Tuesday, 24 June 2025
ค้นหา พบ 48997 ที่เกี่ยวข้อง

รมว.สุชาติ ห่วง เหตุคาร์บอมบ์เมืองนราฯ สั่ง สปส. เยียวยาผู้ประกันตนโดยด่วน

รมว.แรงงาน ห่วง เหตุระเบิดแฟลตตำรวจจังหวัดนราธิวาส สั่ง สปส.ตรวจสอบช่วยเหลือผู้ประกันตนบาดเจ็บโดยด่วน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดที่แฟลตตำรวจบริเวณถนนสุริยประดิษฐ์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 23 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 16 ราย ว่า ทันทีที่ทราบข่าว ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แสดงความห่วงใยและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็ว ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ผมได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุซึ่งเป็นผู้ประกันตนทันที ซึ่งจากการตรวจสอบของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดนราธิวาส ปรากฎว่า จากเหตุการณ์นี้มีผู้ประกันตนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย รายแรก นางนิดา ชนะพันธ์ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับบาดเจ็บ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ รายที่ 2 นายฉันชริน มะยูโซะ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้รับบาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ รายที่ 3 นางเจริญตา บุญส่ง เป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 และรายที่ 4 นายปฐวี ปิ่นแก้ว เป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 

‘ตำรวจ’ รวบเครือข่ายชาวม้งลอบขนยาเสพติด จับกุมได้พร้อมของกลาง ยาบ้ากว่า 1.6 ล้านเม็ด

(23 พ.ย. 65) จากนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ให้ทุกหน่วยในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด เดินหน้าเชิงรุกทุกมิติการทำงาน เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและในชุมชน ทำลายเครือข่ายค้ายาเสพติดให้ครอบคลุม รวมทั้งขยายผลยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดให้สิ้นซาก ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม) / ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผบ.ตร. / รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส., ได้สั่งการให้ทุกหน่วยใน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สกัดกั้นจับกุมและสืบสวนขยายผลการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทั่วประเทศ 

ล่าสุด ช่วงวันที่ 20 - 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกันจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหา คือ 
1.) นายเนติพงษ์ แซ่ว้าง อายุ 22 ปี
2.) นายนพเดช แซ่ซ้ง อายุ 28 ปี
3.) นายเอกภพ แซ่เฮ่อ อายุ 35 ปี ลำดับ (1-3 เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง จังหวัดตาก)
4.) นายจักรกฤษณ์ สวยรักษ์ อายุ 53 ปี 

หลังสืบทราบว่า กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ซึ่งมีภูมิลำเนาในอำเภออุ้มผางและพบพระ จังหวัดตาก มักลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ กทม. และจังหวัดใกล้เคียงเป็นประจำ วันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมาพบว่าจะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก จากพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อนำไปส่งมอบให้กับลูกค้าโดยจะใช้รถกระบะ และรถยนต์ใช้ในการขนส่ง กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สะกดรอยติดตามรถของขบวนการซึ่งตรงตามที่สืบทราบมา จนเวลาประมาณ 16.00 น. สามารถสกัดจับรถต้องสงสัยคือ รถกระบะ ISUZU D-MAX สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 394 พิษณุโลก ซึ่งใช้ซุกซ่อนยาเสพติด และรถยนต์ HONDA CIVIC หมายเลขทะเบียน กย 2637 ลำปาง มี นายเนติพงษ์ แซ่ว้าง, นายนพเดช แซ่ซ้ง และนายเอกภพ แซ่เฮ่อ เป็นผู้ขับขี่และนั่งมากับรถ ตรวจสอบในรถพบยาบ้า ถูกซุกซ่อนมาในกระเป๋า 16 ใบ รวม 1,600,000 เม็ด ภายในรถกระบะ 

นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง, ไอแพดสีดำ 1 เครื่อง ทั้งหมดรับว่า รับจ้างขนยาบ้าไปส่งลูกค้าตามที่ผู้ว่าจ้างสั่งการ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ‘ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี จำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง ของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน’ โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ที่บริเวณสถานีบริการปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนกำแพงเพชร-สุโขทัย ตำบลพรานกระต่าย อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร 

‘เพื่อไทย’ ชี้!! ‘กม.กัญชง-กัญชา’ ช่องโหว่เพียบ ยัน!! ไม่ให้ผ่านแน่นอน แนะรัฐหยุดสร้างบาปให้ปชช.

‘เพื่อไทย’ ยัน ไม่ให้ผ่าน กม.กัญชา กัญชง เหตุช่องโหว่สารพัด ไม่ให้ขายแต่ให้ปลูกเพื่อเสพเองมีที่ไหน ไล่รัฐบาลไปแก้มาใหม่ หยุดสร้างบาปใหญ่ให้ประชาชน

(23 พ.ย. 65) ที่งานเสวนา ‘กัญชาเสรี บาปใหญ่รัฐบาลประยุทธ์?’ พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้กัญชาออกจากบัญชียาเสพติด โดยที่ยังไม่มีกฎหมายการใช้มารองรับ เท่ากับเป็นการเปิดช่องให้ใช้กัญชาในทางที่ผิด การสนับสนุนกัญชาเสรีของพรรคที่สนับสนุนแนวคิดนี้ ดูเหมือนจะเป็นไปเพื่อใช้ในทางการแพทย์ แต่มีช่องโหว่ให้ใช้เพื่อการสันทนาการด้วย ปัญหาที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้คือ หากใช้ในทางการแพทย์อย่างเดียว ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ผ่านความเห็นชอบจากสภาแน่นอน แต่เรารู้ทันเพราะมีการเปิดช่องเพื่อสันทนาการ ซึ่งในการนำเอาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง กลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาอีกครั้ง ต้องมาดูในรายละเอียด โดยตนมีข้อสังเกตและจุดยืนดังนี้

1.) รัฐบาลไม่ห้ามเสพกัญชา ตนยอมรับว่ากัญชามีประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่หากใช้เพื่อการสันทนาการ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะไม่ยกมือสนับสนุนให้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงผ่านสภาแน่นอน หากจะนำกลับมาพิจารณาใหม่ จะต้องเข้าไปดูในรายมาตราอีกครั้ง 

2.) แม้จะห้ามจำหน่ายกัญชา โดยไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีซื้อ หมายความว่า ซื้อมาเสพมีความผิด แต่ปลูกเองเสพเองไม่ผิด เพราะอนุญาตให้ปลูกในครัวเรือนได้ไม่เกิน 15 ต้นตามมาตรา 18 ในร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ทั้งยังห้ามขาย ดังนั้นประชาชนไม่จำเป็นต้องซื้อปลูกเองได้ ยิ่งทำให้ประชาชนเสพกัญชาในบ้านได้ง่าย เมื่อไปถึง โรงเรียนก็เสพในห้องน้ำ สิ่งเหล่านี้ทำได้ไม่ผิดกฎหมายหรือไม่  

3.) ส่งเสริมให้ปลูกในครัวเรือน จากที่เคยหาเสียงไว้ว่าปลูกเพื่อจำหน่าย ชาวบ้านตาโต ให้ปลูกครอบครัวละ 6 ต้น รับซื้อกิโลกรัมละ 70,000 บาท ปีละ 400,000 กว่าบาท แต่ในชั้นกฎหมายห้ามขาย จึงต้องปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน นำไปประกอบอาหาร หรือทำยา และอย่าลืมว่าในกัญชามีทั้งสารดีอย่าง CBD และสารร้าย THC พี่น้องประชาชนจำนวนมากยังไม่รู้ และไม่สามารถแยกสารเลือกเอาเฉพาะสารดีเข้าร่างกายได้ คือมีแค่พี้และเสพ 

“ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่เข้าสภา ไม่ได้จำกัดการใช้กัญชาในทางการแพทย์อย่างเดียว แต่มีช่องโหว่ให้เสพเพื่อสันทนาการด้วย เราเห็นว่าเป็นกฎหมายที่ไม่ชอบ จึงให้ผ่านไม่ได้ จนกว่าจะไปแก้คำจำกัดความของกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดในมาตรา 3 และข้อห้ามยุกยิก ห้ามเรื่องเล็กน้อยรวม 90 มาตรา แม้บางอย่างเขียนไว้ห้าม แต่ในทางปฏิบัติทำไม่ได้ เช่น การขออนุญาตปลูกขาย ต้องแยกสาร แล้วชาวบ้านจะมีเครื่องมือแยกได้อย่างไร หากปลูกทุกครัวเรือน ประเทศไทยมีกี่ครัวเรือน ตำรวจกี่คนที่ต้องไปนั่งเฝ้า ตามจับกุม ลำพังยาบ้าอย่างเดียวคุณยังเอาไม่ไหว กัญชามีทุกครัวเรือนท่านจะทำอย่างไรไหว” นายสุทิน กล่าว 

นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องไปแก้กฎหมายหรือปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เพราะแต่เดิมใน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.2562 สามารถนำกัญชามาใช้ศึกษาวิจัยทางการแพทย์ได้ อีกทั้งการออกกฎหมายไปปลดล็อกได้สร้างปัญหามากมาย เพราะไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ทางการแพทย์ ที่จะนำมาใช้เพื่อสุขภาพอนามัย นอกจากนี้ราชวิทยาลัย แพทยสมาคม และแพทยสภา ก็มีความเห็นตรงกันว่าการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์นั้นไม่ขัดข้อง แต่ไม่เห็นด้วยที่จะนำกัญชามาเสพเพื่อสันทนาการ กลุ่มแพทย์ทั้งหลายจึงได้ตั้งเงื่อนไขว่า การใช้กัญชาทางการแพทย์ที่มีประโยชน์ ควรเข้าเงื่อนไข 5 ข้อ ประกอบด้วย

1.) การใช้กัญชาทางการแพทย์ จะต้องมีหลักฐาน งานวิจัย ข้อมูลเชิงประจักษ์ ลงตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองน่าเชื่อถือในระดับโลก ไม่ใช่เป็นการใช้ตามความเชื่อหรือฟังเขาเล่าต่อกันมา  

2.) ผลิตภัณฑ์กัญชา ต้องเป็นการผลิตกัญชาที่มีคุณภาพ ปลูกภายใต้การควบคุมมาตรฐาน ภายใต้การควบคุมของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้สารสำคัญจำเป็นใช้ทางการแพทย์ แต่ที่ให้ปลูกกันตามบ้าน 15 ต้น ไม่ได้คุณภาพ ไม่ใช่เพื่อการแพทย์แต่เป็นสันทนาการ

3.) มีการควบคุมการรักษา ไม่ว่าจะรักษาด้วยการแพทย์สมัยใหม่หรือการแพทย์แผนโบราณ จะต้องผ่านการอบรมเรียนรู้ก่อนนำไปรักษา

4.) ผู้ป่วยที่จะรับการรักษา ต้องมีการคัดกรองผู้ป่วย จำเป็นต้องใช้การรักษาด้วยกัญชาอย่างไร รวมถึงประเมินผลตั้งแต่ก่อนรักษาจนถึงหลังรักษา 

5.) รัฐต้องกำหนด ให้กัญชา เป็นยาเสพติด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาดูแลควบคุมได้ง่าย

ในร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่กำลังพิจารณาอยู่นี้ กลุ่มแพทย์ได้ศึกษาในรายละเอียดเช่นกัน โดยเห็นว่าไม่สอดคล้องกับเงื่อนไข 5 ข้อดังกล่าว หากปล่อยกฎหมายนี้ให้ผ่านความเห็นชอบจากสภา จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีแน่นอน 

นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลที่ขึ้นเป็นเจ้ากระทรวงสาธารณสุขจะทำอะไร พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เคยติติง ซึ่งการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชีสารเสพติดก่อนที่จะมีกฎหมายคุ้มครอง ควบคุมการใช้ นายกรัฐมนตรีเองก็ไม่เคยติติงหรือท้วงติงแต่อย่างใด สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ประเทศไทยอยู่ภาวะสุญญากาศ หลายพื้นที่ทั้งในเมือง ตลาด ห้างสรรพสินค้า มีร้านขายกัญชาเกิดขึ้นจำนวนมาก น่าสังเกตที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ที่ลงทุน ลงแรงในการจำหน่ายกัญชา แต่ไม่มีผู้รับซื้อเพราะปลูกไม่ได้มาตรฐาน

ผบ.ตร. เร่งรัดทีมคลี่คลายคดีระเบิดคาร์บอมถล่มแฟลตตำรวจนราธิวาส เตรียมเสนอปูนบำเหน็จเลื่อนยศ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ เป็น พล.ต.อ. สั่งช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้บาดเจ็บ จัดหาที่พักชั่วคราวให้

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 18.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9 รรท. ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ ระเบิดคาร์บอม ภายในบริเวณแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต1 ราย คือ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ รอง สวป.สภ.เมืองนราธิวาส ขณะกำลังจะออกไปปฏิบัติหน้าที่ และบาดเจ็บอีกจำนวน 43 ราย แฟลตอาคารที่พัก รถยนต์ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก 

ก่อนเดินทางไปยังห้องประชุม สภ.เมืองนราธิวาส เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งรัดคลี่คลายคดี ใช้เวลากว่า 1 ชม. จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บทุกราย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ผบ.ตร.กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เกิดเหตุพบว่า เกิดความเสียหายค่อนข้างรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 43 ราย ในทางคดี จากการประชุมติดตามเร่งรัด ผบช.ภ.9 ได้รายงานให้ทราบว่า มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร ทั้งพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ กล้องวงจรปิด เบื้องต้นพบว่า ผู้ก่อเหตุแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขับรถเข้ามาจอดทิ้งไว้และหลบหนีไป รายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติมยังไม่สามารถบอกได้ อยู่ในสำนวนการสืบสวนสอบสวน แต่ยืนยันว่าจะเร่งทำการสืบสวนคนร้ายให้ได้โดยเร็ว 

ส่วนการช่วยเหลือเยียวยา ได้สั่งการให้ ภ.9 และ ภ.จว.นราธิวาส เร่งแก้ปัญหาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เดือดร้อน จัดหาที่อยู่ให้ชั่วคราว และเร่งซ่อมแซมแฟลตที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งวางมาตรการความปลอดภัยให้เข้มข้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก

'อลงกรณ์' ดึง อตก.ผนึก กทม. และ การเคหะ เร่งเปิดตลาดเกษตรกร(Farmer Market) 50 เขตและตลาดน้ำคลองบางซื่อ

ภายใต้โครงการเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง(Urban Agriculture) เน้นเกษตรปลอดภัยอาหารปลอดภัย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมฯ ครั้งที่ 5/2565 ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting วันนี้ว่าที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 

1. ความคืบหน้าโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้นและการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบัน กทม. ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน ภาคประชาชน ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ กทม. แล้ว 177,246 ต้น โดยมีเป้าหมายปลูกให้ครบ 1 ล้านต้น ภายใน 4 ปี ในพื้นที่ทั้ง 50 เขต รวมทั้งพื้นที่ต่าง ๆ ในเขตสวนสาธารณะของ กทม.ด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัดพื้นที่กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการกรรมการโครงการธนาคารสีเขียว(Green Bank)รวมทั้งมอบหมายให้คณะทำงานอื่นๆเช่นคณะทำงานโรงเรียน-วิทยาลัยสีเขียว(Green  School-Green College) คณะทำงานมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green Campus) เป็นต้นร่วมสนับสนุนโครงการปลูกต้นไม้ในกรุงเทพมหานครและอาจเพิ่มโครงการเป็น2ล้านต้นตามข้อเสนอของผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

2. การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการปลูกผักสวนครัวเกษตรพอเพียงในสวนสาธารณะนำร่อง 5 แห่ง ได้แก่ 1) สวนจตุจักร เขตจตุจักร มีการทำศูนย์เรียนรู้ปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร และเลี้ยงไก่ 2) สวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา (ฝั่งพระนคร) เขตบางคอแหลม มีการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผัก และให้ความรู้ แก่ผู้ที่สนใจ 3) สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง ศูนย์เรียนรู้ปลูกพืชผักสวนครัว 4) สวนสราญรมย์ เขตพระนคร เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้และศึกษาดูงานแก่ประชาชนและผู้ที่สนใจ 5) สวนสันติภาพ เขตราชเทวี เป็นแหล่งเรียนรู้และเปิดรับแลกขยะรีไซเคิล

3. ความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการตลาดเกษตรกรหรือฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต (Farmer Market )ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้มีการขยายตลาดในรูปแบบตลาดเกษตรกรให้ครอบคลุม 50 เขต ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอผู้ว่าราชการฯ ซึ่งมอบหมายสำนักงานสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขต 50 เขต ให้พิจารณาสถานที่ที่เหมาะสม และโครงการปลูกพืชผักเกษตรปลอดสารพิษ 200 แปลง อีกทั้ง กิจกรรม Bangkok Green Market ตลาดสุขใจ “Green Clean Craft” มียอดจำหน่ายในช่วงเดือนตุลาคม – 20 พฤศจิกายน รวม 250,961 บาท ร้านค้าผู้ประกอบการ 185 ร้าน และผู้ใช้บริการฝึกอาชีพจำนวน 1,560 คน

4. ผู้แทนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้ประชาสัมพันธ์และเชิญร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งมีการจัดแสดงสินค้าผลผลิตเกษตร และมอบกระเช้าของขวัญแก่ผู้บริหาร และผู้ร่วมงาน ซี่งเป็นผลผลิตจากการดำเนินโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
5. ผู้ช่วยผู้ว่าการเคหะแห่งชาติแจ้งว่าการเคหะพร้อมสนับสนุนการจัดตั้งตลาดเกษตรกรในโครงการการเคหะดินแดงซึ่งมีผู้อยู่อาศัย6,000ยูนิต
รวมทั้งโครงการอื่นๆ

ทั้งนี้ประธานฯ แจ้งว่าจะประสานกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.)และคณะอนุกรรมการธุรกิจเกษตรของกระทรวงเกษตรฯ.ให้มาสนับสนุนโครงการตลาดเกษตรกรหรือฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต(Farmer Market) 50 เขตในกรุงเทพมหานครรวมทั้งการร่วมพัฒนาโครงการตลาดน้ำของอตก.ในคลองบางซื่อเป็นตลาดเกษตรกรประเภทตลาดน้ำซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ.โดยให้ฝ่ายเลขาประสานงานการลงพื้นที่พร้อมกับผู้ว่ากทม.และผู้ว่าการเคหะฯ.สำรวจพื้นที่ตลาดน้ำอตก.และโครงการเคหะดินแดง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top