Wednesday, 14 May 2025
ค้นหา พบ 48079 ที่เกี่ยวข้อง

“Blood Challenge” ได้เวลากลับมาช่วยเพื่อน บริจาคโลหิต ฝ่าวิกฤติ COVID-19 ส่งต่อบุญผ่านสื่อสังคมออนไลน์กับแนวคิดการนำกระแส Challenge เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เกิดการบริจาคโลหิตเพิ่มขึ้น

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เชิญชวนร่วมส่งต่อบุญผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กับโครงการ Blood Challenge สร้างกระแสการบริจาคโลหิต ผ่าน Facebook, Instagram, Twitter และ TikTok เพียงโพสต์ภาพและข้อความพร้อมติด #BloodChallenge และ Tag ชวนครอบครัว เพื่อน หรือคนรู้จัก ร่วมแคมเปญอีก 3 คน ตั้งค่าเป็นสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 สร้างความวิตกกังวลต่อผู้บริจาคโลหิตเป็นอย่างมาก ทำให้ภาพรวมการบริจาคโลหิตมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง มีโลหิตสำรองไม่ถึง 3,000 ยูนิตต่อวัน ตามมาตรฐานงานบริการโลหิต ส่งผลให้โรงพยาบาลทั่วประเทศขาดแคลนโลหิต เสี่ยงต่อการเลื่อนการผ่าตัด เลื่อนการรักษา โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องได้รับเลือดเป็นประจำสม่ำเสมอ

จึงมีแนวคิดในการนำกระแส Challenge มาประชาสัมพันธ์ให้เกิดการบริจาคโลหิตเพิ่มขึ้น โดยขอเชิญชวนผู้บริจาคโลหิตและประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในกิจกรรม 2 รูปแบบ ดังนี้

1. ผู้บริจาคโลหิต ถ่ายภาพถือป้ายรณรงค์ เขียนข้อความเชิญชวนสั้น ๆ โพสต์ลง Social Media อาทิ Facebook, Instagram, Twitter, TikTok พร้อมทั้ง Challenge และ Tag ต่อไปยังครอบครัว เพื่อน คนรู้จัก ให้มาบริจาคโลหิตต่ออีก 3 คน และติด #BloodChallenge ตั้งค่าเป็นสาธารณะ

2. ผู้ที่ไม่สามารถบริจาคโลหิตได้ สามารถร่วมกิจกรรมเชิญชวนบริจาคโลหิต และประชาสัมพันธ์โครงการฯ โดยเขียนข้อความเชิญชวนสั้นๆ และโพสต์ลง Social Media พร้อมทั้ง Challenge และ Tag ต่อไปยังครอบครัว เพื่อน หรือคนรู้จัก ให้มาบริจาคโลหิตต่ออีก 3 คน และติด #BloodChallenge ตั้งค่าเป็นสาธารณะ

เพียงเท่านี้ คุณก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ด้วยการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอทุก 3 เดือน เพื่อให้มีโลหิตสำรองเพียงพอจ่ายให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ลดภาวะการขาดแคลนโลหิตในสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ได้

 

"นทพ. สาธารณสุข" เตรียมขยายเตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ใน รพ.สนามบุษราคัม เปิด Challenger 2 เพิ่มอีก 1,500 เตียง

พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) ได้สั่งการให้สำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สสน.นทพ.) จัดกำลังพลสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการเตรียมขยายเตียงเพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ให้กับ รพ.สนามบุษราคัม อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมกับประสานขอกำลังพลจากศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.), ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล (ศตก.), สำนักกองบัญชาการกองทัพไทย (สน.บก.บก.ทท.), โรงเรียนช่างฝีมือทหาร (รร. ชท.สปท.), หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.), กรมป่าไม้ และจิตอาสา 904 รวม 600 คน เข้าดำเนินการประกอบเตียงกระดาษสำหรับใช้ในการขยายเตียงรองรับผู้ป่วยที่จะเข้ามารับการดูแลรักษา โดยเพิ่มเตียงในพื้นที่อาคาร Challenger 2 จำนวน 1,500 เตียง เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว โดยมี พล.ต.ธนินทร์ พู่ทองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นผู้แทน ผบ.นทพ. อำนวยการและกำกับดูแลในการปฏิบัติ

นทพ. จะอยู่เคียงข้างประชาชนและใช้ศักยภาพที่มีในการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ตามเจตนารมย์ของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ผบ.ทสส./หน.ศปม.)

คุยมันส์ๆ กับแชมป์บิ๊กไบค์ | คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.54

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe 

.

.

.


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

คุณป้อง จิรพัชร พูลสุวรรณ | THE STUDY TIMES STORY EP.55

บทสัมภาษณ์ คุณป้อง จิรพัชร พูลสุวรรณ ปริญญาโท Public Policy, University of Bristol, สหราชอาณาจักร
เรียนในสิ่งที่ชอบ ทำในสิ่งที่รัก ย่อมประสบความสำเร็จ

คุณป้องผู้ที่มีความสนใจในด้านรัฐศาสตร์ และได้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ตอนนี้ทำงานในบริษัท food delivery ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ เป็นหน้าด่านของบริษัทในการติดต่อกับภาครัฐ ประสานไปยังทีมที่เกี่ยวข้อง

ย้อนกลับไปในช่วงระดับปริญญาตรี คุณป้องเลือกเรียนในคณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุดเริ่มต้นมาจากตัวเลือกที่ขัดแย้งระหว่างแพทย์และสังคมศาสตร์ โดยตัวคุณป้องเองจะเปรียบเทียบกันระหว่างความคาดหวัง และความชื่นชอบ สุดท้ายเลือกความชอบในด้านที่เกี่ยวข้องกับสังคม 

การเรียนสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือการทูต ต้องเรียนความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งเศรษฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเชิงภูมิภาค ต้องดูองค์ประกอบความสัมพันธ์ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม

หลังจากนั้นคุณป้องเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาโท ในสาขานโยบายสาธารณะ หรือ Public Policy ที่ University of Bristol สหราชอาณาจักร ประสบการณ์การเรียนในต่างประเทศ ในพาร์ทของการใช้ชีวิต คุณป้องเล่าว่า การเรียนหนังสือจะแตกต่างกับที่ประเทศไทยมาก ประเทศไทยคือการเรียนตามตำรา เน้นทฤษฎีเยอะ ขณะที่บรรยากาศห้องเรียนที่ต่างประเทศ เน้นการคิดวิเคราะห์ ออกความคิดเห็น แชร์ประสบการณ์ การเรียนปริญญาโทมีคนจากหลากหลายเชื้อชาติ ข้อดีคือการแสดงความแตกต่างทางความคิด ทำให้เกิดความน่าสนใจ

การใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ เพราะคุณป้องมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษในวัยเด็ก ทำให้เกิดความเคยชิน แต่เมื่อโตขึ้น ไม่มีผู้ปกครอง ก็จะมีความอิสระ ทำให้เราต้องเป็นคนกำหนดตัวเอง และการใช้ชีวิตร่วมกันกับคนอื่นๆ ทำให้ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพื่อปรับตัว 

คุณป้องเล่าว่า ตัวเองนั้นได้รับรู้หลายอย่างจากการเรียนที่อังกฤษ หนึ่งทักษะคือ การทำอาหารรับประทานเอง เพราะต้องพึ่งพาตัวเอง ทำให้เป็นทักษะที่ชื่นชอบมากที่สุด มีการแบ่งปันอาหารรับประทานกับเพื่อนๆ ทำให้ได้สังคม ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน

นอกจากนี้ระหว่างเรียน คุณป้องได้เข้าร่วมกิจกรรมหลายอย่าง อาทิ ตอนอยู่มหาวิทยาลัยที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมวงดนตรีออร์เคสตรา เพราะชื่นชอบในการเล่นดนตรีคลาสสิค กิจกรรมทำความรู้จักรุ่นพี่ กิจกรรมจัดค่ายแนะนำคณะให้น้องมัธยม ส่วนกิจกรรมขณะอยู่ประเทศอังกฤษ จะเป็นเข้าวงสังคม ไปสังสรรค์กับเพื่อนในสาขา เข้าร่วมกิจกรรมในสมาคมคนไทยที่อยู่ในประเทศอังกฤษ 

ประสบการณ์การทำงาน ในช่วงที่เรียนจบปริญญาตรี คุณป้องเข้าทำงานในตำแหน่ง นักวิเทศสัมพันธ์ ที่องค์กรซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงยุติธรรม มีโอกาสลงพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับงานวิจัย หลังจากนั้นได้มีโอกาสเปลี่ยนงานไปทำกระทรวงการต่างประเทศ เป็นพนักงานแอดมิน ดูแลจัดการประชุม หลังจากเรียนจบระดับปริญญาโท คุณป้องได้เข้าทำงานในบริษัทที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวข้องกับรัฐกิจสัมพันธ์และนโยบายสาธารณะ ให้คำปรึกษากับบริษัทต่างชาติที่ติดต่อเข้ามายังประเทศไทย เปิดประสบการณ์การทำงานอีกรูปแบบหนึ่ง จากนั้นเข้ามาทำงานอยู่ในบริษัทปัจจุบัน ตำแหน่งเกี่ยวกับรัฐกิจสัมพันธ์ สร้างความสัมพันธ์กับภาครัฐในรูปแบบต่างๆ 

สิ่งที่ได้จากการทำงานคือ มีโอกาสรู้จักผู้คนและการทำงานที่หลากหลายรูปแบบ ได้ฝึกการคิด การเข้าหาคน การปรับตัวเข้าสังคม สิ่งเหล่านี้ช่วยหล่อหลอมให้คุณป้องสามารถทำงานและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนได้

คุณป้องฝากทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าชอบหรือรักอะไร อย่าให้มีอะไรมากั้น ถ้าเราชอบอะไรสักอย่าง เรามีโอกาสประสบความสำเร็จได้อยู่แล้ว
.

.

.

.

ชลบุรี - "เมืองพัทยาพร้อม" รับจองฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 3 วัน ประชาชนทั้งในเขตและผู้อยู่อาศัย แห่ลงทะเบียนแล้ว 41,568 คน

ตามที่เมืองพัทยา ได้ดำเนินการตามแนวทางจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชน โดยมีเป้าหมายครอบคลุมร้อยละ 70 ของพื้นที่ สร้างระบบภูมิคุ้มหมู่ สอดคล้องกับนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดย นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้สั่งซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มจำนวน 1 แสนโดส สำหรับประชาชนในเขตเมืองพัทยา 5 หมื่นคน

ทั้งนี้ ได้เปิดให้บริการเพิ่มช่องทางการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ด้วยการดำเนินการ "โครงการเมืองพัทยาพร้อม" โดยเปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ทั้งแบบระบบออนไลน์ Google from "เมืองพัทยาพร้อม" และ 8 จุดบริการรับลงทะเบียนทั่วเมืองพัทยา โดยเปิดให้ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.ถึง 2 ก.ค.64

มีรายงานข้อมูลจาก ศูนย์ประสานงานนายกเมืองพัทยาว่า หลังจากเปิดรับลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน "เมืองพัทยาพร้อม" ได้ 3 วัน พบว่ามีประชาชนทั้งในเขตและผู้อยู่อาศัย ทยอยลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ และผ่านจุดบริการรับลงทะเบียนกันอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงเวลาเปิดรับลงทะเบียน ตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น.

โดยล่าสุด มีประชาชนลงทะเบียนแล้วรวม 41,568 คน แบ่งเป็นประชาชนในเขตเมืองพัทยา ที่ลงทะเบียนแล้วรวมทั้งหมด 19,217 คน และมีประชาชนผู้อยู่อาศัยลงทะเบียนแล้วรวม 22,351 คน


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top