‘ทนายแค้ง’ ไขข้อสงสัยปมฟ้องหมิ่นถ้อยคำหยาบ ชี้ หากไม่ระบุในคำฟ้อง ไม่อาจนำสืบในศาลได้
นายพิมพ์พล แค้ง แสงเมือง ทนายความ ได้โพสต์ให้ความรู้กรณีหมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสม โดยระบุถึงคำว่า “อีเหี้ย” ซึ่งเป็นถ้อยคำแสดงการหมิ่นประมาทก็จริง แต่เมื่อไม่ได้ระบุไว้ในคำฟ้อง ก็จะนำมาสืบให้ศาลรับฟังในชั้นพิจารณาไม่ได้
โดยนายพิมพ์พล ได้อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2562 ที่ระบุว่า
กรณีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) เป็นการเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณด้วยการหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรงนั้น มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องระบุมาในคำฟ้องให้ชัดเจนว่า
- จำเลยที่ 1 ผู้รับกล่าวถ้อยคำอย่างไร เมื่อใด ต่อใคร เพื่อเป็นข้อที่จะให้ศาลพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขที่จะเรียกถอนคืนการให้ได้หรือไม่
- ลำพังแต่การบรรยายว่าจำเลยที่ 1 ด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายอีกหลายครั้ง โดยไม่มีรายละเอียดว่า ด่าด้วยถ้อยคำว่าอย่างไร เหตุเกิดเมื่อใด ซึ่งจำเลยทั้งสามก็ให้การต่อสู้ว่า ฟ้องในส่วนนี้เคลือบคลุม
- แม้โจทก์จะนำสืบในชั้นพิจารณาว่า จำเลยที่ 1 ด่าโจทก์ว่า "อีเหี้ย" และกล่าวว่า "มึงเอาน้ำกูไปใช้กี่ครั้งแล้ว"
- แต่ตามคำเบิกความของโจทก์ก็ปรากฏว่า โจทก์จำวันเวลาเกิดเหตุไม่ได้
- ดังนี้ คำฟ้องโจทก์ในส่วนนี้จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่แจ้งชัด เนื่องจากโจทก์ไม่ระบุคำว่า "อีเหี้ย" ไว้ในคำฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์จะไปนำสืบในรายละเอียดได้ -ฟ้องโจทก์ในส่วนนี้จึงเคลือบคลุม
- และเมื่อในคำฟ้องโจทก์มิได้ระบุว่า จำเลยที่ 1 ด่าว่าโจทก์ว่า "อีเหี้ย" คำนี้จึงไม่เป็นประเด็นพิพาทที่โจทก์จะนำสืบได้
- จึงเป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
- ต้องห้ามมิให้รับฟัง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 87 (1)
ที่มา : https://www.facebook.com/100007926373157/posts/3326995460907967/