Thursday, 2 May 2024
กองทัพเรือ

กองทัพเรือโดย ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของ ปชช.ในพื้นที่รับผิดชอบ 

กองทัพเรือโดย ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณชุมชนเนินบรรพต ต.บางเสร่  อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย กำลังพลจิตอาสาทัพเรือภาคที่ 1 กำลังพลจิตอาสาจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กำลังพลจิตอาสาจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กำลังพลจิตอาสาจาก โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เทศบาลตำบลบางเสร่ และประชาชนกลุ่มจิตอาสาในชุมชนพื้นที่ ต.บางเสร่  รวมทั้งสิ้น 100 นาย ร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำความสะอาดและปรับภูมิทัศน์โดยรอบ บริเวณสวนสาธารณะบางเสร่ รวมทั้งร่วมกันเก็บขยะชายหาด บริเวณชายหาดบางเสร่ ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง กองทัพเรือและชุมชนพื้นที่ใกล้เคีย

'เสธทร.' ย้ำ จำเป็นต้องมีเรือดำน้ำตามยุทธศาสตร์ ยืนยันกับจีนแล้วว่าขอสเปกเดิม เครื่องยนต์ MTU 396 ไม่น้อยใจถูกฝ่ายค้านโจมตี ต้องสู้ต่อไป

เมื่อเวลา 11.50 น.วันที่ 3 มี.ค.ที่ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการจัดหาเรือดำน้ำ กล่าวถึงปัญหาเรื่องเรือดำน้ำ ว่า อย่างที่ทุกคนพอทราบข่าว ขอเรียนว่าจะทำให้ดีที่สุด และได้เเจ้งทางฝ่ายจีนไปว่าขอยืนยันตามสัญญาทุกประการ เพื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและกองทัพเรือเป็นสำคัญ ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าถ้ากองทัพเรือยืนยันในเครื่องยนต์ MTU แต่ทางเยอรมันไม่ขายให้จีน ได้เตรียมทางออกไว้อย่างไร เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า เราได้ยืนยันกับทางจีนไปว่าเราปฏิบัติตามสัญญา ก็คงต้องไปเข้าสู่ฝั่งจีน

เมื่อถามต่อว่าถ้าเครื่องยนต์เป็นการผลิตของจีน แต่สเปกใกล้เคียงกัน จะยอมรับได้หรือไม่ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวย้ำว่า ได้ยืนยันไปแล้วว่าต้องเป็น MTU 396

เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้าน ระบุบริษัท csoc จากจีนส่งผู้จัดการโครงการและผู้บริหาร 4 คนมาคุมงานก่อสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ แต่พบข้อมูลว่าเป็นครูสอนภาษาจีนนั้น ขอย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพเรือชี้แจงไปแล้ว ขอไม่ให้ข่าวซ้ำ โดยมี นาย Lang Qingxu เป็นผู้บริหารโครงการ และมีนายจักรพงษ์ วงศ์ธนปกรณ์ เป็นวิศวกรโครงการ ส่วนบุคคลอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้อง

ส่วนหากฝ่ายจีนดำเนินการไม่ได้ สามารถเรียกค่าปรับได้หรือไม่ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า อยู่ในสัญญาเรียบร้อย แต่ยังไม่ไปถึงขั้นนั้นขอให้ใจเย็นๆ พร้อมยอมรับปัจจุบันสัญญาการส่งมอบได้เลื่อนออกไปเป็นเดือนพฤษภาคม ปี 2567 เนื่องจากปัญหาโควิดที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งขอเลื่อนมา 6 เดือนแล้ว

เมื่อถามอีกว่า ถ้ามันไม่ได้ แล้วขอเลื่อนไปเรื่อยๆ จะมีแผนรองรับอย่างไร เพราะเป็นเรือดำน้ำลำแรกที่จัดซื้อ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า เราพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด เราอยากได้เรือดำน้ำมาใช้เพราะเป็น ยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ซึ่งยุทธศาสตร์ของชาติต้องมีเรือดำน้ำ

เมื่อถามว่า ถ้าจีนเสนอเรือดำน้ำมือ 2 มาให้ จะพิจารณาอย่างไร เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า ยังไม่ทราบตรงนี้ เพราะยังเป็นแค่ข่าว ยังไม่ได้รับทราบอย่างเป็นทางการจากฝ่ายจีน

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ฝ่ายค้านโจมตีเรื่องเรือดำน้ำบ่อยครั้ง เสนาธิการทหารเรือ มองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ

เมื่อถามต่อว่า น้อยใจหรือไม่จะซื้อเรือดำน้ำทีก็มีอุปสรรค เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ เราคงน้อยใจไม่ได้ เราคงต้องสู้ต่อไป เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของชาติและยุทธศาสตร์กองทัพเรือ

ผบ.ทร. ให้ทหารเรือทั้งกองทัพ ยึดหลัก "เหล็กในคนสำคัญกว่าเหล็กในเรือ" ในการฝึกกองทัพเรือ 2565

พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวในโอกาสเป็นประธาน ในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 บนเรือหลวงอ่างทอง ณ บริเวณท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อ 3 มี.ค.65  มีใจความที่สำคัญว่า  “เป็นทราบกันดีว่า กำลังรบของกองทัพเรือ เป็นกำลังรบที่มีครบทั้งสี่มิติ คือผิวน้ำ ทางบก ทางอากาศ และใต้น้ำ ด้วยความหลากหลายของกำลังรบนี้ ทำให้กำลังพลทุกนายของกองทัพเรือ จำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญที่มากกว่าปกติ และที่มากกว่านั้นก็คือ ต้องมี “การประสานสอดคล้อง” ที่จะทำให้กำลังรบทุกมิติของเรา ประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน เสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน ประกอบกำลังเป็น “กำลังทางเรือ” ที่พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ จากภัยคุกคามในทุกมิติและทุกรูปแบบ 


     ในการนี้ กองทัพเรือ จึงได้จัดให้มีการฝึกประจำปี ของกองทัพเรือ ขึ้น เพื่อให้กำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ได้มีโอกาสฝึกร่วมกัน ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสาขาปฏิบัติการต่างๆ และได้มีโอกาสทดสอบขีดความสามารถ ตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อม ทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี ซึ่งในปีนี้จะมีการฝึก ในหลายสาขาปฏิบัติการ ซึ่งผู้อำนวยการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ได้แจ้งให้ทราบแล้ว  


 สำหรับการฝึกกองทัพเรือ ในครั้งนี้ เป็นที่ทราบดีว่าอยู่ภายใต้ข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดจากงบประมาณในการฝึกที่มีจำกัด ยุทโธปกรณ์บางอย่างอาจมีสภาพไม่สมบูรณ์ ไม่เพียงพอ และที่สำคัญ ในห้วงเวลานี้คือ การระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้เปรียบได้ว่าเป็นข้อจำกัด ที่อาจเกิดขึ้นได้ ในยามสงครามจริง ๆ เราจึงต้องทำการฝึกให้ได้ ซึ่งหมายถึง “ทหารเรือจะต้องบรรลุภารกิจ แม้ยามประเทศชาติจะมีข้อจำกัดใดๆ ก็ตาม” เราจำเป็นต้องฝึก เพื่อเป็นหลักประกันของความมั่นคง และการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ฝึกเพื่อแสดงถึงศักยภาพของกำลังพลที่มีความพร้อม หากมีภัยมาถึง ฝึกเพื่อป้องปรามให้กำลังที่จะเป็นภัยคุกคามต่อชาติเรา ให้มีความยับยั้งชั่งใจ สิ่งเหล่านี้คือคำตอบในภาพรวมที่ว่า เราฝึกเพื่อชาติและประชาชน และพี่น้องประชาชนคนไทย จะต้องได้รับประโยชน์ จากการฝึกของกองทัพเรือ ในครั้งนี้ 

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ตรวจการฝึก ของหมู่เรือฝึกช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ 65

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการและคณะ ได้เดินทางไปตรวจการฝึก ของหมู่เรือฝึกช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ 65 บนเรือหลวงอ่างทองซึ่งออกเรือฝึก บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง โดยได้รับฟังการบรรยายแผนการฝึก และ ชมการสาธิตการปฏิบัติการทางทหาร ร่วมกับเรือหลวงมกุฎราชกุมาร อากาศยาน และชุดปฏิบัติการพิเศษ เพื่อเตรียมความพร้อมของเรือ กำลังพล ยุทโธปกรณ์ และทีมแพทย์ สำหรับการออกไปช่วยเหลือประชาชนกรณีหากเกิดภัยพิบัติ

หวั่นโชว์โง่รอบสอง! ‘โจ้ ยุทธพงศ์’ หวั่น ทร.เจ็บซ้ำ ปม ทุ่ม 4 พันล้านซื้อโดรนไร้คนขับ!

(19 มี.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 กองทัพเรือตั้งงบเพื่อซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำแต่ถูกกรรมาธิการ (กมธ.) ตัดงบประมาณไป 2.25 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีการจัดงบซื้อ Hermers 900 อากาศยานไร้คนขับอีก 4.1 พันล้านบาท 

ซึ่งระหว่างที่มีการพิจารณางบประมาณปี 65 ตนได้ออกมาคัดค้านเรื่องนี้ เพราะไม่มีเหตุผลที่กองทัพเรือจะต้องซื้อโดรน โดยช่วงแรกกองทัพเรือได้ให้ใบเสนอราคาของ 2 บริษัท ส่งมาที่ กมธ. คือ บริษัทแรกคือ China National Aero-Technology Import & Export Corporation หรือ CATIC จากประเทศจีน ซึ่งเสนอ UAV แบบ Wing Loong ll จำนวน 3 ลำมาให้กองทัพเรือ แต่วันนี้กลับถอย และไม่กล้าซื้อ เพราะเคยซื้อเรือดำน้ำจากจีน 3 ลำแต่ไม่มีเครื่องยนต์ และกองทัพเรือก็ยังไม่ชี้แจงที่ให้ครูสอนภาษาจีนมาทำท่าจอดเรือดำน้ำ ทั้งนี้ตนยังได้ข้อมูลลับเกี่ยวกับท่าจอดเรือดำน้ำที่มีความผิดปกติมาด้วย 

“ทร.”  โต้ “ยุทธพงศ์” ปมจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับ (UAV) ระบุ ไม่เกี่ยว บ.จัดซื้อเรือดำน้ำ  

เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน  โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึง กรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร กล่าวหาฃกองทัพเรือในกรณีการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโครงการท่าเรือดำน้ำนั้น ว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นไปตามที่กล่าวหา โดยตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ไม่พบว่าบริษัทที่มายื่นข้อเสนอ UAV มีความเกี่ยวพันกับบริษัทเรือดำน้ำ และขอยืนยันว่ากองทัพเรือได้ดำเนินการจัดหา UAV ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด มีใช้งานจริงในกองทัพของหลายประเทศ มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการใช้งานสูง รวมถึง ประเด็นครูภาษานั้น ทร.ได้ตรวจพบเองตั้งแต่ต้น และได้ดำเนินสั่งห้ามบุคคลเหล่านั้นเข้าพื้นที่ ตั้งแต่ ธ.ค.64 โดยขอแยกเป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้ 
 
1. ประเด็นที่ระบุว่า กองทัพเรือเปลี่ยนแบบ UAV จาก Wing Loong ของประเทศจีน เป็น UAV แบบ Hermes 900 ของประเทศอิสราเอล เนื่องจากปัญหาความไม่โปร่งใสในโครงการจัดหาเรือดำน้ำของจีนโดย บริษัทที่นำ UAV แบบ Hermes 900 เข้ามาอยู่ในเครือข่ายบริษัทนายหน้าของเรือดำน้ำจีนเช่นกันนั้น กองทัพเรือขอชี้แจงว่า ได้ตรวจสอบความสัมพันธ์มของผู้ยื่นข้อเสนอ UAV ทุกรายเบื้องต้นแล้ว ไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันและไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหาเรือดำน้ำแต่อย่างใด ทั้งนี้การดำเนินโครงการจัดหา UAV ในครั้งนี้ เป็นการจัดซื้อโดยวิธีคัดเลือก โดยกำหนดคุณสมบัติและขีดสมรรถนะตามความต้องการของกองทัพเรือ ซึ่งจะต้องมีการรับรองมาตรฐานด้านการบิน มีความน่าเชื่อถือและความพร้อมใช้งาน รวมทั้งมีความสามารถในการอยู่รอดสูง ในการปฏิบัติภารกิจทั้งทางทะเลและทางบก มีใช้งานในกองทัพของประเทศผู้ผลิต มีค่าใช้จ่ายต่ำ มีการฝึกอบรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ตลอดจนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงการฯ สูงสุด แต่เนื่องจากการดำเนินการจัดซื้อยังไม่เสร็จสิ้น จึงยังไม่สามารถให้รายละเอียดทั้งหมดได้
 
2. ประเด็นข้อกล่าวหาว่า UAV แบบ Hermes 900 ของอิสราเอล เป็น UAV ที่ กองทัพเรือประเทศอื่นไม่เคยใช้งานมาก่อน รวมถึงมีประวัติการตกนั้น ขอนำเรียนว่า  UAV ของทุกบริษัทที่ ทร.เชิญชวนยื่นข้อเสนอ มีใช้กันในหลายประเทศ และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จึงขอให้วางใจว่ากองทัพเรือจะได้รับ UAV ที่ได้มาตรฐาน คุ้มค่ากับภาษีของประชาชนมาใช้งาน ส่วนเรื่องการตกของ UAV นั้น เป็นเรื่องเป็นไปได้ เหมือนการตกของเครื่องบินชนิดอื่นๆ ซึ่งจากข้อมูลการตกของ UAV ทั่วโลก อ้างอิงจากเว็บไซต์ https://dronewars.net/drone-crash-database/ พบว่ามี UAV หลายประเทศทั้งของ อิสราเอล สหรัฐอเมริกา จีน อิตาลี ตุรกี รวมถึง ประเทศอื่นๆ  มีประวัติเกิดอุบัติเหตุเหมือนกันหมด ดังนั้นการตกของ UAV อาจจะไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของระบบหรือความผิดปกติของเครื่องยนต์ แต่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การโดนต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม สภาพอากาศที่แปรปรวน /ทักษะ หรือประสบการณ์ของผู้บังคับเครื่อง UAV อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับความน่าเชื่อถือของระบบ มั่นใจได้ว่า ระบบ UAV ที่ ทร.จะได้รับดีที่สุดตามวัตถุประสงค์การใช้งานและความต้องการของ ทร. ในวงเงินที่กำหนด   3.”กองทัพเรือขอเรียนว่า การจัดหา UAV ในครั้งนี้ ได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม เป็นไปตามกฎหมาย และปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน  มีเอกสารหลักฐานการดำเนินงานอย่างชัดเจน มีขั้นตอน ตอบข้อสงสัยและข้อซักถาม รวมทั้งโครงการนี้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมการจัดทำ “ข้อตกลงคุณธรรม ประจำปี งป. 65” โดยคณะกรรมการความร่วมมือการป้องกันการทุจริต (ค.ป.ท.) ได้จัดคณะผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาคประชาชน ร่วมสังเกตและให้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ”

กองทัพเรือ ลงทัณฑ์ ‘จ่าโททักษิณ’  อุตริบังคับทหารใหม่กินอสุจิ สั่งขัง 30 วัน พร้อมปลดออกจากราชการ และธำรงวินัย ผู้บังคับบัญชา 2 ระดับ

เมื่อวันที่ 30 เมษายน พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงผลการสอบสวนครูฝึกบังคับทหารกองประจำการผลัดใหม่ ให้กินน้ำอสุจิของตนเอง รายละเอียดตามข่าวที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น เหตุการณ์ดังกล่าว ทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ จ่าโท ทักษิณ หงอกพิลัย ได้สั่งย้าย จ่าโท ทักษิณ ให้มาทำหน้าที่อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับทหารกองประจำการ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งหากตรวจพบว่ากระทำความผิดจริงจะต้องถูกลงทัณฑ์ทางวินัยตามความผิดสูงสุด

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 กรมรักษาความปลอดภัย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้รายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่า จ่าโท ทักษิณ ได้กระทำความผิดจริง จึงให้ลงทัณฑ์ขัง จ่าโท ทักษิณ มีกำหนด 30 วัน ฐานทำให้เสียชื่อเสียงแก่หมู่คณะทหารอย่างร้ายแรง ซึ่งจะมีผลตามระเบียบกองทัพเรือคือปลดออกจากราชการ

โดยโฆษกกองทัพเรือ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำหรับในส่วนของผู้บังคับบัญชาของ จ่าโท ทักษิณ ทางหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้มีคำสั่งให้ธำรงวินัย ผู้บังคับการกรมรักษาความปลอดภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นเวลา 7 วัน และผู้บังคับกองร้อยกองบังคับการและบริการ กรมรักษาความปลอดภัยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นเวลา 15 วัน ในฐานะผู้บังคับบัญชาขึ้นไป 2 ระดับของผู้กระทำความผิดวินัยทหาร

‘อนุดิษฐ์’ ตอก ‘โฆษกทร.’ เมินยุทธศาสตร์ชาติ มุ่งซื้อโดรน UAV ของนอก ทั้งที่ไทยผลิตได้ถูกกว่า

‘อนุดิษฐ์’ ขยี้ปม ‘ทัพเรือ’ จัดซื้อโดรน UAV 4 พันล้านบาท แต่ไร้อาวุธติดตั้ง หวั่นขอซื้ออาวุธทีหลังแล้วมีปัญหา ติดใจไม่สนยุทธศาสตร์ชาติ ที่เน้นส่งเสริมอุตฯป้องกันประเทศของไทย ยัน สทป.ผลิตได้เหมือนกัน แถมราคาถูกกว่าเท่าตัว 

จากกรณีที่ พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ออกชี้แจงกรณีที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ถึงโครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ประจำฐานบินชายฝั่ง ของกองทัพเรือ วงเงิน 4,070 ล้านบาทๅ ว่ามีความโปร่งใส และมีการแข่งขันราคาที่เป็นธรรมนั้น

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องขอเน้นย้ำว่า ประเด็นที่ตนตั้งข้อสังเกตขึ้นมานั้น เป็นไปเพื่อปกป้องภาษีของพี่น้องประชาชนที่จะถูกใช้จ่ายไปอย่างไม่คุ้มค่า หรือที่แย่ไปกว่านั้นอาจเข้าข่ายการทุจริตประพฤติผิดมิชอบ จึงขอให้กองทัพเรือช่วยชี้แจงชัด ๆ ก่อนว่า ในเมื่อกองทัพเรือระบุความต้องการจัดหา UAV ที่สามารถใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายได้ ทำไมจึงตัดเรื่องการส่งมอบอาวุธที่ต้องมาพร้อมกับ UAV ทิ้งไป เพราะการที่กองทัพเรืออ้างว่าสามารถจัดหาอาวุธมาติดตั้งได้ภายหลังนั้น ย่อมย้อนแย้งกับความต้องการในการจัดหา UAV ติดอาวุธของตัวเอง เพราะขอเงินภาษีประชาชนกับสภาผู้แทนราษฎร โดยบอกว่าจะไปซื้อ UAV ติดอาวุธ 3 ลำ ด้วยเงิน 4,070 ล้านบาท แปลว่า กองทัพเรือต้องซื้อ UAV ที่สามารถปฏิบัติภารกิจโจมตีเป้าหมายได้ แต่สุดท้ายกลับไปเซ็นสัญญาซื้อ UAV จำนวน 7 ลำ แต่ไม่ซื้ออาวุธมาด้วย ซึ่งแปลความว่า หลังจากการจัดซื้อครั้งนี้แล้ว กองทัพเรือต้องตั้งงบประมาณเพื่อจัดหาอาวุธมาติดตั้งให้ UAV อีก

“แล้วคราวนี้ไม่ใช่ยอดแค่ 3 ลำ แต่ต้องจัดหาอาวุธมาให้ทั้ง 7 ลำ แล้วสภาฯจะไปอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมให้อีกได้อย่างไร เพราะให้ไปตั้ง 4 พันล้านบาทแล้วเพื่อไปซื้อ UAV ติดอาวุธ แต่กลับได้มาแค่ UAV ที่ไม่มีอาวุธ เพราะฉะนั้นคำถามของผม ตรงไปตรงมาแบบนี้ ขอให้กองทัพเรือช่วยตอบให้ตรงคำถามด้วย” น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุ

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญไปกว่านั้น หากในอนาคตกองทัพเรือของบประมาณไปซื้ออาวุธมาติดตั้งเพื่อนำไปปฏิบัติภารกิจ แต่ประเทศผู้ขายปฏิเสธไม่ขายให้กับประเทศไทย กองทัพเรือช่วยตอบด้วยว่าจะให้ใครรับผิดชอบ UAV ติดอาวุธ ที่ปฏิบัติภารกิจไม่ได้ เรื่องนี้ต้องบันทึกไว้เลยว่าตกลงใครต้องรับผิดชอบ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะซ้ำรอยกับเรือดำน้ำที่ซื้อเครื่องยนต์เยอรมันมาติดตั้งไม่ได้ แต่ไม่เห็นมีใครออกมารับผิดชอบให้เป็นไปตามสัญญา ส่วนประเด็นที่สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) มีเอกสารยืนยันว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการผลิต UAV ขนาดกลาง หรือ MALE UAV (Medium Altitude Long Endurance) ตาม TOR เดียวกันกับที่กองทัพเรือซื้อด้วยราคาที่ถูกกว่าเท่าตัวนั้น โดยกองทัพเรือซื้อจากต่างประเทศ 4 พันล้านบาท แต่ผลิตในประเทศราคาประมาณ 2 พันล้านบาท แต่กองทัพเรือชี้แจงว่าได้ตรวจสอบแล้วยังไม่มีบริษัทในประเทศเคยผลิต UAV ตาม TOR ที่กองทัพเรือต้องการนั้น แต่บริษัทของประเทศอิสราเอลที่กองทัพเรือไทยสั่งซื้อ UAV นั้น วันแรกที่กองทัพอิสราเอลสั่งซื้อ UAV ลำแรกจากบริษัทนี้ ทางบริษัทก็ไม่เคยผลิต UAV แบบนี้มาก่อนเช่นกัน แต่บริษัทก็สามารถสร้างขึ้นมาตามความต้องการของกองทัพอิสราเอล โดยหลังจากบริษัทส่งมอบ UAV ลำแรก กองทัพอิสราเอลก็สั่งซื้อมาเรื่อย ๆ จนอุตสาหกรรมด้าน UAV ของอิสราเอล เป็นสินค้าส่งออกไปหลายประเทศในขณะนี้

แน่นแฟ้น!! สานสัมพันธ์ 'กองทัพเรือ' และ 'สื่อมวลชน'

กองเรือยุทธการ ร่วมกับหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ทัพเรือภาคที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ ประจำปี งป.65

(9 มิ.ย.65) พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธาน มีผู้บังคับบัญชา หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ ผู้บังคับบัญชาหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ทัพเรือภาคที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ ในปี งป.65  

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและพัฒนาความสัมพันธ์อันดี ระหว่างผู้บังคับบัญชา ของกองทัพเรือ กับ สื่อมวลชนสาขาต่างๆ ที่ได้ให้ความร่วมมือกับกองเรือยุทธการ และกองทัพเรือ ด้วยดีเสมอมา อันจะทำให้ได้รับการส่งเสริม สนับสนุน และได้รับความร่วมมือ ในการเผยแพร่การประชาสัมพันธ์ ผลงาน ภารกิจ หน้าที่ และกิจกรรมที่สำคัญของกองเรือยุทธการ และกองทัพเรือ

กองทัพเรือ ร่วม ปตท. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการติดตามผลการใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่นสำหรับเรือของกองทัพเรือ ครั้งที่ 4

กองทัพเรือ ร่วมกับ บริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการติดตามผลการใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่นสำหรับเรือของกองทัพเรือ ครั้งที่ 4 

วันที่ 21 มิ.ย.65 พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนกองทัพเรือ และหม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย เป็นผู้แทนบริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการติดตามผลการใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่นสำหรับเรือของกองทัพเรือ ระหว่างกองทัพเรือกับ บริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4 โดยมีผู้บังคับบัญชา หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ และคณะทำงานของบริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม บก.กร.(1)


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top