Friday, 4 July 2025
ค้นหา พบ 49177 ที่เกี่ยวข้อง

‘หมู วรวุฒิ’ เตือน!! อย่าออกกำลังกายนานเกินไป หลังโหมปั่นจักรยานจนน้ำตาลหมด วูบกะโหลกแตก - ฟันหัก

หมู - วรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้ง ออฟฟิศเมท แชร์ประสบการณ์ออกกำลังกายนานเกินไปจนน้ำตาลหมด ก่อนมีอาการวูบเจ็บหนักทั้งกะโหลกแตก ฟันหัก กรามหัก เย็บเพดานปาก 16 เข็ม ชี้บทเรียนครั้งนี้ทำให้ต้องระมัดระวังให้มาก

เมื่อวันที่ (5 ม.ค. 68) เฟซบุ๊ก “Worawoot Ounjai” ของ นายวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้งบริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) ได้โพสต์แชร์ประสบการณ์ออกกำลังกายนานเกินไปจนน้ำตาลหมด จนเกิดอาการวูบเจ็บหนักจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 4 คืน โดยอาการกะโหลกแตก ฟันหัก กรามหัก เย็บเพดานปาก 16 เข็ม โดยระบุว่า

“เมื่อราว 2 เดือนที่ผ่านมาผมประสบอุบัติเหตุวูบจากการปั่นจักรยานครับ สาเหตุคือออกกำลังกายมากและนานเกินไป ปั่นไปต่อเนื่องร่วม 2 ชั่วโมงเศษ

ระหว่างปั่นก็ดื่มน้ำโดยตลอด ไม่ได้ขาดน้ำครับ แต่คุณหมอสันนิษฐานว่าวูบจากการใช้น้ำตาลจนหมด ไม่พอไปเลี้ยงสมอง..

วูบครั้งนี้ถึงขั้นเจ็บหนักครับ ต้องไปนอนโรงพยาบาลอยู่ 4 คืนเพราะกะโหลกหน้าแตก ฟันหักไป 3 ซี่ กรามหัก และต้องเย็บเพดานปากด้านในอีก 16 เข็ม

ต้องกินแต่อาหารเหลวอยู่เดือนครึ่ง ผ่านหลอดดูด เพราะต้องยึดฟันบนกับล่างให้ติดกันด้วยลวดเหล็กจนพูดไม่ถนัดอ้าปากไม่ได้จนถึงวันนี้ ทำให้ต้องงดงานบรรยาย และนัดหมายอื่นๆ ทั้งหมดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งต้นกุมภาฯ นี้น่าจะหายดีครับ

ที่เอามาเล่าให้ฟังนี้ เพราะอยากจะให้เป็นข้อเตือนใจครับ ว่าคนที่อายุมากแล้ว เวลาออกกำลังกายต้องระมัดระวัง อย่าคิดว่าร่างกายเรามันจะเหมือนตอนอายุน้อยๆ แข็งแรงเหมือนก่อน

อย่างเคสผมคือ ใจมันไปเกินสังขาร เพราะตอนออกกำลังกายก็สนุกและคิดว่าร่างกายเราไหว ส่วนหนึ่งเพราะขาดความรู้ด้วยครับ คิดแต่ว่าเราไหว และไม่ได้ขาดน้ำ แต่สำหรับคนปั่นจักรยานนานๆ ไกลๆ จะต้องมีน้ำเกลือแร่หรือน้ำหวานคอยจิบเป็นระยะๆ ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำตาลหรือเกลือแร่จากการออกกำลังกายเป็นเวลานานๆ

บทเรียนครั้งนี้ ทำให้ต้องระมัดระวังให้มากเมื่อจะกลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง เพราะเจ็บหนักรอบนี้ต้องพักรักษาตัวนานกว่า 2 เดือนเลยทีเดียว และโชคดีที่ไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้

สำหรับท่านที่ติดต่อมาในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ก็ต้องขออภัยด้วยครับที่ไม่สามารถพบปะ และการบรรยายก็ต้องงดไปด้วย 2-3 งาน เพราะอุบัติเหตุครั้งที่ผ่านมานี้

มาตอนนี้ร่างกายก็ดีขึ้นมากแล้วครับ อาทิตย์หน้าก็คงจะรับประทานอาหารได้เป็นปกติ ไม่ต้องคอยดูด ensure แบบที่ผ่านมา ก็เลยเอามาเล่าให้ฟังกัน จะได้ระมัดระวังกันไว้ครับ โดยเฉพาะท่านที่อายุมากแล้วในการออกกำลังกายครับ”

Leopard 2 สุดยอดรถถังของยุโรป กลายเป็นเศษเหล็ก หลังเผชิญหน้ารถถังรัสเซีย ในสมรภูมิยูเครน

(6 ม.ค. 68) สงครามระหว่างกับรัสเซีย-ยูเครนจะครบ 3 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ปัจจัยที่ทำให้ยูเครนยังคงสามารถยืนหยัดต่อต้านกองกำลังของรัสเซียได้นั้น ส่วนใหญ่ที่สุดมาจากการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร NATO สมาชิกองค์การ NATO จำนวนมากมายมหาศาลตั้งแต่อาวุธเบาเช่นปืนเล็กยาว ปืนกล ขีปนาวุธนานาชนิด ปืนใหญ่ รถถัง รถหุ้มเกราะ สารพัดชนิด กระทั่งเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 (จนอาวุธยุทโธปกรณ์ในคลังสำรองของประเทศเหล่านั้นแทบจะหมดเกลี้ยง) อีกทั้งรัสเซียเองก็ไม่ได้ทุ่มสรรพกำลังเต็มที่ในการทำสงครามครั้งนี้ ด้วยยังคงกองกำลังส่วนใหญ่ไว้ในประเทศเพื่อป้องกันประเทศจากการรุกรานของชาติต่าง ๆ ที่เป็นปรปักษ์ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้

รถถังหลัก (Main battle tank : MBT) แบบ Leopard 2 ก็เช่นเดียวกัน รถถังรุ่นนี้ถือเป็นรถถังหลักที่ล้ำหน้าที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ด้วยเชื่อว่า รถถังหลักแบบ Leopard 2 จะเป็นรถถังหลักที่จะช่วยยูเครนเปลี่ยนรูปโฉมของสงครามกับรัสเซียได้ ดังนั้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 รัฐบาลยูเครนได้ร้องขอให้ชาติพันธมิตรได้ให้การสนับสนุนด้วยการส่งมอบรถถังหลักแบบต่าง ๆ ที่ผลิตในประเทศตะวันตก ซึ่ง โปแลนด์ ฟินแลนด์ และประเทศอื่น ๆ ต่างประกาศความตั้งใจที่จะสนับสนุนรถถังหลักแบบ Leopard 2 จากคลังสำรองของประเทศเหล่านั้นในเบื้องต้นประมาณ 100 คันให้กับยูเครน อย่างไรก็ตาม เมื่อเยอรมนีส่งออกรถถังไปยังประเทศเหล่านี้ เยอรมนีได้กำหนดให้การส่งออกซ้ำต้องมีเงื่อนไขได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเยอรมนีก่อน จึงเกิดเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อรัฐบาลเยอรมนีพยายามบ่ายเบี่ยงการอนุญาตดังกล่าว อีกทั้งยังเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาให้คำมั่นในการจัดหารถถัง M1 Abrams ก่อนที่จะส่งรถถังหลักแบบ Leopard 2 ที่ผลิตในเยอรมนีไปยังยูเครน

หลังจากที่ประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ ตัดสินใจส่งมอบรถถังหลักแบบ M1 Abrams ให้กับยูเครน เนื่องจากเยอรมนียืนกรานที่จะดำเนินการร่วมกับพันธมิตร NATO ซึ่งการตัดสินใจส่งมอบรถถังหลักแบบ M1 Abrams ให้กับยูเครนของประธานาธิบดี Biden ก่อนหน้านี้เคยถูกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ คัดค้านมาแล้ว ปัจจุบัน ยูเครนได้รับมอบรถถังหลักแบบ Leopard 2 รุ่นต่าง ๆ จากชาติพันธมิตร NATO อาทิ เยอรมนี โปแลนด์ นอร์เวย์ แคนาดา สเปน โปรตุเกส กรีซ สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ รวมแล้วกว่า 200 คัน ซึ่งจาการสู้รบที่ผ่านมา Oryx เว็บไซต์ข่าวด้านความมั่นคงของเนเธอร์แลนด์ระบุว่า จากการยืนยันด้วยภาพ รถถังหลักแบบ Leopard 2 ของยูเครนถูกกองกำลังรัสเซียทำลายไปแล้วกว่า 40 คัน เป็น Leopard 2 รุ่น 2A4 จำนวน 21 คัน, 2A6 จำนวน 13 คัน และ Strv 122 จำนวน 7 คัน (Leopard 2 รุ่น 2A5 ของสวีเดน) หรือราว 20% จากที่มีอยู่ และอีกหลายคันทั้งที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์และเศษซากจากการทำลายโดยกองกำลังรัสเซีย ถูกยึดและส่งไปยังสหพันธรัฐรัสเซีย

รถถังหลักแบบ Leopard 2 ทั้งที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์และเศษซากจากการทำลายถูกนำไปตั้งแสดงในอนุสรณ์สถาน Patriot Park และ Leopard 2 ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์คันหนึ่งได้ถูกส่งไปยังโรงงาน UVZ (UralVagonZavod : โรงงานผลิตยานยนต์แห่งเทือกเขาอูรัล) ในเมือง Nizhny Tagil ซึ่งเป็นโรงงานที่มีหน่วยงานวิจัย พัฒนา และผลิตอุปกรณ์ทางการทหาร รวมถึงรถถังหลักและรถบรรทุกรถถังบนรางรถไฟ เพื่อทำการถอดชิ้นส่วนเพื่อทำการศึกษาวิจัยต่อไป นอกจากนั้นแล้ว โรงงาน UVZ เป็นโรงงานรถยนต์ รถบรรทุก เพื่อการเกษตร ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องมือ และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยการผลิตรถถังหลักแบบ T-90 คิดเป็น 18-20% ของการผลิตทั้งหมดของบริษัท 

ในปี 2008 โรงงาน UVZ ผลิตรถถังประมาณ 175 คัน รวมถึง T-90A 62 คันสำหรับกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย และ T-90S 60 คันสำหรับกองทัพบกอินเดีย ซึ่งถือเป็นระดับการผลิตรถถังสูงสุดของโรงงาน UVZ และในรัสเซียโดยรวม ตามรายงานของ Moscow Defense Brief ระบุว่า ในปี 2008 จำนวนรถถังที่บริษัทผลิตได้มากกว่าจำนวนรถถังหลักที่ผลิตโดยประเทศอื่น ๆ ทั่วทั้งโลกรวมกัน และตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 โรงงาน UVZ ได้ถูกโอนไปอยู่ภายใต้ Rostec ซึ่งเป็นวิสาหกิจที่มีลักษณะเป็นบริษัท Holding ของรัฐบาลรัสเซียตามคำสั่งของประธานาธิบดี ในปี 2020 บริษัทรายได้มากถึง 28 พันล้านรูเบิล ในปี 2022 โรงงาน UVZ ถูกกำหนดให้อยู่ภายใต้มาตรการการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ชาติพันธมิตร และสหภาพยุโรป อันเป็นผลมาจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

รถถังหลักแบบ Leopard 2 ที่มีใช้ในประเทศใกล้บ้านเราได้แก่ สิงคโปร์ (247 คัน) และอินโดนีเซีย (113 คัน) นอกจากรถถังหลักแบบ Leopard 2 แล้ว อาวุธยุทโธปกรณ์ของยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร NATO ทั้งรถถังหลัก (รวมทั้งรถถังหลักแบบ M 1 Abrams ของสหรัฐฯ) รถหุ้มเกราะ นานาชนิด ถูกกองทัพรัสเซียทำลายและยึดเอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยรูปแบบของการรบในสงครามครั้งนี้เปลี่ยนโฉมไปมาก เมื่อทั้งสองฝ่ายนำโดรนโจมตี (Attack/Killer drone) เข้ามาปฏิบัติการ ดังนั้นนอกจากจาก เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง ทุ่นระเบิดดักรถถัง และปืนใหญ่รถถังด้วยกันเองแล้ว กำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากของทั้งสองฝ่ายได้ถูกทำลายโดยโดรนโจมตี ดังนั้นสงครามต่อไปในอนาคตโดรนจะมีบทบาทที่สำคัญในการรบทั้ง การลาดระเวน ตรวจการณ์ ชี้เป้า และโจมตี ฯลฯ 

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ตกทะเลญี่ปุ่น คาดยิงโชว์ 'ทรัมป์' ก่อนรับตำแหน่ง

(6 ม.ค. 68) สื่อท้องถิ่นเกาหลีใต้รายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลตกลงในทะเลญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกของปี 2025

ตามข้อมูลจากคณะเสนาธิการร่วม (JCS) ของเกาหลีใต้ ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงในครั้งนี้บินไปได้ไกลถึง 1,100 กิโลเมตร (683.5 ไมล์) ก่อนจะตกลงในทะเลญี่ปุ่น

การยิงขีปนาวุธครั้งนี้เป็นครั้งแรกในปี 2025 และเกิดขึ้นหลังจากการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ (SRBM) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา

ขีปนาวุธดังกล่าวตกลงนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นที่รายงานว่าไม่พบความเสียหายจากเหตุการณ์นี้

หน่วยงานยามชายฝั่งญี่ปุ่นยืนยันว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามทะเลจริง และหลังจากหกนาที หน่วยงานดังกล่าวได้ออกแถลงการณ์ว่า ขีปนาวุธได้ตกลงแล้ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้เรือทุกลำรายงานชิ้นส่วนที่พบ แต่ห้ามเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว

ทางทหารเกาหลีใต้ได้เพิ่มการเฝ้าระวังและความเข้มงวดในการควบคุม โดยเตรียมพร้อมรับมือกับการยิงขีปนาวุธเพิ่มเติม พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยยังคงรักษาความพร้อมรบเต็มที่ ตามรายงานจากคณะเสนาธิการร่วม (JCS)

การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้อาจเป็นการแสดงแสนยานุภาพของเกาหลีเหนือ ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมนี้

คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้กล่าวว่า “กองทัพยังคงรักษาท่าทีเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ โดยแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น พร้อมทั้งเพิ่มการเฝ้าระวังและเตรียมรับมือหากเกิดการยิงขีปนาวุธเพิ่มเติม”

ญี่ปุ่นยังได้ประกาศว่า เกาหลีเหนือได้ยิงสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นขีปนาวุธ ซึ่งคาดว่าวัตถุดังกล่าวได้ตกลงมาแล้ว

การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ (SRBM) และถือเป็นการยิงครั้งสุดท้ายก่อนที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะออกมา

เพจ สนง.พลังงานลำปาง โพสต์ถล่ม ‘พีระพันธุ์’ ซัด รู้แต่กฎหมายไม่รู้เรื่องพลังงาน - ใช้นโยบายคร่ำครึ

(6 ม.ค. 68) พลังงานจังหวัดลำปาง น้อมรับทัวร์ลง..หลังแอดมินเพจ สนง.โพสต์ภาพ-ข้อความ ถล่ม “พีระพันธุ์” รู้แต่กฎหมายไม่รู้เรื่องพลังงาน - ใช้นโยบายคร่ำครึ เผยไม่ได้เขียนเอง-เป็นลิ้งค์ส่วนกลางส่งให้ทุกสำนักงาน/ทุกจังหวัดลงเผยแพร่ ก่อนรู้ว่าผิดลิ้งค์สั่งลบกันทันที

จากกรณีเย็นวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา หน้าเฟซบุ๊กเพจสำนักงานพลังงานจังหวัดลำปาง ได้มีการโพสต์รูปนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมข้อความประกอบลักษณะโจมตีและต่อว่านโยบาย รื้อ ลด ปลด สร้าง แบบดุเดือด แต่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ได้ไม่ถึง 20 นาที ก็ถูกลบออก

จากนั้นมีการขึ้นโพสต์ใหม่ โดยมีข้อความว่า..“พีระพันธุ์” โชว์ผลงาน 67 ตรึงค่าไฟ-ผุดกฎหมายพลังงาน ลั่นปี 68 เดินหน้าลดราคาน้ำมัน-หนุนโซลาร์รูฟ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพลังงาน โพสต์สรุปผลงานปี 2567 เผยสามารถตรึงค่าไฟฟ้าที่ 4.18 บาทต่อหน่วย และ 3.99 บาทสำหรับกลุ่มเปราะบาง

พร้อมผลักดันกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างกฎหมายกำกับการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และกฎหมายส่งเสริมโซลาร์รูฟ สำหรับแผนงานปี 2568 จะร่างกฎหมายสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคง (SPR) กำหนดให้สำรองน้ำมันขั้นต่ำ 90 วัน คาดช่วยลดราคาน้ำมัน 2.50-4 บาทต่อลิตร พร้อมผลักดันการผลิตอินเวอร์เตอร์ราคาถูกสำหรับโซลาร์รูฟ รมว.พลังงาน ยังตอบโต้กระแสข่าวขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันได้รับการสนับสนุนจากทั้งนายกฯ แพทองธารและอดีตนายกฯ เศรษฐา ในการทำงานตามนโยบายรัฐบาล”

อย่างไร็ตาม แม้ว่าโพสต์โจมตี รมว.พลังงาน ดังกล่าวทางสำนักงานจะลบไปแล้ว แต่ปรากฏว่ามีการแคปข้อความไว้ทันจนกลายเป็นกระแสข่าวผ่านสื่อและมีผู้คนเข้าไปแสดงความคิดเห็นเชิงลบกับสำนักงานพลังงานจังหวัดลำปางกันจำนวนมาก และต่อเนื่อง

ล่าสุด วันนี้ (6 ม.ค.)นางสายธาร ประสงค์ความดี พลังงานจังหวัดลำปาง ได้เปิดเผยถึงที่มาที่ไปของโพสต์ดังกล่าวว่า ปกติหน้าเพจของสำนักงานฯจะมีแอดมินดูแล-โพสต์กิจกรรมและภารกิจของสำนักงานอยู่แล้ว รวมถึงนำเสนอข่าวที่โดยทีมงานประชาสัมพันธ์ส่วนกลางส่งให้ทุกจังหวัดซึ่งก็จะมีทั้งสองด้าน

ส่วนโพสต์ที่กำลังเป็นข่าว ทางสำนักงานฯก็ไม่ได้เขียนเอง แต่ทางส่วนกลางส่งลิงค์มาให้ทุกจังหวัดนำลงประชาสัมพันธ์เพราะเห็นว่าเป็นช่องทางการเผยแพร่ที่เร็วที่สุด ซึ่งแอดมินก็ดำเนินการโพสต์ทันที แต่หลังจากนั้นทราบว่าเป็นการส่งลิงค์ข่าวผิด จึงได้แก้ไขและสั่งให้ทุกจังหวัดลบโพสต์ออกและลงโพสต์ใหม่ในเวลาต่อมา ซึ่งก็เป็นสาเหตุว่าทำไมลงได้ไม่นานแล้วลบออก

“ประชาชนที่เห็นโพสต์หรือข่าวก็อาจจะเข้าใจผิดว่าทางสำนักงานเขียนเองลบเอง ซึ่งจริงๆไม่ใช่ เพราะสำนักงานไม่มีเจตนาที่จะลงข้อความใดๆเพื่อทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆขึ้น ตนในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาพร้อมทำตามนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายรื้อลดปลดสร้าง ก็เป็นนโยบายหลักที่กำลังทำอยู่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด”

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า ลิงค์ข่าวดังกล่าวเป็นสกู๊ปข่าวของสำนักข่าว THE ROO44 ซึ่งได้ลงข่าวในหน้าเว็บไซต์เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2568 โดยมีหัวข้อข่าวว่า รู้กฎหมาย ไม่รู้เรื่อง “พลังงาน” นโยบายย้อนยุคของ “พีระพันธุ์”

'ซิงซิง' ดาราดังจีนหายตัวที่ไทย พบพิกัดสุดท้ายอยู่ 'แม่สอด'

(6 ม.ค. 68) สื่อและโซเชียลจีนร่วมแชร์ข่าวการหายตัวอย่างลึกลับของ 'ซิงซิง' ดาราหนุ่มชื่อดังชาวจีน หลังเดินทางมาถ่ายงานที่ประเทศไทย โดยพิกัดสุดท้ายถูกระบุอยู่ที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ญาติและแฟนสาวของซิงซิงได้ประสานงานกับสถานทูตจีนในไทยและหน่วยงานความมั่นคงเพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะที่โซเชียลจีนหวั่นว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับการล่อลวงคล้ายเนื้อหาในภาพยนตร์ดัง "No More Bets"

เพจ DomJeen ซึ่งรายงานเรื่องราวนี้เปิดเผยว่า แฟนสาวของซิงซิง ซึ่งใช้ชื่อว่า เจี่ยเจี่ย (Jiajia) ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือในโซเชียลมีเดีย เธอเล่าว่า ซิงซิงได้รับการติดต่อจากทีมงานผ่าน WeChat ให้เดินทางมาร่วมแคสติ้งและถ่ายทำในประเทศไทย ซิงซิงออกเดินทางจากสนามบินเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 และถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเช้าวันเดียวกัน ก่อนขึ้นรถที่ทีมงานจัดเตรียมไว้

เหตุการณ์ก่อนการหายตัว
วันที่ 3 มกราคม 2568 เวลา 03.00 น. ซิงซิงเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิและเดินทางต่อโดยรถยนต์ที่ทีมงานจัดไว้ โดยแจ้งว่าจะไปยังสถานที่ถ่ายทำในจังหวัดตาก ระหว่างการเดินทาง ระบบติดตามตำแหน่งแสดงว่ารถที่ซิงซิงโดยสารได้เดินทางไปยังพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณอำเภอแม่สอด ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ซิงซิงขาดการติดต่อกับแฟนสาวและทีมงาน ไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้ตั้งแต่นั้น การดำเนินการของครอบครัวและแฟนสาว แฟนสาวของซิงซิงได้ติดต่อทั้งสำนักงานความมั่นคงเซี่ยงไฮ้ สถานทูตจีนในกรุงเทพฯ และสถานทูตจีนในเชียงใหม่ เพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมประกาศเดินทางมายังประเทศไทยในวันนี้ (6 มกราคม 2568) เพื่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ไทย

เธอยังเปิดเผยว่าเคยมีนักแสดงชาวจีนหลายรายที่ประสบเหตุการณ์คล้ายกัน โดยถูกล่อลวงให้มาทำงานในต่างประเทศและต้องเผชิญกับสถานการณ์เสี่ยง

หลังเรื่องราวถูกเผยแพร่ใน เว่ยป๋อ (Weibo) แพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยมในจีน ชาวเน็ตและนักแสดงร่วมวงการต่างแสดงความห่วงใยและร่วมกันแชร์ข้อมูลเพื่อช่วยตามหา ซิงซิง ขณะที่บางส่วนแสดงความกังวลว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นการหลอกลวงเพื่อนำไปสู่การทำงานผิดกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมในพื้นที่

ชาวเน็ตจีนจำนวนมากภาวนาให้ซิงซิงปลอดภัยและกลับมาโดยเร็วที่สุด พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือในกรณีนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top