Tuesday, 8 July 2025
ค้นหา พบ 49289 ที่เกี่ยวข้อง

สมบัติ ทองย้อย หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบายความอึดอัดในใจ เกี่ยวกับกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายรักในประชาธิปไตย โดยมีเนื้อหาระบุว่า...

ช่วงหลัง ๆ มานี้ยอมรับเลยสลิ่มในเฟสเยอะมาก แต่ก็ไม่ได้อะไรมากเขาเข้ามาด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่ไม่ว่ากัน แต่เชื่อไหมบรรดาสลิ่มเหล่านั้นเวลามาเม้นท์ผม น้อยคนมากที่จะด่าด้วยคำด่าที่หยาบคาย บางคนจากเกลียดกลายเป็นมาพูดดีกับผมเรียกลุงเรียกน้าเรียกพี่

ผมไม่รู้ว่าเขาหวังอะไรจากผม เพราะจริง ๆ ผมก็ไม่มีอะไรจะให้เขา แต่ผมสิกลับโดนพวกเดียวกันเองด่าแบบสาดเสียเทเสียไม่ให้เกียรติกัน ไม่เคารพกัน ไม่นับถือกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้โกรธ หรือโทษใครนอกจากตัวผมเองที่ผมทำตัวผมเอง

แต่แค่งงใจว่าพวกเดียวกันเองทำไมต้องด่ากันจนถึงขนาดนั้น เพียงเพราะคิดต่างกับพวกคุณ บางทีคนเสื้อแดงเพลงคนฝั่งประชาธิปไตยก็ไม่ได้น่ารักอย่างที่คิดเสียทุกคน หรือบางคนอาจจะเผด็จการทางความคิดเสียด้วยซ้ำ


ที่มา:

https://www.facebook.com/336295587309275/posts/758955375043292/

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=406579140643344&id=100038737831788

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสมชาย จุติกิติ์เดช หรือ ‘หลงจู๊’ ผู้ถูกกล่าวหาเจ้าของบ่อนพนันหลายแห่งใน ภาคตะวันออก

สำหรับ ‘หลงจู๊สมชาย’ เป็นนักธุรกิจสีเทาระดับประเทศ เป็นเจ้าพ่อบ่อนการพนันหลายแห่ง ทั้งในจังหวัดระยองและรวมถึงภาคตะวันออก และอีสานบางส่วน เริ่มต้นชีวิตจากศูนย์ จนโด่งดังในยุทธจักรบ่อนพนัน และโด่งดังยิ่งขึ้นเมื่อกลายเป็นต้นเหตุการระบาดของโควิด-19 ล่าสุด

หลงจู๊สมชาย ถูกกล่าวขานมาเป็นเวลานานในฐานะนักพนัน ตั้งแต่เริ่มต้นจากศูนย์ คนในวงการมักเปรียบว่ามาจาก ‘ผี’ เพราะไม่มีอะไร แต่ด้วยความเป็นนักพนันใจถึง มีผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดระยองสนับสนุน จึงค่อยๆ เติบโตจากคนเดินโพยหวย ขยับมาเป็นเจ้ามือหวย เป็นเจ้าของสถานบริการในเมืองระยอง ทั้งนวดแผนโบราณ คาราโอเกะ ต่อมาเข้าไปพัวพันกับแก๊ง ‘ล็อกหวย’ ที่มีด้วยกัน 3 คน คือ ‘กลม บางกรวย - ชัย โคกสำโรง’ และตัวเขาเองที่ได้เจ้าของฉายา ‘ชาย ระยอง’ หรือ ‘ชาย บ้านค่าย’

ช่วงแรกแก๊งหวยล็อกจะเดินสายกระจายแทงเจ้ามือใหญ่ในหัวเมืองต่างๆ และไปสะดุดตอที่เจ้าพ่ออีสาน โดย ‘เป๊กตั๊ก’ เจ้าพ่อหวยเมืองสุรินทร์ เห็นว่าถูกลูกค้านิรนามกินติดต่อกันหลายงวด และสงสัยกลุ่ม ‘ชาย ระยอง’ หรือ ‘หลงจู๊สมชาย’ ในปัจจุบัน จะเป็นตัวการ จึงเข้าแจ้งต่อกองปราบปราม และเป็นที่มาของการเปิดโปงขบวนการ ‘หวยล็อก’ ต่อมามีการดำเนินคดี...แต่ ‘หลงจู๊ สมชาย’ รอดมาได้

หลังข่าวคราวหวยล็อกเงียบไป ชื่อเสียงของ ‘หลงจู๊สมชาย’ ก็โด่งดังในยุทธจักรบ่อนพนัน และกิจการตู้ม้า ตู้สลอต โดยว่ากันว่าเขาได้รับการสนับสนุนจาก ‘นักการเมืองคนดัง’ ของจังหวัดนครราชสีมา และนายตำรวจระดับ พล.ต.ต.คนหนึ่งแถวภาคอีสาน ให้สัมปทานบ่อน ตู้ม้า ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภาค 3 ทั้ง จ.นครราชสีมา จ.อุบลราชธานี และอื่นๆ อีกหลายแห่ง

เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ จ.อุบลราชธานี เงินจำนวน 1 ล้านบาท ของ ‘หลงจู๊สมชาย’ ก็ถูกนำไปสร้างบารมี สร้างฐานสีเทาให้แก่ตัวเอง โดยมีลูกน้องคนสนิทซึ่งแท้จริงเป็นคนโปรโมตบ่อน สวมบทเป็นผู้ใจบุญบริจาค

ด้วยความใจถึง อีกทั้งระยะหลังมักมีข่าวว่า ‘หลงจู๊สมชาย’ มีอาการเพี้ยน เนื่องจากผลข้างเคียงของการใช้ยาบางอย่าง และอาจเป็นคนใจถึงอยู่แล้ว อีกทั้งมีแรงหนุนจาก ‘นักการเมืองคนดังภาคอีสาน’ ที่ทำงานติดตัวเบอร์ต้น ๆ ของขั้วอำนาจในรัฐบาล ‘หลงจู๊สมชาย’ จึงบ่ายหน้าเข้าสู่วงการบู๊ลิ้มเมืองหลวง

ระยะแรกสร้างความปั่นป่วนไม่น้อย เพราะการปล่อยสมุนมือขวาออกป่วน แต่ในที่สุดไปไม่รอด ต้องกลับไปดูแลฐานเดิมคือ ภาคตะวันออกในหลายพื้นที่ของภาค 2 ภาค 3 จนช่วงหนึ่งถูกระดมปราบปรามจากชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองอย่างหนักหน่วง จากปฏิบัติการทะลายบ่อน RJ ต.มาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งทราบกันดีว่าบ่อนแห่งนี้เป็นของ ‘หลงจู๊สมชาย’ ปรากฏเป็นข่าวครึกโครม

แต่ด้วยเส้นสาย และ ‘นักการเมืองดังอีสานคนใกล้ตัวขั้วอำนาจ’ ทำให้ในที่สุด ‘หลงจู๊สมชาย’ รอดตัวเช่นเคย แต่ฝ่ายมั่นคงก็เตรียมเชือดต่อ โดยส่งชุดปฏิบัติการของดีเอสไอ เพื่อตั้งเป้าขยายผลเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งหลายคนเชื่อว่านี่คือปฏิบัติการเชือดไก่เพื่อปิดตำนานความยิ่งใหญ่ของ ‘เจ้าพ่อธุรกิจสีเทา’ อย่างแน่นอน

แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ความไม่ชอบมาพากลก็เกิดขึ้น โดยคอลัมนิสต์สื่อหลักเริ่มเขียนแขวะปฏิบัติการนี้ และให้เหตุผลว่าบ่อนพนันเป็นหน้าที่ของตำรวจก็พอแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องให้ถึงมือ ‘กรมสอบสวนคดีพิเศษ’ เพราะควรไปใช้กับคดีต่างๆ ที่มีความสลับซับซ้อน

อย่างไรก็ตาม หปฏิบัติการสยบเจ้าพ่อตะวันออกก็กลายเป็นหมัน ไม่มีใครกล้าแตะต้อง ‘หลงจู๊สมชาย’ ต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดฝีแตก จากกรณีบ่อนระยอง ที่กลายเป็นแหล่งแพร่โควิด-19 ในครั้งนี้ จึงถึงจุดจบของ ‘หลงจู๊สมชาย’ ในที่สุด!!

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ได้ทำการศึกษาความเชื่อมโยงของความสามารถทาง ‘ปัญญา’ กับ ‘อคติ’ ที่มีต่อ ‘กลุ่มคนรักร่วมเพศ’ โดยพบว่า 'คนที่เกลียดกลัวการรักร่วมเพศ' มักจะมีสติปัญญาที่ต่ำกว่าคนในกลุ่มอื่น

ทีมวิจัยได้ศึกษากับกลุ่มตัวอย่างชาวออสเตรเลียจำนวน 11,564 คน ด้วยแบบสอบถามสำหรับการวิเคราะห์ในเรื่องของระดับสติปัญญา ซึ่งในแบบสอบถามดังกล่าวจะมีคำถามบางส่วนสอดแทรกไปในลักษณะที่ว่า เห็นด้วยหรือไม่กับประโยคที่ว่า

ในแบบสอบถามดังกล่าว จะมีคำถามบางส่วนสอดแทรกไปในลักษณะที่ว่า เห็นด้วยหรือไม่กับประโยคที่ว่า “กลุ่มคนรักร่วมเพศ (ชาย-ชาย / หญิง-หญิง) ควรมีสิทธิเท่าเทียมกับกลุ่มคนรักต่างเพศ (ชาย-หญิง)” โดยจะให้ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกว่าเห็นด้วยกับประโยคดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน ตั้งแต่ 1 (ไม่เห็นด้วยเลย) ไปถึง 7 (เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง)

ทั้งนี้ทางทีมวิจัยได้นำแบบสอบถามทั้งหมดมาวิเคราะห์ และพบว่า ยิ่งไม่เห็นด้วยกับประโยคในลักษณะนี้มากเท่าไหร่ สติปัญญาของคนเหล่านั้นก็จะยิ่งต่ำกว่าคนอื่นตามไปด้วย ก็ยิ่งแสดงถึงความเชื่อมโยงกันของทั้งสองสิ่งนี้

นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบด้วยว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จะส่งผลรุนแรงอย่างมากในส่วนของทักษะการใช้คำพูด หรือก็คือ คนที่มีอคติกับกลุ่มรักร่วมเพศ มักจะเป็นคนที่ขาดการใช้สติปัญญาในการแสดงออกทางวาจานั่นเอง

งานวิจัยดังกล่าว ถือว่าช่วยสนับสนุนผลงานวิจัยอื่นๆ ก่อนหน้านี้ในสหรัฐอเมริกา ที่เคยมีการพบว่าผู้ที่มีอคติต่อกลุ่มรักร่วมเพศหรือกลุ่ม LGBTQ นั้น จะมีระดับสติปัญญาต่ำเช่นเดียวกัน


ที่มา

https://www.catdumb.tv/homophobia-research-339/?fbclid=IwAR0f76JLJyj1HjXnJvbEPObSdCGUZPafDq2K7Rc2SGtuIRKTEb6Ds5mKLQA

https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0160289617303628

https://www.unilad.co.uk/science/homophobia-and-low-intelligence-are-linked-study-finds/

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการฟ้องร้องคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ (หญิงหลุยส์) อดีตภรรยาว่า...

สัญญาในใบหย่า ได้มอบทรัพย์สินให้คุณหญิงพันธุ์เครือ มีเจตนาเพื่อให้เเบ่งสรรปันส่วนให้ลูกหลาน แต่กลับนำไปขายเเละจำนองโดยไม่ทราบว่านำเงินไปทำอะไร จึงมีการฟ้องร้องเรื่องทรัพย์สินและศาลนัดพิจารณาในวันที่ 25 ก.พ.นี้

ทั้งนี้การที่ไม่ยอมเปลี่ยนกลับไปใช้นามสกุลเดิมของตนเองถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะหย่าขาดจากกันแล้ว อีกทั้งตนไม่พอใจที่นำบ้านที่จังหวัดนครพนมไปมอบให้กับผู้อื่น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวพันธุ์กันทางสายเลือด เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการหย่า

ความจริงตนไม่ต้องการหย่า เเต่คุณหญิงพันธุ์เครือชวนไปหย่า และคุณหญิงพันธุ์เครือเป็นคนเเรกที่เซ็นใบหย่า

ทั้งนี้ตนเป็นชายชาติทหารต้องเคารพสตรี โดยเฉพาะภรรยา แต่การนำบ้านที่ตนให้ไปขายมอบให้คนอื่นคือปัญหาสำคัญสำหรับคนที่รักในศักดิ์ศรีตระกูล ตนมีแต่ความรู้สึกที่ดีที่มอบให้ แต่คุณหญิงพันธุ์เครือไม่ดูแลตน แม้แต่ตอนหกล้มเมื่อปี 59

 

รมว.คลัง สั่ง ก.ล.ต. คุมเข้มเทรดบิทคอยน์ ย้ำต้องเติมความรู้ให้นักลงทุนรู้เท่าทัน เหตุมีความเสี่ยงสูง พร้อมระบุเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังมีหวัง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะบิทคอยน์ อย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นสินทรัพย์ใหม่ และมีความเสี่ยง จึงต้องดูแลเรื่องนี้ให้ดี

พร้อมทั้งให้คำแนะนำ และความรู้กับผู้ลงทุนด้วย โดยเฉพาะในเรื่องการบริหารความเสี่ยงกับผู้มีเงินออมและเข้ามาอยู่ในตลาดตรงนี้ ต้องให้มีความรู้เท่าทัน ป้องกันไม่ให้ได้รับความเสี่ยงมากเกินไป

ทั้งนี้ยังขอให้ ก.ล.ต.ช่วยอำนวยความสะดวกให้กิจการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น การเปิดโอกาสให้บริษัท หรือผู้ประกอบรายใหม่เข้าถึงตลาดทุน ยกระดับความเชื่อมั่นเสริมศักยภาพตลาดทุน และการพัฒนาการเงินที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

"สถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้โดยเฉพาะผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบที่แตกต่างออกไปจากปีก่อน เพราะมีปัจจัยเสริมคือเรื่องวัคซีน หากทำได้เร็วก็ช่วยลดการแพร่ระบาดได้ ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีความหวังว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจจะน้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อน"

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการบริหารเศรษฐกิจปี 2564 รัฐบาลต้องดำเนินการ 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่

1.) การเยียวยาและฟื้นฟู ต้องทำให้ทันสถานการณ์ โดยปี 63 ที่ผ่านมา มีการเยียวยาประชาชนในโครงการเราไม่ทิ้งกัน สำหรับปีนี้ก็ได้ดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ และโครงการ ม33 เรารักกัน อย่างไรก็ดี มาตรการเยียวยาทำได้แค่ระยะสั้นเท่านั้น ไม่สามารถเยียวยาโดยการแจกเงินไปได้ตลอด ดังนั้นรัฐบาลต้องทำการฟื้นฟู ช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านนโยบายการเงินการคลัง ไปพร้อมกันด้วย

2.) การกำหนดทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตให้มีความชัดเจน ซึ่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พูดชัดเจนว่าเศรษฐกิจไทยต้องเน้นเรื่องนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ คือ เศรษฐกิจชีวภาพ, เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG)

3.) การดูแลการระบาดของโควิด-19 และการดูแลรองรับสังคมผู้สูงอายุ ที่ตอนนี้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุ 12% และอีก 10 ปี จะเพิ่มเป็น 24% ต้องเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับในส่วนนี้

นอกจากนี้ ประเทศไทยต้องมีวัคซีนเศรษฐกิจ 3 ตัว เพื่อทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน และมีเสถียรภาพ ประกอบด้วย

1.)วัคซีนเศรษฐกิจระดับประเทศ GDP ต้องเติบโตมั่นคง ต่อเนื่องมีคุณภาพ เศรษฐกิจต้องมีความมั่นคง ทุนสำรองสูง ฐานะการคลังแข็งแรง และหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

2.) วัคซีนเศรษฐกิจระดับภาคการผลิต ภาคบริการ ต้องมีภูมิคุ้มกัน มีการบริหารความเสี่ยง และมีธรรมาภิบาล

และ 3.) วัคซีนระดับประชาชน ส่งเสริมให้มีการออมเงินมากขึ้น และสร้างทางเลือกการออมยามเกษียณให้กับประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top