Tuesday, 8 July 2025
ค้นหา พบ 49289 ที่เกี่ยวข้อง

‘มือเศรษฐกิจจุลภาค’ ชี้เจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ไม่ง่าย เพราะการเมืองไทยไม่นิ่ง และยังไม่มีข้อเสนอที่ดึงดูดพอ

(8 ก.ค. 68) นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ มือเศรษฐกิจจุลภาค อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Ta Plus Sirikulpisut' ในหัวข้อ ‘การเจรจา ภาษีของสหรัฐยากมาก’

สาเหตุคือ สหรัฐมีหนี้มหาศาล ต้องมีภาระจัดการหนี้12-15% ของงบประมาณ และหากปล่อยเป็นธรรมชาติ ปี 2570 การจัดการหนี้ต่อปีจะเป็น 20% ของงบประมาณ และไม่นานจะเกิด Debt spiral จะทำให้สหรัฐกู้เงินยาก และค่าเงิน USD เสื่อมค่า

การแก้ปัญหาดังกล่าว ต้องลดงบประมาณ ซึ่งทรัมป์ทำอย่างเข้มข้นแล้ว งบ NGO ตัดหมด ฯลฯ
ถัดไปคือเพิ่มรายได้ ภาษีสหรัฐเยอะมาก ทางเลือกถัดไปคือ รายได้จากศุลกากร ซึ่งสหรัฐขาดดุลการค้าเยอะมาก ต้องเพิ่มรายได้+ลดขาดดุลการค้าไปพร้อมกัน

การใช้ Data analysis เข้ามารายงานประเทศที่ได้ดุลการค้าเยอะ แถมเพิ่มปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์เข้าไป เวียดนามโยนไพ่ตาย ลดภาษีให้สหรัฐหมดเลย แต่ได้กลับมา 20% สหรัฐยิ้มหวาน เพราะได้อย่างที่ต้องการ คู่ค้ารายอื่นต้องเสนอตัวเลขที่ใกล้เคียงหรือดีกว่า

แต่สินค้าส่งออกไทยไปสหรัฐส่วนมากจะเป็นภาคอุตสาหกรรม และเป็นเงินลงทุนจากต่างชาติของสหรัฐเองก็ไม่น้อย

เราเคยชี้แจงไปแล้ว แต่ สหรัฐเข้าตาจนด้านการคลัง อยากให้ไทยเสนอให้ดีกว่านี้ และเมื่อเทียบกับ Asean แล้ว Malay ก็ดีกว่า แถมการเมืองบ้านเรายังไม่นิ่ง โจทย์ยากสุด ๆ ครับ

"แม่ทัพภาคที่ 2 ต้อนรับ อุปทูตด้านปราบปรามยาเสพติด สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย"

(7 ก.ค. 68) ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 พลโท บุญสิน  พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2/ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) ให้การต้อนรับ คุณ เจสซี่ โอดัม ในโอกาสที่ได้เข้ารับตำแหน่ง อุปทูตด้านปราบปรามยาเสพติด สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย พร้อมคณะ

โดย อุปทูตด้านปราบปรามยาเสพติด สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลไทย ในการต่อต้านยาเสพติดและสืบสวนเกี่ยวกับองค์กรค้ายาเสพติดที่ลักลอบขนสารควบคุมเข้าสหรัฐอเมริกา และตลาดโลก และ พร้อมที่จะประสานความร่วมมือในการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดกับ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) 
กองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ขับเคลื่อนแผนการสกัด กั้น และปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe" ตามนโยบายของรัฐบาล ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด 25 อำเภอ ชายแดนภาคตะวันออกเฉียง เหนือ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อสกัด กั้นการลักลอบลำเลียงนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ ชายแดน โดยจัดตั้งกลไกบูรณาการร่วมกับหน่วย งานความมั่นคง และพลเรือน อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไป

#กองบัญชาการกองทัพภาคที่2 #แม่ทัพภาคที่2 #พลโทบุญสินพาดกลาง​ #อุปทูตด้านการปราบปรามยาเสพติด #สำนักงานด้านการปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา
#มิสเตอร์เจสซี่โอดํา​

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

เชียงใหม่-กองบิน 41 จัดพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณบุคคลดีเด่น ประจำปี 2568

(7 ก.ค. 68) นาวาอากาศเอก ปรธร จีนะวัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน 41 เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่กำลังพลดีเด่นของกองบิน 41 ประจำปี 2568 ณ หอประชุมเดชะตุงคะกองบิน 41 โดยมีหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงร่วมเป็นเกียรติพิธี

พิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติกำลังพลที่มีความประพฤติดี มีผลงานดีเด่น และได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับกองบิน 41 และประเทศชาติ

ผู้บังคับการกองบิน 41 ได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมกำลังพลผู้ได้รับรางวัลทุกท่าน ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เปี่ยมด้วยความรับผิดชอบ และมีจิตสำนึกที่ดีในการเป็นข้าราชการที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่าการมอบรางวัลในครั้งนี้ เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติงานและเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนมุ่งมั่นพัฒนาตนเองและหน่วยงานให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนปรับปรุงแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ให้มีความทันสมัยและเหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

(8 ก.ค. 68) เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนปรับปรุงแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมพิธี ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการระหว่างวันที่ 8 - 9 กรกฎาคม 2568 มีข้าราชการตำรวจผู้รับผิดชอบแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรบุคคลระดับกองบัญชาการ กองบังคับการ และผู้แทนศูนย์ฝึกอบรมต่างๆ เข้าร่วมโครงการ จำนวน 150 นาย

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดทำโครงการดังกล่าวเพื่อพิจารณาทบทวน ปรับปรุงแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ให้มีความเหมาะสมทันสมัย สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงหรือความจำเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน และสามารถตอบสนองต่อสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อพัฒนาสมรรถนะข้าราชการตำรวจให้สามารถตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาอย่างแท้จริง และสะท้อนให้เห็นถึงผลเชิงคุณภาพได้อย่างเป็นระบบและรูปธรรม

พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า ข้าราชการตำรวจกว่า 200,000 นาย เป็นทรัพยากรที่สำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการขับเคลื่อนให้ภารกิจด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม การบังคับใช้กฎหมายเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้บรรลุเป้าหมาย ดังนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อสร้างข้าราชการตำรวจให้มีความรู้ความสามารถและสมรรถนะที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ได้ให้ความเห็นชอบ และดำเนินการขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2564 จึงมีความสำคัญที่ใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาข้าราชการตำรวจ ให้ครอบคลุมและต่อเนื่อง การที่ ก.ตร.มีมติให้พิจารณาทบทวนปรับปรุงแผนดังกล่าว จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้แทนจากทุกหน่วยงาน จะได้ร่วมกันระดมสมอง เพื่อแผนดังกล่าวมีความทันสมัยและเหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่สภาพอาชญากรรมได้เปลี่ยนแปลงไป ทั้งอาชญากรรมทางไซเบอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ และภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่

สำหรับโครงการดังกล่าวจะมีการสัมมนา “ทิศทางการพัฒนาทรัพยากรบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศตวรรษที่ 21” โดยผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , อนุกรรมการ ก.ตร. , พล.ต.ต.ปรีดา สถาวร รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล พร้อมคณะ และมีการแบ่งกลุ่มผู้ร่วมสัมมนาเพื่อวิเคราะห์ความสำเร็จ อุปสรรคของแผนแม่บทการพัฒนาทรัพยากรบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่ แผนการผลิตข้าราชการตำรวจ , แผนฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาด้านการบริหาร , แผนฝึกอบรมหลักสูตรเฉพาะทางและหลักสูตรที่กำหนดตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง , แผนพัฒนาข้าราชการตำรวจอย่างต่อเนื่อง ระดับผู้บังคับหมู่ ถึงรองผู้กำกับการ ใน 5 สายงานหลัก และแผนเพิ่มประสิทธิภาพกำลังพลและการฝึกอบรมด้านยุทธวิธีตำรวจ , แผนการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้วยวิธีอื่นๆ

ฮูตีถล่มเรือ Magic Seas กลางทะเลแดง ตอบโต้เพราะละเมิดกฎแวะท่าเรืออิสราเอล

(8 ก.ค. 68) กลุ่มฮูตีในเยเมนออกมาอ้างว่าเป็นผู้โจมตีเรือสินค้า Magic Seas ของกรีซที่จดทะเบียนในไลบีเรีย กลางทะเลแดงเมื่อวันอาทิตย์ โดยระบุว่าใช้เรือไร้คนขับ ขีปนาวุธ และโดรนรวม 10 ลูกในการโจมตี จนเรือได้รับความเสียหาย และจมลงในเวลาต่อมา

โฆษกทหารฮูตีเผยว่า เรือดังกล่าวฝ่าฝืนคำเตือนหลายครั้ง และละเมิดคำสั่งห้ามเข้าเทียบท่าเรือในอิสราเอลซึ่งกลุ่มเรียกว่า “ดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง” อย่างไรก็ตาม ลูกเรือทั้งหมด 22 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยโดยทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)

ทางการยูเออีระบุว่า ได้ประสานกับองค์กรทางทะเลสากล เช่น UKMTO เพื่อช่วยเหลือลูกเรือภายใต้สถานการณ์ยากลำบาก ขณะเดียวกัน ฮูตียังเดินหน้าโจมตีเรือพาณิชย์ในภูมิภาค เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ หลังอิสราเอลกลับมาปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาเมื่อเดือนมีนาคม โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 57,000 คน

ทั้งนี้ กลุ่มฮูตียังเดินหน้าปฏิบัติการในน่านน้ำทะเลแดง อ่าวเอเดน และทะเลอาหรับ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 โดยมุ่งเป้าทั้งเรือสินค้าทั่วไปและเรือที่เชื่อมโยงกับอิสราเอล ท่ามกลางความตึงเครียดในภูมิภาคที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top