Saturday, 26 April 2025
ค้นหา พบ 47684 ที่เกี่ยวข้อง

‘นายกฯ’ เร่งปลูกข้าวบาสมาติป้อนตลาดซาอุฯ ต่อยอดสัมพันธ์สินค้าเกษตร ‘ไทย-ซาอุฯ’

(8 มิ.ย.65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ส่งเสริมและผลักดันความร่วมมือทางด้านสินค้าเกษตร ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย ให้มีความก้าวหน้า มีพัฒนาการอย่างเป็นรูปธรรม หลังกรมการข้าวเตรียมต่อยอดจากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปซาอุดีอาระเบีย และเห็นถึงศักยภาพในการขยายความร่วมมืออย่างใกล้ชิดทางด้านการเกษตร 

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างไทยและซาอุดีฯ เดินหน้าขยายความร่วมมือด้านการเกษตร ชลประทาน ปศุสัตว์และประมง, ฮาลาล, อุตสาหกรรมเกษตร และเทคโนโลยีเกษตร โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกรมการข้าว ครั้งที่ 6 ประจำปีงบประมาณ 2565 เพราะเห็นถึงโอกาสของข้าวไทยจากสถานการณ์ปัญหาความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ที่ประเทศไทยมีความมั่นคงและสามารถรับมือได้น่าพอใจ ได้รับผลกระทบขาดแคลนอาหารน้อย จึงเป็นโอกาสของไทย ที่จะขับเคลื่อนนโยบายตอบโจทย์ความต้องการ นอกจากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันศึกษาหาช่องทางปลูกข้าวบาสมาติ ที่ไทยเคยปลูกเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เพื่อขยายตลาดของไทยในซาอุดีฯ ที่มีความต้องการข้าว 30 ล้านตัน เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในภาคอุตสาหกรรมการปลูกข้าวให้มากขึ้น และเสริมศักยภาพด้านการส่งออกข้าวไทยในตลาดโลกให้มีอำนาจต่อรองยิ่งขึ้น 

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการการทำงาน พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ดำเนินงานเพื่อประโยชน์กับประเทศ และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย และซาอุดีฯ โดยเชื่อมั่นในความรู้ ความสามารถของคนไทยประสบการณ์ที่สืบทอดภูมิปัญญาการปลูกข้าวมาอย่างยาวนาน และยินดีที่สถานการณ์ส่งออกข้าวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค. มีอัตราการส่งออกเพิ่มขึ้น 48.5% อยู่ที่ 1.76 ล้านตัน สูงสุดในรอบ 5 ปี เป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของโลก โดยตั้งเป้าส่งออกข้าวในปีนี้รวมกว่า 7 ล้านตัน

'อดีตผกก.โจ้' รับโทษจำคุกตลอดชีวิต กรณีคลุมถุงดำฆ่าทารุณผู้ต้องหา

ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ตลิ่งชันศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ โจ้ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ กับพวกรวม 7 คน ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต 

ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายและ ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289 (5), 309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561มาตรา 4,172

สืบเนื่องจากนายจิระพงษ์หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกจับและควบคุมไว้ในคดียาเสพติดและถูกฆ่าถึงแก่ความตายขณะอยู่ในความความควบคุมของเจ้าพนักงาน เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคม พ.ศ.2564 ที่ สภ.นครสวรรค์

โดยวันนี้จะเป็นการอ่านคำพิพากษา ผ่านระบบ Video Conference ไปยังเรือนจำให้จำเลยทั้ง 7 คน เนื่องจากสถานการณ์โควิด

'เกาหลีใต้-สหรัฐฯ' ส่งฝูงบิน 20 ลำ สำแดงเดช เตือนเปียงยางอย่าคิดทดสอบนิวเคลียร์

เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา สำแดงแสนยานุภาพทางอากาศร่วมกัน เพื่อให้ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้เห็นในวันอังคาร (7 มิ.ย.) ระหว่างการเดินทางเยือนของ 'เวนดี เชอร์แมน' รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา ผู้ซึ่งเตือนว่าจะตอบโต้อย่างหนักหน่วงและชัดเจน หากว่าเปียงยางทำการทดสอบนิวเคลียร์

การสำแดงแสนยานุภาพทางอากาศร่วมกันในครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินรบ 20 ลำ ในนั้นรวมถึงเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35A มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธชนิดจากพื้นดินสู่พื้นดินจำนวน 8 ลูกไปตกที่นอกชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลีเช้าวันจันทร์ (6 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ติดต่อกันถึง 8 ลูกเมื่อวันอาทิตย์ (5 มิ.ย.)

กองทัพเกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลงว่า "เกาหลีใต้และสหรัฐฯ แสดงถึงความสามารถอันแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นในการโจมตีอย่างรวดเร็วและแม่นยำต่อการยั่วยุใดๆ ของเกาหลีเหนือ" พร้อมระบุว่าพันธมิตรทั้งสองกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดและกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะดำเนินการยั่วยุอีก

ถ้อยแถลงนี้ถูกเผยแพร่ออกมาหลังจาก เชอร์แมน พบปะกับ โช ฮยุน-ดง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้ ในกรุงโซล หารือกันในประเด็นเกาหลีเหนือ หลังจากเปียงยางทำการยิงทดสอบขีปนาวุธเป็นชุดๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ และพวกนักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมการกลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง หลังหยุดไปนาน 5 ปี

บอร์ดเกลือลงพื้นที่นาเกลือภาคตะวันออกส่งเสริมชาวสวนผลไม้ใช้ขี้แดดนาเกลือแก้ปัญหาปุ๋ยแพง จับมือศูนย์ AIC เร่งแปรรูปสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เกลือทะเล พร้อมมอบ GAP นาเกลือรายแรกของจันทบุรี

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทยเปิดเผยวันนี้ภายหลังประชุมคณะกรรมการเกลือทะเลไทย โดยมีนายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนวนิตย์ พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายชาญยุทธ์ ภาณุทัต ที่ปรึกษากรมส่งเสริมการเกษตร นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรีว่า ที่ประชุมบอร์ดเกลือรับทราบ 

(1) แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกลือทะเลไทย โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดจันทบุรี พบว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอท่าใหม่ และคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ได้ดำเนินการพัฒนากลุ่มเกษตรกรเกลือทะเล อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี โดยส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตดอกเกลือและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ขัดหน้า ขัดผิว แช่ผิว แช่เท้า และสบู่ เป็นต้น รวมทั้งสร้างแบรนด์ให้กลุ่มเกษตรกรและผลิตภัณฑ์จากเกลือทะเลเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ให้กับเกษตรกรชาวนาเกลือ

(2) การนำเสนองานวิจัย นวัตกรรม การดำเนินกิจกรรมทางเกลือทะเลไทย โดยศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม AIC จังหวัดฉะเชิงเทรา รายงานผลการดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเกษตรกรชาวนาเกลือทะเล ได้แก่ การสร้างรายได้เสริมให้กับชาวนาเกลือ การส่งเสริมการทำแผนธุรกิจผลิตภัณฑ์ขี้แดดนาเกลือและแนวทางการส่งเสริมการตลาด การจัดการคนและข้อมูล การพัฒนาห้องปฏิบัติการทดสอบเกลือในภาคตะวันออก การบริหารจัดการเชื่อมโยงกับองค์กรภายนอก การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวด้านเกษตรอินทรีย์ การใช้ประโยชน์ของขี้แดดนาเกลือ และการใช้เทคโนโลยีใหม่ในการยกระดับการบริหารจัดการ 

(3) ผลการดำเนินกิจกรรมการทำนาเกลือทะเลภายในจังหวัดจันทบุรี และการใช้ผลผลิตเกลือทะเลในการพัฒนากิจกรรมทางการเกษตร (ไม้ผล) โดย เกษตรจังหวัดจันทบุรี รายงานว่าจังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่อยู่ในตำบลท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เกษตรกรชาวนาเกลือได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้วทั้งหมด จำนวน 9 ราย พื้นที่ 229 ไร่ ปริมาณเกลือทะเลที่ผลิตได้เฉลี่ยประมาณ 2,589 ตัน/ปี สร้างมูลค่าได้ปีละ 9.98 ล้านบาท 

โดยผลผลิตเกลือทะเลที่ได้นำไปใช้บริโภคในครัวเรือน และจำหน่ายให้กับกลุ่มต่างๆ ได้แก่ ผู้บริโภคทั่วไป ผู้แปรรูป เกษตรกรผู้ทำนากุ้ง เกษตรกรชาวสวนผลไม้ และผู้เลี้ยงปศุสัตว์สำหรับผสมอาหารสัตว์ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีการรวมกลุ่ม สร้างเครือข่ายการผลิต การตลาด และการบริหารจัดการโลจิสติกส์ ตลอดจนการฝึกปฏิบัติ และตรวจประเมินความพร้อมเข้าสู่มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ทางเกลือทะเล ให้แก่เกษตรกรชาวนาเกลือทะเล จำนวน 10 ราย ส่งผลให้มีเกษตรกรได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่องการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับการทำนาเกลือทะเล (มกษ. 9055-2562) เป็นรายแรกของจังหวัดจันทบุรี

“เกรซ กาญจน์เกล้า" ร้องดีอีเอส ปิดเพจ อ้างชื่อลวงแฟนคลับลงทุนทิพย์ หลายล้านบาท 

“ชัยวุฒิ” รมว.ดีอีเอส รับเรื่องร้องเรียนจากนักแสดงชื่อดัง “เกรซ กาญจน์เกล้า” ถูกแอบอ้างชื่อเปิดเพจหลอกลวงแฟนคลับ หลอกลวงร่วมลงทุนธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์ทิพย์ ล่าสุดแจ้งเฟซบุ๊กเร่งปิดกั้นเพจปลอม และประสานงานตำรวจแกะรอยเส้นทางบัญชีโอนเงินมิจฉาชีพ กร้าวคดีนี้ผิดทั้ง กม.อาญา พ.ร.บ.คอมพ์ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ และกฎหมาย PDPA

วันนี้ (8 มิ.ย. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (รองผบก.สอท.1) แถลงข่าว "เกรซ  กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า นักแสดง เดินทางมายื่นเรื่องต่อรมว.ดิจิทัลฯ พร้อมแจ้งความออนไลน์ กรณีถูกปลอมเฟซบุ๊ก” พร้อมเรียกร้องปิดเพจปลอมทันที 

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า วันนี้ นักแสดงชื่อดัง นางสาวกาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า (เกรซ กาญจน์เกล้า) เดินทางมาร้องเรียนกรณีถูกแอบอ้างชื่อและรูปภาพ ไปสร้างเพจ 'เกรซ กาญจน์เกล้าFc!' และมีพฤติกรรมจ่ายเงินค่าโปรโมทโพสต์ (Boost Posts) กับเฟซบุ๊ก ให้มียอดคนจำนวนมากเห็นโพสต์ และหลอกลวงมาร่วมลงทุนทำธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์กับเกรซ มีผู้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่ตัวนักแสดงก็ได้รับผลกระทบจากการเสียชื่อเสียงด้วย

โดยหลังรับทราบว่ามีมิจฉาชีพนำชื่อไปอ้างเปิดเพจ เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย. 65) ทางเกรซ กาญจน์เกล้า ได้โพสต์ชี้แจงแฟนคลับว่า “เนื่องด้วยเกรซได้รับทราบข้อมูลจาก พี่บุ๋ม ปนัดดา ว่ามีบุคคลแอบอ้างสร้างเพจ 'เกรซ กาญจน์เกล้าFc!' โดยนำเพจดังกล่าวไปบูสท์โพสต์หลอกให้ร่วมลงทุน หลายล้านบาท โดยอ้างว่าทำธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์กับเกรซ จนมีผู้เสียหายหลายรายได้นำเรื่องราวทั้งหมดมาแจ้งให้ทางทีมพี่บุ๋มทราบ ทั้งนี้หลังทราบเรื่องเกรซไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงขอชี้แจงว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์นี้ รวมถึงจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุดค่ะ”

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ล่าสุดได้ประสานกับทางเฟซบุ๊ก เพื่อทำการปิดกั้นเพจปลอมดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกัน เตรียมใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยพฤติกรรมของมิจฉาชีพดังกล่าว อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 (2) และมาตรา 343 วรรคสอง กระทำความผิดฐานฉ้อโกง แสดงตนเป็นคนอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท 

มาตรา 14 (1) แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา” ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

และมาตรา 16 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

รวมทั้ง อาจเข้าข่ายฐานละเมิดลิขสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ มาตรา 27  (2) เผยแพร่งานลิขสิทธิ์ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความรับผิดทางทางแพ่งมาตรา 77 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top