Tuesday, 1 July 2025
ค้นหา พบ 49126 ที่เกี่ยวข้อง

กอ.รมน. เดินหน้าขับเคลื่อนงานมวลชนจับมือ ทรภ.1 ศรชล.ภาค 1 กปช.จต. และมวลชน เสริมแนวร่วมความมั่นคงชายฝั่งทะเลตะวันออก

กอ.รมน. โดย พลตรี ธนาธิป สว่างแสง รองผู้อำนวยการสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ กอ.รมน. พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ภาคตะวันออก และหารือแนวทางการขับเคลื่อนงานมวลชนร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงทางทะเล

การประชุมในครั้งนี้ มีหน่วยงานเข้าร่วม ได้แก่ ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1), ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค1 (ศรชล.ภาค1), กองบัญชาการกองพลนาวิกโยธิน, กองกำลังป้องกันชายแดน จังหวัดจันทบุรี -ตราด (กปช.จต), กอ.รมน. จังหวัดชลบุรี ,กอ.รมน. จังหวัดระยอง  และผู้แทนมวลชน โดยมุ่งเน้นการบูรณาการด้านความมั่นคง เสริมสร้างและขยายเครือข่ายมวลชนในพื้นที่ พร้อมทั้งผลักดันการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่ประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง สร้างความเชื่อมั่นในการดูแลผลประโยชน์ของชาติทั้งทางบกและทางทะเล

ในที่ประชุม ยังได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานในพื้นที่โครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ (พมพ.) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ โดยการส่งเสริมเครือข่ายภาคประชาชนให้ร่วมมือกับภาครัฐในการแจ้งเตือนภัย เฝ้าระวัง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่มีความอ่อนไหวต่อความมั่นคงและภัยคุกคาม

นอกจากนี้ ได้มีการรายงานผลการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ทรภ.1, ศรชล.ภาค 1 และมวลชน ทสปช. โดยเฉพาะการลักลอบขนยาเสพติด การขนถ่ายน้ำมันโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมเรือผิดกฎหมายได้หลายลำ พร้อมของกลางน้ำมันกว่า 2 ล้านลิตร และผู้ต้องหาหลายสิบรายในพื้นที่เป้าหมายสำคัญ อาทิ ปากแม่น้ำประแสร์ จ.ระยอง, ปากแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ, เกาะสีชัง จ.ชลบุรี และชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา จาก ทรภ.1, ศรชล.ภาค 1, และ กปช.จต. แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์และแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาล ในการเสริมสร้างความมั่นคงชายแดน ควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ พร้อมทั้งรักษาอธิปไตยของชาติ โดยใช้กลไกสันติวิธีควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย และการสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อย ความสัมพันธ์อันดี และผลประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่ชายแดน

จากความร่วมมือระหว่าง กอ.รมน., ทรภ.1, ศรชล.ภาค 1 , กปช.จต. และภาคประชาชนในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคงอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การเสริมสร้างเครือข่ายมวลชน และการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงาน เพื่อร่วมกันเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาความมั่นคงในทุกมิติ อันจะนำไปสู่การธำรงไว้ซึ่งอธิปไตย ความสงบเรียบร้อย และผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ

นิราช ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

ทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 ฝึกยิงอาวุธประจำกายด้วยกระสุนจริง สร้างพื้นฐานการเป็นนักรบ ของกองทัพเรือ

(30 มิ.ย. 68) น.อ. ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) ตรวจเยี่ยมการฝึกยิงอาวุธประจำกาย ด้วยกระสุนจริงของทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครูฝึก เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และทหารใหม่ฯ ณ สนามยิงปืน ศูนย์ฝึกทหารใหม่กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การฝึกยิงอาวุธประจำกาย มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างประสบการณ์ ความภาคภูมิใจและมีความพร้อมด้านจิตใจ ให้แก่ทหารใหม่ที่จะปฎิบัติหน้าที่ให้กับหน่วยต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยกำลังรบ ของกองทัพเรือต่อไป

ทั้งนี้การฝึกดำเนินการภายใต้การปฏิบัติในการยิงอาวุธอย่างเคร่งครัดเป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่กำหนดให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ “Navy-Safety 2025”

นิราช ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

#หล่อหลอมกายใจรับใช้ชาติ
#เทิดทูนสถาบัน_ป้องกันรัฐ_พัฒนาชาติ_ราษฎร์ศรัทธา 
#Monarchy_Country_Government_People  
#กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ  
#ศูนย์ฝึกทหารใหม่_กรมยุทธศึกษาทหารเรือ  
#RTC #Recruit_Training_Center

สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนทะลุ 100 ล้านคน เผยแรงงาน-คนรุ่นใหม่สมัครพุ่ง ปีเดียวเพิ่ม 2.13 ล้าน

(1 ก.ค. 68) ปักกิ่งเผยรายงานล่าสุดระบุว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 100.27 ล้านคน ณ สิ้นปี 2024 เพิ่มขึ้นเกือบ 1.09 ล้านคนจากปีก่อนหน้า ขณะเดียวกันจำนวนองค์กรพรรคระดับปฐมภูมิทั่วประเทศเพิ่มเป็น 5.25 ล้านแห่ง แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างที่แข็งแกร่งและขยายตัวต่อเนื่อง

มีการเปิดเผยว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกสมาชิกคุณภาพและพัฒนาองค์กรให้มีความเข้มแข็ง โดยยึดหลักการบริหารแบบจริงจังและเน้นการปฏิรูป เพื่อผลักดันเป้าหมายการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยในแบบของจีน โดยในปี 2024 มีคนสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่กว่า 2.13 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานภาคการผลิตและคนรุ่นใหม่วัยทำงาน

ข้อมูลระบุว่า สมาชิกพรรคฯ ร้อยละ 57.6 มีวุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญาหรือสูงกว่า และร้อยละ 83.7 มีอายุไม่เกิน 35 ปี ขณะที่สัดส่วนสมาชิกสตรีอยู่ที่ร้อยละ 30.9 และกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยอยู่ที่ร้อยละ 7.7 แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายที่เพิ่มขึ้นในพรรคฯ

การเติบโตอย่างมั่นคงของพรรคฯ สะท้อนบทบาทสำคัญในสังคมจีน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยพรรคฯ ยืนยันจะเดินหน้าสร้างบุคลากรคุณภาพสูง เสริมพลังให้โครงสร้างองค์กร และเป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายระยะยาว

‘เอกนัฏ’ เดินหน้าจัดการ ‘ซิน เคอ หยวน’ ต่อ แม้ผลสอบตึก สตง.ถล่ม ระบุไม่เกี่ยวกับเหล็ก

วันนี้ (30 มิ.ย. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กถึงกรณีผลตรวจตึก สตง.ของกรมโยธาธิการและผังเมืองว่า ไม่ว่า ‘เหล็กตํ่ามาตรฐาน’ จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตึกถล่มลงมาหรือไม่ก็ตาม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยของประชาชนคนไทย

ซึ่งผมได้ดำเนินการตรวจสอบ จัดการกับผู้ผลิตเหล็กที่ตัวโรงงานและผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานมาตั้งแต่ ธ.ค. 2567 เริ่มต้นตั้งแต่การเข้าตรวจและปิด บริษัท BNSS สตีล กรุ๊ป ต่อด้วย บริษัท ซิน เคอ หยวน และบริษัทอื่นๆตามมาอีกรวม 10 บริษัท

กรณี บริษัท ซิน เคอ หยวน ที่ผลิตเหล็กไปใช้ในตึกสตง.นั้น จนถึงปัจจุบันโรงงานก็ยังปิด การผลิตเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานถูกส่งให้ DSI ดำเนินคดี

ต่อจากนั้น ซิน เคอ หยวน ก็ถูกเพิกถอน BOI และ ดำเนินคดีในเรื่องอื่นๆที่สำคัญไม่น้อยกว่าตัวเหล็ก เช่น เรื่องฝุ่น ที่มีครอบครองเกือบ 60,000 ตัน โดยที่ไม่ได้มีการแจ้ง มีการขนย้ายที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดตั้งข้อหากับ ซิน เคอ หยวน และบริษัทที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งให้ DSI ดำเนินคดี ทั้งหมด 1,016 ข้อหา 

ผมและทีม #สุดซอย ไม่หวั่นไหว ยึดหลักการบังคับใช้กฎหมายไทย เพื่อรักษามาตรฐาน ผดุงความเชื่อมั่น เซฟอุตสาหกรรมเหล็ก และชีวิตประชาชนให้ปลอดภัยเป็นสำคัญ

‘เอกนัฏ’ เดินหน้าจัดการ ‘ซิน เคอ หยวน’ ต่อ แม้ผลสอบตึก สตง.ถล่ม ระบุไม่เกี่ยวกับเหล็ก

วันนี้ (30 มิ.ย. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กถึงกรณีผลตรวจตึก สตง.ของกรมโยธาธิการและผังเมืองว่า ไม่ว่า ‘เหล็กตํ่ามาตรฐาน’ จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตึกถล่มลงมาหรือไม่ก็ตาม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยของประชาชนคนไทย

ซึ่งผมได้ดำเนินการตรวจสอบ จัดการกับผู้ผลิตเหล็กที่ตัวโรงงานและผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานมาตั้งแต่ ธ.ค. 2567 เริ่มต้นตั้งแต่การเข้าตรวจและปิด บริษัท BNSS สตีล กรุ๊ป ต่อด้วย บริษัท ซิน เคอ หยวน และบริษัทอื่นๆตามมาอีกรวม 10 บริษัท

กรณี บริษัท ซิน เคอ หยวน ที่ผลิตเหล็กไปใช้ในตึกสตง.นั้น จนถึงปัจจุบันโรงงานก็ยังปิด การผลิตเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานถูกส่งให้ DSI ดำเนินคดี

ต่อจากนั้น ซิน เคอ หยวน ก็ถูกเพิกถอน BOI และ ดำเนินคดีในเรื่องอื่นๆที่สำคัญไม่น้อยกว่าตัวเหล็ก เช่น เรื่องฝุ่น ที่มีครอบครองเกือบ 60,000 ตัน โดยที่ไม่ได้มีการแจ้ง มีการขนย้ายที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดตั้งข้อหากับ ซิน เคอ หยวน และบริษัทที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งให้ DSI ดำเนินคดี ทั้งหมด 1,016 ข้อหา 

ผมและทีม #สุดซอย ไม่หวั่นไหว ยึดหลักการบังคับใช้กฎหมายไทย เพื่อรักษามาตรฐาน ผดุงความเชื่อมั่น เซฟอุตสาหกรรมเหล็ก และชีวิตประชาชนให้ปลอดภัยเป็นสำคัญ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top