Tuesday, 3 June 2025
ค้นหา พบ 48542 ที่เกี่ยวข้อง

ผบช.สตม. ลงพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก สนับสนุนหน่วยความมั่นคง ทหาร-ปกครอง เพิ่มความเข้มตรวจสอบขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย สกัดกั้นอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการคอลเซนเตอร์ ส่งตัวกลับไปแล้ว 2,705 ราย

เมื่อวันที่ (13 มี.ค.68) เวลา 16.00 น. ที่ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. วางมาตรการสกัดกั้นขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซนเตอร์  พร้อมทั้งกำชับให้เข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารการเดินทางของกลุ่มสัญชาติเป้าหมายป้องกันการลักลอบไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตามจุดตรวจตลอดแนวแม่น้ำเมย และช่องทางอื่น โดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

พล.ต.ท.ภาณุมาศ ฯ กล่าวว่า สตม. ได้เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขัน ตรวจสอบโดยการตั้งจุดตรวจร่วม จุดสกัด ตามเส้นทางคมนาคมทางบก ก่อนเข้าพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก แล้วเดินทางไปยังพื้นที่พรมแดน เพื่อสกัดกั้น ขบวนการนำพาคนต่างด้าว รถยนต์ที่ต้องสงสัยให้เพิ่มการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และมีการจัดเก็บประวัติบุคคลไว้เป็นฐานข้อมูล เพื่อใช้สนับสนุนประโยชน์สำหรับงานสืบสวน หรือติดตามตัวบุคคล ทั้งนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์คนต่างชาติที่เดินทางมาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไม่ให้หลงเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหลอกลวงไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาสามารถคัดกรองและมีผู้สมัครใจเดินกลับไปแล้ว 45 ราย ส่วนภารกิจการรับคน ต่างด้าว จากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อผลักดันส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ได้กำชับให้ดำเนิการตามนโยบายรัฐบาล และ ข้อสั่งการของ สมช. โดยให้คำนึงถึง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ได้วาง ระเบียบและคำสั่ง ไว้เป็นแนวทาง มีมาตรฐานการปฏิบัติเดียวกัน ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. สตม. ได้ทำการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางไปแล้วทั้งสิ้น 2,705 ราย แบ่งเป็น สัญชาติจีน 2,040 ราย อินเดีย 549 ราย อินโดนีเซีย 84 ราย มาเลเซีย 25 ราย และ ฮ่องกง 7 ราย  เฉลี่ยรับตัววันละ 500 ราย

ผบช.สตม. กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. วางมาตรการป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะย้ายฐานปฏิบัติการเข้ามาในประเทศไทยจากการปราบปรามกลุ่มทุนสีเทาอย่างหนักในประเทศเมียนมา พร้อมกำชับห้ามมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหากพบจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดและขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพชักชวนให้ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านโดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูง หากประชาชนพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

📍 ที่อยู่: อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
📞 โทรศัพท์: ติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่
🌐 เว็บไซต์: www.immigration.go.th 

‘ทรัมป์’ สนับสนุนผนวกกรีนแลนด์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ รัฐบาลกรีนแลนด์ลั่นไม่เห็นด้วย ขู่มะกันห้ามเข้ามาแทรกแซง

(14 มี.ค. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตของกรีนแลนด์ โดยระบุว่า กรีนแลนด์มีโอกาสสูงที่จะผนวกเข้ากับสหรัฐฯ ในอนาคต ภายหลังจากที่ในช่วงปี 2019 เขาเคยเสนอให้สหรัฐฯ ซื้อกรีนแลนด์จากเดนมาร์ก ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย

ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่า กรีนแลนด์เป็นดินแดนที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และตั้งอยู่ในตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคอาร์กติก ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางการทหารและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เขาชี้ว่า กรีนแลนด์มีทั้งทรัพยากรแร่ธาตุและการเข้าถึงเส้นทางการค้าทางทะเลที่มีมูลค่าสูงในอนาคต

ทรัมป์กล่าวเสริมว่า “ผมเชื่อว่ากรีนแลนด์มีโอกาสที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ในอนาคต เพราะมันมีความสำคัญทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจอย่างยิ่ง ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงและมีการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เข้มข้นมากขึ้น”

แม้ว่าข้อเสนอดังกล่าวของทรัมป์ในอดีตจะไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาลเดนมาร์กและประชาชนในกรีนแลนด์ แต่การพูดถึงความเป็นไปได้ในการผนวกกรีนแลนด์เข้ากับสหรัฐฯ ก็ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อและนักการเมืองทั่วโลก

สำหรับกรีนแลนด์ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของเดนมาร์ก และมีการปกครองตนเองในหลายๆ ด้าน แต่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเดนมาร์ก โดยมีข้อตกลงระหว่างประเทศในเรื่องอธิปไตยและการปกครอง

ขณะที่ ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมูเต เอเกเดแห่งกรีนแลนด์ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งได้ประกาศว่าจะเรียกประชุมผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ ในประเทศ เพื่อแสดงจุดยืนและความไม่เห็นด้วยต่อแผนการผนวกกรีนแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “เราไม่สามารถยอมรับแผนการที่จะทำให้กรีนแลนด์กลายเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ โดยไม่มีการปรึกษาหารือกับประชาชนในกรีนแลนด์และรัฐบาลของเรา” เขายังเน้นย้ำว่า กรีนแลนด์มีความเป็นอธิปไตยและการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของประเทศต้องมาจากประชาชนและรัฐบาลของกรีนแลนด์เท่านั้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่า กรีนแลนด์ยังคงยืนหยัดในการรักษาความเป็นอิสระและอธิปไตยของตนเอง ไม่ให้มีการแทรกแซงจากภายนอก

สมุทรปราการ-ศูนย์เวลเนส วีแคร์ ร่วมงานประชุมวิชาการระดับชาติด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต นำเสนอแนวปฏิบัติทางคลินิกจากงานวิจัยกว่า 500 ฉบับ

ศูนย์เวลเนส วีแคร์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานประชุมวิชาการระดับชาติด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิตและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 หัวข้อ "HEALTHY LIVING | HEALTHY LONGEVITY เวชศาสตร์วิถีชีวิต จังหวะชีวิตเพื่ออายุที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี" ซึ่งจัดโดยกรมอนามัย ร่วมกับ สสส. สมาคมเวชศาสตร์วิถีชีวิตไทย สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่าย 

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์เวลเนส วีแคร์ ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรบรรยายหลักใน session "แนวทางปฏิบัติทางคลินิกและแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อเวชศาสตร์วิถีชีวิต" (KALM Series) ทได้นำเสนอแนวปฏิบัติทางคลินิก (Clinical Practice Guidelines: CPG) อันเป็นผลจากการศึกษาวิเคราะห์และทบทวนงานวิจัยอย่างเข้มข้นกว่า 500 บทความวิชาการ ก่อนนำมาสังเคราะห์และพัฒนาเป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม องค์ความรู้เหล่านี้ไม่เพียงมีฐานทางวิชาการที่แข็งแกร่ง แต่ยังถูกออกแบบให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในระบบสาธารณสุข เพื่อยกระดับการจัดการสุขภาพของประชาชนไทยให้ก้าวสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน 

ในงานนี้ ศูนย์เวลเนส วีแคร์ ยังได้ออกบูธประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต สำหรับองค์กรและบุคลากรสาธารณสุข พร้อมนำเสนอแคมป์สุขภาพที่ทางศูนย์ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ขณะที่เมก้า วีแคร์ บริษัท ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพคุณภาพสูงในราคามิตรภาพสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เข้าร่วมงาน 

การเข้าร่วมงานครั้งนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของศูนย์เวลเนส วีแคร์ ในการเป็นผู้นำด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิตและการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน โดยมุ่งมั่นถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และนวัตกรรมด้านสุขภาพ เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมสุขภาพดีถ้วนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการประชุมที่มุ่งพัฒนาระบบเวชศาสตร์วิถีชีวิตในประเทศไทยอย่างยั่งยืน 

กองทัพเรือ ปิดหลักสูตรการฝึกอาชีพให้ทหารกองประจำการ ก่อนปลดประจำการจากกองทัพเรือ

(14 มี.ค.68) พลเรือเอก วิจิตร ตันประภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ (คพท.) เป็นประธานในพิธีปิดหลักสูตรการฝึกอาชีพ ให้แก่ทหารกองประจำการ รุ่นที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมอบวุฒิบัตรและแสดงความยินดีกับผู้ที่สำเร็จหลักสูตร ณ สโมสรสัญญาบัตร ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ตามที่กระทรวงกลาโหม มีข้อตกลงร่วมกับกระทรวงแรงงานในการพัฒนาบุคลากร ในด้านทักษะวิชาชีพให้กับทหารกองประจำการ ก่อนปลดประจำการจากกองทัพเรือ ไปประกอบอาชีพส่วนตัวนั้น คณะอนุกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการกองทัพเรือ ร่วมกับกรมฝีมือแรงงาสน กระทรวงแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 17 ระยอง ได้จัดให้มีการฝึกอาชีพให้แก่ทหารกองประจำการในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวน 4 รุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเพิ่มพูนความรู้ และประสบการณ์ในวิชาชีพสาขาต่าง ๆ ให้สามารถนำความรู้ไประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงครอบครัว เมื่อปลดประจำการไปแล้ว

สำหรับการฝึกอบรมอาชีพในครั้งนี้เป็นการฝึกอบรมในรุ่นที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 68 โดยได้รับสมัครทหารกองประจำการจากหน่วยต่าง ๆ ในพื้นที่สัตหีบ เข้ารับการฝึกอบรมอาชีพช่างทั่วไปและหลักสูตรฝึกอาชีพเสริม ประกอบด้วย หลักสูตรช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ หลักสูตรช่างเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร หลักสูตรช่างเชื่อมไฟฟ้าด้วยมือ หลักสูตรการบำรุงรักษารถยนต์ และหลักสูตรนิวไดร์เวอร์ ร่วมกับบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี อะคาเดมี จำกัด โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 57 นาย

‘ศุภชัย’ ยก ศาสตร์พระราชา-เศรษฐกิจพอเพียง Soft Power ที่แท้จริง ย้ำหลัก 'พอเพียง รู้เท่าทัน มีภูมิคุ้มกัน' เป็นสูตรการพัฒนาที่ยั่งยืน

‘ดร.ศุภชัย‘ ยกศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียงคือ Soft Power ที่แท้จริงของไทย พร้อมย้ำหลัก 'พอเพียง รู้เท่าทัน มีภูมิคุ้มกัน' เป็นสูตรการพัฒนาที่ยั่งยืนที่โลกยอมรับ

ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) และอดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) กล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษฐานเศรษฐกิจ เกี่ยวกับการผลักดัน Soft Power โดยเห็นว่า Soft Power ที่แท้จริงและทรงพลังของไทยไม่ใช่เพียงแค่มวยไทย หรืออาหารไทย แต่คือศาสตร์พระราชาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลก

"หัวใจของ Sustainable Development คือ Sufficiency Economy ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นี่คือ Soft Power ของไทยที่แท้จริง" ดร.ศุภชัย กล่าว

ปรัชญานี้ได้รับการยอมรับจากองค์การนานาชาติ โดยเฉพาะในเวทีสหประชาชาติ ในช่วงที่เป็นเลขาธิการ UNCTAD ได้พยายามผลักดันหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในเวทีการประชุมระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าหัวใจของเศรษฐกิจที่ยั่งยืนคือเศรษฐกิจพอเพียง และก็ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยเฉพาะการที่สหประชาชาติยกย่องให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวัน World Soil Day หรือวันดินโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับในความเชี่ยวชาญของไทยในเวทีระดับโลก

"ความรู้เรื่องดินของเรามาจากพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เรานี่ที่หนึ่งในโลกเลย บางประเทศในแอฟริกาก็เคยมาขอให้ไทยไปช่วย" ดร.ศุภชัย กล่าว

นิยาม Soft Power ที่แท้จริงดร.ศุภชัย กล่าวว่าความหมายที่แท้จริงของ Soft Power 'Soft Power' คือการที่คุณมีอำนาจที่ไปหว่านล้อมคนอื่นได้ โดยที่คุณไม่ต้องใช้อะไรไปบังคับเขา ในขณะที่มวยไทย อาหารไทย และวัฒนธรรมบันเทิงอื่น ๆ เป็นส่วนที่ดีในแง่ของความสร้างสรรค์ (Creative) แต่ Soft Power ที่แท้จริงของไทยคือค่านิยม ปรัชญา และองค์ความรู้ที่คนไทยมี โดยเฉพาะหลักการ 'พอเพียง รู้เท่าทัน มีภูมิคุ้มกัน' ซึ่งเป็นสูตรของพระราชาชาวนาที่ควรได้รับการเผยแพร่ในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น

"คนไทยเรามี 'สูตรของพระราชาชาวนา' ศาสตร์พระราชาของเรานี่เอง 'พอเพียง รู้เท่าทัน มีภูมิคุ้มกัน' อันนี้คือสิ่งที่เราต้องขยายออกไปให้มาก" ดร.ศุภชัย กล่าว

ดร.ศุภชัย ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับการวัดความสำเร็จทางเศรษฐกิจว่าไม่ควรยึดติดเพียงตัวเลข GDP เพียงตัวเดียว เพราะการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไม่ใช่ตัวเลขตัวเดียวในการวัดการพัฒนา ตัวเลขการเติบโตที่สำคัญที่สุดคือการเติบโตของรายได้กลุ่มที่มีรายได้น้อยที่สุด 40% ของประเทศ

ล่าสุดขององค์การสหประชาชาติไม่ได้ใช้ GDP เป็นตัวชี้วัดหลักในการประเมินความสำเร็จทางเศรษฐกิจอีกต่อไป เพราะ GDP ไม่ได้รวมหลายปัจจัยสำคัญ เช่น เศรษฐกิจนอกระบบ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และงานบ้านที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน

ดัชนีชี้วัดการพัฒนาที่สำคัญมันอยู่ที่ Social Indicator อย่างเช่นการศึกษาของเด็กเป็นยังไง ซึ่งสะท้อนแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ให้ความสำคัญกับมิติทางสังคมและการพัฒนามนุษย์ด้วย

การผสมผสานระหว่างหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนจะเป็นทางออกสำหรับประเทศไทยและโลกในการรับมือกับความท้าทายในอนาคต และนี่คือ Soft Power ที่แท้จริงของไทยที่ควรได้รับการส่งเสริมและเผยแพร่สู่เวทีโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top