Tuesday, 8 July 2025
ค้นหา พบ 49289 ที่เกี่ยวข้อง

เปิดสถิติธุรกรรมการเงินยุคโควิด พบคนไทยใช้โมบายแบงกิ้งอันดับหนึ่งของโลก ส่วนเรื่องช็อปไม่แพ้ใคร ซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ ผ่านสมาร์ทโฟนเป็นอันดับ 2 ของโลก

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงไลฟ์สไตล์คนไทยยุคโควิด โดยอ้างอิงมูลจาก We Are Social และ Hootsuite พบว่าในปี 2563 คนไทยทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงกิ้งเป็นอันดับ 1 ของโลก คิดเป็น 68.1% ต่อเดือน ส่วนการซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซผ่านสมาร์ทโฟน สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก คิดเป็น 74% และมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก เฉลี่ย 5 ชั่วโมง 7 นาทีต่อวัน

ส่วน K PLUS ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน โมบายแบงกิ้ง ของธนาคารกสิกรไทย ยังได้กลายเป็นช่องทางสำคัญที่ลูกค้าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบันที่ลดการเดินทางออกนอกบ้าน เลี่ยงจับเงินสด และใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

โดยในปี 2563 มีลูกค้าใช้งาน K PLUS มากถึง 5 ล้านรายต่อวัน มีจำนวนธุรกรรมรวมทุกประเภท 14,500 ล้านรายการ เติบโต 71% และมีผู้ใช้งานรวม 14.4 ล้านราย

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งเป้าหมายมีผู้ใช้งาน K PLUS รวม 17.5 ล้านราย และมีจำนวนธุรกรรมทั้งหมดผ่าน K PLUS มากกว่า 24,600 ล้านรายการ ภายในปี 2564

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สานความสัมพันธ์ 46 ปี ‘ไทย - จีน’ จัดเทศกาลตรุษจีนในรูปแบบ New Normal ตอกย้ำมิตรภาพแน่นแฟ้นยาวนานของทั้ง 2 ประเทศ

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 18.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดไฟประดับตกแต่งในโอกาสเทศกาลตรุษจีน ร่วมด้วย นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. นางสาวอาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย และนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟ จำกัด (มหาชน) ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

โดย ททท. ได้จัดการตกแต่งประดับไฟฟ้า เส้นทางตั้งแต่มูลนิธิเทียนฟ้าถึงแยกเฉลิมบุรี ระยะทาง 200 เมตร เพื่อสร้างบรรยากาศ แต่งเติมสีสันแห่งการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนในย่านเยาวราช ซึ่งถือเป็นย่านชุมชนวัฒนธรรมไทย - จีน อันสำคัญ ที่ได้รับผลกระทบด้านการค้าและการท่องเที่ยวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

สำหรับการประดับไฟเนื่องในเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ตกแต่งภายใต้แนวคิด “เฉลิมฉลองวันตรุษจีน ต้อนรับปีวัวทอง กับถนนสายมังกรเยาวราช” สร้างสรรค์เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคลในเทศกาลตรุษจีน อาทิ มังกร นางฟ้า ดอกเหมย

ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานโคมไฟขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 67 นิ้ว (เท่ากับพระชนมายุ 67 พรรษา) จำนวน 4 ลูก ให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อประดับตกแต่งบริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษาด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมการตกแต่งประดับไฟในเทศกาลตรุษจีนได้ตั้งแต่วันที่ 11-28 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลา 18.00 - 24.00 น.

ทำไมวันตรุษจีน ต้องจุดประทัด!!

สำหรับ ‘วันตรุษจีน’ ถือเป็น ‘วันขึ้นปีใหม่’ ตามปฏิทินจีน ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คล้าย ๆ กับวันสงกรานต์ของบ้านเรา

โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน จะหยุดงาน หยุดเรียนเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้ผู้คนได้เดินทางกลับไปร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับครอบครัว

แน่นอนว่าพอเข้าเทศกาลตรุษจีนทีไร สิ่งที่เรามักเห็น คือ การประดับตกแต่งหน้าบ้าน หรือหน้าร้านด้วยโคมไฟสีแดง ที่ชาวจีนนั้นเชื่อว่าเป็นสีนำโชค

นอกจากนี้ ยังมีการไหว้บรรพบุรุษ และหลังจากไหว้บรรพบุรุษ ก็จะมีการ ‘จุดประทัด’ ตามกันมาแทบทุกครอบครัว

...ว่าแต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า? ทำไมถึงต้องจุดประทัดในเทศกาลตรุษจีน

มีตำนานเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับวันตรุษจีน ที่เป็นความเชื่อแบบเชื่อมโยงไปสู่การ ‘จุดประทัด’ ซึ่งเกี่ยวพันกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ปีศาจเหนียน’

...ปีศาจเหนียน ปีศาจร้ายในตำนานวันตรุษจีน

หากเอ่ยถึงสัตว์ในตำนานของชาวจีน หลายคนก็มักจะนึกถึงแต่ ‘มังกร’ ที่เปรียบเสมือนสัตว์เทพที่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง

แต่ถ้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยววัดเชื้อจีน อาจเคยเห็นรูปปั้นของสัตว์ประหลาดสี่เท้า ที่หัวมีลักษณะคล้ายมังกร ลำตัวใหญ่เป็นสองเท่าของสิงโต และมีเขี้ยวแหลมคม

นั่นแหละที่เขาเรียกว่า ‘ปีศาจเหนียน’

ปีศาจเหนียน เป็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่งในสมัยโบราณ มักออกอาละวาดกินคน และสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ สวรรค์จึงได้สั่งลงโทษ ด้วยการสาปให้ปีศาจเหนียนกลายเป็นหิน

...แต่ในทุก ๆ 1 ปีคำสาปจะคลายลงในวันสิ้นปีของจีน หรือก็คือวันก่อนวันตรุษจีน 1 วัน ซึ่งตรงกับความเชื่อของชาวจีนที่ว่าเป็นวันที่ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์

ดังนั้น เมื่อถึงวันสิ้นปีของทุกปี ผู้คนต่างอพยพเข้าไปหลบซ่อนในหุบเขาลึก เพื่อไม่ให้ปีศาจเหนียนมาทำร้าย

แล้ว ‘ปีศาจเหนียน’ ไปเกี่ยวอะไรกับ ‘การจุดประทัด’

ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้ว่า ก่อนวันตรุษจีน 1 วัน ปีศาจเหนียนจะหลุดพ้นจากคำสาปและลงมาอาละวาดทำร้ายผู้คน

ทว่าก็ได้มีผู้ที่ค้นพบจุดอ่อนของปีศาจเหนียน นั่นคือ สีแดงฉูดฉาด, แสงไฟ และเสียงดังเปรี้ยงปร้าง ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัดปีศาจเหนียนได้โดยไม่ยากนัก

พอวันตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน หรือแขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับ ‘จุดประทัด’ และตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง

เมื่อปีศาจมาถึงหมู่บ้าน เห็นแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป ไม่กล้าออกมาอาละวาดอีกเลย

นี่เป็นอีกเรื่องเล่า คำกล่าวขาย และตำนานที่ชาวจีนต่างเชื่อกันมา และทำให้การจุดประทัดในเทศกาลตรุษจีนกลายเป็นความเชื่อที่ทำตามกันมา จนกลายเป็นประเพณีนิยมจนปัจจุบัน


ที่มา: https://www.shopat24.com/blog/trending/opening-the-chinese-new-year-legend-nian-devil-the-origins-of-the-firecrackers/

ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ เป็นนักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา สังกัดมหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก 'ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์' เกี่ยวกับความเด็ดขาดในประเทศรัสเซีย ที่ผู้นำจัดการกลุ่มต่อต้าน

โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงานเป็นหุ่นเชิดให้ต่างชาติมาคอยแทรกแซงประเทศว่า...

"รัสเซียมีข้อมูลว่า 'อะเล็กเซย์ นาวัลนี' (Alexei Navalny) และบริวารเป็นหุ่นเชิดของชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตกที่พยายามทำลายความเชื่อถือของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย >> เป็น 'หุ่นเชิด' ที่ทำงานให้ต่างชาติ

โดยเขาไม่ใช่ฝ่ายค้านเหมือนฝ่ายค้านของรัฐบาลทั่ว ๆ ไป จึงถูกรัฐบาลวลาดิเมียร์ จัดการเสียอยู่หมัด ต้องเข้าคุกไม่น้อยกว่า 3 ปีครึ่ง ป่านนี้ คงเข้าใจหลักอนิจจัง ทุกขังและอนัตตามากขึ้นแล้วครับ"

สำหรับ นาวัลนี ถูกมองว่าเป็นหอกข้างแคร่ของเครมลินมานานกว่า 10 ปี โดยพยายามเปิดโปงสิ่งที่เขาอ้างว่าเป็นการทุจริตฉ้อฉลขนานใหญ่ และยังระดมมวลชนคนหนุ่มสาวให้ออกมาต่อต้านรัฐบาลอยู่เนือง ๆ

อย่างไรก็ตาม ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ต่างประณามการตัดสินดังกล่าวของรัสเซีย และเรียกร้องให้ปล่อยตัว นาวัลนี ทันที ขณะที่รัฐบาลรัสเซียก็สวนกลับอย่างไวว่า "นี่เป็นการแทรกแซงกิจการภายใน"


ที่มา:

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3590418241006110&id=626734224041208

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2025776

'โฟกัส' แนะลดงบประมาณกองทัพ เจียดเงินช่วยประชาชน พร้อมวางแผนเยียวยาแบบยั่งยืน ดีกว่าช่วงแบบแจกเงินส่ง ๆ

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 โฟกัส จีระกุล ดารานักแสดง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ โดยระบุว่า...

เพียงลด ‘งบประมาณ’ ที่ ‘ไม่จำเป็น’ นำมาพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ นำมาทำแผนเยียวยาแบบยั่งยืน ที่ไม่ใช่การแจกเงินส่ง ๆ สอนให้คนรู้จักทำงาน หาช่องทางทำงานให้เค้า เยียวยาธุรกิจเล็ก ๆ ช่วยเหลือคนตกงาน

ลองเริ่มจากลดงบ ‘กองทัพ’ ดูค่ะ งบที่มากมายขนาดนั้น เงินมากมายที่ชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด เจียดเงินมาช่วยเหลือประชาชนบ้างเถอะค่ะประชาชนจะได้ไม่อดตาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top