Saturday, 26 April 2025
ค้นหา พบ 47684 ที่เกี่ยวข้อง

ผบ.ทร. ชื่นชมให้กำลังใจ สโมสรฟุตบอลราชนาวี แชมป์ไทยลีก 3 เตรียมเลื่อนชั้นไทยลีก 2

(20 เม.ย. 68) สโมสรฟุตบอลราชนาวี โดย พล.ร.อ ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ ประธานสโมสร, พล.ร.ท สุรศักดิ์ วรปัญญา ที่ปรึกษาสโมสรฯ, พล.ร.ต ณฐพัฒน์ ซื่อมงคล ผู้จัดการทีม, พล.ร.ต อโศก ศรีสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป เข้าพบ ผบ.ทร.เพื่อสรุปผลการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออก ฤดูกาล 2024-2025 
ซึ่งสโมสรฟุตบอลราชนาวี ได้ตำแหน่งชนะเลิศ ได้สิทธิเข้าแข่งขันในรอบชิงแชมป์ระดับประเทศ เพื่อคัดเลือกสโมสรที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งขันในฟุตบอลไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า ในการนี้ ผบ.ทร.ได้กรุณาแสดงความยินดี และให้กำลังใจ กับทีมงานผู้บริหารสโมสรฟุตบอลราชนาวี ให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับ กองทัพเรือ ต่อไป

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

ผบ.ทร. ส่ง ”น้องเต่าสีชัง“ (เต่าตนุ) คืนสู่ท้องทะเลไทย

วันที่ (20 เม.ย.68) เวลา พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมภริยา ให้การต้อนรับ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในโอกาสเดินทางมาปล่อย “น้องเต่าสีชัง” คืนสู่ธรรมชาติ

โดยมี คณะจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้บังคับบัญชา หัวหน้าหน่วยขึ้นตรง หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เข้าร่วมกิจกรรมฯ ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง) พบ “เต่าตนุ” (น้องเต่าสีชัง) ที่บริเวณเกาะสีชัง เป็นเต่าตนุ เพศเมีย อายุประมาณ 35 - 40 ปี น้ำหนัก 101.3 กิโลกรัม ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัว และกระดองด้านหน้ามีรอยถูกกระแทก บริเวณกระดองส่วนท้าย ถูกใบจักรเรือฟัน มีรอยแตกเป็นแผลฉกรรจ์

โดยเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง) ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่จาก ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ไปรับเต่าทะเล ที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อนำมารักษา ณ โรงพยาบาลเต่าทะเล ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ

ปัจจุบัน ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติ และติดไมโครชิพ หมายเลข 933071000284031 เพื่อเตรียมพร้อมที่จะปล่อยน้องเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติต่อไป โดยการรักษา “น้องเต่าสีชัง” (เต่าตนุ) ในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการร่วมมือกันระหว่าง กองทัพเรือ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการรักษา “เต่าตนุ” ให้คงอยู่คู่ท้องทะเลไทย ตลอดไป

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ โดย หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นหน่วยรับผิดชอบ ในการอนุบาลเต่าทะเล ให้แข็งแรงก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ให้คงอยู่คู่ท้องทะเลไทย 

ซึ่งทางศูนย์ มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับสัตวแพทย์ และนับเป็นโรงพยาบาลเต่าทะเลแห่งแรกในเอเชีย โดยกองทัพเรือ ได้กำหนดชื่อโรงพยาบาลแห่งนี้ว่า โรงพยาบาลเต่าทะเล ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

เริ่มแล้ว!! สนุกสุดเหวี่ยง ไม่เสี่ยงภัย “ตำรวจภูธรภาค 2” เปิด 14 เซอร์วิสเลน แผนฉุกเฉิน “วันไหลพัทยา”

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ (19 เม.ย. 68) ที่ โรงเรียนเมืองพัทยา 8 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2  พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรีพล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.ทท.1 ร่วมปล่อยแถวตำรวจ และอาสาสมัคร ร่วมดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวในงานวันไหลพัทยา เทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2568 โดยมี พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัย รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี  พ.ต.อ.วสุรัชย์ ชัยธีราพัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.นาจอมเทียน พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ ผกก.2 บก.ทท.1 ร่วมด้วย

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่จำนวนมาก และคาดว่าในช่วงค่ำไปจนถึงดึกจะเป็นช่วงพีกที่นักท่องเที่ยวเต็มพื้นที่หลายหมื่นคน ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์และชมคอนเสิร์ตของศิลปินจำนวนมาก โดยวันนี้ได้กำชับถึงการปฏิบัติหน้าที่เน้นการดูแลความปลอดภัย ให้บริการ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกฝ่ายที่ร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อเทศกาลแห่งความสุข สร้างความประทับใจ และความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

“งานวันไหลพัทยาเป็นเทศกาลสำคัญ นักท่องเที่ยวเดินทางมาจำนวนมาก ตำรวจภูธรภาค 2 โดยตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มีความพร้อมทั้ง คน ระบบ และเทคโนโลยี ในการดูแลความปลอดภัย โดยต้องขอบคุณเมืองพัทยาในการให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือ ประสาน ร่วมกันทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือสร้างความมั่นใจ สร้างความประทับใจ” ผบช.ภ.2 กล่าว

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวด้วยว่า งานเทศกาลที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก เราเตรียมแผนฉุกเฉิน พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ และที่สำคัญในงานวันไหลพัทยาปีนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีได้ปิดการจราจรกว่า 2 กิโลเมตร มีเซอร์วิสเลน หรือช่องทางพิเศษฉุกเฉินสำหรับการขนส่ง  14 ช่องทาง กั้นเป็นพื้นที่ว่างไว้ 1 ช่องจราจร ในถนนพัทยากลาง ถนนเลียบชายหาดซอย 7 – 13/4 ถนน พัทยาใต้ และปิดการจราจรขาลงหาด ปรับเป็นช่องทางฉุกเฉิน เพื่อเป็นช่องทางสำหรับการลำเลียงคนทางการแพทย์ หรือการเคลื่อนเข้าพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ กรณีมีเหตุฉุกเฉิน  เช่น มีผู้ป่วย หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวงานวันไหลพัทยา ให้เว้นพื้นที่ไว้ตามคำแนะนำ และการประชาสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถติดตามการจราจรโดยรอบพื้นที่พัทยา ตรวจสอบสถานการณ์ เส้นทางจราจรทางเลี่ยงทางหนาแน่น ทางเพจเฟซบุ๊ก ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี  และตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเมืองพัทยา แบบเรียลไทม์ ที่ https://ioc.pattaya.go.th/live-cctv หรือ https://liff.line.me/1655268398-0VWZRdqz/live-cctv หากมีเหตุด่วนขอความช่วยเหลือให้แจ้งตำรวจที่อยู่ใกล้ท่าน หรือโทร. 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ฝ่าทุกนาทีวิกฤต รับช่วงต่อ นำ 2 หัวใจ จากอุดรธานี และสงขลา ที่เหินฟ้าฝ่าสายฝน ส่งต่อลมหายใจเข้ากรุงเทพมหานคร 

วันนี้ (19 เม.ย.68) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชมเชย พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.50 น.ได้นำทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนนำส่งหัวใจดวงที่ 123 และ 124 จากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ภายในระยะเวลาติดกันอย่างเฉียดฉิว ซึ่งถือเป็นภารกิจที่เต็มไปด้วยความกดดัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลาและการเดินทางที่ต้องประสานงานอย่างแม่นยำ ในการส่งต่อชีวิตให้กับผู้รอคอยหัวใจ 2 ดวงนี้ได้มีชีวิตใหม่กับหัวใจที่แข็งแรง 

ด้าน พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์จราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเพื่อส่งต่ออวัยวะช่วยชีวิต ยังคงเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริยึดถือและดำเนินการมาโดยตลอด และต้องชมเชยตำรวจจราจร สภ.เมืองอุดรธานี , ตำรวจจราจร สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา , นักบิน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ช่วยในภารกิจนี้ และอำนวยความสะดวกจราจรลำเลียงหัวใจจากโรงพยาบาลต้นทางนำส่งถึงสนามบินด้วยความรวดเร็วด้วยเช่นกัน

สำหรับหัวใจดวงที่ 123 ได้รับแจ้งจากสภากาชาดไทยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริสนับสนุนการนำส่งหัวใจจากจังหวัดอุดรธานี โดยใช้ "นางฟ้าส่งหัวใจ" คุณอรวิภา นกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทย2552 รับหน้าที่นักบินอาสานำหัวใจดวงนี้ส่งมาทางเครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่ฝูงบิน 604 กองบิน 6 ดอนเมือง ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้การเดินทางล่าช้า ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงถึงที่หมาย และเมื่อคำนวณเวลาเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีระยะทางไกลและการจราจรหนาแน่น ทีมแพทย์ระบุว่ามีเวลานำส่งเพียง 30 นาทีเท่านั้น ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริจึงเร่งเตรียมกำลังพร้อมอำนวยการจราจรทันทีที่หัวใจเดินทางถึง

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งภารกิจด่วนอีกภารกิจหนึ่ง คือการนำส่งหัวใจดวงที่ 124 ซึ่งจะเดินทางจากโรงพยาบาลหาดใหญ่มายังกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 473 ไมล์ โดยใช้เครื่องบินส่วนตัวเช่นกัน ใช้เวลาทำการบิน 2 ชั่วโมง จะลงจอดที่อาคารผู้โดยสาร MJets สนามบินดอนเมือง โดยมีกำหนดการห่างจากหัวใจดวงแรกเพียง 15 นาที และจะต้องนำส่งไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ด้วยสถานการณ์ที่หัวใจทั้งสองดวงมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกันและต้องส่งไปยังคนละโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริจึงวางแผนแบ่งกำลังออกเป็นสองขบวน นำโดยหน่วยจักรยานยนต์เคลื่อนที่เร็ว พร้อมวางแผนเส้นทางล่วงหน้า และรับการสนับสนุนจากตำรวจจราจรในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถนำส่งหัวใจดวงที่ 123 ถึงโรงพยาบาลศิริราชภายในเวลา 23 นาที (เหลือเวลาให้ทีมแพทย์วิ่งสุดชีวิตนำหัวใจลงจากรถวิ่งตรงไปยังห้องผ่าตัดเพียง 7 นาที เท่านั้น) และหัวใจดวงที่ 124 ถึงโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ภายในเวลาเพียง 11 นาที ทั้งสองภารกิจสำเร็จลุล่วงทันเวลาให้แพทย์สามารถดำเนินการปลูกถ่ายได้ทันที

นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า ภารกิจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจนักสู้ของเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่พร้อมเสี่ยงชีวิตเพื่อเปิดเส้นทางให้ลมหายใจของผู้อื่นได้เดินทางต่อ พร้อมกันนี้ขอขอบคุณผู้บริจาคอวัยวะทุกท่าน ที่เสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์แม้ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน และขอชื่นชมความทุ่มเทของทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ที่สามารถวางแผนและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความกดดันสูง  หัวใจทั้ง 123 และ 124 ไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์แห่งชีวิตใหม่ แต่คือภาพแทนของความเสียสละ ความร่วมมือ และหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของทุกคนที่มีส่วนในภารกิจครั้งนี้

ตำรวจ ปส. ทลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ 

(21 เม.ย. 68) สืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภาว่า ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจําหน่าย เน้นการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นลําเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ และข้อสั่งการของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นการปราบปรามแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลางที่จะส่งมายังกรุงเทพมหานคร ประกอบกับนโยบาย ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ซึ่งกําชับการปราบปรามยาเสพติด อย่างเร่งด่วน

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./              ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข  รอง ผบ.ตร.(ปป)/ประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติด
ในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้,  พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา  ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.

บช.ปส. โดย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย  ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน 
ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส., ผบก.ปส.1 - 4, ผบก.สกส. และ ผบก.ขส. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม และขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่และรายย่อย ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย รวมทั้งการขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายที่ยังหลบหนี และยึดทรัพย์ผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทุกราย

วันนี้ (21 เม.ย.68)  บช.ปส. ได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร, นบ.ยส.35 และ ป.ป.ส. โดย 
พลตรีฉกาจ ขันตี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, 
นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ  รองเลขาธิการ ป.ป.ส. สำนักงาน ป.ป.ส. โดยจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ บช.ปส. จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา 2 คน รถยนต์ของกลาง 2 คัน ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้า 13,200,000 เม็ด ดังนี้

บก.ปส.3
กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่, สำนักงาน ป.ป.ส., นบ.ยส.35 เฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติดพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคเหนือ โดยมีผลปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปราม
ยาเสพติดรายสำคัญ ตามนโยบายรัฐบาล “Seal Stop Safe” จำนวน 2 คดี ดังนี้

(ผู้นำเสนอ : พ.ต.อ.ทิวาพงษ์ พลูโต ผกก.2 ปส.3)
คดีที่ 1 (ยาบ้า 12,000,000 เม็ด)    
    เจ้าหน้าที่ นปส.เชียงใหม่ กก.2 บก.ปส.3 สืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ เพื่อนำส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้เฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 
7 เม.ย.68 พบความเคลื่อนไหวรถกระบะกลุ่มบุคคลในเครือข่ายอยู่บนถนนโชตินา เขตพื้นที่ อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ โดยเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้านกลุ่มชาติพันธุ์ จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ ต่อมาวันที่ 8 เม.ย.68 รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับออกมา ซึ่งมีการบรรทุกกะหล่ำปลีเต็มท้ายกระบะ และรถมีลักษณะน้ำหนักมากผิดปกติ  มุ่งหน้า อ.แม่แตง 
จว.เชียงใหม่ เมื่อรถกระบะมาถึงบริเวณด่านตรวจยาเสพติด แก่งปั้นเต้า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวทำการตรวจค้น พบผู้ต้องหาจำนวน 1 คน พร้อมยาบ้าประมาณ 12,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะโดยมีกะหล่ำปลีปกปิดอำพราง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 2 (ยาบ้า 1,200,000 เม็ด)    
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.68 นปส.เชียงราย กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน พร้อมยาบ้า 1,200,000 เม็ด ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด บ้านผาหมี อ.แม่สาย 
จว.เชียงราย จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่สาย จว.เชียงราย เพื่อนำส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้เฝ้าระวังกระทั่งพบรถกระบะของกลุ่มเครือข่ายขับออกมาจากหมู่บ้านผาหมี มุ่งหน้าไปตัว อ.แม่สาย จว.เชียงราย จึงได้ทำการติดตามกระทั่งรถกระบะคันดังกล่าวเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถ
ของห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาแม่สาย จว.เชียงราย
ต่อมามีชาย 2 คน ได้เดินมาที่รถกระบะและจะขับออกจากสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว
ขอตรวจค้น ชายคนขับได้เปิดประตูรถ และหลบหนีไปยังด้านหลังของห้างสรรพสินค้า จึงได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 1 คน (ผู้เยาว์) ซึ่งนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ และของกลางยาบ้า 1,200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสารตอนหลัง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 จะได้ทำการขยายผลเพื่อติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีต่อไป

พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. เปิดเผยว่า ปฏิบัติการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย รอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร.
ที่ได้มอบนโยบายให้ บช.ปส. ดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การดำเนินการดังกล่าว มุ่งเน้นการกดดันและทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั้งในระดับผู้ค้ายารายใหญ่และรายย่อย ตลอดจนเร่งรัดขยายผลไปยังกลุ่มผู้ให้การสนับสนุน รวมถึงเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง และจากสถิติผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึง ปัจจุบัน ทั่วประเทศสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้จำนวนทั้งสิ้น 136,189 ราย ตรวจยึดของกลางยาเสพติดเป็นยาบ้า จำนวน 566,622,422 เม็ด, ไอซ์ 30,334.51 กิโลกรัม, เฮโรอีน 896.07 กิโลกรัม, คีตามีน 4,068.51 กิโลกรัม และยาอีจำนวน 123,087 เม็ด รวมทั้งสามารถดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดได้รวมมูลค่ากว่า 5,301,456,966 บาท

สำหรับการปราบปรามยาเสพติดของ บช.ปส. ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 - ปัจจุบัน สามารถจับกุมขบวนการ
ค้ายาเสพติดทุกคดีได้ 679 คดี ผู้ต้องหา 680 คน ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้า 194,410,158 เม็ด, 
ไอซ์ 12,526.44 กก., เฮโรอีน 205.01 กก., คีตามีน 710 กก. และยาอี 581 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 1,566,813,230 บาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top