คนอเมริกันไม่อยากกลับไปทำงาน ทำธุรกิจขาดแคลนแรงงาน หลังรัฐอัดฉีดเงินจนเคยตัว ด้านหอการค้าร้องรัฐหยุดเงินเยียวยา เผยบางบริษัทจูงใจพนักงานใหม่ด้วยไอโฟน และเงินพิเศษ
เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่กำลังฟื้นตัวอย่างร้อนแรงหลังจากที่หลายพื้นที่สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้แล้วเกือบ 100% ทำให้ความต้องการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นอย่างสูงในช่วงนี้
แต่สิ่งที่ตรงกันข้ามกับความต้องการรับคนเข้าทำงานคือ จำนวนของชาวอเมริกันที่อยากจะไปกลับไปทำงานนั้นลดลงอย่างมาก กระทบไปถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่กำลังขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก จนต้องมีการออกแคมเปญต่าง ๆ เพื่อที่จะดึงดูดให้คนไปสมัครงานกัน
ร้านฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังวิกฤต คนไม่อยากสมัคร เร่งออกโบนัสพิเศษล่อใจ
ธุรกิจร้านอาหารจานด่วนชื่อดังหลายแบรนด์ ต่างกำลังประสบปัญหาอย่างหนักในการหาพนักงานเข้ามาทำงานเพิ่มเติม เนื่องจากคนสนใจกลับมาทำงานน้อยลง เนื่องจากได้รับเงินเยียวยาจากทางรัฐบาลมานานหลายเดือนติด ๆ กันจนเคยตัว
ก่อนหน้านี้มีภาพที่ถูกแชร์ออกไปบนโลกออนไลน์ว่าร้าน McDonald's ในรัฐอิลลินอยส์ให้สิทธิพิเศษเป็นโทรศัพท์มือถือ iPhone สำหรับพนักงานใหม่ที่เข้ามาสมัครงานกับทางร้าน แต่มีเงื่อนไขก็คือ จะต้องทำงานให้ครบ 6 เดือนถึงจะได้ iPhone ไปครอง
ขณะที่ Axios รายงานว่า McDonald's แห่งหนึ่งในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย เสนอโบนัสจ่ายล่วงหน้า 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 16,000 บาท สำหรับพนักงานใหม่
ส่วนร้านฟาสต์ฟู้ด Wendy’s จะให้โบนัสสำหรับผู้ที่มาสมัครงานใหม่และผู้แนะนำคนละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,200 บาท ทันทีในวันเดียวกัน
Chipotle ก็กำลังเพิ่มค่าจ้างพนักงานร้านอาหารเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 480 บาทต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ย
ส่วนที่รัฐโอไฮโอ ร้าน White Castle ได้เริ่มเพิ่มค่าจ้างรายชั่วโมงจาก 11.50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 368 บาท เป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 480 บาท ตามรายงานของ The Columbus Dispatch
ธุรกิจบริการของสหรัฐฯ กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง โดยเมื่อเดือนเมษายน สำนักสถิติแรงงานรายงานว่า ภาคบริการขาดแคลนพนักงานราว 349,000 ตำแหน่ง ในขณะที่เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีผู้คนมากกว่า 15 ล้านคน แจ้งเคลมเงินประกันสังคมกับรัฐบาล
ขณะนี้ รัฐบาลกลางและท้องถิ่นได้แจกเงินเยียวยาเฉลี่ย 638 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 20,400 บาทต่อสัปดาห์ ให้แก่ผู้ว่างงาน ซึ่งสูงกว่าเงินช่วยเหลือการว่างงานปกติก่อนการระบาดของไวรัสถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9,600 บาท โดยรัฐที่แจกมากที่สุด ได้แก่ แมสซาชูเซตส์ และวอชิงตัน โดยแจกอยู่ที่ 850 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 25,600 บาทต่อสัปดาห์
แต่มาตรการจ่ายเงินเยียวยาของสหรัฐฯ กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายนนี้ แต่ก็มีบางรัฐที่ประกาศยกเลิกมาตรการก่อนจะถึงกำหนดแล้ว ซึ่งก็คือรัฐแมรี่แลนด์ และเทนเนสซี่ ที่จะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้
ในขณะเดียวกันอัตราการว่างงานในสหรัฐฯ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 5.8% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีที่ 3.5%
McDonald's ระบุว่า ตอนนี้มีต้องการจ้างพนักงานถึง 10,000 คน ในร้านอาหารของบริษัทและจะเพิ่มค่าจ้างให้อีกด้วย โดยพนักงานระดับเริ่มต้นจะได้รับอย่างน้อย 11-17 ดอลลาร์สหรัฐ (352-547 บาท) ต่อชั่วโมง ในขณะที่เป็นระดับหัวหน้างานจะได้รับขั้นต่ำ 15-20 ดอลาร์สหรัฐฯ (480-641 บาท) ต่อชั่วโมง
สาเหตุของการที่ผู้คนไม่ยอมกลับไปทำงานก็เนื่องจากว่า การได้รับเงินเยียวยาวที่สูงกว่าค่าแรงที่ได้จากการทำงาน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 638 ดอลลาร์สหรัฐ (20,457 บาท) ต่อสัปดาห์ ซึ่งได้มากกว่าก่อนเกิดโรคระบาดถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐ (9,619 บาท)
หมายความว่าคนที่ทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก่อนเกิดโรคระบาด ตอนนี้ได้รับเงินเกือบ 16 ดอลลาร์สหรัฐ (513 บาท) ต่อชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องทำเลย ซึ่งมากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลกลาง ที่ระบุไว้ที่ 7.25 ดอลลาร์สหรัฐ (232 บาท) ถึงสองเท่า
สภาหอการค้าสหรัฐฯ ร้องรัฐบาลหยุดให้เงินเยียวยา แก้ปัญหาแรงงานขาด
นายนีล แบรดลีย์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านนโยบายของสภาหอการค้าสหรัฐฯ แถลงการณ์ถึงผลกระทบต่อภาคธุรกิจที่กำลังขาดแคลนแรงงาน โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยุติการให้เงินเยียวยาผู้ที่ตกงานจากผลกระทบของโรคระบาด เพื่อผลักดันให้คนกลับมาทำงาน
"ตัวเลขการจ้างงานที่น่าผิดหวังทำให้เห็นได้ชัดว่าการจ่ายเงินสำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปทำงานกำลังส่งผลกระทบต่อตลาด ตามการวิเคราะห์ของสภาหอการค้าพบว่า การจ่ายเงิน 300 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ให้แก่ผู้ที่ตกงาน ทำให้ผู้ที่ได้รับเงิน 1 ใน 4 มีรายได้ขณะตกงานมากกว่าไปทำงาน"
ทั้งนี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ โดยหนึ่งในมาตรการดังกล่าว ได้แก่ การส่งเช็คเงินสดไปให้ผู้ที่ตกงานเป็นเงิน 300 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์จนถึงเดือนกันยายน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่ามาตรการแจกเงินแก่คนตกงานดังกล่าว ได้ลดแรงจูงใจที่จะทำให้แรงงานกลับเข้าตลาด และเป็นสาเหตุทำให้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าคาดที่ควรจะเพิ่มขึ้นถึง 1,000,000 ตำแหน่ง แต่ก็มีตัวเลขเพียงแค่ 266,000 ตำแหน่งเท่านั้น
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 6.4% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 ส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดแรงงานพุ่งขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจเกิดภาวะขาดแคลนแรงงานและวัตถุดิบ นับตั้งแต่ภาคการผลิตไปจนถึงร้านอาหาร
แหล่งอ้างอิง
https://www.dailymail.co.uk/news/article-9742549/McDonalds-offers-500-bonus-new-staff-Wendys-gives-100-Chipotle-increase-pay.html
https://www.uschamber.com/press-release/hiring-bonuses-show-real-potential-bring-back-america-s-workers
https://www.uschamber.com/press-release/number-of-open-jobs-jumps-1-million-americas-worker-shortage-crisis-worsening-urgent
ที่มา : https://www.facebook.com/100764650095869/posts/1773045692867748/
โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9