Friday, 4 July 2025
ค้นหา พบ 49177 ที่เกี่ยวข้อง

จัสติน ทรูโด จ่อไขก๊อกลาออก หลังเป็นนายกฯ 9 ปี คาดแถลงในสัปดาห์นี้

(6 ม.ค. 68) สื่อรายงานอ้างแหล่งข่าวระบุว่า จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาจะประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม ซึ่งอาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดในวันนี้ (6 มกราคม) ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพรรคที่เพิ่มมากขึ้น

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า จัสติน ทรูโด (Justin Trudeau) นายกรัฐมนตรีแคนาดาจะประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมโดยเร็วที่สุดในวันนี้ (6 มกราคม) หลังจากดำรงตำแหน่งนี้และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2015 ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพรรคให้ลาออกเพิ่มขึ้น โดยมีการอ้างอิงจากรายงานของเดอะโกลบแอนด์เมลเมื่อวันที่ 5 มกราคม

แหล่งข่าวกล่าวกับเดอะโกลบแอนด์เมล (The Globe and Mail) ว่าสื่อท้องถิ่นว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ทรูโดจะประกาศลาออกเมื่อไร แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนการประชุมใหญ่ของพรรคที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 8 มกราคมนี้ ซึ่งจะมีการหารือเกี่ยวกับอนาคตของนายทรูโดและอนาคตของพรรค

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า ทรูโดจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที หรือจะยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่

หลังจากการรายงานของเดอะโกลบแอนด์เมล แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทรูโดกล่าวกับรอยเตอร์ว่า ทรูโดมีแนวโน้มที่จะประกาศลาออกมากขึ้น แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย

เสียงเรียกร้องให้ทรูโดลาออกเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่นายกรัฐมนตรีทรูโดพยายามปลดคริสเทีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดในคณะรัฐมนตรีของเขาออกจากตำแหน่ง เมื่อเธอคัดค้านข้อเสนอของเขาที่จะเพิ่มการใช้จ่าย ต่อมา ฟรีแลนด์ลาออกและเขียนจดหมายกล่าวหาทรูโดว่ามีกลอุบายทางการเมืองแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ

แม้ว่ารัฐบาลแคนาดาจะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อปกป้องผู้บริโภคและธุรกิจจนทำให้ขาดดุลงบประมาณเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ไม่สามารถทำให้ความโกรธแค้นของประชาชนหายไปได้ เนื่องจากราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งนโยบายผู้อพยพที่ล้มเหลวทำให้มีผู้คนหลายแสนคนอพยพเข้ามา ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยที่ร้อนแรงอยู่แล้วตึงเครียด

ทรูโด อายุ 53 ปี ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยมในปี 2013 เมื่อพรรคเผชิญปัญหาหนักและถูกลดที่นั่งในสภาสามัญชน หรือสภาล่าง เหลือสถานะเพียงพรรคอันดับสามเป็นครั้งแรก จนกระทั่งสามารถนำพรรคขึ้นสู่อำนาจในฐานะพรรครัฐบาลได้สำเร็จเมื่อปี 2015 และทรูโดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยคำมั่นสัญญาตามแนวทางนโยบายก้าวหน้าที่ส่งเสริมสิทธิสตรี

การลาออกของทรูโดจะทำให้พรรคเสรีนิยมไม่มีหัวหน้าพรรคถาวรในช่วงเวลาที่โพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนแสดงให้เห็นว่า สมาชิกพรรคเสรีนิยมจะพ่ายแพ้ให้กับพรรคอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักในการเลือกตั้งที่คาดว่าจะจัดขึ้นภายในปลายเดือนตุลาคมนี้

การลาออกของทรูโดอาจกระตุ้นให้เกิดการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อให้รัฐบาลสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารของรัฐบาลสหรัฐในยุคโดนัลด์ ทรัมป์

แหล่งข่าวกล่าวว่า ทรูโดได้หารือกับนายโดมินิก เลอบลองค์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ถึงการที่จะให้เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคชั่วคราวและนายกรัฐมนตรี หรือไม่ โดยเสริมว่าการดำเนินการดังกล่าวจะไม่สามารถทำได้ หากนายเลอบลองค์มีแผนที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำ

“หากคุณยิ่งลักษณ์กลับมา ผมก็ยังมองไม่เห็นเลยว่า มันจะเสียหายกับบ้านเมืองอย่างไร คนเรา ไม่ว่าใคร หากช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติแล้ว เป็นประโยชน์ทั้งนั้น ไม่มีโทษหรอก”

(6 ม.ค. 68) “...บางทีเราอยู่ในสังคมนี้ก็ต้องทำใจ มองกว้าง ๆ ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร ทำแค่นี้เหมาะสมไหม เกินไปหรือเปล่า ไม่ใช่พอเห็นหน้า ปั๊บ ไอ้นี่ โกรธกันมาทั้งชาติแล้ว มีอะไรต้องล่อมันให้ตาย บ้านเมืองก็ไม่สงบ...”

นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวอิศรา ถึงความเป็นไปได้ในการกลับบ้านของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าท่านผิดท่านก็คงยอมรับผิด (ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกนางสาว ยิ่งลักษณ์ 5 ปี คดีจำนำข้าว) ท่านก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เชื่อว่าจะจบลงด้วยดี จบสวย

ส่วนระยะเวลาจะเป็นภายในปีนี้หรือไม่นั้น นายชัยเกษม บอกว่า ระยะเวลาอย่าไปกำหนดเลย ทุกอย่างเป็นไปตามจังหวะ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลายๆ อย่าง ต้องดูการเมือง ต้องดูหลายๆเรื่อง จะไปบอกว่า วันนี้ ปีนี้ บอกไม่ได้ ถ้าสถานการณ์ดี ผมก็ไม่เห็นว่าท่านจะผิดร้ายแรงอะไร ทุกอย่างเคลียร์ออกมาได้ ทุกคนบอกว่า โธ่เอ๊ย เรื่องแค่นี้เอง ไปทำอะไรกับท่านมากมาย มันก็จบ คนเราถ้าคิดดีต่อกัน คิดดีต่อบ้านเมือง คิดว่าบ้านเมืองก็ไปได้ ทุกอย่างก็จะราบรื่นเอง

และท่าน (คุณยิ่งลักษณ์) ก็คงรู้ตัวท่านเอง ท่านฟังแล้วประชาชนคิดอย่างไรกับท่าน คิดในทางไม่ดีไหม แต่สำหรับตัวผม ผมไม่รู้สึกว่า ท่านทำอะไรไม่ดีถึงขนาดอยู่เมืองไทยไม่ได้ ทีนี้ ท่านอยู่กับการเมือง ท่านก็ต้องเข้าใจว่า การเมืองนั้น เรื่องเล็กนิดเดียว กลายเป็นเรื่องใหญ่ ต้องยอมรับในสถานะนั้น ถึงเวลาคลี่คลายเรื่องใหญ่ก็จะเหลือเป็นเรื่องเล็ก ก็จะไปได้

ถ้าประชาชนคนไทย รู้จักคิดสักนิดหนึ่ง แล้วมาช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง ก็จะมีแต่เรื่องดี ๆ ไม่เห็นมีเรื่องอะไรเสีย ท่านเป็นคนฉลาด ทำคุณกับบ้านเมืองไว้มากมาย หากท่านกลับมา ผมก็ยังมองไม่เห็นเลยว่า มันจะเสียหายกับบ้านเมืองอย่างไร คนเรา ไม่ว่าใคร หากช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติแล้ว เป็นประโยชน์ทั้งนั้น ไม่มีโทษหรอก

‘พีระพันธุ์’ กับปรากฏการณ์ ‘พีระ...พัง’ บทพิสูจน์ผลงาน...เหนือการเมือง!!

(6 ม.ค. 68) ปี 2567 ต้องยอมรับว่าฉายาที่ผู้สื่อข่าวสายทำเนียบรัฐบาลจัดให้กับนักการเมืองเมื่อ 23 ธ.ค.นั้นแสบสันต์ไม่น้อย..โดยเฉพาะคนการเมืองจากพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)..

พีระพันธุ์  สาลีรัฐวิภาค  รองนายกฯและรมว.พลังงาน ได้ฉายา “พีระ..พัง..” /เอกณัฐ  พร้อมพันธ์  รมว.อุตสาหกรรม  ได้ฉายา ”รวม(เพื่อ)ไทยอ้างชาติ” และ สุรชาติ  ชมกลิ่น  รมช.พาณิชย์  ติด1ใน 3 รมต.โลกลืม..

แต่ไม่น่าเชื่อเพียง 1-2 ชั่วโมงหลังวิกฤติจากฉายาร้อนฉายาร้ายนี้สะพัดในโซเชียลมีเดีย  พรรค รทสช. ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสโดยฉับพลันด้วยการ  ทำแบนเนอร์ผ่านเพจพรรค..

“พีระ..พัง...การผูกขาด
พีระ..พัง..ระบบที่เน่าเฟะ
พีระ..พัง..การโกงกินทุกรูปแบบ
#ฉายารัฐบาล67”
และอีกดอก..
“#รทสช.ไม่ใช่แค่พีระพัง..
เอกณัฐ ก็พร้อม “พัง” กากพิษ
ธุรกิจสีเทา สินค้าห่วยข้ามชาติให้หมดสิ้น
#รทสช...พัง..ให้ทุกปัญหา”

ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าคนที่ครีเอทพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้เฉียบคมเช่นนี้..สุดยอด  แต่มองให้ลึกแล้วที่สุดยอดยิ่งกว่าก็คือสิ่งที่เรียกว่า “ต้นทุน” ทั้งต้นทุนของพรรคที่มี DNAลุงตู่  ต้นทุนคนชื่อพีระพันธุ์ ชื่อเอกณัฐ..และมวลสมาชิก..

โดยเฉพาะกรณี “พีระพันธุ์” นั้นต้องโฟกัสเป็นพิเศษว่า..ตลอดปีเศษที่ผ่านมาสื่อมวลชนขาใหญ่จำนวนไม่น้อยทำนายทายทักกันว่า  น่าจะต้องจอดป้ายในไม่นานเพราะการชักธงปฏิรูปพลังงานของเขาทำให้หลายฝ่ายเสียประโยชน์..ยิ่งกว่านั้นยังคาดหมายกันว่า  พรรครทสช.เองก็อาจจะถูก “พลังประชารัฐโมเดล” แยกสลาย...

โดยมีพรรคใหม่ที่จะเป็นพรรคสำรองแบบ “กล้าธรรม” คือพรรคโอกาสใหม่..ได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านั้นภาพเมื่อ 22 ธ.ค.ที่สนามกอล์ฟ Stonehill Golf Couse ของเจ้าสัวพลังงาน ”สารัชต์ รัตนวดี” นั้น ทักษิณ  ชินวัตร,อนุทิน  ชาญวีรกูล,คงพระพัน  อินทรแจ้ง ซีอีโอ ปตท.และสารัชต์  ออกรอบเล่นกอล์ฟด้วยกันด้วยความชื่นมื่นรื่นรมย์ ยิ่งตอกย้ำกระแสข่าวความเชื่อว่าพีระพันธุ์จะต้องจอดป้ายเกิดขึ้นแน่

แต่ท่ามกลางกระแสข่าวดังกล่าว  วันที่ 25 ธ.ค.พีระพันธุ์นำทีมรทสช.แถลงข่าวปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป  พร้อมเสนอร่างกฎหมายของพรรคเข้าสภา

ข้ามมาปีใหม่  4 ม.ค.2568 พีระพันธุ์โพสต์ในเฟซบุ๊ก  สรุปการทำงานในรอบปี 2567และสิ่งที่จะทำในปี 2568 อย่างเป็นรูปธรรมที่อ่านแล้วเห็นภาพสัมผัสได้..แต่ไฮไลท์ที่ต้องขีดเส้นใต้สิบเส้นคือ..

“เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงสองสามเดือนก่อนสิ้นปี 2567 ผมถูกกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าสื่อบางกลุ่มรุมกระหน่ำปั้นข่าวทุกรูปแบบ  โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวเปิดตัวพรรคใหม่ทุนหนา ก็มีบัญชีอวตารเปิดใหม่พรึ่บเพื่อใช้ถล่มผมแบบไม่ยั้งมือ  แต่ผมไม่เคยหวั่นไหวและจะทำในสิ่งที่ต้องทำเสมอครับ..
พอเห็นว่ากลยุทธแบบเดิมทำมาจะเล่นงานไม่ไหว ก็ไปปั้นข่าวว่าผมขัดแย้งกับนายกฯบ้าง ขัดแย้งกับแกนนำรัฐบาลบ้าง  ทั้งๆที่ผมและนายกฯแพทองธารและอดีตนายกฯเศรษฐาไม่เคยมีอะไรขัดแย้งกันเลย  แถมท่านทั้งสองก็สนับสนุนการทำงานของผมตลอดมา  เพราะเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลทั้งสิ้น....”

ล่าสุดของล่าสุด..วันที่ 5 ม.ค.ทักษิณ  ชินวัตร “พ่อนายก” ตอบคำถามนักข่าวชัดว่า..วันก่อนได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์(เรื่องค่าไฟ-พลังงาน)  และบอกว่าข่าวที่จะปรับพีระพันธุ์ออกจากครม.ไม่จริง “อ๋อ!ไม่มีคุยกันรู้เรื่อง ไม่มีอะไรเลย พีระพันธุ์เขาเป็นคนตั้งใจ  รู้จักกันมานาน  เคยมีความคุ้นเคยกัน รู้เรื่องทุกเรื่อง..”

ความจริงจากทักษิณ...เหมือนเกมพลิก สื่อมวลชนขาใหญ่ร้องเอ๊ะ!ไปตามๆ กัน..

นักสังเกตการณ์มองค่อนข้างตรงกันว่า  การชูธงที่จะปฏิรูปพลังงานเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้ “เรตติ้ง” ของพีระพันธุ์และพรรครทสช.พุ่งกระฉูดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  และน่าจะส่งผลให้แนวรบของรทสช.ในมิติความเป็นพรรคทางเลือกของสังคมเด่นชัดขึ้นอีกครั้ง..

ยิ่งหากปลดล็อกเรื่องโซลาร์รูฟท็อป และเข็นกฎหมายกำกับการประกอบกิจการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง 180 มาตรา ที่ “พีระพันธุ์”ประกาศว่าร่างเองมากับมือออกมาเป็นผลสำเร็จจริงๆ  ก็น่าจะยิ่งทำให้ต้นทุนที่ดีและมีอยู่แล้วของรทสช.ยิ่งแน่นหนึบ มูลค่าการตลาดเพิ่มขึ้นมหาศาล..

ถึงตรงนี้กรณีรทสช.-พีระพันธุ์..ก็น่าจะกล่าวได้ว่า..สุดยอดของการตลาดที่แท้จริงก็คือคุณภาพจริงๆของสินค้า..หาใช่แค่วาทกรรม..

“พีระ..พัง...” ไม่อาจจะฝ่าพายุฝ่าหลุมขวากมาได้ หากไม่มีคำว่า “คุณภาพ” เป็นตัวนำและค้ำยัน

ยุนซอกยอล มาจากการเลือกตั้ง มีสิทธิ์ได้รับการอารักขาตามกฎหมาย จึงไม่อนุญาตให้หน่วยงานสอบสวนเข้ามาค้นทำเนียบได้

เมื่อวันที่ (5 ม.ค. 68) หน่วยอารักขาประธานาธิบดียืนยัน ‘ยุนซอกยอล’ ยังได้รับสิทธิอารักขาในฐานะประมุขที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่อนุญาตให้สำนักงานสอบสวนฯ เข้ามาในเขตทำเนียบ

พัคชองจุน หัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิบดี ยุนซอกยอล แถลงข่าวภายหลังศาลยกคำร้องของทนายความประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่กล่าวหาว่าหมายจับนั้นมิชอบด้วยกฎหมาย

พัคชองจุน กล่าวว่า หน่วยอารักขาประธานาธิบดีไม่ได้อนุญาตให้สำนักงานสอบสวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้ามาในเขตทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 มกราคม เพื่อดำเนินการตามหมายจับที่ออกให้กับประธานาธิบดียุน ซ็อก-ย็อล

พัคชองจุน กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยอารักขาประธานาธิบดีไม่มีเจตนาขัดขวางการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานสอบสวน แต่การถอดถอนประธานาธิบดียุน ซ็อก-ย็อลได้ผ่านมติของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

พัคชองจุน ยืนยันว่า ยุนซอกยอล ยังคงเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนผู้ทรงอำนาจอธิปไตยของเกาหลีใต้ และยุนยังคงได้รับการอารักขาความปลอดภัยที่เหมาะสมตามบทบัญญัติของกฎหมาย

เปิด 10 ลำดับ แหล่งน้ำทะเลที่มีคุณภาพน้ำดีที่สุดประเทศไทย ยก หาดสมิหลา จ.สงขลา ยืนหนึ่ง ขณะที่ ปากแม่น้ำเจ้าพระยา คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมสุด

(6 ม.ค. 68) น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า การติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลชายฝั่งทั่วประเทศ จำนวน 210 จุด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่การใช้ประโยชน์ตามมาตรฐานคุณภาพน้ำทะเล 6 ประเภท ผลการประเมินดัชนีคุณภาพน้ำทะเล (Marine Water Quality Index ; MWQI) ปี 2567 มีคุณภาพน้ำทะเลชายฝั่งอยู่ในเกณฑ์ดี ร้อยละ 49 เกณฑ์พอใช้ ร้อยละ 43 เกณฑ์เสื่อมโทรม ร้อยละ 6 และมีเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก ร้อยละ 2

น.ส.ปรีญาพร กล่าวว่า แหล่งน้ำทะเลที่มีคุณภาพน้ำทะเลดีที่สุด 10 ลำดับแรก ได้แก่ 
1. หาดสมิหลา จ.สงขลา 
2. หาดในหาน จ.ภูเก็ต 
3. หาดต้นไทร จ.กระบี่ 
4. อ่าวมาหยา จ.กระบี่ 
5. อ่าวโล๊ะซามะ จ.กระบี่ 
6. เกาะยูง จ.กระบี่ 
7. เกาะไก่ จ.กระบี่ 
8. หาดท้ายเหมือง จ.พังงา 
9. หาดบางเบน จ.ระนอง  
10. บ้านทุ่งริ้น จ.สตูล 

ส่วนแหล่งน้ำทะเลที่มีคุณภาพน้ำทะเลเสื่อมโทรมมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1. ปากแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ 2. โรงงานฟอกย้อม กม. 35 จ. สมุทรปราการ 3. ปากคลอง 12 ธันวา จ.สมุทรปราการ 4. แหลมฉบัง ตอนใต้ จ.ชลบุรี และ 5. ปากแม่น้ำท่าจีน จ.สมุทรสาคร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top