Wednesday, 14 May 2025
ค้นหา พบ 48079 ที่เกี่ยวข้อง

“ธรรมนัส” ย้ำ ความขัดแย้ง “วิรัช-ปารีณา” เรื่องส่วนตัวจ่อถก “บิ๊กป้อม” หาทางสงบศึก โว นำพปชร. เจาะอีสานได้ หวังชนะใจคนรากหญ้า พร้อมชี้ ส.ส.ทำสภาล่ม ไม่ใช่แท็กติกอย่างที่ “วิรัช” บอก ยัน ไม่มีคาดโทษ เชื่อไม่มีใครคิดโดดสภา

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. ว่า มันเป็นเรื่องส่วนตัว โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. พยายามให้ตนเคลียร์ทั้งสองฝ่าย และตนพยายามจะคุยกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องแยกคุยเป็นรายคนไปก่อน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ น.ส.ปารีณา ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่ถูกนายวิรัชดีดออกจากกลุ่มไลน์พรรค เหมาะสมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบละเอียด โดยจะหารือกับหัวหน้าพรรคในวันเดียวกันนี้ (2 ก.ค.) ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อถามว่า จะเรียกนายวิรัช และ น.ส.ปารีณา คุยเมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ท้ายที่สุดแล้วจะต้องให้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้นั่งคุย เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวน่าจะคุยกันได้ ไม่มีปัญหา ต่อข้อถามว่า แต่เรื่องส่วนตัวมันกระทบกับพรรคด้วย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สิ่งที่ตนพยายามเน้นย้ำมาตลอดคือ ตนและหัวหน้าพรรคต้องการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพรรค พปชร. ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีปัญหาลักษณะนี้ในพรรค แต่มันไม่มีปัญหาแล้วเมื่อเราหันหน้าคุยกัน ส่วนกรณีของนายวิรัชและ น.ส.ปารีณาเป็นเรื่องส่วนตัว เดี๋ยวจะได้คุยกัน

เมื่อถามว่า จะสามารถเคลียร์ได้หรือไม่ เพราะ น.ส.ปารีณาเป็นตัวของตัวเองสูง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วทุกคนสามารถหันหน้าคุยกันได้ เมื่อถามว่า เรื่องการฟ้องร้องของทั้งสองคน จะสามารถเคลียร์ได้หรือไม่เพื่อไม่ให้คนในพรรคฟ้องร้องกันเอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เดี๋ยวขอหารือกับหัวหน้าพรรคก่อน 

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการวางยุทธศาสตร์พรรค พปชร. เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง ว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคมาได้เรียกแต่ละฝ่ายมาคุยอยู่แล้ว โดยยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดคือ เราจะนำนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ไปสู่ภาคปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และคิดเรื่องใหม่สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเรามีทีมต่าง  ไม่ว่าจะเป็นทีมด้านการศึกษา กีฬา เศรษฐกิจ และการเมือง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะเลขาธิการพรรค มั่นใจหรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชนะเลือกตั้งจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน อย่างการเลือกตั้งเมื่อปี 62 เราได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต 101 เขต และมี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออีก 20 คน โดยมี ส.ส.อยู่ในมือ 121 คน ฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าเราต้องได้มากกว่านี้ 

เมื่อถามว่า ส่วนตัวเป็นห่วงภาคไหนเป็นพิเศษหรือไม่ โดยเฉพาะภาคอีสานจะเจาะได้หรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ยังชื่นชม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่มาตลอดเกือบ 3 ปี มีความมั่นใจว่าตนชนะใจคนรากหญ้าได้ และมั่นใจว่าจะเจาะภาคอีสานได้ สังเกตจากการเลือกตั้งซ่อมหลาย ๆ ครั้งเราก็ได้เข้ามาหมด เมื่อถามว่า สำหรับพื้นที่ภาคใต้จะกวาดได้สักประมาณกี่ที่นั่ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะทำให้ดีที่สุด ตอนนี้เรามี ส.ส. 14 คน จะทำให้ได้มากที่สุด 

เมื่อถามว่า ที่เคยระบุว่าจะทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองจะทำได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทำได้ และต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อถามว่า การเดินหน้าขณะที่ในพรรคยังมีปัญหาอยู่ จะทำให้สะดุดหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปัญหาที่เห็นเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า ไม่เกี่ยวกับนโยบายของพรรค หรือไม่ใช่เรื่องของผู้บริหารพรรคทะเลาะกัน

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.พรรค พปชร. ไม่เข้าร่วมประชุมหลายคนจนทำให้สภาล่ม ว่า ความจริงถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของโควิด-19 ที่ในสภามีผู้ติดเชื้อ จึงทำให้ ส.ส.หลายคนเป็นห่วง โดยเฉพาะหลายคนเดินทางกลับต่างจังหวัด บางจังหวัดมีเครื่องบินไฟต์เดียวไม่สามารถเดินทางกลับมาร่วมประชุมได้ทัน ที่ผ่านมาพยายามขอร้องกันอยู่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงปัญหาครั้งนี้เกิดจากการเดินทางมาไม่ทันของ ส.ส. หรือเป็นเรื่องของแท็กติกทางกฎหมายอย่างที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาลบอกกันแน่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแท็กติก ตนพยายามประสานกับ ส.ส.ให้มาประชุม หลายคนกลับมาทัน แต่ส่วนใหญ่มาไม่ทัน เพราะ ส.ส.อยู่ไกล 

เมื่อถามว่า มันจะย้อนแย้งหรือไม่ เพราะจากข้อมูลมีจำนวนสมาชิกมากพอจนสามารถเปิดประชุมสภาได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่างที่เห็นว่ามันไม่ครบองค์ประชุม หลายคนพยายามเดินทางมา แต่มาไม่ทัน ทั้งนี้ โดยจิตสำนึกของคนเป็น ส.ส.ของประชาชน ไม่มีใครที่คิดอยากจะโดดประชุมสภาหรอก 

เมื่อถามว่า แบบนี้ถือการทำหน้าที่ของประธานวิปรัฐบาลบกพร่องหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ เพราะนายวิรัชทำหน้าที่ได้ดีมาโดยตลอด และไม่เกี่ยวกับข่าวที่ออกมาว่ากฎหมายฉบับนี้ยังไม่เคลียร์ยังตกลงกันไม่ได้ แต่น่าจะเป็นเรื่องของโควิด-19 มากกว่า เมื่อถามว่า จะมีการคาดโทษ ส.ส.ในพรรคหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ เพราะเรื่องนี้เราเข้าใจกัน ต่อข้อถามว่า แสดงว่าขึ้นอยู่กับจิตสำนึก ส.ส.ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าส่วนใหญ่เขาพยายามมาให้ทัน อย่างเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ก็มาครบหมด 

เมื่อถามว่า ต้องถึงขั้นให้ ส.ส.แสตนบายด์อยู่ใน กทม.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปกติทุกวันอังคารจะมีการประชุมพรรคกัน แต่ครั้งนี้ไม่มีประชุมเลยทำให้เกิดปัญหา

ศรชล.และหน่วยงานประมง ร่วมส่งกำลังพล สห.ทร.และ สอ.รฝ. หลังจบภารกิจ ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบกสู่แรงงานภาคประมงในทะเล

เมื่อ 1 ก.ค.64 ศรชล.จว. สมุทรสาคร โดย น.อ. เอกภาพ สายโสภา รองผอ.ศรชล.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย น.อ.สุรศักดิ์ กิ่มบางยาง หน.ศคท.จว.สมุทรสาคร กำลังพลในสังกัด ศรชล จว.สมุทรสาคร/ศคท.จว.สมุทรสาคร นายสนธยา บุญสุข ผอ.ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 5 จว.สมุทรสาคร ผู้แทนสมาคมการประมง จว.สมุทรสาคร  ผู้แทนองค์การสะพานปลา จว.สมุทรสาคร

ร่วมส่งกำลังพล สารวัตรทหารเรือ (สห.ทร.) และ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) กองทัพเรือ จำนวน 20 นาย ที่เสร็จสิ้นการปฎิบัติภารกิจ ตั้งจุดสกัดคัดกรองทางน้ำ และภารกิจควบคุมท่าเรือประมงพาณิชย์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบกสู่แรงงานภาคประมงทะเลในพื้นที่ จว.สมุทรสาคร ระหว่างวันที่  25 ธ.ค.63 - 30 มิ.ย.64 ตามคำสั่ง กองทัพเรือ/ศรชล. และ คำสั่ง จว.สมุทรสาคร

และในโอกาสนี้ น.อ.เอกภาพ สายโสภา รอง ผอ.ศรชล.จว.สมุทร สาคร ได้กล่าวให้โอวาทและกล่าวขอบคุณ กำลังพลทุกนายในนามของ กองทัพเรือ/ศรชล.และ ในนามของ จว.สมุทรสาคร สมาคมการประมง จว.สมุทรสาคร และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคประมงทะเลสมุทรสาคร และได้ร่วมมอบของที่ระลึกที่ได้รับมอบจาก สมาคมการประมง จว.สมุทรสาคร (ผลิต ภัณฑ์อาหารทะเลตากแห้ง) ส่งมอบให้กับกำลังพล สห.ทร.และ สอ.รฝ. ทุกนาย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นที่ระลึก ก่อนเดินทางกลับที่ตั้งปกติ อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี โดยสวัสดิภาพ ณ ท่าเทียบเรือ องค์การสะพานปลา จว.สมุทรสาคร อ.เมืองสมุทร สาคร จว.สมุทรสาคร

ภายหลังพิธีส่งกำลังพล สารวัตรทหารเรือและ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ แล้วกำลังพลทั้งหมดได้เดินทางไป ที่ วัดศรีสุทธาราม (วัดกำพร้า) และวัดโกรกกราก เพื่อถวายปัจจัย ตู้ทำน้ำเย็นและอุปกรณ์ทำความสะอาด ถวายแด่ เจ้าอาวาสที่มีเมตตาในการจัดหาที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกและจัดเตรียมสถานที่ ในการปฎิบัติงานตั้งจุดสกัดคัดกรองทางน้ำ ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย


ภาพ/ข่าว  ศรชล.ภาค 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

นัดถกวิป 4 ฝ่าย 6 ก.ค.นี้ ทบทวนเดินหน้าประชุมสภาฯ ต่อหรือไม่ หากจำเป็นต้องเดินหน้าต่อ ต้องมีความปลอดภัยจากโควิด หวั่นรัฐสภากลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ขณะที่ ส.ว.นัดประชุมจันทร์ที่ 5 ก.ค.วันเดียว เร่งพิจารณากฎหมายต่อจาก ส.ส.

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวายงานว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง นัดประชุมวิป 4 ฝ่าย ในวันที่ 6 ก.ค. เวลา 10.00 น. ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล วุฒิสภา และตัวแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อหารือและตัดสินใจว่าจะเดินหน้าประชุมสภาฯต่อหรือไม่ ทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพื่อไม่ให้รัฐสภากลายเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และหากยังจำเป็นต้องดำเนินการประชุมก็จะต้องมีความปลอดภัย

ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้ตรวจเช็คความพร้อมของห้องประชุมพระจันทรา (ห้องประชุม ส.ว.) เพื่อเตรียมพร้อมการประชุมวุฒิสภาในวันที่ 5 ก.ค.นี้เพียงวันเดียว เนื่องจากมีร่างกฎหมายที่จะต้องพิจารณาหลังสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแล้ว เช่น  ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจร ,ประมวลรัษฎากร และร่างพ.ร.บ.หอการค้า ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงินที่วุฒิสภาจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์หน้า ที่ประชุมยังค้างการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติด่วนที่ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาฯพิจารณาหามาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาและผลกระทบจาการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจากการบริหารจัดการของ ศบค. รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ อย่างเร่งด่วน ซึ่งเบื้องต้นยังจะต้องรอการพิจารณาจากการประชุมวิป 4 ฝ่ายก่อน ว่าจะเดินหน้าการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อระดมข้อเสนอแนะจาก ส.ส. เพื่อเสนอแนวทางต่อรัฐบาลต่อหรือไม่

นอกจากนั้น สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังได้ชี้แจงกรณีที่มี ส.ส.ตั้งข้อสังเกต ที่รัฐสภายังปล่อยให้แรงงานก่อสร้างต่างชาติ เข้าพื้นที่ทำงานภายในรัฐสภา ทั้งที่มีคำสั่งห้ามจาก ศบค. ว่าปัจจุบันบริษัทผู้รับจ้างในสัญญาต่าง ๆ ได้หยุดการก่อสร้างแล้วทั้งหมด แต่ยังมีส่วนของบริษัทคู่สัญญา ที่ต้องเข้ามาดำเนินการบำรุงรักษาตามสัญญา ทั้งงานปรับปรุงภูมิทัศน์ งานระบบสาธารณูปโภค แอร์ ลิฟท์ ไฟฟ้า และประปา ซึ่งเป็นแรงงานที่มีสัญชาติไทย ไม่ได้อาศัยในแคมป์คนงาน ซึ่งทางสภาฯ มีข้อกำหนดเพื่อป้องกันกาแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มข้น

รมว.แรงงาน ชื่นชม เชิดชูเกียรติ 1,306 สถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2564

รมว.แรงงาน ชื่นชม เชิดชูเกียรติ 1,306 สถานประกอบกิจการ ที่มีระบบบริหารจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานที่ดี ฟันฝ่าอุปสรรควิกฤตโควิด-19 ทำให้สถานประกอบกิจการดำเนินกิจการอยู่ได้ จนได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2564 ตามที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประกาศ

นายสุชาติ  ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้มอบให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดโครงการส่งเสริมสถานประกอบกิจการให้มีระบบบริหารจัดการที่ดีด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2564 ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในการลดปัญหาความขัดแย้งด้านแรงงานที่อาจเกิดขึ้น โดยสนับสนุนให้นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานในสถานประกอบกิจการ ซึ่งส่งผลให้ลูกจ้างมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคงและมีความสุขในการทำงาน นายจ้างได้ผลผลิตสูงสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนในและต่างประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยในปี 2564 มีการประเมินในเรื่องของความร่วมมือกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง

โดยใช้กลไกของสหภาพแรงงานหรือคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานในสถานประกอบกิจการมาดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วย จึงขอชื่นชมและขอยกย่องเชิดชูเกียรติสถานประกอบกิจการที่ผ่านการพิจารณาตัดสินได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2564 ทั้ง 1,306 แห่ง

นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ มีสถานประกอบกิจการทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 1,339 แห่ง และผ่านเกณฑ์การพิจารณาได้รับรางวัล จำนวน 1,306 แห่ง โดยแบ่งเป็นประเภทรางวัลเกียรติยศสูงสุด 15-19 ปีติดต่อกัน จำนวน 101 แห่ง รางวัลเกียรติยศ 10-14 ปีติดต่อกัน จำนวน 203 แห่ง รางวัลเชิดชูเกียรติ 5-9 ปีติดต่อกัน จำนวน 431 แห่ง รางวัลระดับประเทศ 1-4 ปี จำนวน 530 แห่ง และรางวัลระดับจังหวัด จำนวน 41 แห่ง ซึ่งสถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินได้รับรางวัลในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะเข้ารับรางวัลในงาน Thailand Labour Management Excellence Award 2021 ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายน 2564 สำหรับสถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินได้รับรางวัลในส่วนภูมิภาค กรมจะจัดส่งโล่รางวัลและเกียรติบัตรให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด มอบให้กับสถานประกอบกิจการต่อไป ทั้งนี้สามารถดาวน์โหลดประกาศผลรางวัลฯ ได้ที่ https://www.labour.go.th หรือ http://relation.labour.go.th

พล.อ.ประวิตร เร่งช่วยเหลือ ผู้ยากไร้/เกษตรกร ติดตามผลแก้ปัญหา ที่ดินทำกิน/แหล่งน้ำ/หนี้สิน SET ZERO เช่าซื้อที่ดินเป็นเช่า ลดความเดือดร้อน มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ ย้ำไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหา ของสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) และสภาประชาชน 4 ภาค ครั้งที่ 1/2564 โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กษ. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุม ได้รับทราบความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดิน และป่าไม้ กรณีการจัดหาที่ดิน เพื่อนำมาจัดสรรให้กับสมาชิกเครือข่ายฯ ซึ่งมีความคืบหน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่ ว่ามีพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม หรือที่สาธารณะที่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ เพื่อพิจารณาจัดหาที่ดินแปลงใหม่ให้กับสมาชิกฯ ที่ยังไม่มีที่ทำกิน และรับทราบการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร

กรณีข้อเรียกร้องขอให้ชะลอการดำเนินคดี ซึ่งสถาบันเจ้าหนี้ได้ให้ความช่วยเหลือในระดับหนึ่งแล้ว ตามมาตรการของรัฐที่มีอยู่ รวมทั้งได้รับทราบ การส่งเสริมและฟื้นฟูอาชีพภาคเกษตร ซึ่งกลุ่มเกษตรกร ภาคเครือข่ายฯ ได้เสนอโครงการฟื้นฟูอาชีพตามหลัก เกษตรทฤษฎีใหม่โดยผสมผสานหลักเศรษฐกิจพอเพียง

จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ เรื่องสำคัญ ได้แก่การแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำตามข้อเสนอของ สมาชิกสภาเครือข่ายฯ ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เนื้อที่ 15,092ไร่ ในพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ลพบุรี,จ.นครราชสีมา และ จ.เพชรบุรี จำนวน 9 โครงการ วงเงิน 75,118,141 บาท

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ ต่อการแก้ไขปัญหา ความยากจน และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จากปัญหาที่ดินทำกิน, หนี้สิน, แหล่งน้ำ และการส่งเสริมฟื้นฟูอาชีพ มาอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่า จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเป็นอันขาด พร้อมทั้ง ได้กำชับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐ ต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้ และพี่น้องเกษตรกรอย่างจริงจังโดยเร็ว ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน พร้อมต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top