Saturday, 26 April 2025
ค้นหา พบ 47674 ที่เกี่ยวข้อง

‘ครูปรีชา’ ไม่จบ! ลุยฟ้องแพ่ง ‘ลุงจรูญ’ ต่อ แม้ศาลฎีกาชี้ขาดแล้ว ลั่น ‘ความจริงก็คือความจริง’

‘ครูปรีชา’ เดินหน้าฟ้องคดีแพ่ง ‘หมวดจรูญ’ต่อ พร้อมเผยมีหลักฐานสำคัญ ที่ชี้ชัดว่าเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ย้ำวลีเดิม ‘ความจริงก็คือความจริง’

ภายหลังจากศาลฎีกา พิพากษายกฟ้อง คดีที่ครูปรีชา ใคร่ครวญ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ และรับของโจร คดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ที่ยื่นฟ้องร้องตั้งแต่ปี 2560 แล้วนั้น

ล่าสุด ครูปรีชา กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจใดๆ ที่ทีมทนายของหมวดจรูญ จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับตนและกลุ่มพยานของตน แม้คดีนี้ศาลจะมีคำพิพากษายกฟ้องหมวดจรูญ แต่ตนเองซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ก็ไม่ได้ถือว่าแพ้คดี เพราะคำพิพากษาศาล ก็ยังไม่ได้ระบุว่าสลากฯชุดที่ถูกรางวัลเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร ซึ่งตนก็จะพิสูจน์ความจริงต่อด้วยการฟ้องคดีแพ่ง เพื่อพิสูจน์สิทธิความเป็นเจ้าของของสลากฯชุดที่ถูกรางวัล เนื่องจากเป็นการต่อสู้และใช้สิทธิตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งตนยืนยันว่า ตนเองและทีมทนายความมีพยานหลักฐานอีกหลายชิ้นที่พบในภายหลัง และไม่ได้นำเข้าสู่กระบวนการต่อสู้พิจารณาคดีในชั้นศาลที่ผ่านมา ซึ่งก็จะนำมาใช้ในการฟ้องแพ่งเพื่อพิสูจน์สิทธิการครอบครองสลากฯชุดที่ถูกรางวัลดังกล่าวต่อไป

‘สเตฟานี แมตโต’ สาวสวยผู้อัด ‘ตด’ ใส่โหลขาย เปิดไอเดียใหม่ ขายเหงื่อที่ไหลจากหน้าอก 

แม้จะฟันรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการขายตดขวดละ 1,000 ดอลลาร์ไปก่อนหน้านี้ แต่สาววัย 31 ปี จากรัฐคอนเนตทิคัต ก็จำต้องเลิกธุรกิจผายลมไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่เธอตั้งหน้าตั้งตากินอาหารจำพวกถั่วและไข่เพื่อผลิต ‘แก๊ส’ มากเกินไปจนเข้าโรงพยาบาล

แต่แฟนๆ ที่เป็นห่วง สเตฟานี ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะตอนนี้เธอ กลับมาแข็งแรงดีแล้ว แถมยังออกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น ‘เหงื่อ’ จากหน้าอกที่เธอลงทุนไปนั่งตากแดดวันละหลายชั่วโมงเพื่อผลิตมัน

สเตฟานี เล่าว่า ถ้าวันไหนแดดดีๆ เธอสามารถผลิตเหงื่อใส่ขวดโหลได้มากถึง 10 ขวด และขายในราคาขวดละ 500 ดอลลาร์ (ราว 17,300 บาท) ซึ่งทำให้เธอมีรายได้เหนาะๆ วันละเกือบ 2 แสนบาท

“ฉันชอบนั่งเล่นริมสระว่ายน้ำอยู่แล้ว แต่มันก็เป็นงานที่หนักนะ อย่าคิดว่าหมูๆ” เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อ Jam Press

“หน้าอกฉันใหญ่ขนาดนี้ ถ้าแฟนๆ ได้ดมกลิ่นหรือเลียเหงื่อของฉัน ก็จะทำให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดฉันมากขึ้น”

‘สเตฟานี แมตโต’ สาวสวยผู้อัด ‘ตด’ ใส่โหลขาย เปิดไอเดียใหม่ ขายเหงื่อที่ไหลจากหน้าอก

แม้จะฟันรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการขายตดขวดละ 1,000 ดอลลาร์ไปก่อนหน้านี้ แต่สาววัย 31 ปี จากรัฐคอนเนตทิคัต ก็จำต้องเลิกธุรกิจผายลมไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากที่เธอตั้งหน้าตั้งตากินอาหารจำพวกถั่วและไข่เพื่อผลิต ‘แก๊ส’ มากเกินไปจนเข้าโรงพยาบาล

แต่แฟน ๆ ที่เป็นห่วง สเตฟานี ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะตอนนี้เธอ กลับมาแข็งแรงดีแล้ว แถมยังออกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น ‘เหงื่อ’ จากหน้าอกที่เธอลงทุนไปนั่งตากแดดวันละหลายชั่วโมงเพื่อผลิตมัน

สเตฟานี เล่าว่า ถ้าวันไหนแดดดีๆ เธอสามารถผลิตเหงื่อใส่ขวดโหลได้มากถึง 10 ขวด และขายในราคาขวดละ 500 ดอลลาร์ (ราว 17,300 บาท) ซึ่งทำให้เธอมีรายได้เหนาะๆ วันละเกือบ 2 แสนบาท

“ฉันชอบนั่งเล่นริมสระว่ายน้ำอยู่แล้ว แต่มันก็เป็นงานที่หนักนะ อย่าคิดว่าหมู ๆ” เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อ Jam Press

“หน้าอกฉันใหญ่ขนาดนี้ ถ้าแฟน ๆ ได้ดมกลิ่นหรือเลียเหงื่อของฉัน ก็จะทำให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดฉันมากขึ้น”

‘สร้างอนาคตไทย’ ถอดรหัสเงินเฟ้อพุ่ง 7.10% ชี้!! ข้าวของที่เห็นว่าแพง ยังจะแพงต่อไปอีก

(7 มิ.ย.65) นายสันติ กีระนันทน์ ทีมเศรษฐกิจพรรคสร้างอนาคตไทย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม หนึ่งในคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า... 

ขอเขียนยาวหน่อยนะครับ ... ต้องอ่านให้จบครับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นถึง 7.10% สูงสุดในรอบ 13 ปี !!! 

ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้ชี้แจงว่า เงินเฟ้อทั่วไป เดือน พ.ค. 2565 เท่ากับ 106.62 สูงขึ้น 7.10% สูงสุดในรอบ 13 ปี สาเหตุหลักมาจากราคาพลังงานและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น และหากพิจารณากลุ่มอาหารกลุ่มเดียว ก็จะพบว่า ราคาสูงขึ้นถึง 6.18% และยังสรุปว่า เดือนมิถุนายน 2565 นี้ อัตราเงินเฟ้อก็ยังมีแนวโน้มขยายตัว 

แปลความง่าย ๆ ว่า ข้าวของที่เราเห็นว่าแพงในขณะนี้ ยังจะแพงต่อไปอีกครับ !!!

ในวันพุธที่ 8 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็จะมีการประชุม ซึ่งก็ต้องจับตาดูว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานั้น กนง. ได้พยายามชี้แจงว่า ภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นนั้น จะเป็นภาวะชั่วคราวเท่านั้น และจะปรับตัวดีขึ้น จึงจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยให้เหตุผลว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ในความเห็นข้างต้นของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ผมได้แสดงความไม่เห็นด้วยมาอย่างต่อเนื่อง (ย้ำครับว่า ผมไม่เห็นด้วย !!!) 

ด้วยเหตุผลสำคัญคือ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของคนในประเทศไทยที่อยู่ในระดับสูงนั้น อัตราเงินเฟ้อหรือพูดง่าย ๆ เป็นภาษาชาวบ้านว่า ข้าวของแพงขึ้นนั้น จะทำร้ายคนส่วนใหญ่ของประเทศอย่างรุนแรง เพราะความเหลื่อมล้ำในระดับสูงนั้น แสดงถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศยังยากจนอยู่มาก ข้าวของแพงขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ประกอบกับระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงมากเกือบ 100% ของ GDP 

อย่างในขณะนี้นั้น รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีการทำงานสอดประสานกันอย่างไรเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของคนกลุ่มนี้ ... คำถามนี้เป็นคำถามใหญ่ และเป็นสิ่งที่นโยบายการคลัง (โดยรัฐบาล คือ กระทรวงการคลัง) และนโยบายการเงิน (โดยธนาคารแห่งประเทศไทย) ต้องมีการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง มิฉะนั้นแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจะอยู่อย่างไร

ทูตสหรัฐฯ วอนรัสเซีย ‘อย่าเพิ่งสั่งปิดสถานทูตมะกัน’ ชี้!! 2 ชาติยังต้องคุยกัน แม้ความสัมพันธ์จะเลวร้าย

จอห์น เจ. ซัลลิแวน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโก เรียกร้องรัฐบาลรัสเซียว่าอย่าได้สั่งปิดสถานทูตสหรัฐฯ เป็นอันขาด แม้วิกฤตการณ์ในยูเครนจะทำให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม พร้อมย้ำว่าอย่างไรเสีย 2 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์รายใหญ่ที่สุดของโลกยังจำเป็นต้องพูดคุยกัน

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เอ่ยถึงการส่งทหารรุกรานยูเครนว่าเป็น 'จุดเปลี่ยน' ในประวัติศาสตร์รัสเซีย และเป็นการปฏิวัติต่อต้านการครองความเป็นใหญ่ (Hegemony) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้นำเครมลินบอกว่าใช้อิทธิพลข่มเหงรัสเซียมาตลอดตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลายเมื่อปี 1991

ฝ่ายยูเครน และบรรดารัฐตะวันตกที่ให้การสนับสนุนอ้างว่า นี่คือการต่อสู้เพื่อให้ยูเครนรอดพ้นจากแผนยึดดินแดนเยี่ยงนักล่าอาณานิคมซึ่งได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปแล้วนับพันคน ทำให้ชาวยูเครนอีกกว่า 10 ล้านต้องพลัดถิ่นฐาน และทำให้เมืองต่าง ๆ ของยูเครนกลายสภาพเป็นที่ดินรกร้าง (Wasteland)

ซัลลิแวน ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TASS ว่า วอชิงตันและมอสโกไม่ควรจะตัดสัมพันธ์ทางการทูตกันง่าย ๆ

“เราจะต้องคงไว้ซึ่งความสามารถในการพูดคุยกันเสมอ” เขากล่าว

ทูตอเมริกันผู้นี้ยังฝากเตือนไปยังชาติตะวันตกว่าไม่ควรที่จะถอดหนังสือของ เลโอ ตอลสตอย (Leo Tolstoy) นักเขียนชาวรัสเซียออกจากชั้นวาง และไม่จำเป็นที่จะต้องปฏิเสธการบรรเลงเพลงของ 'ปิออตร์ ไชคอฟสกี' (Pyotr Tchaikovsky) ด้วย

อย่างไรก็ดี รัสเซียประกาศแล้วว่า “การเล่นเอาเถิดเจ้าล่อ” กับตะวันตกในยุคหลังสหภาพโซเวียตได้จบสิ้นลงแล้ว และหลังจากนี้มอสโกจะหันไปขยายความร่วมมือกับมิตรประเทศในซีกโลกตะวันออก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top