Wednesday, 14 May 2025
ค้นหา พบ 48047 ที่เกี่ยวข้อง

‘EA-รามาฯ-EXAT’ ดันอาคารจอดรถต้นแบบ ติดตั้งหัวชาร์จมากที่สุดใน ASEAN ถึง 578 เครื่อง

(29 มี.ค.66) นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า EA ยกระดับมิติใหม่ของระบบการจัดการพลังงานแบบเดิม สู่รูปแบบการก่อสร้างอาคารและติดตั้งระบบบริการชาร์จไฟที่ทันสมัย ในการเป็น EV Hub แห่งแรกในอาเซียน ภายใต้แนวคิด ‘EV Smart Building’ by EA Anywhere บนอาคารจอดรถ รามาธิบดี - พลังงานบริสุทธิ์ สนับสนุนพื้นที่โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นอาคารต้นแบบแห่งแรกที่ติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เป็นจำนวน 578 เครื่อง พร้อมให้บริการสถานีชาร์จทั้งระบบ AC Normal Charge ขนาด 7.3 kW จำนวน 576 เครื่อง ดำเนินการครอบคลุม 100% ทุกช่องจอดรถในอาคาร และระบบ DC Fast Charge 360 kW จำนวน 2 เครื่อง โดยคาดว่าจะพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคมนี้

อาคารแห่งนี้ออกแบบเพื่อการ Sharing & Charging ที่ส่งเสริมผู้ใช้บริการยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมระบบการบริหารจัดการพลังงานที่ครบวงจรอย่างคุ้มค่า ด้วยนวัตกรรมการจัดการพลังงานไฟฟ้า แบบ Predictive และ Productive ให้สามารถรองรับจำนวนเครื่องชาร์จไฟฟ้าจำนวนมากได้ ไม่ต้องลงทุนในระบบโครงสร้างเพิ่มเติม และมีความสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานต่อจำนวนชั่วโมงการชาร์จ ใช้งานง่าย ควบคู่ไปกับ แอปพลิเคชันอัจฉริยะ EA Anywhere ที่สามารถ ค้นหา จอง ชาร์จ จ่าย จบได้ในแอปฯ เดียว

"โครงการอาคารจอดรถ รามาธิบดี - พลังงานบริสุทธิ์ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะยกระดับประเทศสู่ EV Hub ด้วย Model ‘EV Smart Building’ by EA Anywhere สู่การพัฒนาพื้นที่สำหรับ อาคารชุด อาคารสำนักงาน และอาคารขนาดใหญ่ อาทิ ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, คอนโด, Mix Use และ Community Mall ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่เดิมให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้า ที่คุ้มค่า ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุด” นายสมโภชน์กล่าว

ทั้งนี้ ระบบ ‘EV Smart Building’ by EA Anywhere ได้มีการออกแบบระบบการควบคุมกำลังไฟฟ้า โดยคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการพลังงาน ซึ่งในทุกเครื่องอัดประจุไฟฟ้า จะมีการเชื่อมโยงกับระบบ Smart Monitoring ของบริษัทฯ ผ่านระบบสื่อสารแบบ Real-Time เพื่อตรวจสอบสถานะการทำงาน และ ควบคุมการจ่ายพลังงาน มาพร้อมกับการจัดลำดับความสำคัญของการใช้พลังงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ปัจจุบัน สถานีชาร์จในโครงข่าย EA Anywhere ดำเนินการโดยบริษัท พลังงานมหานคร จำกัด ให้บริการแล้วกว่า 490 สถานีทั่วประเทศ และตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จไปสู่ธุรกิจการจัดการพลังงาน ‘EV Smart Building’ by EA Anywhere ภายในสิ้นปี 2566 เพื่อให้ผู้ใช้รถ EV โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้รถในอาคาร มีความมั่นใจในการเลือกใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น

-โรงพยาบาลรามาธิบดี และ บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ โดยรับการสนับสนุนพื้นที่โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมติดตั้ง การพลังงาน ‘EV Smart Building’ by EA Anywhere ซึ่งเป็นอาคารที่มีหัวชาร์จมากที่สุดใน ASEAN
-โดยจะให้บริการทั้งรูปแบบ AC Normal Charge ขนาด 7.3 kW จำนวน 576 เครื่อง ดำเนินการครอบคลุม 100% ทุกช่องจอดรถในอาคาร และ แบบ DC Fast Charge 360 kW จำนวน 2 เครื่อง
-ออกแบบระบบการอัดประจุ ภายใต้หลักการ Sharing and Charging และมีระบบการบริหารจัดการพลังงานในอาคารที่สอดรับกับพฤติกรรมการจอดรถของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง
 

‘กรณ์’ ฉะ 2 รมต. แก้ปัญหา ‘ไฟป่า-ค่าไฟ’ ล้มเหลว ลั่น!! ชพก. มีแผนพร้อมจัดการ 2 ปัญหาเพื่อ ปชช.

(29 มี.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แสดงความอึดอัดต่อท่าที่ของรัฐบาลในการให้สัมภาษณ์ของ 2 รัฐมนตรี ที่รับผิดชอบในการแก้ปัญหา 2 ไฟ ได้แก่ ไฟป่าที่ก่อให้เกิดปัญหา PM2.5 และค่าไฟฟ้าที่รัฐบาลจะประกาศขึ้นราคาในภาคครัวเรือนในเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 

โดยนายกรณ์ ได้กล่าวถึงปัญหาการเผาป่าในไร่ข้าวโพดของประเทศไทย และไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลต่อสภาพอากาศของพี่น้องภาคเหนือ โดยเฉพาะคุณภาพอากาศที่เชียงรายถือว่าสาหัสมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ค่า PM2.5 สูงถึงเกือบ 500 หน่วย ซึ่งเป็นระดับอากาศที่เป็นพิษ หายใจไม่ได้เลย ตามรายงานทราบว่ามีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยายาลอย่างน้อย 3,000 คน ไม่นับรวมคนป่วยที่บ้านอีกเป็นจำนวนมาก รัฐบาลประกาศให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 แต่กลับไม่มีมาตรการใด ๆ ที่จับต้องได้เพื่อให้ประชาชนมีความหวังว่าจะมีสถานการณ์จะดีขึ้น ตรงกันข้ามสถานการณ์กลับเลวร้ายลงเรื่อย ๆ ตนรู้สึกอึดอัดและโกรธแทนพี่น้องคนไทยทุกคนที่เดือดร้อน

“ผมเห็นท่าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์สื่อที่ถามว่า ถึงเวลาประกาศเป็นภัยพิบัติฉุกเฉินแล้วหรือยัง ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานราชการมีมาตรการที่ชัดเจนเพื่อพี่น้องประชาชน แต่ ท่านตอบมาพอสรุปได้ว่า ยังประกาศไม่ได้ เพราะไม่รู้ประกาศไปแล้วจะนำไปสู่การมาตรการอะไร เพราะไม่มีมาตรการใด ๆ รองรับ และไม่รู้ด้วยว่าจะประกาศในพื้นที่ไหนบ้าง เนื่องจากไม่มีการกำหนดเกณฑ์ว่าคุณภาพอากาศต้องเลวร้ายระดับไหน ถึงจะประกาศเป็นภัยพิบัติ หรือ ภัยฉุกเฉินได้ ผมเชื่อว่า ใครฟังก็คงตกใจและหดหู่ใจว่า ปัญหาระดับวาระแห่งชาติที่ประกาศมาแล้ว 4 ปี แทนที่จะกระบวนการช่วยเหลือเฉพาะหน้า เช่นอุปกรณ์เครื่องรองรับบรรเทาปัญหา ทั้งหน้ากาก ยา เวชภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศ  หรือแม้แต่การอพยพประชาชนที่อาจมีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ ทางเดินหายใจ ออกจากพื้นที่เสี่ยง ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อจะได้มีการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ” นายกรณ์ กล่าว  

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีชุดความคิดที่เป็นข้อเสนอมาตรการระยะยาวในการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหาควันภาคเหนือที่ก่อให้เกิด PM2.5 นั้น เกิดจากการเผาในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเมียนมา และ สปป.ลาว ที่ส่วนหนึ่งเราเข้าใจว่าเกษตรกรต้องทำมาหากินด้วยการปลูกไร่ข้าวโพดสัตว์เลี้ยง เมื่อถึงเวลาเตรียมการเพาะปลูกในแต่ฤดู ก็ต้องเผาไร่สร้างมลพิษให้กับพี่น้องประชาชน เราจึงต้องแก้ที่ต้นตอด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ คือ ชักจูงให้เกษตรกรปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนที่ไม่ต้องเผา คือ การปลูกป่าเศรษฐกิจจากพืช 58 ชนิด ที่ได้ปลดแอกให้สามารถปลูกได้อย่างถูกกฎหมาย โดยมีการจ่ายเงินเดือนให้กับเกษตรกรในจำนวนที่มากกว่าการปลูกไร่ข้าวโพด และในระยะยาวเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ส่วนหนี่งจะเป็นของเกษตรกร และอีกส่วนหนึ่งสามารถผลิตเป็นคาร์บอนเครดิตได้ด้วย สิ่งเหล่านี้เราสามารถระดมทุนผ่านพันธบัตรป่าไม้ ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าพร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการได้ทันทีที่มีโอกาสเข้าไปทำงาน 

นายกรณ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการด้านต่างประเทศ เราปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยต้องเร่งประสานไปทางรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ และ สปป.ลาว เพื่อหามาตรการควบคุมการเผา ซึ่งความจริงมีสัญญาในกลุ่มประเทศอาเซียนตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ว่าด้วยเรื่องของการคุ้มครองการสร้างสร้างมลพิษข้ามชายแดน โดยเฉพาะเรื่องการเผา สามารถนำข้อตกลงนี้เป็นจุดเริ่มต้นมาเป็นข้อประชุมฉุกเฉินของอาเซียนได้ นอกจากนี้เราคงต้องทบทวนข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ต่อการนำเข้าข้าวโพดสัตว์เลี้ยงปลอดภาษีจากประเทศเพื่อนบ้าน ต่อไปต้องกำหนดมาตรการทางภาษี ไม่รับซื้อผลผลิตที่มาจากการเผา ส่งผลให้การนำเข้ายากยิ่งขึ้น และชะลอการเผาลง และสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรของไทย ปลูกอย่างอื่นทดแทนที่มีรายได้มากกว่า ลดพื้นที่การเผาป่าลง 
.
“5-6 ปีที่ผ่านมา การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใน 3 ประเทศ เพิ่มขึ้นเกือบ 20 เท่า ซึ่งปริมาณเพาะปลูก เป็นไปในทิศทางเดียวกับปริมาณการเผา อย่างไรก็ตามเราคงหวังการแก้ปัญหาจากฤดูกาลไม่ได้แล้ว เพราะรัฐบาลก็เป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ได้แต่หวังว่า รัฐบาลที่จะกำลังจะมีขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า จะเร่งดำเนินการทันที และพรรคชาติพัฒนากล้าก็ขอสัญญาว่า เป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้เกิดมาตรการที่กล่าวมาแล้วข้างต้นและจะทำทันที ถ้ามีโอกาสเข้าไปทำงาน ตราบใดที่ยังมีการเผาป่า ผมเป็นหนึ่งคนที่จะต่อสู้แทนพวกท่าน” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว 

ผบ.ฉก.นราธิวาส ออกลาดตระเวนทางอากาศ ตรวจเข้มพื้นที่ป่าในทุกมิติ บูรณาการปฎิบัติกับทุกภาคส่วน ติดตามสถานการณ์เตรียมการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟไหม้ป่าพรุโต๊ะแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร (ป่าพรุโต๊ะแดง) ตำบลปูโย๊ะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชากองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ พร้อมเตรียมการหาแนวทางป้องกัน และ แก้ไขปัญหาไฟไหม้ป่าพรุโต๊ะแดง โดยได้รับฟังบรรยายสรุปประวัติความเป็นมา การดำเนินงาน ของศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร (ป่าพรุโต๊ะแดง)  สอบถาม ปัญหา ข้อขัดข้องในการดำเนินงาน พร้อมทั้งสอบถามปัจจัย และสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ป่า เนื่องด้วยในบริเวณพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง อาจเป็นแหล่งหลบซ่อนพักพิงของ ผกร. รวมถึงเคยมีไฟไหม้ป่าบ่อยครั้ง สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ 

จากนั้น พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และคณะ ได้เดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ลาดตระเวนสำรวจทางอากาศพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง ร่วมบูรณาการปฎิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว กล่าวว่า ป่าพรุโต๊ะแดงเป็นป่าพรุแห่งสุดท้ายของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ของ 3 อำเภอ คือ อำเภอตากใบ อำเภอสุไหงโกลก และอำเภอสุไหงปาดี มีพื้นที่ประมาณ 120,000 ไร่ เป็นป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์ป่าและ พรรณไม้ พื้นที่ป่าพรุมีลำน้ำสำคัญหลายสายไหลผ่าน

สัปดาห์แรก ‘มอเตอร์โชว์’ คนแห่จองรถทะลุ 1.3 หมื่นคัน รถยนต์ไฟฟ้ามาแรงยอดพุ่งกว่า 1 พันคัน

สัปดาห์แรกของการจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44” ค่ายรถที่เข้าร่วมงานกวาดยอดจองไปแล้วมากกว่า 1.3 หมื่นคัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 32.5% ขณะที่ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งมากกว่า 1,000 คัน

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” เปิดเผยว่า “ในช่วงสัปดาห์แรกของการจัดงาน มีผู้บริโภคให้ความสนใจเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เข้ามาจัดแสดงภายในงานจากหลายค่าย เป็นตัวช่วยกระตุ้นผู้เข้าชมให้มางานได้เป็นอย่างดี การผ่อนปรนมาตรการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรื่องการเว้นระยะห่างของกระทรวงสาธารณสุข ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลาย และมีความมั่นใจในการออกมาเยี่ยมชมงานมากกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โดยในช่วงของสัปดาห์แรกของการจัดงาน มีรายงานตัวเลขจากค่ายรถที่นำรถ เข้ามาร่วมจัดแสดงภายในงาน พบว่ามีตัวเลขยอดจองรถยนต์กว่า 13,343 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 32.5 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งในจำนวนดังกล่าว มียอดจองเฉพาะรถไฟฟ้า 100% มากกว่า 1,000 คัน

ทั้งนี้ ตัวเลขยอดจองรถไฟฟ้าสูงเกินเป้าหมายที่ทางคณะผู้จัดงานฯ คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ส่วนหนึ่งเพราะในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ปีนี้ มีผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าเข้ามาร่วมงานหลายแบรนด์ และยังมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีกหลายรุ่น แต่คงต้องรอดูตัวเลขยอดจองหลังจบงานอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามากน้อยเพียงใด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของการจัดงาน อยากเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ามาเลือกชม เลือกซื้อรถภายในงาน เพราะนอกจากเป็นการรวมรถยนต์ทุกค่ายไว้ในงานเดียวแล้ว ยังรวมโปรโมชั่นมากมายจากค่ายรถไว้ให้ผู้บริโภคเลือกตัดสินใจ อีกทั้งผู้เข้าชมงานยังมีโอกาสลุ้นรับรางวัลต่างๆ มากมายอีกด้วย

‘บิ๊กตู่’ หารือ ‘ทูตสเปน’ หนุน ความร่วมมือระหว่างประเทศ กระชับความสัมพันธ์ไทย-สเปน ครบรอบ 153 ปี

(29 มี.ค. 66) ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเฟลิเป เด ลา โมเรนา กาซาโด (H.E. Mr. Felipe de la Morena Casado) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสเปนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับในนามรัฐบาลและประชาชนไทย พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์และความร่วมมือไทยกับสเปนที่แน่นแฟ้น รวมถึงกลไกการประชุมหารือทางการเมือง (Political Consultations) ที่ทั้งสองฝ่ายได้ขับเคลื่อนพลวัตความร่วมมือทวิภาคี และต่อยอดความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา ความร่วมมือด้านสมุทราภิบาล และการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ทั้งนี้ ไทยพร้อมสนับสนุนการทำงานของเอกอัครราชทูตสเปนฯ ในการปฏิบัติหน้าที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิด และหวังว่าสเปนจะประสบความสำเร็จในภารกิจต่าง ๆ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

เอกอัครราชทูตสเปนฯ กล่าวแสดงความรู้สึกยินดีที่ได้มาดำรงตำแหน่งในไทย และได้รับการต้อนรับจากไทยเป็นอย่างดี โดยไทยและสเปนมีความสัมพันธ์มายาวนาน ซึ่งในปีนี้จะครบรอบความสัมพันธ์ 153 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ขอยืนยันที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดและสานต่อความร่วมมือระหว่างกันในทุกด้านต่อไป ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ การศึกษา การท่องเที่ยว และพหุภาคี พร้อมกล่าวชื่นชมรัฐบาลในการผลักดันเศรษฐกิจที่มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านสีเขียว ผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งสอดคล้องกับสเปนที่ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสเปนมีศักยภาพและสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับประเทศไทยได้

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตสเปนฯ ได้หารือถึงความร่วมมือด้านต่าง ๆ โดย
ความร่วมมือด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงมากขึ้น โดยเอกอัครราชทูตสเปนฯ ยินดีที่ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือด้านความมั่นคงที่แน่นแฟ้น พร้อมเพิ่มพูนความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมถึงส่งเสริมการศึกษาของบุคลากรทางทหารระหว่างไทยและสเปน

ด้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เอกอัครราชทูตสเปนฯ ยินดีที่การค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไทยและสเปนยังมีศักยภาพในการแสวงหาโอกาสเพื่อเพิ่มพูนการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น สเปนพร้อมส่งเสริมให้นักลงทุนสเปนมาลงทุนในไทยเพิ่มเติม ด้านนายกรัฐมนตรีขอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ประโยชน์จาก RCEP รวมถึงขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล ผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG พร้อมเชิญชวนสเปนมาลงทุนในไทยในสาขาที่สเปนมีความโดดเด่น ทั้งด้านพลังงาน การแพทย์ คมนาคม (ระบบราง) โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC และอุตสาหกรรมภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top