“ธรรมนัส” ย้ำ ความขัดแย้ง “วิรัช-ปารีณา” เรื่องส่วนตัวจ่อถก “บิ๊กป้อม” หาทางสงบศึก โว นำพปชร. เจาะอีสานได้ หวังชนะใจคนรากหญ้า พร้อมชี้ ส.ส.ทำสภาล่ม ไม่ใช่แท็กติกอย่างที่ “วิรัช” บอก ยัน ไม่มีคาดโทษ เชื่อไม่มีใครคิดโดดสภา

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. ว่า มันเป็นเรื่องส่วนตัว โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. พยายามให้ตนเคลียร์ทั้งสองฝ่าย และตนพยายามจะคุยกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งต้องแยกคุยเป็นรายคนไปก่อน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ น.ส.ปารีณา ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่ถูกนายวิรัชดีดออกจากกลุ่มไลน์พรรค เหมาะสมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบละเอียด โดยจะหารือกับหัวหน้าพรรคในวันเดียวกันนี้ (2 ก.ค.) ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เมื่อถามว่า จะเรียกนายวิรัช และ น.ส.ปารีณา คุยเมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ท้ายที่สุดแล้วจะต้องให้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้นั่งคุย เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวน่าจะคุยกันได้ ไม่มีปัญหา ต่อข้อถามว่า แต่เรื่องส่วนตัวมันกระทบกับพรรคด้วย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สิ่งที่ตนพยายามเน้นย้ำมาตลอดคือ ตนและหัวหน้าพรรคต้องการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพรรค พปชร. ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีปัญหาลักษณะนี้ในพรรค แต่มันไม่มีปัญหาแล้วเมื่อเราหันหน้าคุยกัน ส่วนกรณีของนายวิรัชและ น.ส.ปารีณาเป็นเรื่องส่วนตัว เดี๋ยวจะได้คุยกัน

เมื่อถามว่า จะสามารถเคลียร์ได้หรือไม่ เพราะ น.ส.ปารีณาเป็นตัวของตัวเองสูง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วทุกคนสามารถหันหน้าคุยกันได้ เมื่อถามว่า เรื่องการฟ้องร้องของทั้งสองคน จะสามารถเคลียร์ได้หรือไม่เพื่อไม่ให้คนในพรรคฟ้องร้องกันเอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เดี๋ยวขอหารือกับหัวหน้าพรรคก่อน 

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการวางยุทธศาสตร์พรรค พปชร. เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง ว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคมาได้เรียกแต่ละฝ่ายมาคุยอยู่แล้ว โดยยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดคือ เราจะนำนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ไปสู่ภาคปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และคิดเรื่องใหม่สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเรามีทีมต่าง  ไม่ว่าจะเป็นทีมด้านการศึกษา กีฬา เศรษฐกิจ และการเมือง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะเลขาธิการพรรค มั่นใจหรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชนะเลือกตั้งจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน อย่างการเลือกตั้งเมื่อปี 62 เราได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต 101 เขต และมี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออีก 20 คน โดยมี ส.ส.อยู่ในมือ 121 คน ฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าเราต้องได้มากกว่านี้ 

เมื่อถามว่า ส่วนตัวเป็นห่วงภาคไหนเป็นพิเศษหรือไม่ โดยเฉพาะภาคอีสานจะเจาะได้หรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ยังชื่นชม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่มาตลอดเกือบ 3 ปี มีความมั่นใจว่าตนชนะใจคนรากหญ้าได้ และมั่นใจว่าจะเจาะภาคอีสานได้ สังเกตจากการเลือกตั้งซ่อมหลาย ๆ ครั้งเราก็ได้เข้ามาหมด เมื่อถามว่า สำหรับพื้นที่ภาคใต้จะกวาดได้สักประมาณกี่ที่นั่ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะทำให้ดีที่สุด ตอนนี้เรามี ส.ส. 14 คน จะทำให้ได้มากที่สุด 

เมื่อถามว่า ที่เคยระบุว่าจะทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองจะทำได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทำได้ และต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อถามว่า การเดินหน้าขณะที่ในพรรคยังมีปัญหาอยู่ จะทำให้สะดุดหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปัญหาที่เห็นเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า ไม่เกี่ยวกับนโยบายของพรรค หรือไม่ใช่เรื่องของผู้บริหารพรรคทะเลาะกัน

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.พรรค พปชร. ไม่เข้าร่วมประชุมหลายคนจนทำให้สภาล่ม ว่า ความจริงถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของโควิด-19 ที่ในสภามีผู้ติดเชื้อ จึงทำให้ ส.ส.หลายคนเป็นห่วง โดยเฉพาะหลายคนเดินทางกลับต่างจังหวัด บางจังหวัดมีเครื่องบินไฟต์เดียวไม่สามารถเดินทางกลับมาร่วมประชุมได้ทัน ที่ผ่านมาพยายามขอร้องกันอยู่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงปัญหาครั้งนี้เกิดจากการเดินทางมาไม่ทันของ ส.ส. หรือเป็นเรื่องของแท็กติกทางกฎหมายอย่างที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาลบอกกันแน่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแท็กติก ตนพยายามประสานกับ ส.ส.ให้มาประชุม หลายคนกลับมาทัน แต่ส่วนใหญ่มาไม่ทัน เพราะ ส.ส.อยู่ไกล 

เมื่อถามว่า มันจะย้อนแย้งหรือไม่ เพราะจากข้อมูลมีจำนวนสมาชิกมากพอจนสามารถเปิดประชุมสภาได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่างที่เห็นว่ามันไม่ครบองค์ประชุม หลายคนพยายามเดินทางมา แต่มาไม่ทัน ทั้งนี้ โดยจิตสำนึกของคนเป็น ส.ส.ของประชาชน ไม่มีใครที่คิดอยากจะโดดประชุมสภาหรอก 

เมื่อถามว่า แบบนี้ถือการทำหน้าที่ของประธานวิปรัฐบาลบกพร่องหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ เพราะนายวิรัชทำหน้าที่ได้ดีมาโดยตลอด และไม่เกี่ยวกับข่าวที่ออกมาว่ากฎหมายฉบับนี้ยังไม่เคลียร์ยังตกลงกันไม่ได้ แต่น่าจะเป็นเรื่องของโควิด-19 มากกว่า เมื่อถามว่า จะมีการคาดโทษ ส.ส.ในพรรคหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ เพราะเรื่องนี้เราเข้าใจกัน ต่อข้อถามว่า แสดงว่าขึ้นอยู่กับจิตสำนึก ส.ส.ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าส่วนใหญ่เขาพยายามมาให้ทัน อย่างเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ก็มาครบหมด 

เมื่อถามว่า ต้องถึงขั้นให้ ส.ส.แสตนบายด์อยู่ใน กทม.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปกติทุกวันอังคารจะมีการประชุมพรรคกัน แต่ครั้งนี้ไม่มีประชุมเลยทำให้เกิดปัญหา