Tuesday, 24 June 2025
ค้นหา พบ 48997 ที่เกี่ยวข้อง

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ และลงนามถวายพระพรสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

วันนี้ (วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วยคณะกรรมการ ผู้ช่วยกรรมการ และผู้บริหาร ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 

รองแม่ทัพภาค 4 ระบุคาร์บอมบ์ รุนแรง  กระทบประชาชนเศรษฐกิจ ยันมีคืบหน้าคนร้าย ที่ก่อเหตุแล้ว

เวลา 10.00 น. วันที่ (23 พ.ย. 65) พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพแม่ทัพภาคที 4 ลงตรวจพื้นที่ จุดเกิดเหตุ..คาร์บอมส์แฟลตตำรวจจังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่เกิด ขึ้น พร้อมเปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า..

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบรถยนต์ ประกอบระเบิดคาร์บอมบ์ที่ถูกนำมาจอดไว้ที่แฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ก่อนถูกจุดชนวนขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 36 คน โดยจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีดำ ป้ายทะเบียน กค 6961 ตรัง จดทะเบียนวันที่ 8 มีนาคม ปี2550 มีผู้ครอบครองรถ คือ ชายคนหนึ่ง มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยได้นำรถยนต์มาขายให้เต็นท์รถแห่งหนึ่งใน อ.เมืองตรัง เมื่อปี 2564 ก่อนที่เต็นท์รถจะนำไปขายต่อที่ จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีผู้พบเห็นรถคันนี้ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 65 เวลา 16.52 นาฬิกา รถขับผ่านด่านตรวจ ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส โดยมีผู้หญิงเป็นผู้ขับขี่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จึงพยายามติดต่อหญิงสาวคนขับรถเข้าพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เป็นรถหนีไฟแนนท์ 

โดยวันนี้ (23 พ.ย.65) เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งมือในการเคลื่อนย้ายซากรถยนต์ เเละรถจักรยานยนต์หลายสิบคัน ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดในรถยนต์ หรือ คาร์บอมบ์ออกจากเเฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาสเเละเก็บกวาดซากความเสียหายจากเเรงอัดของระเบิดภายในเเฟลต คืนสภาพตามปกติ อย่างไรก็ตาม อนุภาพของระเบิดคาร์บอมบ์ที่รุนเเรง ทำให้ร่องรอยความเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณห้องพักของเจ้าหน้าที่ประมาณ 70 ครอบครัว บริเวณชั้น 1 เเละชั้น 2 ที่เสียหายเกือบทั้งหมด

พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด พร้อมทั้งประนามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งในส่วนของนายกรัฐมนตรีนั้น ได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้ามาดำเนินการในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา โดยเมื่อวานนี้ ศอ.บต. ได้ลงพื้นที่และดำเนินการพร้อมสำรวจในเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้เป็นการดำเนินการด้านกฏหมาย และยกระดับมาตรการการดูแลความปลอดภัยเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สิน 

‘ไอติมรสส้ม’ ผู้ก้าวไม่พ้นวังวน แก้รธน. - ม.112 กับหมุดหมาย ‘เท่าเทียม’ หรือแค่สนองความอยาก

ดูเหมือนว่าความสนใจของไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้เปลี่ยนสีจากสีฟ้าบลูเบอรี่มาเป็นไอติมรสส้มจะโฟกัสอยู่เพียงสองจุดคือการแก้ไขมาตรา 112 และการแก้รัฐธรรมนูญ เรียกว่าเป็นเนื้อเดียวแนบแน่นกับพรรคก้าวไกล จึงไม่น่าแปลกใจที่ไอติมจะได้ตำแหน่งผู้จัดการการรณรงค์สื่อสารนโยบายของพรรคก้าวไกล เพราะรูปสมบัติและคุณสมบัติเอื้อทุกด้าน ทั้งหน้าตาดี วาทกรรมเด่น แถมมาจากครอบครัวเก่าแก่ อย่าคิดว่าพรรคที่ชูนโยบายเรื่องความเท่าเทียมจะเท่าเทียมอย่างที่อ้าง เพราะหลายครั้งหลายหน ชาวโลกเห็นสมาชิกพรรคสีส้มออกมาแฉว่าความเท่าเทียมที่พร่ำอ้างกันนั้นไม่มีอยู่จริง 

ย้อนเส้นทางการเมืองของไอติม หลังลาออกจากบริษัทที่ปรึกษาในต่างประเทศ และเดินทางกลับประเทศไทย ได้เริ่มต้นเส้นทางการเมืองของกับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2561 โดยมีบทบาทในการร่วมก่อตั้งกลุ่ม NewDem ซึ่งเป็นกลุ่มนักการเมืองรุ่นใหม่ในพรรคประชาธิปัตย์ร่วมกับ สุรบถ หลีกภัย บุตรชายของ ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, พรหม พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ บุตรชายของ พนิช วิกิตเศรษฐ์ และคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์

จากนั้น ได้รับมอบหมายจาก พรรคประชาธิปัตย์ ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 13 บางกะปิ วังทองหลาง (แขวงพลับพลา) ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2562 ซึ่งเจ้าของที่นั่งก่อนหน้านี้คือนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน (บุตรชายของนาย บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) 

อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งปี 2562 ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้สูญเสียที่นั่งทุกที่นั่งในกรุงเทพมหานคร โดยเขตเลือกตั้งที่ 13 ซึ่งไอติม ลงแข่งนั้น ผลการเลือกตั้งปรากฎว่า น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ (พลังประชารัฐ) ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยอันดับ 2 นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส (เพื่อไทย) อันดับ 3 น.ส.ณิชชา บุญลือ (อนาคตใหม่) ส่วนไอติม เข้ามาเป็นอันดับที่ 4 เรียกว่าแพ้ราบคาบทั้งตัวบุคคลและพรรค

หลังการเลือกตั้งจบลงก็มีกระแสข่าวว่าสมาชิกรุ่นอาวุโสของ พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมเข้าร่วมรัฐบาลกับ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ พริษฐ์ และสมาชิกกลุ่ม NewDem จำนวนหนึ่งตัดสินใจลาออกจากสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ นับเป็นจุดสิ้นสุดของกลุ่ม NewDem[1]

ไอติมเป็นหลานของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะสังกัดพรรคนี้ในช่วงแรก ต่อมาลาออกเพราะพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เลยสะบัดบ็อบไปซบก้าวไกล 

ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะดูสนิทกันดีกับ  iLaw คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล จนเคลื่อนไหวในนามกลุ่ม Re – Solution เพื่อล่ารายชื่อเพื่อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560  หลักใหญ่คือ ยกเลิก ส.ว.และยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แล้วมีโอกาสเป็นตัวแทนเสนอหลักการและเหตุผลในการแก้ไขต่อรัฐสภา แต่สมาชิกรัฐสภาลงมติไม่รับหลักการในวาระ 1 ไม่รู้ว่าแค้นฝังหุ่นหรืออย่างไร ถึงวนเวียนอยู่แต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญกับการแก้ไขมาตรา 112

ในส่วนของการแก้มาตรา 112 นั้น ไอติมต้องการลดโทษให้เบาลง โดยมองว่าโทษจำคุก 3-15 ปีหนักเกินไป เอาแค่จำคุกไม่เกินปีเดียว ปรับอีกไม่เกินสามหมื่น แหม โทษเบาแบบนี้ใครจะกลัว นี่ขนาดมีโทษจำคุก บรรดาสามนิ้วยังด่าและข่มขู่สถาบันกษัตริย์อย่างหยาบคายไม่กลัวเกรง หากลดโทษลงแล้ว จะยังมีใครเกรงกฎหมายอยู่ไหมล่ะ แล้วการลดโทษให้น้อยลง จะแก้ปัญหาให้คนที่ทำผิดข้อนี้ซ้ำๆซากๆ สำนึกผิดและเข็ดหลาบไหม ถามจริง

นอกจากนี้ไอติมอยากให้มีการกำหนดผู้ฟ้องที่ชัดเจน เพราะกังวลว่าอาจมีการกลั่นแกล้งทางการเมือง หรือล่าแม่มด เรื่องนี้เป็นการสับขาหลอกที่แท้ทรู เพราะมาตรา 112 อยู่ในประมวลกฎหมายอาญา ภาค 2 ความผิดลักษณะ 1 ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว แปลแบบบ้านๆ ง่ายๆ คือ ต้องการดึงสมาชิกราชวงศ์มาเป็นคู่กรณีนั่นเอง

'สุวิจน์-กรณ์' พา 'ชาติพัฒนากล้า' ลงนามถวายพระพร กรมสมเด็จพระเทพฯ ณ โรงพยาบาลจุฬาฯ

วันนี้ (23 พ.ย.65) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า, นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค นายอรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค ร่วมถวายความเคารพพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 

‘Henry Darby’ สุดยอดครูใหญ่แห่งโรงเรียนมัธยมปลาย North Charleston คุณครูผู้อุทิศตัวเพื่อลูกศิษย์และทำหน้าที่มากกว่า ‘เรือจ้าง’

Henry Darby ครูใหญ่ คุณครูผู้เป็นมากกว่าเรือจ้าง

‘ครูใหญ่’ เป็นคำที่ผู้เขียนชอบมากกว่า ‘อาจารย์ใหญ่’ หรือ ‘ผู้อำนวยการ’ เพราะเติบโตและเล่าเรียนในยุคที่เราเรียกคุณครูผู้ที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างในโรงเรียนว่า ‘ครูใหญ่’ (Principal) เช่นเดียวกับ Henry Darby ครูใหญ่แห่งโรงเรียนมัธยมปลาย North Charleston ในเมือง North Charleston มลรัฐ South Carolina

‘สังคมไทย’ เปรียบ ‘คุณครู’ เสมือนหนึ่ง ‘เรือจ้าง’ ที่มีความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ ดูแล อบรม บอกสอน ลูกศิษย์ทุกคน ด้วยความรัก ความเมตตา ความเอื้ออาทร ความใส่ใจในการดูแลอย่างดีที่สุดในระหว่างการเดินทาง เมื่อ ‘ลูกศิษย์’ ที่เสมือนเป็น ‘ผู้โดยสาร’ ถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย และสามารถที่จะดำเนินชีวิตที่ดีมีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองได้อย่างมั่นคง เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมที่หล่อเลี้ยงชีวิต คุณครูผู้เป็นดั่งเรือจ้างทุกลำนี้ก็จะสุขใจ ปลื้มปีติทุกครั้งไป

‘Henry Darby’ ครูใหญ่แห่งโรงเรียนมัธยมปลาย North Charleston ในเมือง North Charleston มลรัฐ South Carolina ก็ทำหน้าที่ดั่งเรือจ้างลำหนึ่งเช่นกัน ในฐานะครูใหญ่แห่งโรงเรียนมัธยมปลาย North Charleston ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชากรราว 20% อยู่ในเกณฑ์ยากจน และยิ่งไปกว่านั้นคือ 90% ของนักเรียนมีครอบครัวซึ่งอยู่ข้างใต้ของเส้นแบ่งความยากจน ทำให้นักเรียนของเขาต้องการรับความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา 

“มีเด็กบางคนที่เมื่อผมไปเยี่ยมที่บ้านของพวกเขา แม่ของพวกเขาไม่ยอมให้ผมเข้าไปในบ้าน แต่ผมเห็นว่า บ้านของพวกเขามืดมาก พวกเขาไม่มีไฟฟ้า หรือคุณอาจเห็นพวกเขากำลังนอนอยู่กับฟูกบนพื้น และที่แย่ไปกว่านั้น…มีนักเรียนคนหนึ่งต้องอาศัยหลับนอนใต้สะพานด้วย” Henry Darby กล่าวถึงช่วงเวลาที่เขาได้ไปเยี่ยมบ้านของนักเรียน

ในฐานะที่ครูใหญ่ Darby เองก็เติบโตมาท่ามกลางความยากจนข้นแค้น เรื่องราวแบบนี้ของบรรดานักเรียนจึงเป็นจุดอ่อนของครูใหญ่ Darby ด้วยเช่นกัน 

“ผมพบว่า ตัวเองติดบ่วงอยู่ในกองทุนฉุกเฉิน และผมไม่ต้องการทำเช่นนั้น แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็ไม่ต้องการพูดว่า ‘ไม่’ กับใคร” Henry Darby บอก 

ดังนั้นครูใหญ่ Darby ซึ่งเป็นสมาชิกของสภาแห่งเทศมณฑล Charleston จึงได้ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ยากจนและขัดสน

และเพื่อหาเงินมาเป็นทุนช่วยเหลือบรรดานักเรียนที่ยากจนและขัดสน ครูใหญ่ Darby จึงตัดสินใจสมัครทำงานนอกเวลาที่ห้างสรรพสินค้า Walmart และเลือกที่จะไม่บอกผู้จัดการห้างฯ ของเขาว่า เขาทำงานเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมปลายในช่วงเวลากลางวัน 

“ก่อนที่เราจะรู้ แต่ก็มีหลายอย่างที่ทำให้เขาดูเป็นคนที่มีความพิเศษ” Cynthia Solomon ผู้จัดการห้างสรรพสินค้า Walmart สาขาที่ครูใหญ่ Darby ทำงานบอกกับสื่อ

เมื่อ ครูใหญ่ Henry Darby เริ่มงานที่ห้างสรรพสินค้า Walmart ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2020 ครูใหญ่ Darby ต้องทำงานห้าคืนต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา ๒๒.๐๐ น. ถึง ๐๗.๐๐ น. แต่ในที่สุดเขาก็ขอลดวันทำงานลงเหลือสามวัน โดยเขาบอกเล่าว่า 

“ในคืนแรกของการทำงาน ลูกศิษย์ของผมคนหนึ่งเห็นผมเข้า นักเรียนคนนั้นถามผมว่า ‘ครูใหญ่ Darby ครูทำงานที่ Walmart ด้วยเหรอ’ ผมพูดกับตัวเองว่า ‘โอ้พระเจ้า ตอนนี้ทุกคนจะต้องรู้แล้วว่า ผมทำงานที่นี่’”

การจัดเรียงชั้นวางสินค้าในกะกลางคืน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับครูใหญ่ Darby ผู้ซึ่งมีอายุมากถึง ๖๖ ปีแล้ว ซ้ำครูใหญ่ยังมีอาการบาดเจ็บที่คอจากการถูกรถชน หลังจากเลิกงานที่ห้างสรรพสินค้า Walmart ตอนเช้าในเวลา ๐๗.๐๐ น. เขาต้องรีบไปเข้าทำงานหลักเป็นครูใหญ่แห่งโรงเรียนมัธยมปลาย North Charleston ซึ่งมีนักเรียนประมาณ ๖๐๐ คน ภายในเวลา ๐๗.๔๕ น. 

“ผมไม่เคยเหน็ดเหนื่อยเลยจนกระทั่งวันสุดท้ายของสัปดาห์ ผมก็จะนอนเต็มที่ในวันเสาร์ ผมนอนหลับเป็นตายเลย” ครูใหญ่ Darby กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top