Wednesday, 14 May 2025
ค้นหา พบ 48057 ที่เกี่ยวข้อง

ม.ร.ว.วรปภาฯ บำเพ็ญกุศลและตรวจเยี่ยม ‘โครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวังวัดเกาะเกรียง’

หม่อมราชวงศ์วรปภา จักรพันธุ์ เดินทางมาบำเพ็ญกุศลและตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวังวัดเกาะเกรียง ระยะที่ 2 ภายใต้การดำเนินการตามมาตรการป้องกัน และการดูแลควบคุมในสถานะการณ์โควิด -19 อย่างเคร่งครัด

โดยมี นายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.วัชชรินทร์ สุวรรณรินทร์ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดปทุมธานี นายพงษ์เทพ รุ่งเรือง พัฒนาการจังหวัดปทุมธานี นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี คณะทำงานโครงการโคก หนอง นา ประกอบด้วย นายธนบดี ศรีเมือง นายจักรฤกษณ์ ทองสิริประภา นางสาวจันทร์ทิพย์ พร้อมจิตร ดร.จิดาภา แต่สกุล นายกสมาคมสตรีไทยสากล ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไปร่วมต้อนรับ ณ วัดเกาะเกรียง ตำบลบางคูวัด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา

หม่อมราชวงศ์วรปภา จักรพันธุ์ ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณภายในวัดเกาะเกรียง และสนทนาธรรมกับพระมหาบัญญัติ สุจิตฺโต ดร.เจ้าอาวาสวัดเกาะเกรียง ณ อุโบสถวัดเกาะเกรียง จากนั้นเดินทางมายังอาคารเฉลิมพระเกียรติเพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินโครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง วัดเกาะเกรียง และมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้สนับสนุนโครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวังวัดเกาะเกรียง และได้กล่าวชื่นชมให้กำลังใจคณะทำงานที่ได้ดำเนินโครงการมาด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ

ต่อจากนั้น หม่อมราชวงศ์วรปภา จักรพันธุ์ ได้ร่วมปลูกต้นรวงผึ้งต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10 ในพื้นที่ดำเนินโครงการพระราชทานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวังวัดเกาะเกรียง เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อเป็นตัวแทนแห่งพระองค์และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ราษฎร

โดยมี ดร.จิดาภา แต่สกุล นายกสมาคมสตรีไทยสากล พร้อมคณะที่ปรึกษา พล.อ.สมโภชน์ นนทชัย พล.ต.วัชชรินทร์ สุวรรณรินทร์ ศ.พิเศษ ดร.เพียงฤทัย วรดิถี คณะกรรมการสมาคมฯ อาทิ ดร.ซัน ณรามิล คุ้มรักษ์ ดร.ศุภชัย อนุที นางปัทมพร กล่อมจิตร์ นางศศิรินทร์ บุญล้อมทรัพย์ คุณรัชฏาภรณ์ วิเศษ นางจุฑารัตน์ พัฒนาทร เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นางบุญเยี่ยม บุญเลิศ บริษัท ไท้หลิง ดีเวลล็อบเมนท์ กรุ๊ป จำกัด ข้าราชการ ทหาร ประชาชน ร่วมปลูกต้นรวงผึ้งในพื้นที่โครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวังวัดเกาะเกรียง


ภาพ/ข่าว  เจนกิจ นัดไธสง  รายงาน

'เจดอน ซานโช่' กลายเป็นที่พูดถึงก่อนนัดเตะ อังกฤษ-ยูเครน เมื่อเขาเพิ่งกลายเป็นสมาชิกคนใหม่ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

คืนพรุ่งนี้ อังกฤษจะลงเตะกับยูเครน ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกยูโร 2020 แต่คนที่กำลังเป็นข่าวร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ กลับเป็นตัวสำรองอย่าง เจดอน ซานโช่ ที่เพิ่งกลายเป็นนักเตะคนใหม่ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเรียบร้อย

ย้อนเวลากลับไปสักหน่อย ซานโช่มีมหากาพย์เรื่องการย้ายทีมมาอย่างยาวนานกว่า 2 ปี สรุปสุดท้าย เพิ่งได้ย้ายมาแมนฯ ยูฯ ด้วยค่าตัวราว ๆ 85 ล้านยูโร แอบได้ยินเสียงเด็กผีเฮกันเบา ๆ ว่า ‘เฮ้อ มาสักที’

เพราะการรอคอยอย่างยาวนาน จนทำให้ความพีกของสตาร์รายนี้ ดูจะแผ่วลงไปพอสมควร แถมฤดูกาลก่อนก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้นสังกัดเดิมในบุนเดสลีลา เยอรมัน สักเท่าไร ด้วยเหตุนี้ การมาของเสี่ยโช่ เอ้ย! ซานโช่ จึงไม่ได้สร้างความกระดี๊กระด๊าให้กับแฟน ๆ ผีแดงมากมายเท่าที่ควร

กลับมาที่ในแคมป์ทีมชาติอังกฤษในเวลานี้ จาก 4 นัดที่ผ่านมา ฟอร์มของบรรดานักเตะกองหน้าทำผลงานได้ดีกันแทบทุกคน ทั้งราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แจ็ค กรีลิช, ฟิล โฟเด้น นั่นเองจึงทำให้ซานโช่ต้องกลายเป็นตัวสำรองอดทน

ซานโช่ เพิ่งลงเล่นให้อังกฤษในทัวนาเม้นท์นี้ไปแค่ 6 นาที โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาช่วงท้ายเกมกับสาธารณรัฐเช็ก ในรอบแรก และในเกมที่พบกับทีมชาติเยอรมัน รอบ 16 ทีม เจ้าตัวก็คาดหวังว่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง เนื่องจากรู้ไส้รู้พุงนักเตะเยอรมันเป็นอย่างดี แต่แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษ ก็ไม่เลือกใช้งานเขา ด้วยเหตุผลสั้น ๆ ว่า ‘เรามีตัวเลือกกองหน้าที่มากมายจริง ๆ’

สถานภาพของซานโช่ในเวลานี้ ไม่ต่างจากคนอยากปล่อยของ ขอแค่เวลาและโอกาส ยิ่งเป็นช่วงสบายตัว สบายใจ ปลดล็อกความกดดันจากเรื่องการย้ายทีมไปแล้วแบบนี้ รับประกันว่าซานโช่อยากโชว์ของแน่นอน ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับนายใหญ่อย่างเซาธ์เกตแล้วล่ะว่า จะ ‘ใจถึง’ ส่งเสี่ยคนใหม่ เอ้ย! นักเตะคนใหม่ของแมนฯ ยูฯ ลงสนามวาดลวดลายหรือไม่

นัดที่เจอกับยูเครนคงมีคำตอบรออยู่!


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“พรรคกล้า” ยื่น 2 ข้อเสนอ ถึง “บิ๊กตู่” แนะ ชะลอการระบาด ไม่ให้ถึงจุดวิกฤต ชี้ การรักษาเร็ว คือการรักษาที่ดีที่สุด เผย ฟ้าทลายโจรรักษาโควิดได้

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายมนต์ชีพ ศิวะศินางกูร กรรมการบริหารพรรคกล้าพร้อมด้วย ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคกล้า, นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคกล้า และนายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า ยื่นหนังสือข้อเสนอตั้งสถานกักตัวชุมชนและให้ยาฟ้าทะลายโจร รักษาผู้ติดเชื้อทันที ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

นายมนต์ชีพ กล่าวว่า ข้อเสนอแรกให้จัดตั้งสถานที่กักตัวชุมชนและเมือง (Community-City Quarantine) คือ หากพบผู้ติดเชื้อ แต่บ้านที่มีขนาดกลาง-เล็ก มีสมาชิกในครอบครัวจำนวนมาก หรือวิถีชีวิตไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ (Home Isolation) ให้มีกระบวนการแยกผู้ติดเชื้อออกจากสมาชิกในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดทันที แล้วนำมากักตัวในพื้นที่เฉพาะที่ชุมชนหรือจังหวัดตั้งขึ้น โดยขอให้รัฐผ่อนคลายกฎระเบียบต่าง ๆ เกี่ยวการใช้สถานที่เพื่อการรักษาพยาบาลชั่วคราว เพื่อจัดตั้งสถานกักตัวในชุมชน ใช้อาสาสมัครหรือสร้างรายได้ด้วยการจ้างคนในชุมชนที่ผ่านการฝึกอบรมแล้ว เป็นผู้ดูแลแทนแพทย์และพยาบาลไปพลางก่อน

นายมนต์ชีพ กล่าวว่า ข้อเสนอที่สอง ‘ติดเชื้อปุ๊ป รับยาทันที’ เมื่อพบว่ามีการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กักตัวเองอยู่ที่บ้าน หรืออยู่ในสถานกักตัวชุมชนตามข้อเสนอข้างต้น ซึ่งอยู่ระหว่างการรอเตียงเข้ารับการรักษาต้องได้รับยาทันที ซึ่งทราบว่ายาฟาวิพิราเวีย (Favipiravir) มีเหลืออยู่ในคลังถึง 2.9 ล้านเม็ด และมีแผนจัดหาในเดือนกรกฎาคมอีก 5 ล้านเม็ด ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายนอีก 3 ล้านเม็ด ซึ่งมีปริมาณมากพอ เหลือแต่เพียงการกระจายให้ผู้ป่วยอย่างทั่วถึง และที่น่าสนใจ คือการให้ยาสมุนไพร "ฟ้าทะลายโจร" ได้ทันทีเมื่อพบว่าติดเชื้อ

ซึ่งพบว่าสารแอนโดรกราโฟไลด์ในฟ้าทะลายโจร สามารถบรรเทาอาการและรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้ โดยร่างกายต้องได้รับสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมีการทดลองแล้วว่า เมื่อได้รับยาติดต่อกัน 5 วัน จะเกิดภาวะปอดอักเสบน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับยาฟ้าทะลายโจร ประกอบกับต้นทุนราคาถูกกว่า สามารถหาซื้อได้ง่าย จึงเหมาะสมเป็นอีกหนึ่งยาหลักที่ผู้ติดเชื้อควรได้รับทันที

นายมนต์ชีพ กล่าวว่า เพื่อชะลอการระบาดไม่ให้สถานการณ์ไปถึงจุดวิกฤต หากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันสูงถึง 5,000 ถึง 6,000 คนต่อไปเรื่อย ๆ สิ่งที่จะตามมาก็คือวิกฤตระบบสาธารณสุข บุคลากรและเครื่องมือทางการแพทย์ไม่เพียงพอ จำนวนผู้เสียชีวิตก็จะมากขึ้นตามลำดับ ดังนั้น พรรคกล้าจึงเห็นว่า การแก้ปัญหาที่ต้นทางเป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะการรักษาที่เร็วที่สุด คือการรักษาที่ดีที่สุด


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'Ericsson' บริษัทเทเลคอมยักษ์ใหญ่จากสวีเดน คว้าดีลเซ็นสัญญาการพัฒนาระบบ 5G ในประเทศมาเลเซียได้สำเร็จ

มาเลเซียเคาะเรียบร้อยสำหรับสัญญาการพัฒนาระบบ 5G ทั่วประเทศ และผู้ที่มาเซ็นดีลมูลค่ากว่า 2.65 พันล้านเหรียญกลับไม่ใช่อดีตเต็ง 1 อย่าง Huawei แต่เป็น Ericsson บริษัทเทเลคอมยักษ์ใหญ่จากสวีเดน ที่จะรับผิดชอบการวางระบบ 5G แบบ end-to-end ครบวงจร ตั้งแต่ การวางระบบพื้นฐาน ติดตั้งเสาสัญญาณ วางเครือข่ายไฟเบอร์ และระบบบริหารจัดการธุรกิจทั้งหมด เพื่อสนับสนุนบริษัทเทเลคอมในประเทศนานถึง 10 ปี

Digital Nasional Berhad (DNB) หน่วยงานผู้ดูแลสัญญา 5G ของรัฐบาลมาเลเซีย ได้อธิบายถึงภาพรวมโครงการ 5G ร่วมกับ Ericsson และเป้าหมายที่จะเกิดขึ้นกับเทคโนโลยีการเชื่อมโยงสื่อสารในมาเลเซียด้วยระบบใหม่นี้ แบ่งเป็น 2 ระดับ

ระดับแรก การพัฒนาระบบ 5G จะทำให้เกิดการยกระดับความรู้ในระบบนิเวศน์การสื่อสารที่ได้จากเทคโนโลยีของ Ericsson สู่ผู้ประกอบการด้านเทเลคอมในประเทศ ที่สามารถต่อยอด สร้างมูลค่าใหม่ ๆ ในภาคธุรกิจได้อย่างมากมายมหาศาล

ระดับที่สอง คือ พัฒนาศักยภาพในการครอบคลุมพื้นที่การใช้งานทั่วประเทศได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น และตั้งเป้าว่า ในพื้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ไซเบอร์จายา และ ปูตราจายา จะสามารถใช้ระบบ 5G ได้ภายในไม่เกินสิ้นปี 2021 นี้ และชาวมาเลเซียในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศกว่า 80% จะสามารถเข้าถึงระบบดิจิตอล 5G ได้ภายในปี 2024

การปาดเข้าวินของ Ericsson นับเป็นข่าวใหญ่ในแวดวง 5G ในย่านอาเซียน เนื่องจากก่อนหน้านี้ มาเลเซียเคยมีข่าวว่าจะให้สัมปทานวางระบบ 5G แก่ Huawei มาตั้งแต่สมัยอดีตนายกรัฐมนตรี มหาธีร์ มูฮัมหมัด และได้เซ็นสัญญากับบริษัท Maxis ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของมาเลเซียมาแล้ว

แต่จากกระแสกดดันอย่างหนักจากสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ไว้ใจระบบ 5G ในประเด็นด้านความมั่นคง และการจารกรรมข้อมูล ที่ทำให้หลายชาติจำเป็นต้องรื้อสัญญาวางระบบของ Huawei ใหม่รวมถึงสิงคโปร์ ที่เปลี่ยนใจไปเซ็นสัญญาพัฒนาระบบ 5G กับบริษัท Nokia และ Ericsson ไปแล้วเช่นกัน เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2020 ที่ผ่านมานี้เอง คาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ระบบ 5G ได้ถึง 50% ของเครือข่ายที่ใช้ในสิงคโปร์ทั้งหมดภายในปี 2022

ส่วนการพัฒนาระบบ 5G ในประเทศไทยก็ไม่ได้ช้ากว่าประเทศในย่านอาเซียนอื่น ๆ ที่ตอนนี้มีบริษัท Nokia เข้ามาวางระบบเครือข่าย 5G สำหรับองค์กร และมีสัญญาการติดตั้งอุปกรณ์ทั้งของ Ericsson และ Huawei ที่คาดว่าตลาดเครือข่าย 5G ในไทย น่าจะมีการแข่งขันสูง และน่าจับตามองมากเช่นกัน

 

 

อ้างอิง

https://www.thestar.com.my/business/business-news/2021/07/01/malaysia-picks-ericsson-for-rm11bil-project-to-deploy-5g-nationwide

http://focusmalaysia.my/singapore-telcos-pick-nokia-ericsson-over-huawei-to-build-main-5g-networks/

https://soyacincau.com/2020/06/25/singapore-5g-singtel-starhub-m1-pick-nokia-ericsson-tpg-huawei/

https://www.bangkokpost.com/tech/1987367/nokia-builds-on-5g-for-enterprise-use


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'สำนักงานตำรวจแห่งชาติ'​ ร่วม 'คณะกรรมการอาหารและยา'​ ทลายแหล่งยาลดความอ้วน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กว่า 50,000 แคปซูล

ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 556/2563ลง 29 ตุลาคม 2563 แต่งตั้งชุดคณะทำงานปราบปรามผลิตภัณฑ์และการบริการ ด้านสุขภาพที่ผิดกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ พลตำรวจโท เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อดำเนินการปราบปรามการ การกระทำผิดกฎหมายด้านผลิตภัณฑ์ การโฆษณา และการบริการสุขภาพอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ในทุกพื้นที่ เพื่อขจัดปัญหาที่เป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้​ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจโท เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจ แห่งชาติ/หัวหน้าคณะทำงาน พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค/เลขานุการ,​ พันตำรวจเอก ทรงโปรด สิริสุขะ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3/หัวหน้าส่วนปฏิบัติการฯ,​ พันตำรวจเอก ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รองผู้บังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา​ กระทรวงสาธารณสุขได้รับเรื่องร้องเรียนการขายยาลดน้ำหนัก ทางสื่อสังคมออนไลน์ 

โดยผู้ร้องเรียนแจ้งว่ายาลดน้ำหนักขายกันเกลื่อน การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากมีผู้บริโภคเข้ามาร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค จึงสั่งการให้ พันตำรวจโท เอกรัตน์ ทัศเจริญ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี /รองหัวหน้าส่วนปฏิบัติการฯ พันตำรวจตรีอนันต์ บัวแก้ว สารวัตร กองกำกับการ1กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกียวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร้อยตำรวจณฐนน อิ่มกลาง รองสารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และร้อยตำรวจเอก วรัณธรณ์ ภิราษร รองสารวัตรกองกำกับการ กองบังคับการ 1​ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมเจ้าหน้าที่ ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายค้นจากศาล 

จนเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำโดย นางสาวปาวีณา ศิริดำรงค์ เภสัชกรชำนาญการพิเศษ และนายเสริมรัฐ ไชยคุณ เภสัชกรชำนาญการ ได้ร่วมกันนำหมายค้นจากศาลจังหวัดชลบุรี ที่ ค.132/2564 ลง 1 กรกฎาคม 2564 เพื่อทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 50/2 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านเก่า อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี พบ นางสาวเอ (นามสมมุติ เป็นผู้พักอาศัยบ้านหลังดังกล่าวและเป็นผู้นำตรวจค้น

ผลการตรวจค้น ตรวจยึด... 
1.​ ยาแผนปัจจุบันเป็นจำนวนกว่า 50,000 แคปซูล
2.​ วิตามิน B จำนวนกว่า 1,000 แคปซูล
3.​ ยาชุด สำหรับลดความอ้วน จำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องตัน สงสัยว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2510 มาตรา 12 ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 101 จำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท และ ขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา อันเป็นความผิดตาม มาตรา 32(4) ฝ่าฝืนโทษตาม มาตรา 122 จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากความห่วงใยมายังผู้บริโภค อย่าหลงเชื่อผู้โฆษณาการขายยาลดน้ำหนักผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อาจจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ซึ่งตามหลักกฎหมายแล้ว ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นการขายยานอกสถานที่ ที่ได้รับอนุญาต ยกเว้น ยาสามัญประจำบ้านที่สามารถขายได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต จึงขอประชาสัมพันธ์ และ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน​ หากพบเห็นหรือมีเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้ง ข้อมูลหรือเบาะแสได้ทางสายด่วน 1135, ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ บก.ปคบ., เพจเฟซบุ๊ก​ 'กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค'​ และ​ www.cppd.go.th หรือ สแกน QR CODE


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top