Tuesday, 20 May 2025
ก้าวไกล

'ธนาธร' เชื่อ!! 'พิธา' เข้มแข็ง พรรคไร้ห่วงปัญหาหัวหน้าคนใหม่ วอน!! ด้อมโฟกัส 'ประชาธิปไตย' เรื่องนี้ใหญ่กว่าเรื่องบุคคล

เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.66) ที่ร้าน Sol Bar อาคารอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดเผยภายหลัง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อให้ที่ประชุมพรรคเลือกหัวพรรคคนใหม่เพื่อดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน โดยนายธนาธร กล่าวว่า เชื่อว่าคุณพิธาเข้มแข็ง ตนให้กำลังใจคุณพิธา

เมื่อถามว่ามองคุณสมบัติหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ต้องเป็นอย่างไร? นายธนาธร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีบุคลากรที่มีคุณภาพเยอะแยะ ใครเป็นหัวหน้าพรรค ก็จะทำพรรคก้าวไกลตามแนวทางที่สืบสานกันมา ตั้งแต่อนาคตใหม่-ก้าวไกล อย่างมั่นคง

"เรื่องบุคลากรที่จะดำรงตำแหน่ง ผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะพรรคก้าวไกลมีคนที่มีคุณภาพเยอะแยะไปหมดเลย" นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่าผู้สนับสนุนหลายคนรู้สึกเสียขวัญ ที่นายพิธา ต้องลาออก นายธนาธร ตอบว่า อย่าเสียกำลังใจ เดินหน้าด้วยกันต่อไป 'อนาคตใหม่-ก้าวไกล' จะเป็นยังไงต่อ 'ไม่สำคัญ' ขอให้เรายึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย แล้วร่วมผลักดัน สร้างประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยต่อไป

"ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง เรื่องนี้ใหญ่กว่าเรื่องบุคคล เป็นเรื่องของอนาคตของประเทศไทย เรื่องนี้ใหญ่กว่าคน ใหญ่กว่าพรรคไปแล้ว เป็นเรื่องวาระที่จำเป็นของประเทศไทยที่จะต้องผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย" นายธนาธร กล่าว

‘สส.ปทุม ก้าวไกล’ ค้านโครงการรถไฟความเร็วสูงผ่าอยุธยา อ้าง!! จะถูกถอด ‘มรดกโลก’ เจอชาวเน็ตแห่ถล่มยับ!!

(18 ก.ย. 66) เฟซบุ๊ก ‘เชตวัน เตือประโคน - Chetawan Thuaprakhon’ ของนายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี เขต 6 พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า "ประชาชนคนไทยต่างลุ้นกันกรณี “ศรีเทพ” จะได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่ “อยุธยา” ที่เป็นอยู่แล้ว กำลังจะถูก “ถอด” เพราะรถไฟความเร็วสูงผ่ากลางเมือง #ก้าวไกล #มรดกโลก #อโยธยา"

ปรากฏว่าทัวร์ลงมายัง สส.คนดังกล่าว โดยมีความคิดเห็น เช่น

- คนอยุธยาอยากได้ความเจริญมากกว่าค่ะ
- ถ่วงความเจริญครับ
- ความรู้สั้น ความมั่นสูง
- คนอยุธยามีสิทธิ์ไหมคะ
- ก่อนแสดงความเห็นควรหาความจริงและควรมีความรู้
- อยุธยาได้เป็นมรดกโลก และมีการคมนาคมที่ทันสมัยควบคู่กันไป คนไทยและชาวต่างชาติก็จะยิ่งมาเที่ยวอยุธยามากขึ้นค่ะ

- ว่างงานและมาถ่วงความเจริญหรือครับ
- อย่างนี้เกียวโตโดนถอดไปนานแล้วปะครับ

สำหรับประเด็นดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการรถไฟแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยหนึ่งในนั้นคือสถานีอยุธยา แต่กรมศิลปากรออกมาคัดค้านเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อโบราณสถาน และมรดกโลก และขอให้การรถไฟฯ ทำการศึกษาผลกระทบต่อมรดกโลกทางวัฒนธรรม หรือ Heritage Impact Assessment (HIA) ทำให้โครงการในสัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร หยุดชะงัก การรถไฟฯ ได้จ้างที่ปรึกษามาทำการศึกษาผลกระทบ เพื่อหารูปแบบ และป้องกันผลกระทบในทุกด้านกับการก่อสร้าง ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ

อีกด้านหนึ่ง นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.อยุธยา เขต 1 พรรคก้าวไกล ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการดังกล่าว อ้างว่าที่ตั้งสถานีผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลกเมืองเก่าอโยธยา พร้อมเตรียมยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขอเสนอญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลกเมืองเก่าอโยธยาจากโครงการรถไฟความเร็วสูง สถานีอยุธยา ขณะเดียวกัน นายทวีวงศ์ยังมีการขอพบ นายสุจิตต์ วงษ์เทศ นักเขียนเรื่องราวประวัติศาสตร์ในเครือมติชน เพื่อหารืออีกทางหนึ่งด้วย

ขณะเดียวกัน ได้มีการก่อตั้งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘SAVE อโยธยา’ นำโดย นายภาณุพงศ์ ชลสวัสดิ์ นักศึกษาคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อรณรงค์ปกป้องเมืองอโยธยา และได้จัดเสวนาหัวข้อ ‘รื้อ-ทำลายความทรงจำมรดกวัฒนธรรมอโยธยา’ โดยมีนายธรรดร กุลเกลี้ยง นักศึกษาปริญญาโท คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มราษฎร โดยวิจารณ์โครงการสถานีรถไฟอยุธยา อ้างถึงโรงภาพยนตร์สกาลา และศาลเจ้าแม่ทับทิม รวมทั้งยังโยงแง่มุมของทุนนิยมกับการอนุรักษ์ และ น.ส.ภัสราวดีเห็นว่าสร้างอ้อมออกไปใช้งบประมาณ 18,000 ล้านบาท ยังน้อยกว่างบประมาณของกองทัพที่มีกว่า 200,000 ล้านบาทอีกด้วย

'ดร.สุวินัย' เชื่อ!! หาก 'ชัยธวัช' นั่งหัวหน้า ก็เพื่อรอการกลับมาของ 'ธนาธร' เตรียมคืนชีพ 'อนาคตใหม่' ดันแก้ ม.112 เพื่อ 'ปฏิรูปสถาบัน' เต็มสูบ

(19 ก.ย.66) ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Suvinai Pornavalai' ถึงกรณีหากพรรคก้าวไกลเลือก 'ชัยธวัช ตุลาธน’ นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า...

อันที่จริงนี่คือ การตระเตรียมคืนชีพ 'พรรคอนาคตใหม่' แบบเต็มตัวด้วยการยืนกรานผลักดันการแก้ ม.112 เพื่อ 'ปฏิรูปสถาบัน' โดยถือเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคที่สำคัญที่สุด

การผลักดัน ชัยธวัช เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต่อจากพิธา จึงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ก้าวไกลที่ยอมสละโอกาสเป็นรัฐบาลและพิธาเป็นนายกฯ เพราะไม่ยอมถอยการแก้ ม.112 ออกจากนโยบายหลักของพรรค

อนึ่ง ชัยธวัช คือผู้ร่วมก่อตั้งนิตยสารฟ้าเดียวกัน ร่วมกับธนาธร ชัยธวัชเป็นมือขวาของธนาธร และเป็นร่างทรงของธนาธรด้วย

ทุก move ของก้าวไกลที่ผ่านมา ล้วนอิงกับยุทธศาสตร์ล้มเจ้าของพรรคอนาคตใหม่ทั้งสิ้น

ถ้าก้าวไกลจะเอาความนิยม ควรต้องเลือกโรมเป็นหัวหน้าพรรค แต่นี่กลับเลือกชัยธวัช ที่ไร้เสน่ห์ดึงดูดสาวกสาว ๆ มันชัดเจนว่า ขัดตาทัพเพื่อรอธนาธรกลับมานำพรรคเท่านั้น

สะดุดตา ‘เสี่ยเท้ง’ ผู้ติดตาม ‘รองอ๋อง’ ทัวร์สิงคโปร์ ที่แท้อดีตเต็ง ‘รมว.ดีอีเอส’ ผู้ช่ำชองสงครามไซเบอร์

ต่อกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการใช้งบประมาณเดินทางไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ 1,379,250 บาท ของ ‘รองอ๋อง’ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และคณะผู้ร่วมเดินทางรวม 12 คน ระหว่างวันที่ 21-24 กันยายน โดยมีเหล่าชาวประชาจากพรรคก้าวไกล รวม 6 ชีวิตอยู่ในนั้น ... นาทีนี้คงมีผู้สันทัดกรณีต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปพอหอมปากหอมคอ

แต่ส่วนตัวของ Mr. K ดันไปตหงิดกะพ่อหน้านวล ชวนมองที่ชื่อ ‘เท้ง’ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อจากก้าวไกล และสาวหน้าหวาน 'เพ้น-ทิสรัตน์ เลาหพล' สส.กทม.เขตที่ 29 (บางแคเหนือ-บางไผ่-หนองค้างพลู) มีรายชื่อร่วมติดคณะไปด้วยเล็กน้อย ว่าจะไปทำอันหยังก่อ...

เพราะหัวข้อในการไปดูงานหนนี้ ‘รองอ๋อง’ ให้เหตุผล ว่าเป็นการไปดูงานเพื่อพัฒนาเรื่องของ รัฐสภาดิจิทัล Smart Parliament ที่สิงคโปร์มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการอำนวยความสะดวกเรื่องของงานนิติบัญญัติ และดูเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ทำให้เกิดการแก้ปัญหาเรื่องของหมอกควันได้ นั่นเอง

ในส่วนของ เพ้น Mr. K เอง ก็ไม่ค่อยคุ้นตาใต้ผลงานการเมืองเป็นรูปธรรมมากนัก แต่ก็หวังว่าคงมิได้แค่ไปช้อปยับให้เปลืองภาษีชาวประชาเล่นๆ ส่วน ‘ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ’ หากยังพอจำกันได้ ถือเป็นอดีตตัวเต็ง รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส จากก้าวไกล มีโอกาสเข้ามาในวงการเมือง ผ่านการดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการของพรรคก้าวไกล ฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูล และดิจิทัล เป็นหัวโขนหลัก

ซึ่งจะว่าไปแล้ว หากมองเผินๆ ก็ประจวบเหมาะเสียนี่กระไร เพราะเมื่อมองคุณสมบัติ ก็มิใช่เรื่องไกลตัวกับบทบาทของ ‘เสี่ยเท้ง’ ที่ดูเหมาะจะถูก ‘รองอ๋อง’ หนีบไปทัวร์ด้วย

แต่ที่บอกว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวนั้น อาจจะมิใช่เรื่องการผสานความชำนาญในสายดิจิทัลกับงานของประเทศ ก็เป็นได้ เพราะเดิม ‘เสี่ยเท้ง’ ก็จัดเป็นนายทุนพรรคก้าวไกลรายสำคัญ และว่ากันว่า กองทัพไอโอด้อมส้มเกลื่อนโซเชียล ที่ทำให้ 14 ล้านเสียงเทใจมากาให้ก้าวไกล ก็มาจากกลยุทธ์ของเขาผู้นี้

งานนี้ พอมองมุมกลับ เลยไม่รู้ว่า ‘เสี่ยเท้ง’ แค่ถูกหนีบไป หรือ อาสาพาตนเองไปศึกษาวิทยาการล้ำหน้าด้านใดในแดนลอดช่อง เพื่อมาส่งต่อความสนุกๆ รูปแบบไหนให้ด้อมส้มในโซเชียล ได้สร้างแรงสั่นสะท้านสังคมไทยกันแน่

อันที่จริง การชวดตำแหน่ง แคนดิเดต รมว.ดีอีเอส ไป หลังความดื้อรั้นของพรรคที่ไม่ยอมถอยแก้ 112 จนทำให้ ‘เสี่ยเท้ง’ (นายทุนพรรค) หลุดเก้าอี้จากกระทรวงฯ ก็ดูจะทำให้เขากล้ำกลืนอยู่ไม่น้อย เพราะแหล่งข่าวของ Mr. K แว่วให้ฟังว่า หาก ‘เสี่ยเท้ง’ ได้ก้าวขึ้นมานั่งเจ้ากระทรวงดีอีเอส อาจจะได้เห็น ‘สงครามไซเบอร์’ ครั้งใหญ่ ในฐานะมือกลยุทธ์แห่งหน่วยกองทัพไอโอส้มแน่นอน แต่จะเป็นหัวข้อลงลึกใด ก็หาระบุให้ชัดได้ไม่!! (แอบใบ้: สะเทือนสถาบันฯ)

สำหรับประวัติของ 'เสี่ยเท้ง-ณัฐพงษ์' พกพาปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยที่บ้านมีฐานะพอควร จากธุรกิจของบริษัท ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท เรืองปัญญา เคหะการ จำกัด ประกอบธุรกิจด้านอสังหาฯ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของครอบครัวเรืองปัญญาวุฒิ ภายใต้การนำของ นายสุชาติ เรืองปัญญาวุฒิ บิดาของนายณัฐพงษ์ กับยอดขายรวม 2 บริษัทเฉียดๆ 700 ล้านบาทในช่วงปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ณัฐพงษ์ ยังเคยเป็นผู้บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท เมเนจเม้นท์ โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ absolute.co.th ผู้ให้บริการคลาวด์ โซลูชัน ก่อนเข้ามาทำงานทางการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่ ก่อนจะย้ายมาพรรคก้าวไกล หลังอนาคตใหม่โดนยุบ และมีโอกาสนั่งเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ในปี 2562-2566 ด้วย

จากนั้น ช่วงปี 2555 บริษัท ABSOLUTE ก็ก้าวเข้าสู่ กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ตามมาด้วยปี 2556 เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีความทันสมัย ที่พัฒนาระบบขายอสังหาริมทรัพย์ ระบบทรัพยากรบุคคล พัฒนา ระบบขายอสังหาริมทรัพย์ (Real-estate) สำหรับบริหารจัดการ งานขาย บ้าน, คอนโด ฯลฯ

รวมๆ แล้วโปรไฟล์ไม่ธรรมดา!!

ฉะนั้น หากจะว่าไปแล้ว ... การร่วมคณะไปดูงานต่างประเทศของหนุ่มหน้านวลผู้นี้ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และต่อให้เขานั้นจะมีฐานะร่ำรวยเพียงใด แต่เมื่อได้สิทธิจากการเป็น สส. ติดกายมาแล้ว ก็หวังให้ไปทำงานเพื่อชาติ อย่างที่ปากว่าจริงๆ ก็พอ...

เรื่อง: Mr. K

‘ปิยบุตร’ จวก ‘ก้าวไกล’ เมินเฉย ‘ช่อ’ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ลั่น!! ถ้าพรรคไม่แถลง เดี๋ยวไลฟ์อรรถาธิบายหมดเปลือกเอง

(21 ก.ย. 66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ และโฆษกคณะก้าวหน้าถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดไป ว่า

ผมทราบข่าวกรณีคุณช่อ พรรณิการ์ วานิช ตั้งแต่บ่ายสามแล้ว แต่จงใจยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ เพราะ อยากรอดูว่าพรรคก้าวไกลจะมีการสื่อสารแบบเป็นทางการออกมาบ้างหรือไม่ แต่จนถึงตอนนี้ ไม่มีเลย พบเห็นแค่มี ส.ส.บางคนแสดงความไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง แต่ไม่มีการแถลงหรือวิจารณ์ใด ๆ ออกจากพรรคก้าวไกลแม้แต่น้อย

อย่าใช้เหตุผลนะครับว่า คุณช่อไม่ใช่สมาชิกพรรคก้าวไกล นั่นคนละเรื่องเลย พรรคการเมืองสามารถแสดงความเห็นได้อยู่แล้ว ยังไม่นับว่าคุณช่อเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคก้าวไกลด้วย ในขณะที่ ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล และผู้สนับสนุนพรรคอื่น ยังแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวาง แต่พรรคก้าวไกลกลับ ‘เงียบกริบ’

เงียบจนผมรู้สึกว่า ‘ไร้น้ำใจ’ กับพรรณิการ์ วานิช จนเกินไป

ในเมื่อพรรคก้าวไกลไม่พูดอะไรเลย ก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมแถลงวิจารณ์คดีนี้เอง วันสองวันนี้ ผมจะไลฟ์ อรรถาธิบายทั้งหมดครับ

ระหว่างนี้ อ่านข้อเขียนที่ผมเคยวิจารณ์สมัยที่คุณปารีณา ไกรคุปต์ ถูกศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต ไปพลางก่อนได้ครับ

จากนั้น นายปิยบุตร ได้เขียนข้อความเพิ่มเติมในช่องแสดงความคิดเห็น ว่า สำหรับท่านที่เห็นว่า ต้องให้เวลา คนของพรรคเสียหน่อย แต่ทำไมเรื่องอื่น พรรคตอบโต้ได้เร็วล่ะครับ

ยังไม่ต้องถึงขนาดวิจารณ์แบบวิชาการลงละเอียดก็ได้ ขอแค่แสดงจุดยืนก็ยังดี 

มีแต่ สส. บางคนแสดงความเห็นกันเอง แล้วก็สะเปะสปะ ไม่มีทิศทางด้วย

พรรคก้าวไกลได้โอกาส ‘ฮันนีมูน’ จากผู้สนับสนุน พร้อมจะแก้ต่างและเข้าใจไปเสียทั้งหมดได้ แต่ต่อไปช่วงเวลา ‘ฮันนีมูน’ จะค่อย ๆ หมดลง

พรรคก็ควรคิดจริงจังเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว

สำหรับผม ถ้าพรรคไม่พร้อม ไม่มีคนโต้ศาลได้ อย่างน้อยแสดงจุดยืนบ้างก็ยังดี

ในเมื่อพรรคก้าวไกลมีจุดยืนเรื่องทำรัฐธรรมนูญใหม่ เรื่องโต้แย้งความผิดปกติของรัฐธรรมนูญ 60 แต่พอเกิดเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก กลับเงียบกริบ

‘อี้ แทนคุณ’ จี้ ‘รองอ๋อง’ ลาออกรอง ปธ.สภา เซ่นปม ‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ คุกคาม-ล่าแม่มดคนเห็นต่าง

(21 ก.ย. 66) ดร.แทนคุณ​ จิตต์​อิสระ​ รักษา​การ​ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ ​พรรค​ประชา​ธ​ิ​ปัตย์ ​กล่าว​ถึง​นางอมรัตน์​ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ ก้าวไกล ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่ 1 นายปดิพัทธ์​ สันติ​ภาดา ​หรือ หมออ๋อง ที่มีพฤติกรรมละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสิทธิ​มนุษยชนด้วยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของแฟนคลับ​การเมือง​ผู้ที่วิจารณ์นักการเมือง ซึ่งถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยและบุคคลสาธารณะย่อมถูกวิจารณ์ได้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย 

โดยพฤติกรรมของนางเจี๊ยบ อม​รัตน์​ ได้ใช้วิธีล่าแม่มด คุกคามทำให้ผู้เห็นต่าง รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต การงานและจิตใจ โดยเฉพาะการไปบุกไปถึงที่ทำงาน ถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบเหมือนกับที่คนในโลกโซเชียล ขนานนามให้ว่า ‘เจี๊ยบ ศาลเตี้ย’ หรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดจากการให้ท้ายของนายปดิพัทธ์ด้วยหรือไม่ ที่คิดว่าพอมีตำแหน่งใหญ่โตแล้วจะทำอะไรผิดกฎหมายซ้ำ ๆ ​หลังล่าสุดพบว่าที่สิงคโปร์​จัดงานเทศกาล​อาหารและเบียร์ ​ที่อาจจะ​เป็น​เป้าหมายจริงของการผลาญ​งบแผ่นดินหรือไม่​ เพราะการกระทำดังกล่าวของ ‘เจี๊ยบ’ ถือเป็นการใช้สิทธิเกินสิทธิ​ มีการเปิดเผย ชื่อที่อยู่ และโยงสมาชิกในครอบครัว เป็นการละเมิดสิทธิคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยโดยพฤติกรรม​ต่อหน้าปากประชาธิปไตย แต่น้ำใจอนาธิปไตย​ 

ก่อนหน้านี้​เวลาไม่พอใจใครจะใช้คำหยาบ​คายวิจารณ์คนอื่นได้หมดพอโดนวิจารณ์กลับบ้าง กลับไปคุกคามเขาและการที่ขอโทษสำนึกผิด​ต่อให้ ‘อมพระรัตนตรัย’ มาพูดก็ไม่เชื่อ ซึ่งขอให้พี่น้องประชาชนได้จับตาดูว่า ถ้าหากนายปดิพัทธ์ไม่ทำอะไรใด ๆ ก็เท่ากับ ‘รู้เห็นเป็นใจ’ พฤติกรรมดังกล่าว เพราะตั้งแต่มีสภาผู้แทนราษฎรมา ไม่เคยมีรองประธานคนไหนมีพฤติกรรมอื้อฉาวรายสัปดาห์ให้คนเอือมระอาได้แบบนี้ ควรพิจารณา​ตัวเอง ‘ลาออก’ ดีกว่าอยู่ต่อไป

นอกจากนี้กรณีช่อ พรรณิการ์ ที่ผลการตัดสินของศาลฎีกาที่ตัดสิน​ให้การกระทำผิดจริยธรรม​ได้รับผลกรรมเสมือนเด็ดดอกไม้ช่อเดียวสะเทือนทั้งสวนส้ม โดยการตัดสิทธิ์​การเมือง ‘ช่อ’ ชั่วชีวิต​ จะทำให้ สส.พรรคนี้ ที่ชอบทำอะไรเอาแต่ใจไม่สนว่าผิดกฎหมายผิดจริยธรรม ​รวมทั้งนายพิธาด้วยที่มีพฤติกรรม​​นำเด็ก​ไปหาประโยชน์​ทางการเมือง​ โดยที่บอกว่ากาก้าวไกลประเทศไทย​ไม่เหมือนเดิมคือมาตรฐาน​จริยธรรม​และสิ่งที่ดีงามที่เคยมีจะค่อย ๆ ถดถอยเสื่อมทราม ตกต่ำลงเรื่อย ๆ หรือไม่ โดยเชื่อว่าเมื่อกฎหมาย​ศักดิ์​สิทธิ​์บ้านเมือง​จะหอมกลิ่น​ความเจริญ​ บรรดา สส.กระทำความผิด​จะค่อย ๆ ถูกดำเนินคดี​จนหมดไปในที่สุด​

'โตโต้' โวย!! กลไกแฝงใน 'รธน.60' ทำ 'ช่อ' หมดอนาคตการเมือง ลั่น!! รธน.ฉบับนี้ มีไว้ 'ปราบ-กลั่นแกล้ง' นักการเมืองที่ไม่ยอมจำนน

(21 ก.ย.66) ที่รัฐสภา นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม.พรรคก้าวไกล แถลงกรณีศาลฎีกาพิพากษา น.ส.พรรณิการ์ วานิช ถอนสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ว่า ในฐานะที่ตนอภิปรายแนวนโยบายของรัฐบาล หลักนิติธรรม โครงสร้างปัญหาของประเทศ และการใช้นิติสงคราม กับนักการเมือง เป็นการปราบโกงหรือปราบใคร เนื่องจากเนื้อแท้ของเรื่องนั้นแฝงอยู่ในรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อให้อำนาจองค์กรอิสระพิจารณาออกจริยธรรมขององค์กรขึ้นมา โดย สส. - สว.และคณะรัฐมนตรี ต้องอยู่ภายใต้จริยธรรมดังกล่าวด้วยจึงเกิดปัญหาตามมา เช่น กรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับจริยธรรมจะไม่สิ้นสุดที่องค์กรอิสระแต่จะไปสิ้นสุดที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเอาผิดต่อได้ ถือเป็นการลงโทษซ้ำซ้อน

นายปิยรัฐ กล่าวต่อว่า ปัญหาคือการใช้มาตรฐานจริยธรรมขององค์กรอิสระมาใช้กับนักการเมือง จึงต้องถามกับองค์กรอิสระว่าในอดีตเคยทำผิดจริยธรรมหรือไม่ก่อนมาดำรงตำแหน่ง ความผิดของนางสาวพรรณิการ์ เป็นความผิดที่เกิดขึ้นก่อนมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงเชื่อว่านี่ไม่ใช่รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง แต่เป็นการเปิดโอกาสให้รัฐธรรมนูญกลั่นแกล้งนักการเมือง ปราบนักการเมืองที่ไม่ยอมจำนน และนักการเมืองที่ไม่ยอมอยู่เป็น ด้วยกฎหมายนี

ด้าน นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.นนทบุรี พรรคก้าวไกล กล่าวว่า น.ส.พรรณิการณ์ เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ตั้งแต่ตั้งพรรคอนาคตใหม่ ตนขอตั้งคำถามว่ามาตรฐานจริยธรรมของ สส.ต้องย้อนกลับไปก่อนที่จะมาเป็น สส.หรือไม่ พฤติกรรมในอดีตสามารถนำมาใช้ในขณะเป็น สส.หรือไม่ รวมถึงการกระทำที่เกิดไปแล้ว ความผิดเหล่านั้นยังคงติดตัวหรือไม่ ขอฝากไปถึงองค์กรอิสระว่าสิ่งที่วางบรรทัดฐานไว้ถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้คนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีโทษในมาตรา 112 หากถูกตรวจสอบจริยธรรมจะซ้อนทับกับกฎหมายอาญาหรือไม่ และยุติธรรมหรือไม่ หากในอนาคตกฎหมายนี้ย้อนกลับมาที่ตัวท่านเอง

ขณะที่ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในแง่ของกฎหมาย ไม่ควรมีกฎหมายลงโทษย้อนหลัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นการตัดสิทธิ์ทางการเมือง หากเทียบทางอาญาถือเป็นโทษประหารชีวิต ถือเป็นโทษสูงหากเทียบพฤติการณ์

เมื่อถามว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมาแสดงความเห็นว่าพรรคก้าวไกลแสดงท่าทีล่าช้า และแล้งน้ำใจ นายปิยรัฐ กล่าวว่า ความเห็นดังกล่าวถือเป็นคุณูปการกับพรรค ในนามพรรคก้าวไกลได้มีการแถลงข่าวผ่านทางเพจเฟซบุ๊กไปแล้ว แต่ในการแถลงข่าววันนี้ไม่ได้แถลงในนามพรรค ไม่ได้ต้องการให้มองว่าเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล พรรคก้าวไกลก็หารือภายใน ไม่สามารถแอ็กชันได้ทันท่วงที เนื่องจากเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) มีการประชุมสภาด้วย

เมื่อถามต่อว่า ได้มีการคุยกับ น.ส.พรรณิการ์ หรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้คุยกับ น.ส.พรรณิการ์ แต่คิดว่าทางพรรคน่าจะพูดคุยกันตามปกติ

เมื่อถามถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากไม่อยากให้ศาลพิจารณาเรื่องจริยธรรม นายปิยรัฐ กล่าวว่า ตามที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลได้นำเสนอการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการต่อยอด เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เราเสนอให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และไม่เกิดเครื่องมือทางการเมือง

เมื่อถามว่า เป็นการเขียนเสือให้วัวกลัวหรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า ไม่ใช่การเขียนเสือให้วัวกลัว เพราะไม่ได้พุ่งเป้ามาที่พรรคก้าวไกล หรือคดีมาตรา 112 เท่านั้น แต่คำถามสำคัญก็คือ กรณีทั่วไปที่ศาลเคยตัดสินโทษไปแล้ว ศาลฎีกาจะกลับมาเอาโทษนักการเมืองคนนั้นในภายหลังได้อีกหรือไม่

"ผมว่าไม่ใช่การเขียนเสือให้วัวกลัว เพราะไม่ได้พุ่งเป้ามาที่พรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่นักการเมืองทุกคน ต้องสำนึกว่ากฎหมายอยู่ในมือใคร และจะใช้กฎหมายกับใคร" นายปิยรัฐ กล่าว

วัดใจ 'ทักษิณ' ห่วง 'อิ๊ง-ฐา' ต้องสวมชุด นช.อย่างสง่าผ่าเผย ฟาก 'ก้าวไกล' 3ป.ถูกปิดสวิตช์ โดนโปลิตบูโรยึดพรรค

เลียบการเมือง ประจำวันเสาร์สุดสัปดาห์...ประสา 'เล็ก เลียบด่วน' ขอหมายเหตุขีดเส้นใต้ข่าวสารสำคัญเอาไว้เป็นบันทึกช่วยจำและทำนายทายทักเหตุการณ์แบบไม่กลัวหน้าแหก...

โกอินเตอร์... ประเดิมตำแหน่งนายกรัฐมนตรีป้ายแดง บนเวทีประชุมสมัชชายูเอ็นครั้งที่ 78 ... ตัดเรื่องหยุมหยิมที่ยังตรวจสอบกันต่อได้คือค่าเครื่องบินเหมาลำ 30 ล้านบาทออกไป ก็ต้องยอมรับว่า ... เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ของเรา 'สอบผ่าน' แต่จะได้กี่คะแนนก็ว่ากันไป  

สำหรับ เล็ก เลียบด่วน เต็ม 10 เอาไป 7.5 ... รอบหน้าฟ้าใหม่ถอดบทเรียนความผิดพลาดจากครั้งแรก ประเภทบอกตัวเองในใจว่า ‘รู้งี้…’  ให้ดีๆ มีโอกาสได้คะแนน 9.9 ทีเดียวเชียวแหละ...

ถ้าจะให้ความเป็นธรรมกับนายกฯ เศรษฐา กรณีข่าวที่ว่าจะตั้งทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาก็ต้องบอกว่า นายกฯ เศรษฐาไม่ถึงกับตอบนักข่าวบลูมเบิร์กว่าจะตั้งเป็นที่ปรึกษา แต่บอกว่าเมื่อทักษิณพ้นโทษแล้วก็คงต้องขอคำปรึกษาเหมือนกับที่ไปปรึกษากับนายกฯ ท่านอื่นๆ ... จะว่าไปกรณีนี้ ก็เป็นข่าวผสมการตีความจากสารตั้งต้นที่บลูมเบิร์กเขาพาดหัวข่าว ... Thaksin Has Role to Play After Prison Term, New Thai Leader Says…นั่นแล...

พูดถึงกรณีทักษิณ คนชื่อเศรษฐาก็พึงตระหนักให้ตลอดว่า... เป็นสายล่อฟ้าทางการเมือง ยิ่งทักษิณยังทำตัวเป็นนักโทษเทวดาสายล่อฟ้านี้ ก็จะยิ่งอันตราย จะทำลายคุณค่าของนายกฯ ให้เสื่อมทรามลง ตรงข้ามหากทักษิณบำเพ็ญตนเป็นนักโทษธรรมดา... หนุนเศรษฐาให้เป็นนายกฯ ที่นำความปรองดองสมานฉันท์กลับคืนสู่สังคมไทยดังที่ สว.สมชาย แสวงการ เสนอแนะเอาไว้เมื่อวันก่อน ก็จะเป็นคุณกับรัฐบาล เป็นผลดีกับบ้านเมือง และตระกูลชินวัตรที่กำลังปลุกปั้นซอฟต์พาวเวอร์อุ๊งอิ๊งไปสู่ดวงดาว... เฮ่อ พูดก็เหนื่อยใจ จะเป็นไปได้ซัก 50 เปอร์เซ็นต์มั้ยเนี่ย...!?

ขณะปั่นต้นฉบับเที่ยงวันเสาร์ ... ทราบเบื้องต้นผลการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคก้าวไกลเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ... เป็นไปตามโผในมือ 'เล็ก เลียบด่วน' หัวหน้าพรรค คือ 'เดอะต๋อม' ชัยธวัช ตุลาธน ที่ขึ้นมาจากเลขาธิการพรรค ส่วนเลขาธิการพรรคคนใหม่ คือ เพื่อนเลิฟของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและเดอะต๋อม ... เขาคือ ... เดอะติ๋ง หรือ 'ปลัดติ๋ง' อภิชาติ ศิริสุนทร ส่วนไอติม พริษฐ์ วัชรสินธูุ์ โฆษกพรรค

อันว่า ... อภิชาติ ศิริสุนทร นั้นเป็นอดีตนักกิจกรรมค่ายอาสาพัฒนาราม-อีสาน เป็นอดีตเอ็นจีโอนักพัฒนา เป็นปลัดอบต.จระเข้ อ.หนองเรือ ขอนแก่น ยาวนาน เพื่อนๆ จึงเรียกขานว่า 'ปลัดติ๋ง'

กล่าวได้ว่าพรรคก้าวไกลนาทีนี้ ... แม้อาจจะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งหรือขึ้นมาขัดตาทัพ แต่นี่คือกลุ่มกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรของพรรค ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนเอก ธนาธร ย่างสามขุมขึ้นกุมบังเหียนพรรคค่อนข้างเต็มรูป ขณะที่ตัวละครดังที่เรียกขานกันเล่นๆ ว่า 3ป. หรือ 3P ของก้าวไกลคือ พิธา ลิ้มแจริญรัตน์, พรรณิการ์ วานิช และปิยบุตร แสงกนกกุล ต้องปิดสวิตช์ตัวเองลงชั่วคราว ด้วยเหตุผลที่เป็นคนละเรื่อง (แต่) เดียวกัน ...

สรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ ... เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ... อาเมน!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

'ศิริกัญญา' เฉลย!! เงินดิจิทัลกู้จากแบงก์ออมสิน ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ แต่เบียดบังงบพัฒนาชาติ

(25 ก.ย.66) นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียล โดยระบุว่า “ปริศนาทุกอย่างกระจ่างแล้ว ที่มาของงบ Digital Wallet จะมาจากการกู้แบงก์รัฐ (ออมสิน) โดยการขยายกรอบวินัยการเงินการคลังขึ้นไปเป็น 45% ของงบปี 67 จากเดิม 32% ไม่ได้มาจากงบประมาณตามที่ได้หาเสียง

ข้อดี : หนี้แบงก์รัฐจะไม่ถูกนับเป็นหนี้สาธารณะตามกฎหมาย

ข้อเสีย :1) แต่เป็นหนี้ยังไงก็ต้องจ่ายคืน ทุกวันนี้ต้องจ่ายคืนปีละเกือบแสนล้านบาทให้กับ ธ.ก.ส. และรัฐวิสาหกิจอื่นๆ อยู่แล้ว ถ้าจ่ายคืนออมสินปีละ 5 หมื่น ก็เป็นภาระไปอีก 10 ปี รวมแล้วงบประมาณต้องใช้คืนหนี้ทั้งหมดก็จะพุ่งไปราว 5 แสนล้าน เบียดบังงบประมาณที่ต้องใช้พัฒนาประเทศอื่นๆ

2) ใช้งบประมาณสูงมากโดยไม่ต้องผ่านสภา ใช้แค่มติ ครม. ก็สามารถกู้เงินได้ทันที ไม่ต้องมีการตรวจสอบใดๆ การกู้ผ่าน ม.28 ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะทั้งจำนวน หน่วยงานเจ้าหนี้ และภาระการคืนเงินต้นและดอกเบี้ย

3) กระทบกรอบวินัยการเงินการคลัง ที่ต้องการจำกัดการใช้เงินนอกงบ และนโยบายกึ่งการคลังให้น้อยลง

4) สภาพคล่องของออมสินอาจมีปัญหา ทั้งจากการระดมทุนเวลานี้ และหากรัฐไม่ใช้คืนตามสัญญา (ธ.ก.ส.เจอมาตลอด) จะบริหารเงินสดได้ยากลำบาก

อยากถามนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการการเงินการคลังของรัฐว่าท่านรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไร”

‘พีระพันธุ์’ ส่งหนังสือเชิญ สส.ก้าวไกล  หารือปัญหาพลังงานที่ทำเนียบบ่ายวันนี้

(26 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (22 ก.ย. 66) ที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่นร 0403 (กร6)/8878 เพื่อเชิญ นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 26 กันยายน เวลา 13.30 น. เนื่องจากเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 นายศุภโชติได้ยื่นกระทู้สดด้วยวาจาถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สภา เกี่ยวกับปัญหาพลังงาน แต่ในวันดังกล่าวนายพีระพันธุ์ไม่ได้เข้าร่วมประชุมสภาเนื่องจากติดภารกิจที่จังหวัดชุมพร

นายพีระพันธุ์จึงทำหนังสือเชิญให้นายศุภโชติเข้ามาร่วมหารือที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 26 กันยายนก่อนเพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายด้านพลังงาน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการสอบถามและการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชนร่วมกัน

นอกจากนี้ ในวันที่ 28 กันยายนนี้ นายพีระพันธุ์จะต้องร่วมเดินทางไปกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการอีกด้วย จึงทำให้นายพีระพันธุ์ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมสภาในวันดังกล่าวได้อีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top