Sunday, 22 June 2025
ค้นหา พบ 48951 ที่เกี่ยวข้อง

อสังหาฯ 64 ยังเหนื่อย หลัง 63 ค้างสต๊อกเพียบ คาดยอดรวมทั่วประเทศพุ่ง 3.39 แสนหน่วย มูลค่าเหลือค้าง 1.5 ล้านล้านบาท แต่เชื่อปี 64 โอกาสบวกทั้งยอดขาย - จำนวนเปิดใหม่ ยังมี

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 จะยังเจอปัญหาที่อยู่อาศัยเหลือค้างสต็อกจำนวนมาก

โดยยอดรวมทั่วประเทศจะเหลือมากถึง 3.39 แสนหน่วย เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีก่อน มีมูลค่าเหลือค้างที่ 1.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% จากปีก่อน โดยสต๊อกส่วนใหญ่เกิดจากคอนโดมิเนียมที่มีเหลือขาย 1.52 แสนหน่วย เพิ่มขึ้น 16.5% หรือมีมูลค่า 6.84 แสนล้านบาท ขณะที่สต๊อกบ้านจัดสรรมีแนวโน้มลดลง 1% เหลือ 1.86 แสนหน่วย หรือคิดเป็น 8.18 แสนล้านบาท

ส่วนยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่ปี 2564 คาดจะกลับมาเป็นบวกได้ เป็นการเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำในปี 2563 ที่ติดลบมากถึง 25.2% รวมมีมูลค่ากลับมาเป็นบวกเช่นกัน โดยคาดที่อยู่อาศัยใหม่ที่ขายได้ทั่วประเทศปี 64 อยู่ที่ 94,072 หน่วย เพิ่มขึ้น 4.2% จากปีก่อนหน้า

แบ่งเป็นบ้านจัดสรรขายได้ 60,191 หน่วย เพิ่มขึ้น 2% อาคารชุด 33,881 หน่วย เพิ่มขึ้น 8.4% ซึ่งดีกว่าปี 63 ที่ติดลบถึง 47.9% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายจะอยู่ที่ 4.05 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% แยกเป็นบ้านจัดสรร 2.56 แสนล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1.48 แสนล้านบาท

ขณะที่จำนวนที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวใหม่ปี 64 จะขยายตัวเป็นบวกได้ครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากปี 63 ติดลบ 46.6% และปี 62 ติดลบ 13% โดยในปี 64จะมียอดเปิดตัวโครงการใหม่ 88,828 หน่วย เพิ่มขึ้น 11.9% แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 52,044 หน่วย เพิ่มขึ้น 4.1% คอนโดมิเนียม 36,784 หน่วย เพิ่ม 25.1% ขณะที่มูลค่ามีการเติบโตเช่นกันอยู่ที่ 4.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 2.35 แสนล้านบาท ลดลง 12% คอนโดมิเนียม 2.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.5%

หลังมีผู้ติดเชื้อเข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบกาสิโนออนไลน์ โดยมีผู้เกี่ยวข้องในวันดังกล่าว 29 คน เบื้องต้นมีการตรวจพบ 28 คนไม่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ยังมีอีก 1 รายที่ผลตรวจคลุมเครือ

ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักการแพทย์ประจำรัฐสภา แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 หลังมีผู้ติดเชื้อเข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบกาสิโนออนไลน์ที่มาจากต่างประเทศที่รัฐสภา เมื่อ 21 ธ.ค. ว่า

“หลังจากที่ได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมวันดังกล่าว 29 คน ทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงานเสิร์ฟ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่คาดว่ามีความเสี่ยงสูง ไปตรวจที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล 24 คน

ซึ่งผลออกมาไม่พบเชื้อ ส่วนอีก5 คนไปตรวจที่โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ผลปรากฏว่า 4 คนไม่พบเชื้อ แต่อีก1 คน ผลออกก่ำกึ่ง ยังสรุปผลไม่ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าติดเชื้อ แต่ต้องส่งตรวจเพิ่มเติมโดยให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจอีกครั้ง ซึ่งจะทราบผลภายใน1 วัน

นพ.สุกิจ กล่าวยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นบทเรียนที่รัฐสภา ต้องแก้ไข เพราะแม้จะวางมาตรการเข้ม ทั้งวัดอุณหภูมิ ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่ไม่สามารถคัดกรองได้ 100% ซึ่งต้องทบทวนโดยเฉพาะเรื่องการเว้นระยะห่าง ในห้องประชุมกรรมาธิการ ที่มีพื้นที่จำกัด

“สำหรับผู้ที่เข้าร่วมประชุมอนุกรรมาธิการฯในวันดังกล่าว มีทั้งสิ้น 22 คน แยกตรวจหาเชื้อเอง ซึ่งทางสภาไม่ทราบผล โดยทั้ง 22 คน มีอนุกรรมาธิการ 7 คน เป็น ส.ส. 3 คน และคนนอก4 คน ที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการฯ12 คน ที่ปรึกษาประธานอนุกรรมาธิการ 1 คน และผู้ติดตามประธานอนุกรรมาธิการฯ 2 คน

ซึ่ง 1 ใน 2 คนติดเชื้อตามที่ปรากฎเป็นข่าว นอกจากนี้ยังมีตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย 4 คน และกรมสรรพากร 5 คน แต่ไม่ได้เข้าชี้แจงพร้อมกัน และมีเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้ประสานไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อให้ Work from home ทั้งหมด”

ส่วนการทำความสะอาดรัฐสภาหลังจากนี้นั้น นพ.สุกิจ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับ ผอ.รักษาความปลอดภัยแล้ว ยืนยันว่าก่อนเปิดประชุมหลังปีใหม่ จะมีการทำความสะอาด แต่ยังไม่กำหนดบิ๊กคลีนนิ่งใหญ่ โดยจะพยายามทำให้มากที่สุด

พร้อมทั้งได้สั่งการเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดในจุดเสี่ยงแล้ว โดยเฉพาะห้องประชุมใหญ่ และห้องกรรมาธิการ พร้อมขอความร่วมมือผู้ที่เข้ามาภายในรัฐสภาให้ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชันไทยชนะด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการสอบสวนโรค

10 สิ่งจำเป็นที่ผู้หญิงอยากทำเวลาอยู่คนเดียว

หลายครั้งที่คนเราอยากจะมีเวลาส่วนตัวบ้าง อยากจะทำนู่นนี่นั่นคนเดียว โดยที่ไม่ต้องมีใครมากวน การใช้เวลาอยู่คนเดียวอาจจะเป็นช่วงที่เราได้ทบทวนตัวเอง ในความเป็นจริงผู้ชายและผู้หญิงย่อมมีความแตกต่างกัน แล้วรู้หรือไม่ว่า พวกสาว ๆ เธออยากทำอะไรเวลาอยู่คนเดียว

1.) กินมากเท่าที่พวกเธอต้องการ

ยอมรับเถอะสาว ๆ - มีหลายครั้งที่คุณยอมแพ้ให้กับช็อกโกแลตทั้งแท่ง โดยที่คุณไม่ต้องแบ่งส่วนสำหรับเด็กน้อยที่หิวโหย คุณไม่ต้องถูกใครขัดจังหวะ ขนมอร่อย ๆ ทั้งหมดเป็นของเธอและของเธอเท่านั้น

2.) ดูรายการทีวีโง่ ๆ

มีหลายครั้งที่ผู้หญิงรู้สึกอยากดูรายการทีวีที่พวกเธอคุยโม้ว่าจะไม่ดู ความสงบร่มเย็นเข้ามาในบ้านเมื่อพ่อพาเด็ก ๆ ออกไปเดินเล่น ในที่สุดพวกเธอก็มีเวลาเพลิดเพลินกับรายการทีวีที่ชื่นชอบ

3.) ฟังเพลง ร้องเพลง และเต้นรำ

เมื่อไม่มีใครอยู่ ผู้หญิงจำนวนมากคิดกับตัวเอง: ฮูราห์! ในที่สุดฉันก็สามารถร้องเพลง Beyoncé, Taylor Swift หรือ One Direction ในระดับเสียงเต็ม (หรือเกือบเต็ม - ไม่จำเป็นต้องรบกวนเพื่อนบ้าน) วิ่งไปรอบ ๆ บ้านและเต้นรำ เพราะไม่มีอะไรดีเท่าการได้ปลดปล่อยตัวเอง

4.) สนุกกับช่วงเวลา

ไม่ได้ปฏิเสธว่าความรักที่ได้รับจากคนรักและลูก ๆ เติมเต็มหัวใจของเราด้วยความสุข แต่อย่างไรก็ตามผู้หญิงทุกคนยอมรับว่าพวกเธอต้องการเวลาอยู่คนเดียวเช่นกัน อย่างน้อย 20 นาทีต่อวัน เพื่อใช้ความคิดแบบที่ไม่มีใครรบกวน

5.) แช่อ่างสุดหรู

ลองนึกภาพสิ่งนี้: การแช่น้ำฟองสบู่ มาส์กหน้าให้ความชุ่มชื้น และเสียงดนตรีผ่อนคลาย ไม่มีใครรบกวนคุณ ลองคิดดูว่าสิ่งนี้จะมหัศจรรย์แค่ไหน

6.) อ่านนิตยสารหรือหนังสือที่พวกเธอไม่มีโอกาสอ่าน

เปิดโอกาสให้เช็ดฝุ่นหนาออกจากนวนิยายเรื่องโปรดของพวกเธอ นั่งจมลงไปบนโซฟาและอ่านเนื้อหาที่ตรงใจ ผู้หญิงแทบทุกคนชอบทำสิ่งนี้

7.) นั่งบนโซฟานานกว่าห้านาทีและรู้สึกถึงความสะอาด

.... ซึ่งจะหมดไปในเวลาไม่นาน ทันทีที่คนในครอบครัวกลับมา! โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงทุกคนต้องการให้ช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบนี้คงอยู่นานขึ้นอีกสักหน่อย

8.) ทำสิ่งต่าง ๆ ที่บ้านโดยไม่มีใครช่วย

บางครั้งเด็ก ๆ ก็อยากช่วยแม่ทำงานบ้าน ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการสอนให้พวกเขามีความรับผิดชอบและเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม บางครั้งผู้หญิงก็แค่อยากจะทำกับข้าวและกลับไปใช้ชีวิต แม้ว่าจะอยากช่วยเหลือแค่ไหน แต่เด็ก ๆ ก็ยังคงเป็นความยุ่งเหยิงและปัญหา พวกเขาจะทำลายสิ่งต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามเราต้องยอมรับว่าไม่มีใครจะทำให้สถานที่สะอาดเหมาะสมอย่างที่เราทำได้

9.) ไปซื้อของโดยไม่ต้องเร่งรีบหรือระวังเด็ก ๆ

การเดินทางไปห้างสรรพสินค้าคนเดียวโดยไม่มีคู่รักและลูก ๆ รู้สึกเหมือนเป็นการแหกคุกสำหรับผู้หญิงหลายคน พวกเธอรู้สึกไร้กังวลโดยสิ้นเชิง พวกเธอสามารถเลือกและลองเสื้อผ้าได้นานเท่าที่ต้องการโดยไม่ต้องดูนาฬิกาตลอดเวลา และไม่ต้องรีบร้อนจากการถอนหายใจครวญครางและคร่ำครวญไม่รู้จบ ช่างเป็นความรู้สึกที่น่ายินดีจริง ๆ !

10.) นอนหลับ

จะนอนท่าไหนก็ได้ การนอนหลับเป็นสิ่งที่ดีเลิศของความสุข!


ที่มา: https://brightside.me/article/ten-seriously-satisfying-things-all-women-love-doing-alone-57105/

 

PUBG Mobile เกมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่นานหลังจากเปิดตัวบนแพลตฟอร์มมือถือในปี 2560 ตั้งแต่นั้นมาเกมมีการเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในแง่ของจำนวนผู้เล่นและรายได้โดยรวม

ตามรายงานของ SensorTower, PUBG Mobile พร้อมกับ Game Of Peace เวอร์ชันภาษาจีน สามารถทำรายได้ทั่วโลกได้ราว 2.6 พันล้าน ในปี 2020 บนแพลตฟอร์ม Android และ iOS การเติบโตของรายได้อยู่ที่ประมาณ 64.3% มากกว่าในปี 2019

เกมดังกล่าวเป็นเกมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับสอง ตามรายงานของ Sensor Tower โดยมีรายรับรวมราว 173.8 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2020 และในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเดือนที่อินเดียแบนเกมดังกล่าว ทำรายได้รวม 198 ล้านดอลลาร์และสามารถรักษาตำแหน่งเกมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับสอง อย่างไรก็ตามในเดือนตุลาคม เกมดังกล่าวหลุดไปอยู่ในอันดับที่สามในรายการเกมที่ทำรายได้สูงสุด 10 อันดับแรก

เมื่อพิจารณาตัวเลขรายได้ก่อนการแบนจากอินเดีย เกม PUBG Mobile มีรายได้สูงสุดในเดือนมีนาคมที่ 270 ล้านดอลลาร์ และเมื่อทั้งโลกพยายามยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา โดยทำการล็อกดาวน์ทั้งหมด เพียงไม่กี่เดือนเกมดังกล่าวกลายเป็นเกมที่ทำรายได้สูงสุดด้วยรายได้รวม 221 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกในเดือนสิงหาคม ขณะที่ในเดือนกรกฎาคม ,มิถุนายน และพฤษภาคม เกมดังกล่าวมีรายรับรวม 209 ล้านดอลลาร์ 168 ล้านดอลลาร์และ 215 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ

แน่นอนว่าการแบน PUBG Mobile ของอินเดียแสดงให้เห็นถึงผลกระทบในแง่ของรายได้ แต่มันเป็นเพียงแค่ส่วนต่างเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเกมดังกล่าวเลื่อนไปสู่เกมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับสองและสามจากตำแหน่งบนสุด


ที่มา: https://www.gadgetsnow.com/tech-news/2-6-billion-and-counting-the-amount-of-money-pubg-made-in-2020/articleshow/80003619.cms

ภาครัฐเดินหน้าช่วยค่าครองชีพ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มวงเงินให้อีก เดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ใช้ซื้อของที่จำเป็นในร้านธงฟ้า กรมบัญชีกลาง พร้อมโอนเข้าบัญชี 1 ม.ค. 64

นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังดำเนินโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 โดยเพิ่มวงเงินช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 14 ล้านคน

ให้เป็นค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลาเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนม.ค.- มี.ค.64 ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการเดิมที่สิ้นสุดในเดือน ธ.ค.ปี 63 นั้น

โดยขณะนี้ กรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมการเพิ่มวงเงินดังกล่าว เพื่อให้ผู้ได้รับสิทธิได้ใช้สิทธิวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเพิ่มวงเงินจำนวน 500 บาท เข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในทุกวันที่ 1 ของเดือนม.ค.- มี.ค.64 โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี จะได้รับ (300+500) รวมเป็น 800 บาท/เดือน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท/ปี จะได้รับ (200+500) รวมเป็น 700 บาท/เดือน

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า การขยายวงเงินเพิ่มในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปอีก 3 เดือน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลมอบให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในสินค้าอุปโภคบริโภค และขอย้ำว่า วงเงินที่ได้รับไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ การใช้จ่ายดังกล่าวสามารถนำไปใช้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐที่รับชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) หรือร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top