป็นหุ้นส่วนพลังงานที่ไว้วางใจได้สำหรับปักกิ่ง และสองประเทศจะกระชับความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานพลังงานด้วยการจัดตั้งศูนย์ประจำภูมิภาคสำหรับโรงงานจีนในซาอุดีฯ

ทั้งนี้ จีน ผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก เป็นคู่ค้าสำคัญของซาอุดีอาระเบียที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันอันดับ 1 ของโลก และการขยายความสัมพันธ์ระหว่างกันภายใต้ความพยายามในการแตกแขนงเศรษฐกิจของตะวันออกกลางทำให้อเมริกากังวลหนักเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของจีนในโครงสร้างพื้นฐานที่อ่อนไหวในอ่าวอาหรับ

การเยือนของประธานาธิบดีสี ยังเกิดขึ้นขณะที่ตลาดพลังงานโลกแขวนอยู่กับความไม่แน่นอน หลังจากมหาอำนาจตะวันตกบังคับใช้มาตรการจำกัดราคาน้ำมันของรัสเซียที่หันไปเพิ่มปริมาณการจัดส่งน้ำมันให้จีนพร้อมส่วนลด

สำนักข่าวเอสพีเอ รายงานด้วยว่า เมื่อวันพุธ บริษัทจีนและซาอุดีฯ ได้ลงนามข้อตกลง 34 ฉบับครอบคลุมการลงทุนในพลังงานสะอาด เทคโนโลยีสารสนเทศ บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง การขนส่ง การก่อสร้าง ฯลฯ โดยไม่มีการระบุมูลค่า แต่ก่อนหน้านี้เอสพีเอรายงานว่า สองประเทศจะทำข้อตกลงกันรวมมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์

เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า การเยือนคราวนี้นอกจาก สีจะหารือกับฝ่ายซาอุดีฯ แล้ว หลังจากนั้นริยาดยังจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดระหว่างจีนกับผู้นำอาหรับซึ่งจะถือเป็น หลักหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-อาหรับ

นักลงทุนซาอุฯ เดินหน้ากางแผนร่วมลงทุนกับไทย เชื่อ!! 'ธุรกิจอาหาร-ท่องเที่ยว-สุขภาพ-อีอีซี' มีลุ้น!!

(9 ธ.ค. 65) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า ซาอุดีอาระเบีย มีแผนเตรียมจะลงทุนธุรกิจในไทยด้านอาหาร, ท่องเที่ยว, สุขภาพ และในพื้นที่อีอีซี เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ เกิดเงินหมุนเวียนในไทยจำนวนมาก 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย เปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งการค้า การลงทุน และแรงงาน โดยในส่วนของความร่วมมือด้านการดำเนินธุรกิจระหว่างกันเห็นผลเป็นรูปธรรมจากการลงทุนของซาอุดีอาระเบียกับไทยจำนวนมาก อาทิ กลุ่มธุรกิจอาหารส่งออกและแปรรูป ที่องค์การอาหารและยา ซาอุดีอาระเบีย อนุญาตให้ 11 โรงงานของไทยที่ผ่านการตรวจสอบส่งออกไก่ได้ ถัดมาคือ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ที่สายการบินแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabian Airlines) เปิดบินตรงจากกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย สู่ไทย จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สร้างความตื่นตัวให้แก่ภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากเส้นทางบินสามารถเชื่อมต่อจากกรุงริยาด (Riyadh) ที่เป็นเมืองหลัก และเมืองเจดดาห์ (Jeddah) ที่เป็นเมืองรองได้

‘บิ๊กตู่’ ร่วมต้อนรับนทท. คนที่ 10 ล้านจากซาอุฯ พร้อมอวยพรให้มีความสุขในดินแดนสยามเมืองยิ้ม

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ อาทิ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ร่วมกิจกรรม ‘Amazing Thailand 10 Million Celebrations’ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวคนที่ 10 ล้าน คือ นางนาจูด อัลไควเตอร์ และนายไฮซัม อัลมัดลึจ ชาวซาอุดีอาระเบีย

อย่างไรก็ตาม ทาง ททท. ได้มอบของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวจาก 2 เที่ยวบิน คือ เที่ยวบิน TG923 การบินไทย ผู้โดยสาร จำนวน 348 ราย เดินทางจากท่าอากาศนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 13.45 น. และ เที่ยวบิน SV 846 สายการบินซาอุดีอาระเบียน แอร์ไลน์ : ซาอุเดีย (Saudi Arabian Airlines : Saudia) จำนวน 357 ราย เดินทางจากกรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 15.00 น. โดยของระลึกคือกระเป๋าผ้า ภายในบรรจุ หมวก ผ้าพันคอผ้า ผ้าขาวม้า ผ้าขนหนู และตุ๊กตา ‘น้องสุขใจ’ มาสคอตของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ตัวน้อยที่จะพานักท่องเที่ยวออกเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่เราได้มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานเฉลิมฉลองการต้อนรับนักท่องเที่ยวครบ 10 ล้านคนในวันนี้ และยินดีที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมายังประเทศไทย

'ซาอุดีอาระเบีย' ปักหมุด EEC ลงทุนในไทยร่วม 3 แสนล้านบาท!!

สำหรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ราชอาณาจักร ‘ไทย-ซาอุดีอาระเบีย’ ที่ห่างหายมานานกว่า 32 ปี ได้สำเร็จนั้น ส่งผลในทางบวกที่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศต่างรอคอย และชาวโลกก็เฝ้าติดตามเช่นกัน ในที่สุดความหวังที่มีมาอย่างยาวนานถึง 14 รัฐบาล ก็เกิดขึ้นจริงในปี 2565 มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) 

โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 และเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เสด็จเยือนไทย เมื่อวันที่ 18 พ.ย.65 

2 เหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้นำมาสู่การยกระดับความร่วมมือเบื้องต้นที่สำคัญ ๆ ได้แก่ ด้านพลังงาน, ด้านการท่องเที่ยว และด้านการค้า-การลงทุน

มกุฎราชกุมารซาอุฯ เปิดตัว ‘ริยาด แอร์’  สายการบินแห่งชาติใหม่ เพิ่มรายได้ภาค non-oil

ริยาด, 13 มี.ค. (ซินหัว) — สำนักข่าวซาอุดีอาระเบีย (SPA) รายงานว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อับดุลอาซิซ อัล ซาอุด มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ประกาศเปิดตัวสายการบินแห่งชาติใหม่ ซึ่งมีชื่อว่าริยาด แอร์ (Riyadh Air) เมื่อวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ที่ผ่านมา

สำนักข่าวฯ คาดว่าสายการบินดังกล่าว ซึ่งถือครองโดยกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบียอย่างสมบูรณ์ จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมจากกิจกรรมที่ไม่ใช่น้ำมัน (non-oil) เพิ่มขึ้น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.89 แสนล้านบาท) และสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมกว่า 200,000 อัตรา

‘ซาอุฯ’ ขู่ระงับขายน้ำมัน หากถูกกำหนดราคาเหมือนรัสเซีย ชี้ นโยบายชาติตะวันตกซ้ำเติมความผันผวนแก่ตลาดน้ำมันโลก

(17 มี.ค. 66) เจ้าชายอับดุลลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแห่งซาอุดีอาระเบีย เตือนบรรดาชาติตะวันตก ต่อการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบของเมืองริยาด ระบุ ความพยายามใด ๆ ดังกล่าว จะต้องเจอกับการระงับขายและลดกำลังผลิต

พระองค์ทรงตรัสอีกว่า บรรดาชาติผู้ผลิตน้ำมันรายหลักอื่น ๆ มีความเป็นไปได้ว่าจะดำเนินการแบบเดียวกัน “ถ้ามีการกำหนดเพดานราคาน้ำมันส่งออกของซาอุดีอาระเบีย เราจะไม่ขายน้ำมันแก่ประเทศไหน ๆ ที่กำหนดเพดานราคาอุปทานของเรา และเราจะลดกำลังผลิตน้ำมัน และผมจะไม่ประหลาดใจเลยหากว่าชาติอื่น ๆ จะทำตามแบบเดียวกัน” เจ้าชายอับดุลลาซิซ บิน ซัลมาน ตรัสเมื่อช่วงต้นสัปดาห์

รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย ตรัสต่อว่า หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่นโยบายเพดานราคาน้ำมัน ได้ซ้ำเติมความไม่มั่นคงและความผันผวนแก่ตลาด และจะส่งผลกระทบทางลบต่ออุตสาหกรรมน้ำมันทั้งมวลทั่วโลก

พระองค์เปรียบเทียบมาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมัน กับร่างกฎหมายของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า ‘NOPEC’ โดยเน้นย้ำว่า มีความเป็นไปได้ ว่ามาตรการทั้งสองอาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันไม่ต่างกัน

ทั้งนี้ ‘NOPEC’ (กฎหมายไม่มีเครือข่ายผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน) จะถอดกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน หรือ ‘โอเปก’ ออกจากการได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐฯ เปิดทางให้โอเปก และบรรดาบริษัทน้ำมันแห่งชาติทั้งหลายสามารถถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้ ภายใต้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐฯ สำหรับความพยายามขัดขวางการแข่งขันที่จำกัดอุปทานน้ำมันโลก และส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบตามมา

ในเดือนธันวาคม ‘อียู’ และบรรดาสมาชิกกลุ่มจี 7 รวมถึงพันธมิตรได้ร่วมกันกำหนดมาตรการแบนการส่งออกน้ำมันทางทะเลของรัสเซีย เช่นเดียวกับกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียไว้ที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ยังมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันรัสเซียเกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับบังคับใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดีเซลและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่น ๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา

32 ปี ที่รอคอย!! เหตุการณ์สำคัญ หลังฟื้นสัมพันธ์

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

บันทึกเหตุการณ์สำคัญ ฟื้นสัมพันธ์ ไทย - ซาอุฯ สู่ระดับปกติเหมือนเมื่อ 32 ปีก่อน

ย้อนไทม์ไลน์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ตามคำเชิญของมกุฎราชกุมาร แห่งซาอุฯ ซึ่งเป็นการเยือนระดับผู้นำของสองประเทศครั้งแรกในรอบ 32 ปี เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน และพัฒนาการในทางบวกที่จะเป็นประโยชน์ต่อสองประเทศ หลังมีปัญหาระหว่างกันเมื่ออดีตมากกว่า 30 ปีก่อน

‘เสี่ยเฮ้ง’ เตือนแรงงานไทยหางานต่างประเทศ ระวังถูกล้วงข้อมูลส่วนตัว ผ่านการลงทะเบียนออนไลน์

(21 มี.ค.66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีปรากฏเป็นข่าวทางสื่อต่าง ๆ ว่ามีแพลตฟอร์มเปิดให้บริการจัดหางานออนไลน์ของประเทศซาอุดีอาระเบีย ในหลายตำแหน่ง ได้แก่ แม่บ้าน ผู้ดูแลเด็ก ผู้ดูแลคนสูงอายุ ผู้ดูแลสวน พ่อครัว แม่ครัว และคนขับรถ เป็นต้น โดยอ้างว่าสามารถสมัครได้ง่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียน เพียงทำการฝากประวัติออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มไม่กี่ขั้นตอน ก็สามารถสัมภาษณ์กับนายจ้างด้วยวิธีการวีดีโอคอลกับนายจ้างได้ ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงเร่งสั่งการกรมการจัดหางานตรวจสอบข้อมูล เพราะห่วงแรงงานไทยจะถูกหลอกลวง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวไม่ได้เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบียจากกรมการจัดหางาน 

ดังนั้นการฝากประวัติส่วนตัวลงในแพลตฟอร์มอาจจะเป็นการถูกหลอกเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำไปใช้ในทางที่มิชอบได้ จึงฝากถึงคนไทยที่ต้องการไปทำงานในต่างประเทศไม่ว่าประเทศใด ต้องรู้ว่าการโฆษณาจัดหางานเพื่อพาคนไปทำงานต่างประเทศ สามารถทำได้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานเท่านั้น หากตรวจสอบที่มาแล้วมิใช่ ถือว่าท่านมีโอกาสถูกหลอกลวง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top