Saturday, 26 April 2025
ค้นหา พบ 47684 ที่เกี่ยวข้อง

‘ทนายแค้ง’ ไขข้อสงสัยปมฟ้องหมิ่นถ้อยคำหยาบ ชี้ หากไม่ระบุในคำฟ้อง ไม่อาจนำสืบในศาลได้

นายพิมพ์พล แค้ง แสงเมือง ทนายความ ได้โพสต์ให้ความรู้กรณีหมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสม โดยระบุถึงคำว่า “อีเหี้ย” ซึ่งเป็นถ้อยคำแสดงการหมิ่นประมาทก็จริง แต่เมื่อไม่ได้ระบุไว้ในคำฟ้อง ก็จะนำมาสืบให้ศาลรับฟังในชั้นพิจารณาไม่ได้

โดยนายพิมพ์พล ได้อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2562 ที่ระบุว่า

กรณีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) เป็นการเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณด้วยการหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรงนั้น มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องระบุมาในคำฟ้องให้ชัดเจนว่า

- จำเลยที่ 1 ผู้รับกล่าวถ้อยคำอย่างไร เมื่อใด ต่อใคร เพื่อเป็นข้อที่จะให้ศาลพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขที่จะเรียกถอนคืนการให้ได้หรือไม่ 

- ลำพังแต่การบรรยายว่าจำเลยที่ 1 ด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายอีกหลายครั้ง โดยไม่มีรายละเอียดว่า ด่าด้วยถ้อยคำว่าอย่างไร เหตุเกิดเมื่อใด ซึ่งจำเลยทั้งสามก็ให้การต่อสู้ว่า ฟ้องในส่วนนี้เคลือบคลุม 

โซเชียลแชร์สนั่น #ไม่เอาพรบคู่ชีวิต หนุนสมรสเท่าเทียมให้สิทธิ์ทุกรักเท่ากัน

กลายเป็นข้อพิพาทในโลกโซเชียลขึ้นมาทันที ภายหลังจาก แฮชแท็ก #ไม่เอาพรบคู่ชีวิต ได้รับการพูดถึงอย่างมากในหมู่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะทวิตเตอร์ในไทยเมื่อวันอังคาร (7 มิ.ย.) ต่อเนื่องมาถึงวันพุธ (8 มิ.ย.) เพื่อแสดงการคัดค้านความพยายามของรัฐบาลในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิตเพื่อใช้กับคู่รักกลุ่มเพศหลากหลาย

การแสดงเสียงคัดค้านนี้เกิดขึ้นหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันอังคาร (7 มิ.ย.) เห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรมนำร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่พรรคก้าวไกลผลักดัน หรือที่เรียกกันว่า ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม กำลังกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในวันพุธ (8 มิ.ย.)

กระแสในโซเชียลมองว่า สำหรับคู่หลากหลายเพศที่ต้องการสร้างครอบครัว ไม่ได้หยุดที่สิทธิประโยชน์ของคนสองคนเท่านั้น แต่หมายถึงการมีบุตร มีคนที่เรารักเพิ่มเข้ามาในครอบครัวเล็กๆ นั้นด้วย 

แต่ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ริดรอนสิทธิ์ในข้อนี้ ซึ่งสำคัญอย่างมาก เนื่องจากในปัจจุบัน พ.ร.บ.อุ้มบุญ ที่ควบคุมการเข้าถึงบริการด้านอนามัยเจริญพันธุ์อนุญาตให้เฉพาะคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และจะมีสิทธิ์มีบุตรได้ด้วยเทคโนโลยีเหล่านั้น คู่ชีวิตไม่มีสิทธิ์ 

ฉะนั้นถ้ามีเพียง พ.ร.บ. คู่ชีวิต สิ่งที่พ่อแม่หลากหลายเพศมักจะถามไถ่เข้ามาเสมอและเป็นความต้องการเป็นสิทธิ์ในฐานะมนุษย์และพลเมืองคือการมีบุตร ก็จะไม่สามารถทำได้ และยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายยสำหรับพวกเขา จะทำได้เพียงการรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงเท่านั้น

3 สาวพี่น้องอินเดียยอมฆ่าตัวตาย หนี 3 สามี ‘ทารุณ-ทุบตี-รีดไถ’

พี่สาวน้องสาวชาวอินเดีย 3 คน ฆ่าตัวตาย หนีการทารุณกรรมและความรุนแรงในครอบครัวของฝ่ายสามี ที่เป็น ‘พี่ชายน้องชาย 3 คน’ ซึ่งอาศัยในบ้านเดียวกัน

กลายเป็นอีกคดีที่สร้างความสะเทือนใจแก่สังคมอินเดียอย่างมาก และกำลังปลุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงค่านิยม ‘ปิตาธิปไตย’ (สังคมชายเป็นใหญ่) ที่ครอบครัวฝ่ายหญิงต้องจ่ายสินสอดมหาศาลให้กับฝ่ายชาย เพื่อให้บุตรสาวออกเรือนอีกครั้ง

โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อ 3 สาวชาวอินเดีย ที่มีชื่อว่า คาลู, คามเลช และ มัมตา นามสกุล ‘มีนา’ พวกเธอแต่งงานกับพี่ชายน้องชาย 3 คน ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน

ครอบครัวฝ่ายหญิงจ่ายสินสอดมหาศาลให้ครอบครัวฝ่ายชาย ตามธรรมเนียมนิยมอินเดีย แต่เมื่ออาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันแบบ 3 คู่สามีภรรยาแล้ว ฟากฝ่ายหญิงทั้ง คาลู, คามเลช และ มัมตา กลับถูกทำร้ายร่างกาย ทารุณกรรม จากทั้งตัวสามีของพวกเธอ และครอบครัวของฝ่ายชายเสมอมา ขณะเดียวกัน ฝ่ายชายก็ยังเรียกร้องขอเงินเพิ่มจากครอบครัวฝ่ายภรรยา เมื่อให้ไม่ได้ ก็ลงไม้ลงมือกับภรรยาของตนเองอีกด้วย

ภายใต้ความรุนแรงดังกล่าวที่เกิดขึ้นในครอบครัวนี้อย่างต่อเนื่อง ในระหว่างที่ คาลู ได้มีลูกชายวัย 4 ขวบ 1 คน และลูกวัยทารก 1 คน ขณะที่คามเลช และมัมตาเอง ก็กำลังตั้งครรภ์นั้น ก็ได้เกิดเรื่องน่าเศร้า เมื่อวันหนึ่งมีคนพบศพของ 3 สาวพี่น้อง รวมถึงลูกๆ ของเธอในบ่อน้ำ พร้อมด้วยจดหมายลาตาย ซึ่งโพสต์ผ่านข้อความใน WhatsApp (แอปพลิเคชันยอดนิยมในอินเดีย) ระบุว่า... 

“เราไม่อยากจะตาย แต่ความตายยังดีกว่าต้องทนการทารุณของพวกเขา” 
“พ่อและแม่สามี ผลักดันให้เราเลือกทางตาย และเราขอตายพร้อมกัน (3 พี่น้อง) ดีกว่า ต้องตายทั้งเป็นอยู่ทุกวัน” 

'ทักษิณ' โหน 'ชัชชาติ' ขยัน มีความโปร่งใส เหมือนยุคตนเองเป็นนายกฯ ถ่ายทอดสดช่อง 11 ตลอด

'ทักษิณ' โหน 'ชัชชาติ' ทำงานแบบขยันมีภาวะความเป็นผู้นำมีความโปร่งใสเหมือนยุคตนเองเป็นนายกฯทำ Workshop ทำงานและถ่ายทอดสดช่อง 11 ตลอดเวลา มันต้องตรงไปตรงมา 

8 มิ.ย.2565 - แฟนเพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร หรือ "โทนี่" อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งกล่าวในรายการ CareTalk X Clubhouse หัวข้อ "ราชการไทย" ทำดีก็ได้ ทำไวก็เป็น เมื่อวันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า 

“...ถ้าคิดจะเป็นผู้นำแล้วคิดแต่จะขโมยคนของคนอื่น แบบนี้เป็นผู้นำไม่ได้หรอก...”

ถ้าผู้นำดี รู้ปัญหา ไม่มีข้าราชการคนไหนอยู่เฉยหรอก เขารู้ปัญหา เขารู้เรื่องหมดอยู่ที่ว่าเขาจะทำหรือเปล่า จะทำแบบรับเงินทอน หรือจะทำแบบตรงไหนตรงมา

ผู้ว่าฯ ชัชชาติทำงานแบบขยัน และมีภาวะความเป็นผู้นำ มีความโปร่งใส เวลาลงพื้นที่จุดไหนก็ live ไปด้วยทำให้ประชาชนได้เรียนรู้และรู้ปัญหาไปด้วย ส่วนไหนทำได้ ส่วนไหนทำไม่ได้ประชาชนก็จะได้เข้าใจ

‘ออมสิน-ทิพย-บางจาก’ จับมือตั้งบริษัทร่วมทุน ลุยธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก ดอกเบี้ยต่ำ

‘ออมสิน-ทิพย-บางจาก’ จับมือตั้งบริษัทร่วมทุน ลุยธุรกิจขายฝากที่ดิน ดอกเบี้ยต่ำ 8-9% หวังช่วยกดดบ.ในตลาด

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ ธนาคารออมสิน จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมทุนธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก กับ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้งบริษัทขึ้นมาทำธุรกิจสินเชื่อที่ดินโดยตรง ซึ่งเบื้องต้นมีการระดมทุนจดทะเบียน 1 พันล้านบาท มีธนาคารออมสินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 49% ส่วนที่เหลืออีก 51% เป็นการร่วมทุนของบางจาก และทิพย กรุ๊ป จากนั้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2565

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ ไม่ได้เข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทอื่น โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยที่เป็นธรรม โดยในช่วงแรกจะเริ่มเข้าไปแข่งขันในสินเชื่อที่ดินและขายฝากก่อน เพราะที่ผ่านมามีการคิดดอกเบี้ยสูงมาก จึงจะเข้าไปแข่งทำให้ดอกเบี้ยตลาดลดลงตามนโยบายของรัฐบาล โดยเบื้องต้นจะคิดดอกเบี้ยประมาณ 8-9% ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยในตลาดที่เก็บสูงถึง 15-30% และในระยะต่อไปบริษัทมีแผนเข้าไปประกอบธุรกิจสินเชื่อบุคคลอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top