Tuesday, 24 June 2025
ค้นหา พบ 49000 ที่เกี่ยวข้อง

‘อลงกรณ์’ รุกเปิด ‘ตลาดเกษตรกร’ 50 เขตในกทม. พร้อมดัน ‘ตลาดน้ำคลองบางซื่อ’ เป็นแลนด์มาร์กใหม่กลางกรุง

‘อลงกรณ์’ ดึง ‘อ.ต.ก.’ ผนึก ‘กทม.’ และการเคหะ เร่งเปิดตลาดเกษตรกร (Farmer Market) 50 เขตและตลาดน้ำคลองบางซื่อ ภายใต้โครงการเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง (Urban Agriculture) เน้นเกษตรปลอดภัยอาหารปลอดภัย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมฯ ครั้งที่ 5/2565 ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting วันนี้ว่าที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 

1.) ความคืบหน้าโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้นและการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบัน กทม. ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน ภาคประชาชน ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ กทม. แล้ว 177,246 ต้น โดยมีเป้าหมายปลูกให้ครบ 1 ล้านต้น ภายใน 4 ปี ในพื้นที่ทั้ง 50 เขต รวมทั้งพื้นที่ต่าง ๆ ในเขตสวนสาธารณะของ กทม.ด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัดพื้นที่กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการกรรมการโครงการธนาคารสีเขียว (Green Bank) รวมทั้งมอบหมายให้คณะทำงานอื่น ๆ เช่นคณะทำงานโรงเรียน-วิทยาลัยสีเขียว (Green School-Green College) คณะทำงานมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green Campus) เป็นต้นร่วมสนับสนุนโครงการปลูกต้นไม้ในกรุงเทพมหานครและอาจเพิ่มโครงการเป็น 2 ล้านต้นตามข้อเสนอของผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

2.) การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการปลูกผักสวนครัวเกษตรพอเพียงในสวนสาธารณะนำร่อง 5 แห่ง ได้แก่ 
(1) สวนจตุจักร เขตจตุจักร มีการทำศูนย์เรียนรู้ปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร และเลี้ยงไก่ 
(2) สวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา (ฝั่งพระนคร) เขตบางคอแหลม มีการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผัก และให้ความรู้ แก่ผู้ที่สนใจ 
(3) สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง ศูนย์เรียนรู้ปลูกพืชผักสวนครัว 
(4) สวนสราญรมย์ เขตพระนคร เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้และศึกษาดูงานแก่ประชาชนและผู้ที่สนใจ 
(5) สวนสันติภาพ เขตราชเทวี เป็นแหล่งเรียนรู้และเปิดรับแลกขยะรีไซเคิล

3.) ความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการตลาดเกษตรกรหรือฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต (Farmer Market ) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้มีการขยายตลาดในรูปแบบตลาดเกษตรกรให้ครอบคลุม 50 เขต ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอผู้ว่าราชการฯ ซึ่งมอบหมายสำนักงานสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขต 50 เขต ให้พิจารณาสถานที่ที่เหมาะสม และโครงการปลูกพืชผักเกษตรปลอดสารพิษ 200 แปลง อีกทั้ง กิจกรรม Bangkok Green Market ตลาดสุขใจ ‘Green Clean Craft’ มียอดจำหน่ายในช่วงเดือนตุลาคม - 20 พฤศจิกายน รวม 250,961 บาท ร้านค้าผู้ประกอบการ 185 ร้าน และผู้ใช้บริการฝึกอาชีพจำนวน 1,560 คน

4.) ผู้แทนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้ประชาสัมพันธ์และเชิญร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งมีการจัดแสดงสินค้าผลผลิตเกษตร และมอบกระเช้าของขวัญแก่ผู้บริหาร และผู้ร่วมงาน ซี่งเป็นผลผลิตจากการดำเนินโครงการเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

5.) ผู้ช่วยผู้ว่าการเคหะแห่งชาติแจ้งว่าการเคหะพร้อมสนับสนุนการจัดตั้งตลาดเกษตรกรในโครงการการเคหะดินแดงซึ่งมีผู้อยู่อาศัย 6,000 ยูนิตรวมทั้งโครงการอื่นๆ

ทั้งนี้ประธานฯ แจ้งว่าจะประสานกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และคณะอนุกรรมการธุรกิจเกษตรของกระทรวงเกษตรฯ ให้มาสนับสนุนโครงการตลาดเกษตรกรหรือฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต (Farmer Market) 50 เขตในกรุงเทพมหานคร

รวมทั้งการร่วมพัฒนาโครงการตลาดน้ำของอ.ต.ก. ในคลองบางซื่อเป็นตลาดเกษตรกรประเภทตลาดน้ำซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ โดยให้ฝ่ายเลขาประสานงานการลงพื้นที่พร้อมกับผู้ว่ากทม. และผู้ว่าการเคหะฯ สำรวจพื้นที่ตลาดน้ำอตก. และโครงการเคหะดินแดง

นทท.ฝรั่งเศส พร้อมชวนเพื่อนให้มาท่องเที่ยวไทย หลังประทับใจคนไทย เก็บกระเป๋าเงินส่งคืน

เปิดใจเจ้าหน้าที่วัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา หลังเก็บกระเป๋าสตางค์นักท่องเที่ยวสาวชาวฝรั่งเศสที่ทำตกไว้ก่อนส่งมอบให้ตำรวจท่องเที่ยวตามหาเจ้าของและติดตามส่งมอบกระเป๋าสตางค์คืนก่อนบินกลับบ้านเกิด ด้านเจ้าของกระเป๋าซาบซึ้งใจ พร้อมขอบคุณคนไทยและตำรวจท่องเที่ยวที่ช่วยเหลือดูแลเป็นอย่างดี ทำให้ได้กระเป๋าคืน และจะนำเหตุการณ์ดังกล่าวไปเล่าให้เพื่อนที่ประเทศตนฟัง เพื่อชักชวนให้มาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย 

เมื่อวันที่ (22 พ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับผู้ที่เก็บกระเป๋าสตางค์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้แล้วนำส่งคืนเจ้าของ คือ นางสงบ ควรคะนอง เจ้าหน้าที่ของวัดใหญ่ชัยมงคล โดยนางสงบ เปิดเผยว่า เนื่องจากในวันดังกล่าวมีคนมาเข้าห้องน้ำแล้วเก็บกระเป๋าเงินได้ บอกป้าว่ามีเงินเยอะด้วยฝากป้าไว้หน่อยนะ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นกระเป๋าเงินของชาวต่างชาติหรือเปล่า เพราะไม่กล้าเปิด ป้าก็เก็บใส่ถุงไว้ไม่กล้าเปิด เพราะกลัวว่าลายนิ้วมือของเขาจะหาย จากนั้นจึงรีบแจ้งนายสมพงษ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของวัดเอากระเป๋ามาตรวจสอบหาเจ้าของ จึงทราบว่าเป็นกระเป๋าของชาวต่างชาติเลยส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการส่งคืนเจ้าของ

ต่อมา พ.ต.อ.สมชาย ธีรภัทรไพศาล ผกก.2 บก.ทท.1, พ.ต.อ.มิลิน เพียรช่าง ผกก.3 บก.ทท.1, พ.ต.ท.ธนากร ธรรมเมธา สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อส่งมอบกระเป๋าสตางค์ให้กับ Mrs.Nathalie Jeanne Chaignion ชาวฝรั่งเศส หลังทำหล่นหายที่วัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยแจ้งกับทางนักท่องเที่ยวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ตำรวจท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากนางสงบ ควรคะนอง เจ้าหน้าที่ดูแลห้องน้ำของวัดใหญ่ชัยมงคลว่า พบกระเป๋าสตางค์ตกหล่นอยู่บริเวณภายในห้องน้ำวัด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของนักท่องเที่ยวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบปรากฏว่ากระเป๋าสตางค์ดังกล่าว เป็นของ Mrs.Nathalie Jeanne Chaignion ชาวฝรั่งเศส จึงได้พยายามติดต่อเพื่อนำกระเป๋าดังกล่าวส่งคืน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ 

จากนั้นได้ทำการตรวจสอบข้อมูลพบว่า Mrs.Nathalie เป็นนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 65 และจะเดินทางกลับในวันที่ 20 พ.ย. 65 เวลา 23.30 น. โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ Tk069 จึงได้นำฝากไว้กับตำรวจท่องเที่ยวของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อคืนให้กับ Mrs.Nathalie

TGPRO รุกธุรกิจกัญชงต้นน้ำ-ปลายน้ำ จับมือพันธมิตร 'แคนนาเจน' ตั้งเป้ารายได้ 120 ลบ.

TGPRO ส่งบริษัทย่อย เวิลด์ คลาส สมาร์ท ฟาร์ม ผนึกพันธมิตร แคนนาเจน รุกธุรกิจกัญชงต้นน้ำ-ปลายน้ำ เพาะปลูก ผลิต และ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ช่อดอกกัญชงมาตรฐาน Medical-Grade ด้วยเทคโนโลยี Smart Farm หนุนเทรนด์ความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และ เครื่องสำอาง ตั้งเป้าหมายรายได้ 120 ล้านบาท รับรู้ภายในปี 66 

นายรชต ลีลาประชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGPRO ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อสแตนเลส ภายใต้เครื่องหมายการค้า 'TGPRO' เปิดเผยว่า บริษัทมีการลงทุนในบริษัท เวิลด์ คลาส สมาร์ท ฟาร์ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผลิต และ จำหน่ายเรือนเพาะชำโดยเป็นการต่อยอดธุรกิจผลิตและจำหน่ายท่อสเตนเลส ในการสร้างโรงเรือนเพาะปลูกด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ มีความทนทาน ด้วยมาตรฐานระดับโลก เนื่องจากสเตนเลสทนการกัดกร่อนมากกว่าเหล็ก อายุการใช้งานยืนยาวกว่า อีกทั้งไม่เป็นสนิมและไม่มีผลร้ายต่อผลิตผลที่ได้ และยังรวมถึงการปลูกและจำหน่ายสินค้าเกษตรภายใต้แบรนด์ 'FUJI MEIJI' 

ทั้งนี้ บริษัท เวิลด์ คลาส สมาร์ท ฟาร์ม จำกัด จึงมีความพร้อมในการร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท แคนนาเจน จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการเพาะปลูกกัญชง เพื่อดำเนินการ เพาะปลูก ผลิต และ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ช่อดอกกัญชงมาตรฐาน Medical-Grade แบบครบวงจร รวมถึงนำผลผลิตมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ โดยการสร้างโรงเรือนพร้อมระบบการจัดการแบบสมาร์ทฟาร์ม

“บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท แคนนาเจน จำกัด ด้วยความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 บริษัท เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมการเพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงร่วมกันพัฒนากัญชงสายพันธุ์ใหม่ให้มีความทนทานต่อสภาพอากาศ เพิ่มผลการผลิต ลดความสูญเสียในการเพาะปลูก รวมถึงการเพิ่มมาร์จิ้นจากการต่อยอดผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม” นายรชต กล่าว

คิกออฟ ‘ฟัง-คิด-ทำ’ รับฟังเสียงปชช.ทุกพื้นที่ พร้อมกลั่นกรองทำนโยบายสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

ประชาธิปัตย์ สะบัดธง! คิกออฟ กิจกรรม “ฟัง-คิด-ทำ” เปิดพื้นที่ทุกความเห็น  ชูแนวคิดทำนโยบายจากความต้องการประชาชน ย้ำ วันนี้พร้อมเปลี่ยน อย่างมีวุฒิภาวะและพร้อมนำพรรคสู่ความทันสมัย

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 ที่ลานกิจกรรมหน้าสามย่าน มิตรทาวน์ ทีมกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวกิจกรรม “ฟัง-คิด-ทำ” เพื่อเปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศ เพื่อนำมาสังเคราะห์ต่อยอดจัดทำเป็นนโยบายของพรรคให้ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคภาค กทม. นายสุชัชวีย์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรม กทม. รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วม

นายองอาจ กล่าวว่า กิจกรรม ฟัง-คิด-ทำ นี้เป็นกิจกรรมที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยการฟังประชาชน คิดร่วมกับประชาชน และทำเพื่อประชาชน ซึ่งจะเห็นว่านโยบายที่พรรคนำเสนอล้วนเกิดจากกระบวนการฟัง-คิด -ทำ มาต่อเนื่อง และนโยบายที่ออกมาเป็นผลผลิตของประชาชน เพราะพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าประชาชนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ 

ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกคนทราบดีว่าชาว กทม. ไม่ได้ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ในการทำงาน  เราถูกสั่งสอนและอบรม ถามว่ารู้สึกอย่างไร? ในฐานะคนทำงานเพื่อประชาชนย่อมรู้สึกเสียใจที่ไม่มีโอกาสในการทำงานให้กับประชาชน แต่ไม่ได้เสียกำลังใจ เพราะหลังการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการรับฟัง คิด และทำเพื่อประชาชนมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทั้งใน กทม. และทั่วประเทศ พรรคได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ และเยียวยาประชาชน จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเราได้ทำจากเสียงของประชาชน ดังนั้นในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็เริ่มจากกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และเชื่อว่าจะเป็นนโยบายที่ทุกคนมีส่วนร่วม และเป็นที่ยอมรับของทุกคน 

“ที่ผ่านมาแม้ว่าชาว กทม.จะไม่ให้โอกาสเราได้ทำงาน แต่เชื่อมั่นว่าจากการที่เราทำงานหนัก ทุ่มเท มุ่งมั่นตั้งใจในการรับใช้ประชาชน พยายามฟังประชาชน คิดจากประชาชน เชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนชาว กทม. จะให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าจะสามารถปักธงชัยอยู่ในใจประชาชน และเป็น ส.ส.ของ กทม. ได้อย่างแน่นอน” นายองอาจ กล่าว 

ด้านนายสุชัชวีร์ กล่าว ตนยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และมั่นใจเสมอว่าจากนี้ไปจะเป็นโอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเป็นตัวแทนที่แท้จริงของประชาชน และแน่นอนจากนี้ไปจะเป็นงานที่ยากและท้าทาย เนื่องจากโลกเปลี่ยน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงความคิดของประชาชนเปลี่ยน กระบวนการฟัง คิด ทำ พรรคทำมาโดยตลอด จากนี้เราจะไปรับฟังทุกคนในทุกพื้นที่ แต่กระบวนการที่สำคัญจะกลั่นกรองเป็นนโยบาย ทั้งนี้ความคิดและมันสมองต่อจากนี้ของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง แต่จากนี้จะเป็นความคิดของประชาชนทุกคน จึงขอเชิญชวนทุกคนมาช่วยกันคิด เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง และเชื่อมั่นว่าพรรคจะมุ่งหน้าฟัง คิดและทำเพื่อประชาชนชาว กทม. และคนไทยทั่วประเทศทุกคน  

ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวย้ำถึงเหตุผลของการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นเพราะความเป็นสถาบันทางการเมือง การเป็นพรรคของประชาชนที่ไม่มีใครเจ้าของ และยังมีระบบโครงสร้างที่เป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ภายในพรรค และเหตุผลของการรีบตัดสินใจลาออกแล้วมาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์นั้น เพราะต้องการใช้เวลาลงไปรับฟัง พูดคุยกับประชาชนอย่างจริงจังว่าเขาต้องการอะไร ก่อนที่จะนำมาผลักดันเป็นนโยบาย เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นแต่นักการเมืองบอกว่า “อยากทำอะไร” แต่แทบไม่มีใครถามว่า “ประชาชนอยากได้อะไร” ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงความเห็น สะท้อนปัญหา หรือบอกความต้องการ

น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า วันนี้ไทยแลนด์ แลนด์ ออฟ สไมล์ ยิ้มไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจแย่ นโยบายคลังแก้ปัญหาไม่ตรงจุด แต่ก็ยังทำต่อไปเหมือนไม่ได้ยินเสียงคนระดับฐานรากที่กำลังล้มตายเพราะพิษเศรษฐกิจ ซึ่งจากข้อมูล Social Listen พบว่าประชาชนกำลังเผชิญกับปัญหาปากท้องและต้องการให้มีการแก้ไขเป็นอันดับแรก และยังมีปัญหาน้ำท่วม การจราจร การพนัน และยาเสพติด ที่อยู่คู่คนกรุงเทพฯมาช้านาน จนต้องหาทางปรับตัวเพื่อเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง เพราะปัญหามันไม่เคยถูกรับฟังจากคนในพื้นที่และมีการแก้ไขอย่างตรงจุด และยิ่งไปกว่านี้ เมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวคุณหมอที่ยังหนุ่มใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะ แต่กำลังจะเสียชีวิตจากมะเร็งปอด เพราะมลพิษที่เราทุกคนกำลังพูดกันอยู่ หลายประเทศเขาประกาศเลยว่า อากาศสะอาดคือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน แต่วันนี้นอกจากเราจะไม่มีสิทธินี้แล้ว เรายังได้โรคร้าย จากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษมาแทนอีกด้วย

'ศาลรธน.' ชี้!! ร่างกม.พรรคการเมือง ไม่ขัดแย้ง ต่อ 'รัฐธรรมนูญ' และ 'การปฏิรูปด้านการเมือง

ศาลรธน. มีมติเอกฉันท์ ชี้ร่างกฎหมายพรรคการเมือง ไม่มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปด้านการเมือง  

(23 พ.ย. 65) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 77 คน ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก.ด้านการเมือง (2) หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ โดยมติที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ร่างกฎหมายพรรคการเมืองไม่มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปด้านการเมือง  

สำหรับประเด็นที่ผู้ร้องเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญคือการลดค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรค เดิมปีละไม่เกิน 100 บาท เหลือไม่เกิน 20 บาท ตลอดชีพลดเหลือไม่เกิน 200 บาท จากเดิมไม่น้อยกว่า 2,000 บาท เหตุผลคือกลัวจะเปิดให้เกิดนายทุนครอบงำและไม่เป็นพรรคของประชาชน และตัดคุณสมบัติผู้ต้องคดีอาญา การฉ้อโกง ยาเสพติด การพนัน การค้ามนุษย์และการฟอกเงิน หากคดีไม่ถึงขั้นติดคุกก็สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top