Wednesday, 14 May 2025
ค้นหา พบ 48057 ที่เกี่ยวข้อง

หนีร้อน แห่เที่ยวสระมรกตอันซีนกระบี่ คาดสงกรานต์นี้ยอดทะลุวันละไม่ต่ำกว่า 2 พันคนเตรียมเปิดพื้นที่เพิ่ม

วันที่ 29 มีค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะอากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างหนักและมีอุณหภูมิสูงกว่า 38 องศา ทำให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เลือกที่จะไปเที่ยวหนีร้อนไปแช่น้ำคลายร้อนตามสถานที่ต่างๆกันเป็นจำนวนมาก โดยที่สระมรกต ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม ที่ ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนหลายร้อยคน เลือกที่จะเดินทางมาแช่น้ำเล่นน้ำตามสระน้ำต่างๆ ซึ่งน้ำในสระมรกตที่ไหลลงมาจากเขาประบางคราม เป็นน้ำสีใสแจ๋ว

นายปิยวัฒน์ สุคนธ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม เปิดเผยว่า ขณะนี้แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่ต่ำกว่าวันละ 600 คน ส่วนช่วงวันที่นักท่องเที่ยวเยอะสุดจะตรงกับช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ สำหรับช่วงวันหยุดยาวและช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้ทางเขตฯ ได้จัดเตรียมสถานที่อัตรากำลังเจ้าหน้าที่เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว มีการตรวจค้นบริเวณป้อมด้านหน้า เน้นเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวประมาณ 2,000 คนต่อวันซึ่งค่อนข้างแออัด แต่ถ้าอยู่ในช่วงประมาณ 1,000 คนต่อวันจะพอดีกับสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งนี้ทางอุทยานทำการเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้กระจายเพื่อลดความแออัด เปิดสระน้ำผุดและจุดที่พักต่างๆเพื่อลดความแออัดของนักท่องเที่ยว

‘โกลด์แมน แซคส์’ เผย ‘เอไอ’ อาจเข้ามาแทนที่มนุษย์ ทำลูกจ้างส่อแววตกงานกว่า 300 ล้านตำแหน่งทั่วโลก

(29 มี.ค. 66) สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ธนาคารเพื่อการลงทุน ‘โกลด์แมน แซคส์’ เปิดเผยรายงาน ชี้ว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ ‘เอไอ’ อาจเข้ามาแทนที่งานประจำกว่า 300 ล้านตำแหน่งในสหรัฐหรือราว 1 ใน 4 ของงานประจำในตลาดงานทั้งในสหรัฐ และยุโรป

แต่นั่นก็อาจหมายถึงการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานแบบใหม่ และผลิตภาพการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น โดย ‘เอไอ’ อาจเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และบริการแบบรายปีทั่วโลกมากถึงร้อยละ 7 ต่อปีในอีก 10 ปีข้างหน้า

ปัญญาประดิษฐ์แบบ Generative AI หรือ ‘เอไอ’ ที่สร้างสิ่งใหม่จากข้อมูลชุดที่มีอยู่แล้ว และมีความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากผลงานของมนุษย์ ถือเป็น ‘พัฒนาการยิ่งใหญ่’

ตามรายงานของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ผลกระทบจากการเข้ามาของเอไออาจส่งผลกระทบไปยังอุตสาหกรรมในภาคส่วนต่าง ๆ คือ ด้านงานธุรการร้อยละ 46 และงานด้านกฎหมายร้อยละ 44 ขณะที่งานก่อสร้างจะได้รับผลกระทบเพียงร้อยละ 6 ส่วนงานบำรุงรักษาหรือเมนเทนแนนท์จะได้รับผลกระทบน้อยสุดเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น

ขณะเดียวกันในสหรัฐ ระบบเอไออาจนำไปใช้แทนแรงงานได้ประมาณร้อยละ 63 ส่วนแรงงานร้อยละ 30 ที่ทำงานด้านนอกไม่ได้รับผลกระทบจากเอไอ แม้งานเหล่านั้นอาจอ่อนไหวต่อระบบเอไอรูปแบบอื่นก็ตาม

นอกจากนี้ ผลวิจัยชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่เหมือนกันในยุโรป รวมถึงระดับโลก สัดส่วนการจ้างงานที่ทำด้วยตนเองในประเทศกำลังพัฒนามีมากกว่า จึงคาดว่างาน 1 ใน 5 อาจถูกแทนที่ด้วยเอไอ หรือคิดเป็นงานประจำประมาณ 300 ล้านตำแหน่งทั่วประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งหนึ่งที่มั่นใจ คือ เราไม่มีทางรู้เลยว่า งานตำแหน่งไหนที่จะถูกแทนที่โดยเอไอ ยกตัวอย่าง กระแส ‘แชทจีพีที (ChatGPT)’ ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ ณ ขณะนี้ทำให้คนทั่วไปสามารถผลิตเรียงความและบทความได้โดยไม่ต้องเพิ่งผู้ที่มีความรู้เฉพาะด้าน”

กรณีศึกษา Nestle ถอนตัวออกจากเมียนมา   สะท้อน!! ไม่มีใครทำร้ายชาติเราได้เท่าคนในชาติตัวเอง

เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีข่าวที่ดังไปทั่วเมียนมาเมื่อบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่อย่าง Nestle ที่ตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1991 ถอนตัวออกจากเมียนมา โดยมีแถลงการออกมาจากทาง Nestle ว่าทางบริษัทจะยุติการดำเนินการทั้งสายโรงงานและการปฏิบัติงานในส่วนของออฟฟิศทั้งหมด  

ข่าวนี้สร้างแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจของเมียนมาพอสมควร โดยทาง Nestle อ้างว่าการที่บริษัทตัดสินใจเช่นนี้เป็นเพราะบริษัทมีปัญหาในเรื่องการนำเข้าและปัญหาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน 

พออ่านมาถึงจุดนี้ คือต้องมาเอ๊ะ เดี๋ยวก่อน….เราควรมาดูข้อมูลรอบตัวของข่าวนี้ก่อนดีไหม? เริ่ม!!

ข้อแรก Nestle เป็นบริษัทของสวิตเซอร์แลนด์ แต่การดำเนินการของ Nestle เมียนมานั้นอยู่ภายใต้การดำเนินการของ Nestle สาขาประเทศไทย ซึ่งสวิตเซอร์แลนด์เป็น 1 ในประเทศคู่ค้าของกลุ่ม EU ที่ทำการแซงชันเมียนมา โดยการแซงชันของ EU นั้น นอกจากเน้นไปที่ตัวบุคคลแล้วยังเน้นไปยังกลุ่มธุรกิจที่รัฐเป็นเจ้าของเช่น อัญมณี เหมืองแร่ น้ำมันและก๊าซรวมถึงป่าไม้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าธุรกิจเหล่านั้นได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแซงชันดังกล่าว โดยเฉพาะธุรกิจน้ำมันและก๊าซในเมียนมาที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีคนนอกในการผลิตและแปรรูป  

จึงไม่แปลกที่ธุรกิจของประเทศในกลุ่มดังกล่าวจะโดนกดดันจากฝั่งเมียนมา ซึ่งบางธุรกิจเช่นธุรกิจผลิตวัตถุดิบบางอย่างของสัญชาติอเมริกันก็เลือกที่จะปิดตัวเองเลย ซึ่งแม้บริษัทเหล่านั้นอาจจะมีการทำ Political Insurance ไว้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเงินสินไหมจะทดแทนกับมูลค่าที่ลงทุนและโอกาสทางการตลาดที่เสียไปได้หรือไม่

กลับมาที่ Nestle เมียนมา ก็ต้องขอปรบมือให้ทีมบริหารที่ใช้ความพยายามในการผลักดัน เพราะตลอดระยะเวลา 2 ปีในขณะที่หลายๆ บริษัท ทั้งบริษัทที่เป็นของชาวต่างชาติก็ดี หรือของคนเมียนมาเองก็ดี ต่างทยอยปิดตัวลงจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น แทบจะเรียกได้ว่า Nestle เป็นบริษัทท้ายๆ ที่ใช้เหตุผลนี้มาปิดบริษัท เพราะตอนนี้ก็เหมือนเหตุการณ์ที่เป็นวิกฤตต่างๆ เริ่มคลี่คลายลงแล้ว ซึ่งสังเกตได้จากหลายๆ บริษัทในเขตนิคมเองก็เปิดมากขึ้น  

อย่างไรก็ดีด้วยประเด็นของการที่ประเทศในกลุ่มอียูมีนโยบายแซงชันเมียนมา จึงเป็นอะไรที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เนสเล่ ที่เจ้าของคือ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งผู้เป็นคู่ค้ารายสำคัญของกลุ่มประเทศอียูจะโดนบีบให้ปฏิบัติตามด้วยก็ไม่แปลก เพราะหากเทียบความสูญเสียที่เกิดขึ้นในเมียนมากับมูลค่าที่จะสูญเสียในยุโรปนั้น Nestle บริษัทแม่เลือกไม่ยากเลยที่จะเลือกปิดโรงงาน ลอยแพคนงานเมียนมาและหันกลับมาใช้ระบบตัวแทนจำหน่ายที่เป็นบริษัทเมียนมาแทน  

สัญญาสินเชื่อส่วนบุคคลมีอายุความเท่าไหร่? | รู้ LAW CASE STUDY EP.31

ในกระเป๋าตังค์มีบัตรเครดิตหลายใบ แต่คุณผู้ชมทราบไหมครับว่า สัญญาสินเชื่อบัตรเครดิต มีอายุความตามกฏหมายกี่ปี? ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากเมื่อเกิดกรณีฟ้องร้องกันจากสัญญาสินเชื่อก็จะคลอบคลุมระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดนั่นเอง  ติดตามรายละเอียดได้ในคลิปนี้...

รู้ LAW CASE STUDY รวมกรณีศึกษาในเรื่องกฎหมายสำหรับคนไทย

รับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyJ19GDOHCI9He2hZHLsD4OG

‘มช.’ คว้าอันดับ 1 ของประเทศ ในสาขาวิชา ‘Chemistry-Psychology’ พร้อมทั้งติดอันดับโลกอีก 10 สาขาวิชา ตอกย้ำการเป็นมหาลัยชั้นนำ

มช. คว้าอันดับ 1 ของประเทศในสาขาวิชา Chemistry และ Psychology ทั้งติดอันดับโลกในอีก 10 สาขาวิชา

(28 มี.ค.66) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สร้างความภาคภูมิใจคว้ารางวัลอันดับ 1 ของประเทศในสาขาวิชา Chemistry และ Psychology จากการจัดอันดับ SClmago Institutions Rankings (SIR) และติดอันดับโลกจำนวน 10 สาขาวิชามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ จาก QS World University Rankings ปี 2023 มาครอง พร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพอยู่เสมอด้วยวิสัยทัศน์มหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรม

การจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาโลก โดย SCImago Institutions Rankings (SIR) 2023 เป็นการจัดอันดับสถาบันด้านการวิจัยทั้งสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย หน่วยงานของรัฐ และบริษัทเอกชน โดยมีตัวชี้วัด 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.ด้านการวิจัย (Research Factor 50%) ที่พิจารณาจากจำนวนผลงานการตีพิมพ์เผยแพร่และการถูกอ้างอิงในฐานข้อมูลทางวิชาการ SCOPUS 2.ด้านนวัตกรรม (Innovation Factor 30%) พิจารณาจากจำนวนทรัพย์สินทางปัญญาในฐานข้อมูล PATSTAT และ 3.ด้านสังคม (Societal Factor 20%)

สำหรับผลการจัดอันดับภาพรวม (Overall Rank) ของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยติดอันดับจำนวน 30 แห่ง จากสถาบันอุดมศึกษาที่เข้าร่วมการจัดอันดับโลกทั้งหมด 4,533 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ อันดับที่ 313 ของเอเชีย อันดับที่ 2,681 ของโลก

และจากการจัดอันดับตามกลุ่มสาขาวิชา (All subject areas) ทั้งหมด 19 กลุ่ม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับการจัดอันดับทุกกลุ่มสาขาวิชา และได้รับการจัดอันดับ Top300 อันดับแรก จำนวน 2 สาขาวิชา คือ Dentistry อันดับ 134 ของโลก และ Veterinary อันดับ 222 ของโลก และในสาขาวิชา Psychology และ Chemistry เป็นอันดับ 1 ของประเทศ

มากไปกว่านั้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ได้มีการประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกรายสาขาวิชา ประจำปี 2023 โดย QS World University Rankings ซึ่งผลปรากฎว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ติดอันดับโลกในสาขาวิชาเฉพาะ (Narrow Subjects) จำนวน 10 สาขาวิชา จาก 54 สาขาวิชา และสาขาวิชาหลัก (Broad Subjects) จำนวน 2 สาขา จาก 5 สาขาวิชา มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ

โดยผลการจัดอันดับปี 2023 สาขาวิชาเฉพาะที่มีอันดับดีที่สุดของ มช. ได้แก่ สาขาวิชา Agriculture & Forestry อันดับที่ 151-200 ของโลก และสาขาวิชา Nursing อันดับที่ 151-180 ของโลก อีกทั้งยังมีสาขาวิชา Mathematics ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นปีแรก โดยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 451-500 ของโลก โดยทั้ง 3 สาขาวิชาที่กล่าวมานั้น เป็นสาขาวิชาจัดอยู่ในอันดับที่ 2 ของประเทศ ทั้งนี้ มีสาขาวิชาเฉพาะที่มีช่วงอันดับที่ดีขึ้น จำนวน 2 สาขาวิชา ได้แก่ Medicine อันดับ 251-300 ของโลก และ Environmental Sciences อันดับ 401-450 ของโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top