Monday, 7 July 2025
ค้นหา พบ 49261 ที่เกี่ยวข้อง

ปธน.เกาหลีใต้ ทุ่มหนัก!! รัฐแจกเงิน 150,000 ต่อคน ครอบคลุมประชาชนและผู้อยู่อาศัยต่างชาติบางกลุ่ม

(7 ก.ค. 68) รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมแจกเงินอย่างน้อยคนละ 150,000 วอน (ราว 4,275 บาท) เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเป็นนโยบายเศรษฐกิจสำคัญครั้งแรกของประธานาธิบดีอี แจมยอง (Lee Jae-myung) หลังเข้ารับตำแหน่ง

โดยชาวเกาหลีที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ณ วันที่ 18 มิถุนายน จะได้รับเงินช่วยเหลือขั้นต่ำคนละ 150,000 วอน โดยครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่เลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว โดยไม่มีคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง จะได้รับเงินเพิ่มรวมสูงสุดถึง 300,000 วอน (8,550 บาท) และผู้ที่ได้รับสิทธิ์เงินช่วยเหลือพื้นฐานของรัฐอาจได้รับสูงถึง 400,000 วอน (11,400 บาท) 

นอกจากนี้ ยังมีเงินสนับสนุนเพิ่มเติม 30,000–50,000 วอน สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่นอกเขตเมืองใหญ่ หรือในพื้นที่ที่มีประชากรลดลงอย่างรุนแรง

เงินช่วยเหลือยังขยายไปถึงชาวต่างชาติบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่มีชื่อในทะเบียนบ้านร่วมกับพลเมืองเกาหลี และมีประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมถึงผู้ถือวีซ่าถาวร (F-5), คู่สมรสชาวเกาหลี (F-6) และผู้ลี้ภัย (F-2-4) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รัฐให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัย หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการไม่ให้เงินเยียวยาโควิดแก่ผู้ลี้ภัยเมื่อปี 2020 เป็นการเลือกปฏิบัติ

สำหรับโครงการนี้อยู่ภายใต้งบประมาณเพิ่มเติม 31.8 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 9.2 ล้านล้านบาท และใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “คูปองฟื้นฟูการดำรงชีวิต” โดยประชาชนสามารถสมัครรับเงินผ่านช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ได้ถึง 12 กันยายน และต้องใช้เงินภายในพื้นที่ที่ตนเองอาศัยอยู่ก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายน

คูปองนี้ใช้ได้กับร้านค้าท้องถิ่น เช่น ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านตัดผม และร้านแว่นตา ที่มีรายได้ไม่เกิน 3 พันล้านวอนต่อปี และไม่สามารถใช้กับห้างสรรพสินค้า ร้านแบรนด์ต่างชาติ หรือซื้อของผ่านออนไลน์ได้ ยกเว้นกรณีจ่ายเงินสดผ่านแอปส่งอาหารบางแอปเท่านั้น

ทั้งนี้ ในรอบที่สอง รัฐบาลจะมอบเงินเพิ่มอีก 100,000 วอน ให้กับประชาชนกลุ่มรายได้ต่ำ 90% ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม โดยจะคัดเลือกผู้มีสิทธิ์จากข้อมูลประกันสุขภาพแห่งชาติ และจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง นโยบายนี้เปลี่ยนจากการแจกเงินถ้วนหน้าเป็นการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและการดูแลการเงินของรัฐ

เปิดภาพ ‘DEMU‘ รถไฟชานเมืองขบวนใหม่ของพม่า ผลิตจากสเปน ทันสมัย - สะดวกสบาย ไม่แพ้รถไฟของไทย

(7 ก.ค. 68) เพจ โครงสร้างพื้นฐานประเทศไทย Thailand Infrastructure โพสต์ข้อความว่า ถึง DEMU รถไฟชานเมืองขบวนใหม่ของพม่า โดยระบุว่า เป็นหนึ่งในความภูมิใจของพีๆน้องๆ ชาวพม่า ที่ได้รถไฟ DEMU ขบวนใหม่ ที่ได้ซื้อมาจาก บริษัท CAF ประเทศ Spain ภายใต้โครงการช่วยเหลือของ JICA 

โดยขบวนรถไฟ DEMU นี้แบ่งการให้บริการเป็น 2 ส่วนคือ
- รถไฟชานเมืองย่างกุ้ง สายรอบเมือง (ขบวนสีน้ำเงินตามรูป)
- รถไฟระหว่างเมือง เช่น สาย ย่างกุ้ง-เนปิดอว์-มันฑาเลย์ (ขบวนสีแดง)

โดยรถไฟชานเมือง มีวิ่งแค่วันละ 2 รอบ (เช้า 1 รอบ เย็น 1 รอบ) 

ทั้งนี้ ในส่วนตัวรถ DEMU นั้น จากการที่ดูจากนอกตัวรถไฟ พบว่ามาตรฐานไม่ต่างจาก รถไฟฟ้าในประเทศไทย มีแอร์ แบ่งพื้นที่คนพิการ มีไฟบอกตำแหน่งสถานีถัดไป 

ตัวเก้าอี้แบบหันหน้าเข้าหากัน แบบรถไฟฟ้าในไทย พร้อมติดแอร์ตลอดขบวน

ความเร็วสูงสุด (ตาม Spec ที่พอหาได้) 120 กม/ชม แต่คงวิ่งได้ไม่เกิน 80 กม/ชม ตามสภาพรางรถไฟในเมือง 

มูลค่าการจัดซื้อรถไฟ DEMU 668 ล้าน USD (ประมาณ 22,000 ล้านบาท) 

ได้รถไฟ 41 ขบวน (6 ตู้/ขบวน) 
ตกขบวนละ 16.3 ล้าน USD (ประมาณ 340 ล้านบาท)

ซึ่งเอาจริงๆ รถไฟ DEMU พม่านี้ก็เป็นตัวอย่างการให้บริการรถไฟชานเมือง และรถไฟท้องถิ่นที่ดีเลย 

โดยที่เราไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่ม แค่หารถไฟดีๆ มาให้บริการซักที!!!!

สุดท้ายไทยเราก็ยังพายเรือในอ่าง อยู่กับรถไฟ BI-Mode กับ DEMU + แบตเตอรี่ ไม่จบซักทีแล้วก็แยกโครงการย่อยตามงบ 

เอาง่ายแค่แยกโครงการระหว่างรถไฟเชิงพาณิชย์ กับรถไฟเชิงสังคม แทนที่จะซื้อรวมๆ เป็นล๊อตใหญ่เพื่อให้ได้ของถูกสุด และดึงการผลิตมาในประเทศได้!!!!

หวังว่าโพสต์นี้จะได้ไปถึงตาผู้รับผิดชอบเพื่อจะได้ลองเปลี่ยนความคิดนอกกรอบระบบราชการบ้างนะครับ….

Xiaomi ยันสัมพันธ์ Leica แน่นแฟ้น สยบข่าวลือแยกทาง!! ย้ำพัฒนานวัตกรรมร่วมกันต่อ

(7 ก.ค. 68) หวาง หัว (Wang Hua) ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Xiaomi ออกโรงปฏิเสธข่าวลือที่ว่า เสียวหมี่และไลก้า (Leica) แบรนด์กล้องถ่ายรูปชั้นนำจากเยอรมนี เตรียมยุติความร่วมมือด้านกล้อง โดยระบุว่า “เป็นเรื่องไร้สาระ” และชี้ว่าเคยมีข่าวลือทำนองนี้มาแล้วช่วงเปิดตัว Xiaomi 14 ซึ่งบริษัทก็ออกมาปฏิเสธเช่นกัน

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ข่าวล่าสุดนี้เป็นเพียงการอัปเกรดข่าวปลอม โดยครั้งนี้ถึงขั้นสร้างชื่อผู้เขียนปลอมขึ้นมา โดยขอยืนยันว่าเสียวหมี่ยังยึดหลักความโปร่งใสในการสื่อสาร และให้ความสำคัญกับความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน

ในทางตรงข้าม ความร่วมมือระหว่างเสียวหมี่และไลก้ายังคงแน่นแฟ้น และมีการพัฒนาต่อเนื่อง เช่น ปรับลายน้ำบนภาพถ่ายให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลกของไลก้า แยกโหมดภาพถ่าย “คลาสสิก” และ “สดใส” ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มเสียงชัตเตอร์ไลก้าให้กับมือถือรุ่นเก่า และพัฒนาอินเตอร์เฟซ (UI) ของเครื่องให้ใช้งานง่ายและทันสมัยมากขึ้น

ตัวอย่างล่าสุดของความร่วมมือระหว่างเสียวหมี่และไลก้าคือรุ่น Xiaomi 15 Ultra ที่มาพร้อมกล้องคุณภาพสูงและสีตัวเครื่องใหม่ที่หลากหลายกว่าเดิม ตอกย้ำการพัฒนานวัตกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดแอป MemeOS Enhancer จาก Play Store เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์พิเศษ เช่น เครื่องมือปรับแต่งกล้อง และการอัปเดตระบบเฉพาะของเสียวหมี่

‘จิราพร’ นำทีมไทยร่วมประชุม BRICS ที่บราซิล ดันความร่วมมือ AI ต้านฟอกเงิน–อาชญากรรมข้ามชาติ

(7 ก.ค. 68) การประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 เปิดฉากแล้วที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 โดยนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนเป็นครั้งแรก ร่วมเวทีกับผู้นำจากกว่า 27 ประเทศและองค์การระหว่างประเทศ อาทิ สหประชาชาติ และองค์การการค้าโลก

ไทยเสนอแนวทางเสริมสร้างระบบพหุภาคีที่ตอบโจทย์ประเทศกำลังพัฒนา พร้อมเสนอแนวคิดการระดมทุนเพื่อการพัฒนา การปฏิรูปโครงสร้างการเงินโลก และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การฟอกเงิน และภัยไซเบอร์

สำหรับในวันที่ 7 กรกฎาคม น.ส.จิราพร จะกล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “การขับเคลื่อนสุขภาพโลกและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านพหุภาคีนิยมแบบมีส่วนร่วม” ต่อที่ประชุมผู้นำ

ทั้งนี้ กลุ่ม BRICS มีประชากรรวมกันเกือบครึ่งโลก และมี GDP รวมคิดเป็น 27.1% ของโลก โดย IMF คาดว่าเศรษฐกิจกลุ่มจะขยายตัว 4.2% ในปี 2568 สะท้อนบทบาทที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มในระบบเศรษฐกิจโลก

ทรัมป์ วิจารณ์ มัสก์ ‘เพี้ยน’ กับแผนตั้งพรรคใหม่ ชี้!! พรรคที่สามในสหรัฐฯ มักนำไปสู่ความวุ่นวาย

(7 ก.ค. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความไม่พอใจต่ออีลอน มัสก์ อดีตพันธมิตรคนสำคัญ หลังมัสก์ประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ชื่อ “พรรคอเมริกา” (America Party) โดยทรัมป์กล่าวว่า “เศร้าใจที่เห็นมัสก์ทำตัวเพี้ยนไป” พร้อมชี้ว่าพรรคการเมืองที่สามไม่เคยประสบความสำเร็จในสหรัฐฯ และมักนำไปสู่ความวุ่นวายและความโกลาหล

ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคเดโมแครตฝั่งซ้ายกำลังขาดความมั่นใจและเริ่มไร้เหตุผล พร้อมทั้งวิจารณ์ จาเร็ด ไอแซ็กแมน (Jared Isaacman) ผู้ที่เคยถูกเสนอชื่อให้เป็นผู้บริหารนาซา และเป็นเพื่อนสนิทของมัสก์ ว่าเป็น “เดโมแครตโดยสายเลือด” เพราะไม่เคยบริจาคเงินให้กับพรรครีพับลิกันเลย

ทรัมป์ยังวิจารณ์ว่า การเสนอชื่อเพื่อนของมัสก์ให้มาบริหารองค์การนาซาเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะบริษัท SpaceX ของมัสก์มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับหลายโครงการของนาซา ซึ่งอาจนำไปสู่ผลประโยชน์ทับซ้อนได้ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังไม่พอใจที่มัสก์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายลดงบประมาณของรัฐบาล โดยระบุว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มัสก์เองก็ได้รับอยู่เช่นกัน

ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศถอนชื่อจาเร็ด ไอแซ็กแมนออกจากการเสนอเป็นผู้บริหารองค์การนาซา โดยสื่อสหรัฐฯ รายงานว่า สาเหตุหลักมาจากไอแซ็กแมนเคยบริจาคเงินสนับสนุนนักการเมืองจากพรรคเดโมแครตหลายคนในอดีต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top