‘โกลด์แมน แซคส์’ เผย ‘เอไอ’ อาจเข้ามาแทนที่มนุษย์ ทำลูกจ้างส่อแววตกงานกว่า 300 ล้านตำแหน่งทั่วโลก

(29 มี.ค. 66) สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ธนาคารเพื่อการลงทุน ‘โกลด์แมน แซคส์’ เปิดเผยรายงาน ชี้ว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ ‘เอไอ’ อาจเข้ามาแทนที่งานประจำกว่า 300 ล้านตำแหน่งในสหรัฐหรือราว 1 ใน 4 ของงานประจำในตลาดงานทั้งในสหรัฐ และยุโรป

แต่นั่นก็อาจหมายถึงการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานแบบใหม่ และผลิตภาพการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น โดย ‘เอไอ’ อาจเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และบริการแบบรายปีทั่วโลกมากถึงร้อยละ 7 ต่อปีในอีก 10 ปีข้างหน้า

ปัญญาประดิษฐ์แบบ Generative AI หรือ ‘เอไอ’ ที่สร้างสิ่งใหม่จากข้อมูลชุดที่มีอยู่แล้ว และมีความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากผลงานของมนุษย์ ถือเป็น ‘พัฒนาการยิ่งใหญ่’

ตามรายงานของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ผลกระทบจากการเข้ามาของเอไออาจส่งผลกระทบไปยังอุตสาหกรรมในภาคส่วนต่าง ๆ คือ ด้านงานธุรการร้อยละ 46 และงานด้านกฎหมายร้อยละ 44 ขณะที่งานก่อสร้างจะได้รับผลกระทบเพียงร้อยละ 6 ส่วนงานบำรุงรักษาหรือเมนเทนแนนท์จะได้รับผลกระทบน้อยสุดเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น

ขณะเดียวกันในสหรัฐ ระบบเอไออาจนำไปใช้แทนแรงงานได้ประมาณร้อยละ 63 ส่วนแรงงานร้อยละ 30 ที่ทำงานด้านนอกไม่ได้รับผลกระทบจากเอไอ แม้งานเหล่านั้นอาจอ่อนไหวต่อระบบเอไอรูปแบบอื่นก็ตาม

นอกจากนี้ ผลวิจัยชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่เหมือนกันในยุโรป รวมถึงระดับโลก สัดส่วนการจ้างงานที่ทำด้วยตนเองในประเทศกำลังพัฒนามีมากกว่า จึงคาดว่างาน 1 ใน 5 อาจถูกแทนที่ด้วยเอไอ หรือคิดเป็นงานประจำประมาณ 300 ล้านตำแหน่งทั่วประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งหนึ่งที่มั่นใจ คือ เราไม่มีทางรู้เลยว่า งานตำแหน่งไหนที่จะถูกแทนที่โดยเอไอ ยกตัวอย่าง กระแส ‘แชทจีพีที (ChatGPT)’ ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ ณ ขณะนี้ทำให้คนทั่วไปสามารถผลิตเรียงความและบทความได้โดยไม่ต้องเพิ่งผู้ที่มีความรู้เฉพาะด้าน”

ส่วนด้านสื่อมวลชนจะเจอกับความท้าทายมากขึ้น ทำให้ค่าแรงลดลง เว้นแต่ความต้องการงานจากสื่อมวลชนจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในอีกไม่กี่ปีจากนี้ เอไอแบบสร้างคอนเทนต์ขึ้นใหม่ จะสร้างผลลัพธ์ที่คล้ายกัน แต่กว้างกว่าในเนื้องานเชิงสร้างสรรค์

ทั้งนี้ ตามรายงานสรุปว่า การเข้ามาของเอไอ จะทำให้การจ้างงานลดลงในระยะสั้น ส่วนผลกระทบในระยะยาวของเอไอ ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ ดังนั้น การคาดการณ์ของบริษัทต่าง ๆ ควรจะฟังหูไว้หูก่อน เนื่องจากเราไม่รู้ว่าเทคโนโลยีเอไอจะพัฒนาแค่ไหนในอนาคต แล้วบริษัทต่าง ๆ จะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานอย่างไร แต่เราควรมองไปถึงคุณภาพชีวิตที่อาจเพิ่มขึ้น รวมถึงความเสี่ยงที่บริษัทจะตามหลังบริษัทอื่น และตามหลังเศรษฐกิจที่ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_7584727