Friday, 17 May 2024
ขอนแก่น

ขอนแก่น-คนอีสานไม่เอา!บุหรี่ไฟฟ้า

รวมพลังภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 20 จังหวัดภาคอีสาน ร่วมประกาศเจตนารมณ์ "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า"ย้ำจุดยืน คนอีสานจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคอีสานทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ


เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 เมษายน 2566 ที่ห้องออคิดบอลรูม โรงแรมพูลแมนขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น  นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดประกาศเจตนารมณ์คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า"ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยมี นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ,นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น, ตัวแทนสื่อมวลชนศูนย์ข่าวปลอดควันภาคอีสาน, ตัวแทนเครือช่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่, ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปลอดบุหรี่, ตัวแทนเยาวชน Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบ และตัวแทนผู้รับผิดชอบงานด้านควบคุมยาสูบจังหวัดต่าง ๆ กว่า 200 คน ร่วมประกาศเจตนารมณ์ "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า" ในงานสัมมนาเรื่อง "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า" ซึ่งจัดขึ้นที่ โรงแรมพูลแมนขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น ย้ำจุดยืน คนอีสานจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคอีสานทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ


นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์ "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า" ครั้งนี้ การระดมทุกภาคส่วนของภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 20 จังหวัดภาคอีสาน ให้มาร่วมกันรณรงค์ป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ากับกลุ่มเด็กและเยาวชนถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยคำประกาศเจตนารมณ์ "คนอีสานไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า" มีแนวทางดังนี้1. พวกเราจะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคอีสานทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ  2.พวกเราจะร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในโรงเรียน และสถานศึกษาทุกระดับ เพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิดของเด็กและเยาวชนภาคอีสาน โดยการบังคับใช้กฎหมายการห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเคร่งครัด 
3.พวกเราจะร่วมกันสื่อสารข้อมูล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนภาคอีสาน ได้รับรู้ถึงอันตรายของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า และรู้เท่าทันกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมยาสูบ 4.พวกเราจะร่วมกันสร้างกลไกขับเคลื่อนงานของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมให้เกิดการเชื่อมประสานการทำงานในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง 5.พวกเราจะดำเนินการป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นวาระแห่งชาติ และประกาศเจตจำนงที่ชัดเจนในการสนับสนุนให้รัฐบาลคงนโยบาย และมาตรการในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. ขอนแก่น ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 11 เขตของจังหวัดขอนแก่น ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>>เขต 1 อ.เมืองขอนแก่น (เฉพาะต.ในเมือง ต.เมืองเก่า และต.พระลับ)

>>เขต 2 อ.เมืองขอนแก่น (เฉพาะต.บ้านเป็ด ต.ศิลา ต.โคกสี ต.หนองตูชม ต.แดงใหญ่ ต.บึงเนียม ต.สําราญ และต.สาวะถี)

>>เขต 3 อ.กระนวน อ.ซําสูง อ.น้ําพอง (เฉพาะต.บัวเงิน ต.พังทุย ต.ทรายมูล ต.บัวใหญ่ และต.บ้านขาม) อ.เขาสวนกวาง (เฉพาะต.เขาสวนกวาง และต.คําม่วง)

>>เขต 4 อ.น้ําพอง (เฉพาะต.น้ําพอง ต.สะอาด ต.กุดน้ําใส ต.วังชัย ต.หนองกุง ต.ม่วงหวาน และต.ท่ากระเสริม) อ.อุบลรัตน์ อ.เขาสวนกวาง (เฉพาะต.ดงเมืองแอม ต.นางิ้ว และต.โนนสมบูรณ์) อ.เมืองขอนแก่น (เฉพาะต.บ้านค้อ และต.โนนท่อน)

>>เขต 5 อ.ภูเวียง (เฉพาะต.ภูเวียง ต.บ้านเรือ ต.ดินดํา ต.หว้าทอง ต.ทุ่งชมพู ต.นาหว้า ต.หนองกุงธนสาร ต.นาชุมแสง และต.สงเปือย) อ.สีชมพู (เฉพาะต.สีชมพู ต.บริบูรณ์ ต.ดงลาน ต.บ้านใหม่ ต.ภูห่าน ต.หนองแดง ต.ศรีสุข และต.วังเพิ่ม) อ.หนองนาคํา อ.เวียงเก่า

>>เขต 6 อ.ชุมแพ อ.ภูผาม่าน อ.สีชมพู (เฉพาะต.ซํายาง และต.นาจาน)

>>เขต 7 อ.หนองเรือ อ.บ้านฝาง อ.ภูเวียง (เฉพาะต.หนองกุงเซิน และต.กุดขอนแก่น)

>>เขต 8 อ.มัญจาคีรี อ.พระยืน อ.เมืองขอนแก่น (เฉพาะต.บ้านทุ่ม ต.บ้านหว้า ต.ดอนช้าง ต.ดอนหัน และต.ท่าพระ)

>>เขต 9 อ.พล อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่

>>เขต 10 อ.หนองสองห้อง อ.โนนศิลา อ.เปือยน้อย อ.โคกโพธิ์ไชย อ.ชนบท (เฉพาะต.ห้วยแก ต.วังแสง และต.ปอแดง)

>>เขต 11 อ.บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด อ.ชนบท (เฉพาะต.ศรีบุญเรือง ต.ชนบท ต.โนนพะยอม ต.บ้านแท่น และต.กุดเพียขอม)

‘ตร.’ จับจริง!! ร้านอาหารอีสานดัง ฝ่าฝืนคำสั่งขายเบียร์ ชี้!! ผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน เตรียมส่งดำเนินคดี

(14 พ.ค. 66) พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ได้ทำการจับกุม ร้านอาหารที่ฝ่าฝืน เปิดร้านจำหน่ายสุรา ซึ่งผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ที่มีคำสั่งห้ามจำหน่ายตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของเมื่อวานที่ผ่านมา (13 พ.ค.) จนถึงเวลา 18.00 น. วันนี้

โดยเจ้าหน้าทีได้ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ และพบร้านจำหน่ายอาหารอีสานฝ่าฝืนคำสั่ง เมือช่วงค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา (13 พ.ค.) จึงได้จับกุมตัว นายณรงค์ คงจันทร์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/16 หมู่ที่ 14 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยของกลาง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์ จำนวน 1 ขวด ที่เปิดฝาดื่มแล้ว วางอยู่บนโต๊ะที่ลูกค้า

“ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ออกตรวจร้านอาหารสถานบริการและร้านจำหน่ายสุราในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ก่อนวันเลือกตั้งให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อเจ้าหน้ามาถึงร้านมิตรภาพลาบก้อย ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น พบว่า ร้านดังกล่าวมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบ นายณรงค์ แสดงตัวรับว่าเป็นเจ้าของร้านมิตรภาพลาบก้อย เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบภายในร้าน พบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางอยู่บนโต๊ะที่ลูกค้านั่งดื่มแล้วลุกออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาถึงภายในร้าน”

พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวต่อว่า เจ้าของร้าน ยอมรับว่า ได้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารให้กับผู้ที่มารับใช้บริการที่ร้านจริง จึงได้แจ้งว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด ในข้อหา ผู้ใดขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตเลือกตั้ง ในระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกา ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน จนถึงเวลา 18.00 นาฬิกา ของวันเลือกตั้ง แต่ร้านมิตรภาพลาบก้อย ยังมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มาใช้บริการ

จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

‘ดอกมะลิ’ ขอนแก่น แพงทะลุ กก.ละ 1,200 บาท ต้อนรับวันแม่ ผู้ค้าตรึงราคาเริ่มต้นพวงละ 50 บาท ลดปริมาณดอกลงตามต้นทุน

(12 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าว จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการจำหน่ายพวงมาลัยดอกมะลิและดอกพุดเนื่องในวันแม่แห่งชาติ บริเวณหน้าตลาดสดเทศบาล 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ย่านการค้าดอกไม้สดและพวงมาลัยรายใหญ่ของจังหวัดขอนแก่น พบว่าพ่อค้าแม่ค้าแทบทุกร้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดอกมะลิปีนี้ราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ราคาจำหน่ายพวงมาลัยดอกมะลิเริ่มต้นที่พวงละ 50 บาท

น.ส.ยุวธิดา จันทดวง อายุ 46 ปี แม่ค้าขายพวงมาลัย กล่าวว่า วันนี้ซื้อดอกมะลิมาราคากิโลกรัมละ 1,200 บาท ถือว่าราคาสูงมาก เพราะปีที่แล้วอยู่ที่กิโลกรัมละ 900-1,000 บาท วันแม่ปีนี้มีลูกค้ามาเลือกซื้อพวงมาลัยดอกมะลิอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เงียบกว่าปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน อาจจะเป็นเพราะเศรษฐกิจ

น.ส.ยุวธิดา กล่าวต่อว่า ส่วนพฤติกรรมการซื้อก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนจะมีคนมาซื้อพวงละ 200 บาทจำนวนมาก แต่ปีนี้ส่วนใหญ่จะซื้อแค่พวงละ 50-100 บาท ทำให้ร้านต้องจัดทำพวงมาลัยและคงราคาจำหน่ายเริ่มต้นคือพวงมาลัยทั้งดอกพุดและดอกมะลิ เริ่มต้นพวงละ 50 บาท แต่ต้องลดจำนวนดอกลง เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งลูกค้าทุกคนก็เข้าใจในสถานการณ์

‘เศรษฐา’ นำคณะลุยขอนแก่น สักการะศาลหลักเมืองเป็นสิริมงคล ชาวอีสานแห่ต้อนรับ ตะโกน “นายกฯ เศรษฐา พาไปเป็นเศรษฐี”

(8 ก.ย. 66) ที่จ.ขอนแก่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่พบปะชาวขอนแก่น โดยมี สส.ขอนแก่น และอดีต สส.ขอนแก่น ได้แก่ นายภาควัต ศรีสุรพล นายสิงหภณ ดีนาง นายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข น.ส.วิภาณี ภูคำวงศ์ นายวันนิวัติ สมบูรณ์ นายชัชวาล พรอมรธรรม น.ส.รัมภามาศ ทีฆธนานนท์ นายจตุพร เจริญเชื้อ และนางมุกดา พงษ์สมบัติ รวมทั้งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ ขอนแก่น ให้การต้อนรับ

เวลา 08.15 น. นายกฯ และคณะ ได้เดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาลหลักเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีกลุ่มชาวอีสาน 20 จังหวัดมารอต้อนรับ โดยได้ผูกผ้าขาวม้าและมอบพวงมาลัยให้กับนายกฯ พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า “นายกฯ เศรษฐา พาไปเป็นเศรษฐี” ทั้งนี้ นายกฯ เดินทางมาด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน กล 5558 อุดรธานี

นายเศรษฐาและคณะ ได้เดินทางมารับประทานอาหารเช้าที่ร้านเอมโอช ซึ่งเป็นร้านไข่กระทะชื่อดังใน จ.ขอนแก่น

5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 ในหลวง ร.9 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เสด็จฯ โดยรถไฟ เยี่ยมพสกนิกรชาวขอนแก่น

วันนี้ เมื่อ 68 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟพระที่นั่ง เยี่ยมพสกนิกรจังหวัดขอนแก่นเป็นครั้งแรก

ภายหลังจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสร็จสิ้นพระราชภารกิจจาการศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และได้เสด็จนิวัตมาประทับในพระราชอาณาจักรไทยเป็นการถาวรแล้ว จึงกำหนดการ 'เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร' ในทุกภูมิภาคทั่วราชอาณาจักรขึ้น 

โดยปฐมแห่งการเสด็จฯ ได้ออกไปทรงเยี่ยมราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภูมิภาคแรก ระหว่างวันที่ 2-20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 

โดยในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 พระองค์ได้เสด็จฯ โดยรถไฟ เยี่ยมพสกนิกรจังหวัดขอนแก่น เป็นครั้งแรก 

ซึ่งชาวขอนแก่นได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายถนนเส้นทางสายสำคัญเพื่อเป็นอนุสรณ์ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่พระองค์ ในชื่อ 'ถนน 5 พฤศจิกายน'

'อัษฎางค์' ข้องใจ!! ม.ดัง ให้แม่บ้านขึ้นแสดงความยินดีผู้สำเร็จการศึกษา ส่อ 'แซะ-บั่นทอน' ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่ต้องสงสัย

(18 ธ.ค. 66) อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ พร้อมภาพแม่บ้านขึ้นไปบนโพเดียม กล่าวแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จการศึกษา หัวข้อ ‘ความเท่าเทียมๆ’ ระบุว่า เรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นสิ่งดีงาม เพราะความสำเร็จของคนหนึ่งคนย่อมมาจากแรงสนับสนุนจากทุกคนทุกฝ่าย

แต่เรื่องนี้มีนัยหรือเลศนัยแน่นอน เพราะสถาบันการศึกษาแห่งนี้เป็นแหล่งรวมคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ดังนั้น กิจการแบบนี้ ก็หวังแซะหรือบั่นทอนหรือสร้างความสั่นคลอนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่ต้องสงสัย คนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ทำเป็นไปยกย่องเชิดชูคนรากหญ้าคือ ความตอแหลของผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร อาจารย์หรือนักศึกษา

ผมขอย้ำว่า การยกย่องคนรากหญ้า หรือการยกย่องคนทุกระดับ ทุกชนชั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม แต่พวกคุณทำเป็นการยกย่องคนรากหญ้า หรือการยกย่องคนทุกระดับ ทุกชนชั้น ในขณะที่กลับไป ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มันย้อนแย้งกับเปลือกนอกที่ทำเป็นคำนึงถึงมนุษยธรรมและความเท่าเทียม ๆ น่าคลื่นไส้ กับพวกผู้บริหาร อาจารย์หรือนักศึกษา ที่ทำเป็นคำนึงถึงเรื่องความเท่าเทียมและสิทธิมนุษย์ชน แต่มันจอมปลอม

สถาบันพระมหากษัตริย์เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรและกล่าวโอวาทพร้อมแสดงความยินดี พวกคุณกลับต่อต้าน แต่เอาคุณพี่แม่บ้านมาให้โอวาทพวกคุณบอกว่าน่ายินดี ยินดีต้อนรับคุณพี่แม่บ้าน และยินดีต้อนรับสถาบันพระมหากษัตริย์จากใจให้เหมือนกันไม่ได้หรือ ความเท่าเทียม ๆ

หนุ่มวิจารณ์!! อาคารลายผ้า ‘แคนแก่นคูณ’ ขอนแก่น “อุบาทว์” เจอทัวร์ลง!! “ดูถูกผลงานคนอื่น-ด้อยค่าความภาคภูมิใจคนในพื้นที่ ”

สิทธิในการแสดงความคิดเห็นเปิดกว้างอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะเหล่าคนในโซเชียลที่มักจะมีส่วนร่วมในการวิจารณ์สิ่งต่าง ๆ เสมอ แต่บางครั้งคำวิจารณ์ หรือ ความคิดเห็น ที่รุนแรง และตรงเกินไป ก็อาจนำมาซึ่งคนที่ไม่เห็นด้วย

เช่นเดียวกับผู้ใช้ X รายหนึ่ง ที่ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของอาคารใหม่ ในจังหวัดขอนแก่น ระบุว่า

“แบบอาคารใหม่เทศบาลนครขอนแก่น ดีไซน์หลงยุคมาก โอ้ย สส ในพื้นที่ช่วยไปคัดค้านที งบตั้ง 300 ล้าน แต่ดีไซน์อุบาทว์มาก ทำเลไข่แดงใจกลางเมือง ที่ดินแพงสุดในอีสาน ควรออกแบบได้ดีกว่านี้ เทสแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันนะ

แต่นี่ไม่ชอบ ไม่สวย และคิดว่างบ 300 ล้านมันทำได้ดีกว่านี่ ฟังชั่นกว่านี้ อาคารราชการสมัยนี้มีออกแบบสวยๆเยอะนะ แต่นี่ว่าไม่สวยไง ใครจะมองว่าสวยก็แล้วแต่เด้อ”

โพสต์นี้มีคนเห็นเกิน 5 ล้านครั้ง ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย โดยส่วนใหญ่มองว่าความคิดเห็นนี้รุนแรงเกินไปกับการใช้คำว่า “อุบาทว์”

ทางด้านผู้ใช้ X ที่ผ่านมาเจอโพสต์นี้ ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บางส่วนเห็นด้วยกับต้นโพสต์ แต่บางส่วนก็เห็นต่าง เช่น

“ขอนแก่น ‘นครแห่งไหม’ กับอาคารลายผ้า ‘แคนแก่นคูณ’ มันก็เป็นสิ่งที่ควรตั้งอยู่ในขอนแก่นถูกแล้วไม่ใช่เหรอ? ความภาคภูมิใจของเขา สิ่งที่คนในพื้นที่นั้น ๆ ให้คุณค่า คุณไม่เห็นค่ามันก็เรื่องของคุณ”

“ดีกว่านี้ = ? อันนี้สวย ศิลปะมีหลายแบบ สถาปัตย์ก็เหมือนกัน ชอบโมเดิร์น ชอบมินิมอล ไม่ได้แปลว่าแบบพื้นเมือง แบบ traditional มัน ‘อุบาทว์’ ติดอย่างเดียวคือฟ้อนต์มันดูสิ้นคิดไปหน่อย แค่นั้น แต่จะบอกว่า exterior อุบาทว์มันก็เกินไป คนในเน็ตอยากพ่นอะไรก็พ่นจริงด้วย ฮาอะ 😖”

“ออกความเห็นก็ออกได้ แต่คำว่าดีไซน์อุบาทว์นี่เหมือนจะดูถูกคนดีไซน์ไปหน่อยมั้ย เพราะงี้ไง วลีที่ว่าไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้วถึงมีอยู่”

“งานดีไซน์ไม่มีคำว่าสวยไม่สวยนะ ต้องถามเหตุผลก่อนว่า ทำคอนเซปต์นี้จะสื่อถึงอะไร facade มีที่มาที่ไปแบบไหน ถ้าเขาอธิบาย concept อาจจะเข้าใจมากขึ้นก็ได้อะ บางทีอาจจะทำให้เข้ากับบริบทพื้นที่หรือวัฒนธรรมก็ได้”

“ก็ represents ความเป็นขอนแก่นอะพี่ คู่สีน้ำตาลไม้-เหลืองนวล นี่แหละถูกแล้ว design ก็ใช่ สี่เหลี่ยมลายผ้าไหม รวม ๆ ก็ดูร่วมสมัยสะท้อนตัวตนของขอนแก่นสุด ๆ ละนะ มากกว่านี้คือต้องทำตึกรูปแครไปแข่งกะอิหอโหวดร้อยเอ็ดอะ เอาบ่?”

“เทสการมองงานศิลต่างกันจริง แต่คำว่าอุบาทว์มันก็แรงจริง ๆ ส่วนตัวคิดว่าลาย+รูปแบบก็มีความเป็นขอนแก่นดีนะ อย่างเซ็นก็เป็นรูปกระติบข้าวเหนียว ตึกเทศบาลจะแบบนี้ก็ได้แหละ”

“อาคารแห่งนี้เป็นการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่น แถมยังวิจารณ์เจ้าของโพสต์ว่าการให้ สส. ไปคัดค้านแค่เพราะดีไซน์ไม่ถูกใจเป็นอะไรที่ไม่มีเหตุผลมาก”

“ดีไซน์ที่โดนบอกว่าแย่ เป็นลายผ้าไหมมัดหมี่ แคนแก่นคูณ สัญลักษณ์ประจำจังหวัดขอนแก่น เรื่องความสวยก็เป็นความชอบส่วนบุคคล แถมรูปที่นำมาโพสต์ก็เป็นเพียงแค่ด้านเดียว ไม่ใช่แปลนทั้งหมด ไม่สามารถตัดสินได้ว่าคุ้มค่างบประมาณหรือไม่”

อย่างไรก็ตาม เจ้าของโพสต์ก็ไม่ได้สนใจดรามารถทัวร์ที่มาลงแต่อย่างใด ตอบกลับแบบแซ่บ ๆ ไปหลายดอก แถมบอกว่าอีกว่า “ก็มองว่าไม่สวยไง งานออกแบบอาคารงบตั้ง 300 ล้าน ใครจะมองว่าสวยก็เรื่องของมึง จะมาสั่งสอนทำไม งง 555555” และ “รับไม่ได้กับการใช้คำว่าอุบาทว์อันนี้พอเข้าใจได้ โอเคขอโทษจ้า มันอาจจะแรงไป แต่ถามว่ามันสวยหรอ? การเอาลายมาแปะตึกมันสวยจริงใช่มั้ย?”

ทั้งนี้ ประเด็นการวิจารณ์แปลนอาคารเทศบาลนครขอนแก่นแห่งใหม่ ยังคงดำเนินต่อไปและอาจจะไม่จบลงได้ง่าย ๆ

"บิ๊กโจ๊ก"ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น กวดขันพนง.ขับรถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลปีใหม่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติดในพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลปีใหม่ เน้นย้ำปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด และปรับปรุงจุดเสี่ยงในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด ไม่ให้เป็นจุดเสี่ยง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 3 ม.ค. 66 ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารขอนแก่น แห่งที่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ภายใต้การอำนวยการของ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น มอบหมายให้ นายยุทธพร พิรุณสาร รอง ผวจ.ขอนแก่น ให้การต้อนรับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในโอกาสมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติดในพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567  โดยมี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, นายพงศ์ธร จันทราธิบดี ขนส่งจังหวัดขอนแก่น , นายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย รองนายก อบจ.ขอนแก่น ,หน.สนง.ปภ.ขอนแก่น ,จนท.สนง.ขนส่งจังหวัด, หน.สถานีรถโดยสาร ร่วมรับการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร. กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจในการคุมเข้มในการดูแลกำกับการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 ตัวเลขสถิติการเกิดอุบัติเหตุในปีนี้นั้นลดลงกว่าปีที่แล้ว รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการเห็นประชาชนคนไทยมีความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และเน้นหนักในเรื่องความปลอดภัยเป็นที่สุด ทั้งในสถานการณ์ปกติและในช่วงเทศกาลต่างๆ ประชาชนต้องปลอดภัยให้มากที่สุด เกิดอุบัติเหตุต่ำสุด น้อยที่สุดแต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลยังต้องทำงานหนักต่อไปเพื่อที่จะทำให้ตัวเลขสถิติการการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตลดน้อยลงที่สุดให้ได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  กล่าวด้วยว่า ในส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องปรุบปรุงแก้ไข เพื่อให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด และปรับปรุงจุดเสี่ยงในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด ไม่ให้เป็นจุดเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถสกายแล็ป ที่มักจะเกิดเหตุบ่อยที่สุด เกิดจากขับรถเร็วและไม่ใส่หมวกกันน็อก ขับรถย้อนศร ใช้รถยนต์ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ในส่วนของประชาชนที่ยังตกค้างใน บขส.นั้น ในวันที่ 4 ม.ค. 2567 จะต้องได้กลับเข้ากรุงเทพฯ กันทุกคน และต้องไม่มีผู้โดยสารตกค้างเด็ดขาด เพราะวันนี้ตนและทุกหน่วยงานได้มาส่งทุกท่านเดินทางให้ถึงจุดหมายปลายทางด้วยความปลอดภัยทุกคน

ขอนแก่น-"ปธ.ก.ธ.จ.ขอนแก่น”ติวเข้ม”ลงพื้นที่สอดส่องหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล

ก.ธ.จ.ขอนแก่น ประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งมีวาระที่สำคัญในการวางแผน ในการสอดส่องในปี 67 ซึ่งประกอบไปด้วยแผนงานในปี 66 และแผนงานในปี 67 ที่เรากำหนดในการลงพื้นที่สอดส่องหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 ที่ห้องประชุมแก่นภูมิ 2 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสุวิทย์วิจิตรโสภา ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขตตรวจราชการที่ 12 ในฐานะประธานกรรมาธิการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 1/2567 โดยมีคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น ตลอดจนที่ปรึกษาฯเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขตตรวจราชการที่ 12 ในฐานะประธานกรรมาธิการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าในการประชุม ก.ธ.จ.ขอนแก่น วันนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 1/2567 ซึ่งเรามีวาระที่สำคัญในการวางแผน ในการสอดส่องในปี 67 ซึ่งประกอบไปด้วยแผนงานในปี 66 และแผนงานในปี 67 ที่เรากำหนดในการลงพื้นที่สอดส่องหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ในวันนี้ก็มีการประชุม และได้ให้ความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางหลากหลาย เพื่อให้แผนงานที่ลงพื้นที่สอดส่อง ตรงกันทุกอย่าง เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน อย่างแท้จริง ซึ่งประโยชน์จะตกกับชาวขอนแก่นจริงๆ 

นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่านอกจากนั้นเราได้พิจารณาในเรื่อง แผนการใช้จ่ายในเรื่องงบประมาณ ในการใช้จ่ายกิจกรรมต่างๆ ที่เราจะสอดส่องในโครงการ ทางจังหวัดขอนแก่นหรือทาง ก.ธ.จ.จังหวัดขอนแก่น ได้รับจัดสรรงบประมาณ จากรัฐบาลเป็นเงินจำนวน 75,000 บาท และที่เป็นประเด็นสำคัญ คือในเรื่องของการจัดทำรายงานประจำของ ปี ก.ธ.จ.จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเราก็จะมี 2 เวอร์ชั่น เช่นเวอร์ชั่นที่เป็นกระดาษ หรือ Paper จะมีการเผยแพร่ผ่าน เว็บไซต์สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี และอีกเวอร์ชั่นที่ 2 คือการทำคลิป หรือวีดีโอสั้นความยาวไม่เกิน 5 นาที เพื่อประโยชน์ในการไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผ่านระบบออนไลน์ต่างๆได้ ก็ถือว่าเป็นโครงการที่สำคัญ 

"จากการประชุมในครั้งนี้ เราได้มีการพูดคุยหารือ แนวทางในการทำงานร่วมกันต่างๆที่เป็นประโยชน์ กับประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่นในหลายๆมิติด้วย เพื่อให้ทิศทางในการทำงานในปี 67 ให้บรรลุเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ” นายสุวิทย์ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top