Wednesday, 9 July 2025
ค้นหา พบ 49289 ที่เกี่ยวข้อง

สภาอุตฯ เรียกถกด่วน 47 กลุ่มอุตสาหกรรม รับมือภาษีทรัมป์ 36% คาดไทยเสียหาย 8-9 แสนล้าน

(8 ก.ค. 68) จากกรณีที่สหรัฐอเมริกาได้แจ้งอย่างเป็นทางการว่าจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยในอัตราสูงถึง 36% ครอบคลุมสินค้าทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดที่สูงกว่าที่ภาคเอกชนประเมินไว้ และสูงกว่าหลายประเทศคู่แข่งในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม (20%) อินโดนีเซีย (32%) และมาเลเซีย (25%) ซึ่งสะท้อนว่าไทยกำลังเสียเปรียบในเชิงการแข่งขัน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในเบื้องต้น อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าหลัก เช่น อาหารแปรรูป สินค้าเกษตร ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ อัญมณี เหล็กและอะลูมิเนียม ซึ่งคาดว่ามูลค่าความเสียหายต่อการส่งออกไทยอาจอยู่ที่ประมาณ 8-9 แสนล้านบาท

“แม้ว่าข้อเสนอแรกของไทยจะถูกส่งไปเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมและมีการลงนามในเช้าวันที่ 7 กรกฎาคม ซึ่งอาจสวนทางกับประกาศของสหรัฐฯ ที่แจ้งมา ขณะนี้ ไทยได้ส่งข้อเสนอที่ 2 ไปแล้ว ซึ่งมีความแตกต่างจากข้อเสนอแรก โดยเฉพาะในเรื่องจำนวนรายการสินค้าที่จะลดภาษีให้เป็น 0% ซึ่งมีจำนวนหลายพันรายการ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เราส่งข้อเสนอเพิ่มเติมไปนั้น ยังไม่มีการตอบกลับมา แต่เชื่อว่า หากสหรัฐฯ ได้พิจารณาอีกครั้งในข้อเสนอเพิ่มเติมใหม่นี้ น่าจะมีผลไปในทิศทางบวก” นายเกรียงไกร กล่าวเสริม

สถานการณ์ที่ยังไม่แน่นอนเช่นนี้ ส.อ.ท. จึงจะมีการประชุมเร่งด่วนภายในร่วมกับ 47 กลุ่มอุตสาหกรรม 11 คลัสเตอร์ก่อน เพื่อประเมินผลกระทบเป็นรายกลุ่ม และจัดทำมาตรการรองรับที่เหมาะสม หลังจากนั้น ในนามคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะรีบเร่งประชุมร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการตั้งรับต่อไป

บริษัทเหล็ก-ก่อสร้างสัญชาติจีนโล่ง!! เมื่อผลสอบตึกสตง.ถล่ม ชี้ไปที่ ‘ปูนไร้มาตรฐาน – การออกแบบ - วิธีก่อสร้างมีปัญหา’

ย้อนไปเมื่อ 28 มีนาคม 2568 จากเหตุแผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบถึงกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย จากเหตุการณ์วันนั้นทำให้เกิดเหตุตึกสำนักงานอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ ตึก สตง. พังถล่ม 

ท่ามกลางความสูญเสีย และฝุ่นที่คละคลุ้งทุก ๆ ฝ่ายต่างรุมตั้งข้อสังเกตกับตึกดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างอิตาเลียนไทยและไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นวิสาหกิจของจีน ภายใต้กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (ITD-CREC) แม้กระทั่งเหล็กเส้นที่ใช้ก่อสร้างส่วนหนึ่งที่มาจากผู้ผลิตสัญชาติจีน 

กระแสข่าวที่โหมกระหน่ำ อารมณ์ของผู้คนในสังคมมุ่งมั่นหาความรับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทำให้สัญชาติจีนกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของประชาชนชาวไทย ภายใต้ข้อสังเกตว่า 

1.เหล็กเส้นจากบริษัท ซิน เคอ หยวน จัด หนึ่งในบริษัทสัญชาติจีนไม่ได้มาตรฐาน 
2.การก่อสร้างของบริษัทสัญชาติจีนไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมนี้ขึ้น 

ข้อสังเกตที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะผลทดสอบของเหล็กเส้นนั้น ไม่ได้คำนึงถึงหลักวิทยาศาสตร์เลยว่าทุกวัสดุในการก่อสร้างต่างรับแรงกระทำจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ จนแทบเป็นไปไม่ได้เลยว่าผลการทดสอบจะเป็นเหมือนกับวันที่วัสดุที่เข้ารับการทดสอบอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเหล็กหรือคอนกรีต

เมื่อเวลาผ่านเดือน ผ่านสองเดือน ในที่สุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะแถลงถึงสาเหตุของการพังถล่มของตึก สตง. ท่ามกลางความสงสัยของประชาชนว่า มีสาเหตุจากอะไรกันแน่ โดยนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่า 

จากการรายงานของทั้ง 4 สถาบัน เห็นได้ชัดว่ามีความบกพร่องในเรื่องการออกแบบ วิธีการก่อสร้าง โดยเฉพาะเทคนิคการก่อสร้าง ผนังช่องลิฟต์ บันได ซึ่งทางเทคนิคเรียกว่า ผนังรับแรงเฉือน เป็นสิ่งที่เกิดปัญหา ส่วนเรื่องวัสดุและเหล็กเป็นปกติได้มาตรฐานการใช้งานทั่วไป แต่สิ่งที่เกิดปัญหาคือคอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐาน และวิธีการสร้างที่มีปัญหา ซึ่งจากการรายงานยังพบว่ามีการก่อสร้างอีกหลายจุดที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย 

ทั้งการออกแบบและการก่อสร้าง หากปฏิบัติตามกฎหมาย จะสร้างความแข็งแรงให้ตึกมากขึ้น จากการทดลองถือเป็นที่ประจักษ์แน่นอน เป็นไปตามหลักที่ทางสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ใช้สำหรับทดสอบแรงสั่นสะเทือนในเหตุการณ์แผ่นดินไหว

และนายกรัฐมนตรียังกล่าวย้ำอีกว่า "ปัญหาที่แท้จริงเกิดจากการออกแบบ และการก่อสร้างของโครงการนี้ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย" 

จากปากคำของนายกรัฐมนตรี ลองตั้งสติและสรุปข้อเท็จจริงทีละข้อ ๆ อย่างตั้งใจ จะพบว่า

ข้อที่ 1 นายกรัฐมนตรีไม่ได้กล่าวว่าเหล็กจากโรงงาน ซิน เคอ หยวน เป็นเหล็กที่มีปัญหาและเป็นที่มาของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกรณีตึก สตง. ถล่มเลยแม้แต่น้อย จากข้อความที่ว่า เรื่องวัสดุและเหล็กเป็นปกติได้มาตรฐานการใช้งานทั่วไป

ข้อที่ 2 มีข้อผิดพลาดจากการออกแบบ ซึ่งบริษัทผู้ออกแบบเป็นคนละบริษัทกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าระหว่างอิตาเลียนไทยและไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10

ข้อที่ 3 แม้มีการกล่าวอ้างว่าพบว่ามีการก่อสร้างในหลายจุดที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน แต่จากถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีไม่ปรากฏว่าการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานนั้นมีสาเหตุจากใคร บริษัทใดเป็นผู้รับผิดชอบในจุดที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานนั้นกันแน่ และยังมองข้ามบริษัทผู้ควบคุมงานซึ่งจะต้องตรวจสอบทั้งคุณภาพของวัสดุก่อสร้าง และเทคนิคการก่อสร้างอย่างละเอียด

ในตอนท้ายของการแถลงโดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวจะถูกสรุปเป็นรูปเล่มและส่งต่อให้ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง 

ซึ่งในลำดับต่อไป ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอจะต้องรวบรวมรายงานการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ถ้อยคำจากการสอบปากคำของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง หลักฐานอื่น ๆ เพื่อจะให้ได้ข้อมูลที่มั่นคง ชัดเจน และแน่นอน ว่าสาเหตุของอาคาร สตง.ถล่ม เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะรายงานที่นายกรัฐมนตรีแถลงนั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริงสูงสุดไม่ว่ามองจากมุมใด

และหากข้อเท็จจริงไม่สามารถสรุปได้ในท้ายที่สุดว่ามีสาเหตุจากอะไรแบบมั่นใจได้อย่างเต็มที่ ทั้งเจ้าหน้าที่จากดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องยึดหลัก “ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคําพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทําความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทําความผิดมิได้” 

และนับจากวินาทีนี้สังคมไทยจำเป็นจะต้องเข้มงวดกวดขันการก่อสร้างในทุก ๆ โครงการอย่างจริงจัง เพราะอย่าลืมว่า ก่อนเกิดเหตุตึก สตง. เคยมีหลายเหตุการณ์ที่นำมาสู่ความสูญเสีย โดยไม่มีแผ่นดินไหวที่แท้จริง มีแต่เพียงแผ่นดินไหวในหัวใจของญาติผู้ต้องสูญเสียเท่านั้น

9 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ‘ซีเนอดีน ซีดาน’ ยอดนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส เฮดบัตต์ใส่ ‘มาร์โก มาเตรัซซี่’ นัดชิงฟุตบอลโลก 2006

ย้อนกลับไป ในนัดชิงฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมนีเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างทีมชาติ อิตาลี พบ ฝรั่งเศส ซึ่งในนัดนี้ ฝรั่งเศส ได้ประตูออกนำไปก่อน จากจุดโทษของ ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส ก่อนที่ทีมชาติอิตาลี จะตามตีเสมอได้จาก มาร์โก มาเตรัซซี่ ก่อนจบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 จนต้องต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที

และในช่วงต่อเวลาพิเศษนี้เอง ที่ทำให้แฟนบอลฝรั่งเศสและคนดูทั่วโลก ช็อกไปตามๆ กันเมื่อ ซีเนดีน ซีดาน เกิดฟิวส์ขาด จัดการเฮดบัตต์ เอาศีรษะโขกไปที่หน้าอก ใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ส่งผลให้ผู้ตัดสิน ชูใบแดง ให้กับ ซีดาน ทันที ทำให้เขาถูกไล่ออกจากสนาม ปิดฉากการค้าแข้ง แบบช็อกคนดูทั่วโลก เพราะนั่นคือการเล่นให้ทีมชาติครั้งสุดท้าย และก็เป็นเกมฟุตบอลระดับอาชีพเกมสุดท้ายของเขาเช่นกัน ก่อนประกาศแขวนสตั๊ดในเวลาต่อมา

และผลสรุปในที่สุด เมื่อจบเกมในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีม ทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันที่ 1-1 สุดท้ายต้องดวลจุดโทษกัน และ ฝรั่งเศส แพ้ อิตาลี ไปด้วยสกอร์ 5-4 ทำให้ ฝรั่งเศส พลาดแชมป์โลกในปีนั้นไปอย่างน่าเสียดาย และภาพเหตุการณ์เฮดบัตต์สะท้านโลก ยังมีการกล่าวถึงกันจนถึงทุกวันนี้

มูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว แถลงข่าวจัดกิจกรรม 'The COP Charity Run 2025' เดิน-วิ่งการกุศลลอยฟ้า ครั้งที่ 1

(8 ก.ค. 68) ณ ห้องประชุมชัยจินดา 1 ชั้น 20 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานกรรมการมูลนิธิ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว พร้อมด้วย พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) ร่วมแถลงข่าวการจัดโครงการ “เดิน-วิ่งการกุศลลอยฟ้า ครั้งที่ 1 (The COP Charity Run 2025)” 

กิจกรรมจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2568 เวลา 03.00 – 08.00 น. บริเวณลานอเนกประสงค์ สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนบุรี) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพ สร้างความรัก ความสามัคคีระหว่างตำรวจและประชาชน รวมถึงระดมทุนสนับสนุนงานด้านสาธารณประโยชน์
การแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21 กม. ค่าสมัคร 800 บาท (รับเสื้อ Finisher และเหรียญที่ระลึก)
2. มินิมาราธอน ระยะทาง 10 กม. ค่าสมัคร 600 บาท (รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก)
3. เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 5 กม. ค่าสมัคร 500 บาท (รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก)
4. ประเภท VIP ค่าสมัคร 2,000 บาท (รับเซ็ตเสื้อคอปก เสื้อแขนสั้น เหรียญ 

โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกิจกรรม)
รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้ 3 หน่วยงานสำคัญ ได้แก่
1. โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์
2. โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นทุนการศึกษาและสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจ
3. มูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เพื่อช่วยเหลือข้าราชการตำรวจ ครอบครัว ผู้ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงประชาชนที่ด้อยโอกาส

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว กล่าวว่า “ขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันทำให้กิจกรรมครั้งนี้เกิดขึ้น เงินทุนที่ได้รับจะนำไปใช้ประโยชน์เพื่อโรงพยาบาล โรงเรียน และสาธารณประโยชน์อย่างเต็มที่” พร้อมระบุว่า ทางมูลนิธิได้เตรียมอาหาร เครื่องดื่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างครบครัน

ด้าน พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลตำรวจจะจัดทีมแพทย์และพยาบาลประจำตลอดเส้นทางการแข่งขัน เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมขอบคุณมูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และผู้ให้การสนับสนุนทุกฝ่าย โดยยืนยันว่าจะนำเงินที่ได้รับไปใช้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วยและผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลตำรวจ

ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Page: The COP Charity Run 2025 https://www.facebook.com/TheCOPCharityRun และสมัครออนไลน์ได้ที่ https://www.regis.run/2025thecoprun ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568

สำหรับผู้ประสงค์ร่วมบริจาคสมทบทุน สามารถโอนเงินได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาโรงพยาบาลตำรวจ ชื่อบัญชี มูลนิธิ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขที่บัญชี 982-4-40147-4


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top