นวัตกรรมสุดล้ำเปลี่ยน ‘ศพ’ ให้เป็น ‘ปุ๋ยมนุษย์’ | THE STATES TIMES Y WORLD EP.26
หากการตายของเรานั้นสร้างประโยชน์ให้กับธรรมชาติ กับนวัตกรรมสุดล้ำเปลี่ยน ‘ศพ’ ให้เป็น ‘ปุ๋ยมนุษย์’
.
ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World x SEED THAILAND

หากการตายของเรานั้นสร้างประโยชน์ให้กับธรรมชาติ กับนวัตกรรมสุดล้ำเปลี่ยน ‘ศพ’ ให้เป็น ‘ปุ๋ยมนุษย์’
.
ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World x SEED THAILAND
หากการตายของเรานั้นสร้างประโยชน์ให้กับธรรมชาติ กับนวัตกรรมสุดล้ำเปลี่ยน ‘ศพ’ ให้เป็น ‘ปุ๋ยมนุษย์’
.
ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World x SEED THAILAND
‘บิ๊กก้อง’ ส่งหนังสือถึง ‘กสทช.’ หลังได้รับคำเตือนจาก ‘ฟีฟ่า’ พบสัญญาณการถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลโลก 2022 จากประเทศไทย รั่วไหลไปสู่ประเทศอื่นๆ พร้อมสั่งให้เร่งแก้ไขโดยด่วน ขู่ถ้าไม่ทำตามตัดสัญญาณ หรือ ‘จอดำ’ ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ‘บิ๊กก้อง’ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ได้ส่งหนังสือเรื่องขอความอนุเคราะห์แจ้งให้ดำเนินการเข้ารหัสสัญญาณให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Federation Internationale de Football Association – FIFA) หรือ ฟีฟ่า ไปยังเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ตามที่อ้างถึง การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ขอความอนุเคราะห์คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ให้บริการวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ อันประกอบด้วย ผู้ให้บริการ Multiplexer DTT ทั้ง 5 MUX และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมระบบ Must Cary (มัสต์ แครี) และผู้ให้บริการกล่อง STB คุ้มครองสิทธิการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) โดยเข้ารหัสสัญญาณและดำเนินการทำ OTA ของกล่องเครื่องรับระบบโทรทัศน์ดาวเทียม นั้น
กกท. ได้รับแจ้งจากทางสหพันธ์ฟตุบอลนานาชาติ ว่า สัญญาณออกอากาศการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) ในประเทศไทย ยังคงแพร่กระจายไปละเมิดลิขสิทธิ์ในดินแดนของประเทศอื่น นอกเหนือลิขสิทธิ์ที่ได้รับตามข้อกำหนดของสหพันธ์ฯ
ทั้งนี้ สหพันธ์ฯ ได้ขอให้ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของประเทศไทย ดำเนินการแก้ไขการเข้ารหัสสัญญาณ (Encryption) ที่ส่งผ่านดาวเทียมให้เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานของสหพันธ์ฯ โดยด่วนที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาสัญญาณการออกอากาศการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) ในประเทศไทย ไปละเมิดลิขสิทธิ์ในดินแดนของประเทศอื่น ตามที่สหพันธ์ฯ แจ้งมา
กกท. ใคร่ขอความอนุเคราะห์และความร่วมมือจาก กสทช. ดำเนินการแจ้งผู้ให้บริการ Multiplexer DTT ทั้ง 5 MUX และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมระบบ Must Cary และผู้ให้บริการกล่อง STB คุ้มครองสิทธิการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) โดยดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ให้ดำเนินการเข้ารหัส (Encryption) ในการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมตามมาตรฐานของ FIFA ซึ่งกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ BISS CA Director หรือ Power/u
2. ในส่วนของ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมระบบ Must Carry และผู้ให้บริการกล่อง STB จะต้องเข้ารหัส โดยไม่ใช่การดำเนินการในลักษณะ BISS 1 Simultcrypt เหมือนที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
3. ในกรณีที่ผู้ให้บริการใด ไม่สามารถเข้ารหัสให้เป็นไปตามมาตรฐานที่สหพันธ์ฯ กำหนด มีความจำเป็นต้องตัดสัญญาณที่จะส่งไปเผยแพร่ผ่านผู้บริการนั้น ซึ่งต้องดำเนินการในลักษณะส่งข้อความขี้แจงข้อกำหนดการเผยแพร่ตามข้อกำหนดลิขสิทธิ์ที่ประเทศไทยได้รับ (หรือตามที่ผู้รับชมทั่วไปจะเข้าใจในลักษณะการขึ้น ‘จอดำ’)
พรรคเพื่อไทย ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อเหตุการณ์คาร์บอมบ์นราธิวาส และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และต่อครอบครัวผู้สูญเสีย
ขอยืนยันถึงจุดยืนในจัดการความขัดแย้ง สร้างสันติภาพตามแนวทางสันติวิธี ย้ำเจ้าหน้าที่รัฐต้องลดเงื่อนไขที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ เช่น การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ยุติธรรม จนอาจสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงอย่างไม่สิ้นสุด
(23 พ.ย. 65) พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวประณามความรุนแรงเหตุคาร์บอมบ์ที่บริเวณแฟลตตำรวจ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้ข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาสเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 10 ราย จำนวนนี้มีเด็กอายุ 1 ขวบได้รับบาดเจ็บ
พรรคเพื่อไทย ขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะปฏิบัติการที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ และขอยึดมั่นเสนอนโยบายในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
(23 พ.ย. 65) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีที่มีการบิดเบือนตัวเลขเศรษฐกิจไทย ว่า ขอตำหนิกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่บิดเบือนข้อมูลเพื่อทำลายความมั่นใจต่อเศรษฐกิจประเทศ โดยมีการส่งต่อข้อความมูลเท็จว่า รัฐบาลกู้เงินจนหนี้ท่วม คลังไม่สามารถจัดการหนี้ได้ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง จากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณในปี 2565 รัฐบาลกู้จริง 6.52 แสนล้านบาท จากที่ประมาณการไว้ 7 แสนล้านบาท ขณะที่ภาพรวมของการกู้เงินในช่วงที่เกิดการระบาดของ COVID-19 นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือและเยียวยาทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทย (จีดีพี)ปี 2563 หดตัวลดลงเพียงร้อยละ 5.1 ดีกว่าที่ IMF คาดการณ์ว่าจะหดตัวที่ร้อยละ 8 นอกจากนี้ ระดับหนี้สาธารณะคงค้าง สิ้นเดือนก.ย. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 10.37 ล้านบาท หรือร้อยละ 60.41 ต่อ จีดีพีต่ำกว่าที่กำหนดเพดานไว้ ร้อยละ70 ซึ่งกระทรวงการคลัง ให้ความมั่นใจว่าไม่ก่อให้เกิดปัญหาการคลัง เนื่องจากรัฐบาลมีความสามารถในการชำระหนี้ (Debt affordability) รวมทั้งยังมีการติดตามสัดส่วนภาระดอกเบี้ยต่อประมาณการรายได้ประจำปีอย่างใกล้ชิด
น.ส.รัชดา กล่าวว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับสากล ต่างมั่นใจในภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยออกรายงานอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ Stable Outlook ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจค่อนข้างมากภายใต้สถานการณ์วิกฤตโควิด -19 อาทิ...
1. Moody’s เชื่อว่า แม้หนี้รัฐบาลเพิ่มสูงขึ้นแต่ตัวชี้วัดภาคการคลังและหนี้สาธารณะยังคงแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศอันดับความน่าเชื่อถือระดับเดียวกัน และมีแนวโน้มที่จะรักษาระดับความแข็งแกร่งดังกล่าวได้ต่อไป
2. Fitch Ratings รายงานว่า รัฐบาลได้บรรเทาความเสี่ยงของหนี้ภาครัฐบาลด้วยการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบ มีตลาดทุนในประเทศที่มั่นคง และหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นหนี้สกุลเงินบาท