Thursday, 2 May 2024
กองทัพเรือ

กองทัพเรือ เปิดให้พรรคการเมือง เข้าค่ายปราศรัยรวม ดำรงความเป็นกลางทางการเมือง

พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในช่วงเย็น วันนี้ 7 พ.ค. 66 กองทัพเรือ ได้เปิดพื้นที่อาคารพักอาศัยส่วนกลางกองทัพเรือ เขตบางนา ให้พรรคการเมืองต่างๆ จัดกิจกรรมปราศรัยรวม บริเวณลานกีฬา ระหว่างเวลา 16.00 -18.30 น. โดยพรรคการเมืองต่างๆ ที่ได้แจ้งความประสงค์ จะเข้ามาปราศรัยประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทยพรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคไทยสร้างไทย และพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้จัดให้มีลำดับการปราศรัย ดังนี้

เวลา  16.00-16.30 น. พรรคภูมิใจไทย
เวลา 16.30-17.00 น.  พรรคเพื่อไทย
เวลา 17.00-17.30 น.  พรรครวมไทยสร้างชาติ 
เวลา 17.30-18.00 น.  พรรคไทยสร้างไทย
เวลา 18.00-18.30 น. พรรคประชาธิปัตย์

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า  กองทัพเรือ มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึัน โดยการจัดให้มีการปราศรัยได้มีการเชิญ กกต.ประจำพื้นที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการสนับสนุนพื้นที่หน่วยในการปราศรัยหาเสียง รวมถึงการปิดประกาศของผู้สมัคร จะคำนึงถึงความโปร่งใส เท่าเทียม และเป็นกลางและขอเชิญชวนกำลังพลกองทัพเรือ ตลอดจนพี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เข้าร่วมฟังการปราศรัย ดังกล่าว

‘ชัยเสรี’ ร่อนหนังสือแจงสื่อ ยันไม่มีนายพล ช.เรียกเงิน ขู่ฟ้องเพจดัง สร้างความเสียหายให้บริษัท-ทร.

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2566 นางนพรัตน์ กุลหิรัญ รองประธาน บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด ได้ทำหนังสือชี้แจงสื่อมวลชนจากกรณีที่มีเพจใน Social Media โพสต์ข้อมูลกล่าวอ้างว่า "นายพล ช. เรียกเงินจากบริษัท ชัยเสรีของมาดามรถถัง 15% บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่มีมูลความจริง การกระทำดังกล่าวถือเป็นการ ดิสเครดิตและสร้างความเสียหายต่อ บริษัทฯ และกองทัพเรืออย่างมาก และเป็นความพยายามปลูกฝังความเชื่อด้านการทุจริตคอรัปชั่น ต่อภาคอุตสาหกรรม ผู้ผลิตอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในภาพรวม บริษัทฯ ขอให้ประชาชนผู้ติดตามข่าวมีวิจารณญาณในการรับฟัง และตั้งข้อสังเกตจากเจตนารมณ์ผู้สร้างข่าวว่ามีวัตถุประสงค์ใด และผู้ใดได้รับประโยชน์จากข่าวนี้ และขอเรียกร้องให้เพจดังกล่าวเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูล เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบกันอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็ว ทั้งนี้ขอความกรุณาสื่อต่างๆ ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริง ของการดำเนินการก่อนที่จะแชร์ข่าวต่อ หากมีความเสียหายเกิดขึ้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงของบริษัทฯ ต่อไป

บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ ประกอบกิจการโดยยึดหลักธรรมาภิบาลและโปร่งใสในผลิตยานเกราะล้อยาง และยานกรสายพาน และรับซ่อมสร้างปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพยุทโธปกรในราชการทหาร อาทิเช่น รถสายพานลำเลียงพล M1 13, รถเกราะคอมมานโด V-150, รถยนต์บรรทุก ขนาด 2 1/2M35 A2, รถยนต์กู้ซ่อม M816, รถกู้ซ่อม M543 ขนาด 5 ตัน เป็นต้น และผลิตยาง Run-lat , ล้อกดสายพานและข้อสายพานรถถัง มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของคนไทย ดำเนินการโดยใช้แรงงาน และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนการใช้ฐานการผลิตภายในประเทศ เพื่อสนับสนุนเหล่าทัพ หน่วยงานความมั่นคงของประเทศไทย และส่งออกในภารกิจเพื่อสันติภาพ สหประชาชาติ (UN Missionกองทัพประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 40 ประเทศ

ผช.ผบ.ทร. ประชุมติดตามการให้ความช่วยเหลือครอบครัวและกำลังพล เรือหลวงสุโขทัยอับปาง

 

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ (ผช.ผบ.ทร.) และประธานกรรมการบูรณาการติดตามเรื่องสิทธิกำลังพล การสวัสดิการ และการช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และครอบครัว กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4 เพื่อเร่งรัดติดตามการดำเนินการ ณ ห้องประชุม ชั้น 5 กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำให้คณะกรรมการฯ และหน่วยต้นสังกัดแจ้งความก้าวหน้า ตลอดจนสอบถามถึงความเดือดร้อนของครอบครัว และกำลังพลที่ประสบเหตุฯ อย่างต่อเนื่อง โดยกองทัพเรือ ยังคงห่วงใยครอบครัวของผู้ประสบเหตุฯ และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมการฯ ได้เร่งรัดดำเนินการในด้านต่างๆ ให้กับผู้เสียชีวิตและสูญหาย จำนวน 29 นาย ซึ่งมีความก้าวหน้าประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ดังนี้

- สิทธิกำลังพล ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ประกอบด้วย การเลื่อนชั้นเงินเดือน 3 - 5 ชั้น , การแต่งตั้งยศและการขอพระราชทานยศ (จ่าเอก - พลเรือโท) , และการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เบญจมาภรณ์มงกุฏไทย - ตริตาภรณ์ช้างเผือก)

- สวัสดิการต่างๆ ของหน่วย ประกอบด้วย เงินประกันภัยกลุ่มแบบ “เฉพาะกิจกองทัพเรือ” , เงินกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดขอบของกองทัพเรือ , เงินสงเคราะห์กรมสวัสดิการทหารเรือ , เงินฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี และเงินช่วยเหลืออื่นๆ รายละ 1.4 - 3.5 ล้านบาท

- การบรรจุทายาททดแทน ประกอบด้วย การบรรจุรับราชการในกองทัพเรือ จำนวน 11 นาย , เห็นชอบให้พิจารณาบรรจุแล้ว จำนวน 12 นาย (อยู่ในระหว่างการศึกษา) , อยู่ในระหว่างการขอบรรจุ จำนวน 2 นาย และสละสิทธิ์ จำนวน 4 นาย

- ทุนการศึกษาสำหรับบุตร โดยได้รับค่าเล่าเรียน ตามระดับการศึกษา ปีละ 5,000 - 15,000 บาท

- การมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติราชการเพื่อชาติ “เหรียญบางระจัน” ให้แก่กำลังพลที่เสียชีวิต และสูญหาย จำนวน 29 นาย เมื่อ 1 มิ.ย.66

- ผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 27 นาย ได้รับความช่วยเหลือนายละ 68,000 - 104,000 บาท และได้รับเครื่องแบบใหม่

- ผู้ประสบภัย (ไม่ได้รับบาดเจ็บ) จำนวน 49 นาย ได้รับความช่วยเหลือนายละ 58,000 บาท และได้รับเครื่องแบบใหม่

- การให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ เช่น ทุนการศึกษาสำหรับบุตร (อยู่ในระหว่างการดำเนินการ)

เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ต้องการดูแลกำลังพล และครอบครัวจากกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง และดีที่สุด

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

" สตูล ศรชล.ภาค 3 บูรณาการตรวจเรือในทะเลร่วมกับหน่วยงานรัฐในพื้นที่จังหวัดสตูล ”

ที่ สถานีเรือละงู ตำบลแหลมสน อำเภอละงู จังหวัดสตูล พล.ร.ท.อาภากร อยู่คงแก้ว ผอ.ศรชล.ภาค 3 เป็นประธานในพิธีเปิดการปฏิบัติการบูรณาการตรวจเรือในทะเลพื้นที่ จังหวัดสตูลพร้อมด้วย พล.ร.ต.สุชาติ เปรมประเสริฐ รอง ผอ.ศรชล.ภาค 3 และคณะฯ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่เพื่อเพิ่มแระสิทธิภาพ พื้นที่ จังหวัดสตูล โดยมีน.อ.ณฐพงศ์  เศวตรักต  ผบ.มว.เรือ ศรชล.ภาค 3 กล่าวรายงานและนายชาตรี  ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รอง ผอ.ศรชล.จว.สตูล (ผบ.หน่วย เฉพาะกิจพื้นที่ด้านใต้)และหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับพลเรือโท อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้อํานวยการ ศรชล. ภาค 3และคณะ

ทั้งนี้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3ได้จัดชุดตรวจเรือเคลื่อนที่ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานรัฐของ ศรชล.ภาค 3 นั้นกำหนดบูรณาการตรวจเรือในทะเลร่วมกับหน่วยงานรัฐในพื้นที่ จังหวัดสตูลโดยมี พล.ร.ต.สุชาติ เปรมประเสริฐ  รอง ผอ.ศรชล.ภาค 3 เป็นหัวหน้าชุด พร้อมกำลังทางเรือในบัญชีกำลังหมวดเรือเฉพาะกิจ ศรชล.ภาค 3พร้อมกำลังพลประกอบด้วย ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ , เรือ ต.996 เรือ ต.273  เรือ ตรน.520  เรือตรวจการณ์เจ้าท่า 188 เรือศุลกากร 701 เรือตรวจประมงทะเล 329 และกำลังพลจากศรชล.จังหวัดสตูล, ศคท.จังหวัดสตูล หน่วยงานรัฐพื้นที่ จังหวัดสตูล และชุดสหวิชาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 40 นาย

พล.ร.ท.อาภากร อยู่คงแก้ว ผอ.ศรชล.ภาค 3 กล่าวว่าวัตถุประสงค์การบูรณาการในครั้งนี้ เพื่อให้เรือในหมวดเรือเฉพาะกิจ ศรชล.ภาค 3 ในเขตพื้นที่ จังหวัดสตูล มีความพร้อมทั้งในด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจของเรือร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐให้ดียิ่งขึ้น ในการป้องปรามการกระทำความผิดทางทะเล และภัยคุกคามในพื้นที่ทางทะเลของ จังหวัดสตูล

นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

“แล้วพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ” ทัพเรือภาคที่ 1 ปลดประจำการทหาร ผลัดที่ 1/64

ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จัดพิธีปลดประจำการทหาร ผลัด 1/64 ซึ่งประจำการ ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 รวม 16 นาย โดยมี พลเรือตรี อนุพงษ์ ทะประสพ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งได้ให้โอวาทและแนวทางในการปฏิบัติตนภายหลังจากการปลดประจำการเป็นทหารกองหนุน นอกจากนั้นได้มอบของที่ระลึก และพลทหารทุกนายได้กล่าวคำปฏิญาณตน เพื่อเป็นคนดีของสังคมต่อไป

ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ ขอขอบคุณ และแสดงความยินดีกับน้องๆ พลทหารทุกนาย ซึ่งเปรียบเสมือนน้องคนเล็ก ที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ ในการรับใช้ชาติและประชาชนจนครบวาระในวันนี้ นับว่าเป็นความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ของลูกผู้ชาย ซึ่งหลังจากนี้ จะเป็นการสร้างอนาคตของตัวเราเอง ขอให้โชคดีและประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตต่อไป

ทรภ.1 ส่งหมู่เรือปฏิบัติราชการชายแดน ไทย-กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

นาวาเอก ศรยุทธ พุ่มสุวรรณ์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1 ) ในฐานะผู้บังคับหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน เป็นประธานในพิธี ส่งหมู่เรือไปปฏิบัติราชการในหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ 1 เพื่อรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล บริเวณพื้นที่ชายแดนทางทะเลไทย - กัมพูชา ประกอบด้วย เรือหลวงกันตัง เรือต.82 เรือต.261 และ เรือต.263

พร้อมให้โอวาทและมอบกระเช้า เพื่อให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจที่ดี ในการเดินทางไปปฏิบัติราชการชายแดนในครั้งนี้ ณ ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

กองทัพเรือ จัดกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและเพิ่มทักษะการปฐมพยาบาลฟื้นคืนชีพพื้นฐาน ในพื้นที่สัตหีบ และการตรวจสุขภาพเชิงรุก ในพื้นที่กรุงเทพ เพื่อส่งเสริมให้กำลังพลมีสุขภาพที่ดี พร้อมปฏิบัติงานขับเคลื่อนกองทัพเรือ ได้อย่างมีพลัง

พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการปฏิบัติงานและการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลกองทัพเรือ ตรวจเยี่ยมและร่วมกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและเพิ่มทักษะการปฐมพยาบาลฟื้นคืนชีพพื้นฐาน ณ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีหน่วยงานของกองทัพเรือในพื้นที่ อ.สัตหีบ จำนวน 6 หน่วย เข้าร่วม ประกอบด้วย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน , ฐานทัพเรือสัตหีบ , ศูนย์ส่งกำลังบำรุง กรมพลาธิการทหารเรือ , กรมสรรพาวุธทหารเรือ , โรงเรียนชุมพลทหารเรือ และศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ โดยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรม นำกำลังพลเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 600 นาย ซึ่งมีกิจกรรมย่อย จำนวน 7 กิจกรรม ประกอบด้วย 

- การตรวจวัดและประเมินสภาพร่างกาย
- การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- การอบรมความรู้เรื่องการออกกำลังกายและลดน้ำหนัก
- การให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารที่ควรบริโภค
 - การสาธิตและการฝึกการช่วยฟื้นชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) 
- การให้ความรู้เรื่้องการป้องกันและปฐมพยาบาลเบื้องต้นโรคลมร้อน (Heat Stroke) 
 - การเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ

วันเดียวกันนี้ พล.ร.ท.สุเทพ  ปุจฉาการ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานย่อยพัฒนาสุขภาพ ตรวจเยี่ยมกิจกรรมการตรวจสุขภาพเชิงรุก ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่พระราชวังเดิม กรุงเทพมหานคร

โดยทั้ง 2 พื้นที่ ได้รับการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ในการร่วมจัดกิจกรรมและให้ความรู้จากกรมแพทย์ทหารเรือ ซึ่งกองทัพเรือได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมลักษณะนี้ในพื้นที่พื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ ทั่วประเทศต่อไป

จากทั้ง 2 กิจกรรมซึ่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ รวมถึงทักษะการปฐมพยาบาลช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน ซึ่งการมีสุขภาพที่ดี ส่งผลถึงความพร้อมขององค์บุคคล ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบของความพร้อมรบที่สำคัญยิ่ง เปรียบเสมือนการสร้างเหล็กในคนที่สำคัญกว่าเหล็กในเรือ นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานในภาพรวมของกองทัพเรือ และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับกำลังพล อีกด้วย

ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารเรือ ด้านกำลังพลในการส่งเสริมสุขภาพให้กำลังพลของกองทัพเรือ มีร่างกายแข็งแรง พร้อมปฏิบัติงานขับเคลื่อนกองทัพเรือ ได้อย่างมีพลังด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

กองทัพเรือจัดกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและเพิ่มทักษะการปฐมพยาบาลฟื้นคืนชีพพื้นฐาน ในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อให้กำลังพลมีสุขภาพที่ดี เป็นกำลังรบที่พร้อมปฏิบัติงานในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันทุกภารกิจ

วันที่ 12 ก.ค.66 พลเรือเอก สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการปฏิบัติงานและการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลกองทัพเรือ ตรวจโครงสร้างพื้นฐาน และร่วมกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและเพิ่มทักษะการปฐมพยาบาลฟื้นคืนชีพพื้นฐาน รวมทั้งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือได้ตรวจโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของโรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงา และอาคารกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 ณ ฐานทัพเรือพังงา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่อไป

การจัดกิจกรรมครั้งนี้นอกจากเป็นการกระตุ้นให้กำลังพลใส่ใจในการดูแลสุขภาพแล้ว ยังให้ความรู้แก่กำลังพลในการดูแลสุขภาพ และการช่วยฟื้นคืนชีพอย่างถูกต้อง จากบุคคลากรจากกรมแพทย์ทหารเรือ  โดยกรมแพทย์ทหารเรือจะนำผลการตรวจสุขภาพกำลังพลกองทัพเรือมาจัดทำเป็นฐานข้อมูลในโปรแกรม NMD+ เพื่อติดตามและกำหนดแนวทางในการดูแลสุขภาพของกำลังพลได้อย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้การที่กำลังพลมีสุขภาพที่ดีนั้นย่อมส่งผลถึงความพร้อมของกำลังรบ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพร้อมของทัพเรือภาคที่ 3 ต่อทุกภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบฝั่งทะเลอันดามัน และจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานในภาพรวมของกองทัพเรือ

กำลังพลของหน่วยในทัพเรือภาคที่ 3 ที่เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย กองบังคับการฐานทัพเรือพังงา , กองเรือปฏิบัติการฯ , หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (กองพันรักษาฝั่งที่ 11 และกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22) จำนวน 409 นาย เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 7 กิจกรรม ประกอบด้วย 
- การตรวจวัดและประเมินสภาพร่างกาย
- การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- การอบรมความรู้เรื่องการออกกำลังกายและลดน้ำหนัก
- การให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารที่ควรบริโภค
- การสาธิตและการฝึกการช่วยฟื้นชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) 
- การให้ความรู้เรื่้องการป้องกันและปฐมพยาบาลเบื้องต้นโรคลมร้อน (Heat Stroke) 
- การเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ

ซึ่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ รวมถึงทักษะการปฐมพยาบาลช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน ซึ่งการมีสุขภาพที่ดีส่งผลถึงความพร้อมขององค์บุคคล ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบของความพร้อมรบที่สำคัญยิ่ง เปรียบเสมือนการสร้างเหล็กในคนที่สำคัญกว่าเหล็กในเรือ นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานในภาพรวมของกองทัพเรือ และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับกำลังพลอีกด้วย โดยจะให้มีการจัดกิจกรรมนี้ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือทั่วประเทศ

เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือด้านกำลังพลในการส่งเสริมสุขภาพให้กำลังพลของกองทัพเรือมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายแข็งแรง พร้อมปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนกองทัพเรือได้อย่างมีพลังด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ต้อนรับทหารใหม่ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ผลัดที่ 1/66

พลเรือตรี ศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นประธานในพิธีต้อนรับทหารใหม่หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ผลัดที่ 1/66 ณ ลานอเนกประสงค์ กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมให้การต้อนรับ  

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ต้องการให้ทหารทุกนายอยู่ร่วมกัน รักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง มีความสมัครสมานสามัคคี มีระเบียบวินัยที่ดี มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง ซึ่งเมื่อมาอยู่กับหน่วยบัญชาการต่อสู้และรักษาฝั่งแล้วจะได้รับการดูแลเอาใจใส่โดยใกล้ชิดจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ 

ทั้งนี้ การต้อนรับทหารใหม่ เปรียบเสมือนน้องคนเล็กสุดท้อง ที่ได้เข้ามาสู่รั้วหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และเป็นครอบครัวเดียวกันนั้น เพื่อให้น้องทหารใหม่ทุกนาย มีความภาคภูมิใจที่จะมาทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติ ในการปฏิบัติหน้าที่กับ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งทหารใหม่ทุกนายจะได้รับการฝึกอบรม เพิ่มเติมความรู้ทักษะต่าง ๆ สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นทหารต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งภายหลังจากฝึกเสร็จจะแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติ กับหน่วยขึ้นตรงของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ในภารกิจที่สำคัญต่าง ๆ ต่อไป

‘กองทัพเรือ’ ชี้แจง เหตุ ‘เรือหลวงนเรศวร’ เสียหายระหว่างฝึกซ้อม เผย!! กำลังพลปลอดภัย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

(1 ส.ค.66) พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี เรือหลวงนเรศวร ได้รับความเสียหาย ขณะเทียบท่าเรือ ภายในท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค.66 ขณะที่เรือหลวงนเรศวร กำลังทำการฝึกซ้อมแผนความปลอดภัยของเรือและท่าเรือระหว่างประเทศ (ISPS CODE) ภายในท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด 2566 ภายใต้รหัสการฝึก "Naval  Security Port and Ship Map Taphut Excercise  2023" (NASMEX 2023) ซึ่งจัดที่มีการฝึกในระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคม 2566 ในพื้นที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง  

โดยการฝึกดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างรัฐ หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองท้องถิ่น เรือและท่าเรือ ในการร่วมตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามที่มาจากทางทะเล ทดสอบความพร้อมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มีความพร้อมรับสถานการณ์ ตามแนวทางปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัยของเรือและท่าเรือระหว่างประเทศ (International Ship and Port Facility Security Code : ISPS Code)  

“ในขณะที่เรือหลวงนเรศวร กำลังนำเรือออกจากท่าเทียบเรือ ตัวเรือกราบซ้ายได้ไปกระแทกกับมุมท่าเทียบเรือ ทำให้แท่นยิงตอร์ปิโดและแพชูชีพ ได้รับความเสียหาย ในขณะที่ตัวเรือได้รับความเสียหายเล็กน้อยโดยเป็นรอยถลอก ส่วนกำลังพล ปลอดภัยไม่มีนายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อรายงานผลการสอบสวนให้กองทัพเรือได้รับทราบ พร้อมทั้ง ประสานไปยังหน่วยด้านเทคนิคที่รับผิดชอบอุปกรณ์ที่เสียหายในเบื้องต้น เพื่อประเมินความเสียหาย” พล.ร.อ.ปกครอง กล่าว  

โฆษกกองทัพเรือ​ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพเรือได้รับรายงานในเบื้องต้น​แล้ว  พร้อมทั้งได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อกรณีดังกล่าว​ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือไม่​อย่างไร​ ทั้งนี้​ ต้องรอผลการสอบสวนจากคณะสอบสวนต่อไป​ สำหรับความเสียหายของอุปกรณ์​ นั้น​ หน่วยเทคนิคที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการซ่อมทำแล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top