Wednesday, 14 May 2025
SPECIAL

'เศรษฐา' ลั่น!! ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล "ผมจะนั่งหัวโต๊ะและบริหารจัดการปราบยาเสพติดเอง”

(19 เม.ย.66) ที่มูลนิธิเจริญเชื้อ อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด เพราะวันนี้ประชาชนเดือดร้อนกับปัญหายาเสพติดเป็นอย่างมาก ตนได้ฟังปัญหามาว่ามีทั้งผู้ค้ายา มีผู้ป่วย มีขบวนการรัฐด้วยที่ยังไม่ได้บริหารจัดการในพื้นที่ สำหรับผู้ค้ายานั้นก็ต้องบริหารจัดการให้เด็ดขาด 

ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย ถ้าได้รับเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาลจะจัดการปัญหายาเสพติดภายใน 1 ปี ยึดทรัพย์ผู้ค้าให้เร็วขึ้นและโทษต้องหนักขึ้น โดยต้องมีหลายหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้องด้วย  ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นตนเอง หรือ แพทองธาร ชินวัตร หรือ ชัยเกษม นิติสิริ ก็ตาม เราจะนั่งหัวโต๊ะ เป็นเจ้าภาพบริหารจัดการเองในเรื่องยาเสพติดให้หมด ดังนั้น ภายใน 1 ปีที่จะได้เห็น หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ราคายาบ้าต้องแพงขึ้นหรือหายไป เรื่องยึดทรัพย์ผู้ค้าผู้กระทำความผิดและการบำบัดรักษาผู้ป่วยต้องเร็วขึ้น และถ้าเป็นรัฐบาล ผมจะนั่งหัวโต๊ะบริหารจัดการปราบยาเสพติดเอง

‘สนธิรัตน์’ ฟันธง!! หลังเลือกตั้งไม่มีฝ่ายไหนชนะขาด ลั่น!! พร้อมเป็นกาวใจเชื่อมโยงทุกฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลผสม

‘บิ๊กป้อม’ นำทัพ ‘พลังประชารัฐ’ เปิดปราศรัยใหญ่แปดริ้ว คนฟังเรือนหมื่น ‘สนธิรัตน์’ ฟันธง หลังเลือกตั้งไม่มีใครชนะเบ็ดเสร็จ พปชร. พร้อมเป็นกาวใจเชื่อมโยงทุกฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลผสม ‘ประวิตร’ บารมีสูงสุด โว ทีมศก.เจ๋งสุดกว่าทุกพรรค

(19 เม.ย.66) ที่ลานวัดสมานรัตนาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา หาเสียง ประกอบด้วย นายรัฐสภา นพเกตุ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นายสายัณห์ นิราช ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 และพล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 โดยมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยประมาณ 12,000 คน ขณะที่แกนนำพรรค พปชร. เดินทางมาร่วมหลายคน นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะดูแลรับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง

‘อภิสิทธิ์-จิตภัสร์’ บุกเมืองจันทบุรี อ้อนขอคะแนนชาวบ้าน เชื่อ!! ปชช. ให้โอกาส ‘ปชป.’ มั่นใจ!! โกย ส.ส. ยกจังหวัด

(19 เม.ย.66) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส. จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคปชป.และผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมลงพื้นที่เดินหาเสียงช่วยนายเชิดสกุล พลารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส. จันทบุรี เขต 3 เบอร์ 8 พรรคปชป.โดยได้พบปะพ่อค้า แม่ค้า และพี่น้องประชาชนในชุมชนขลุง อ.ขลุง จ.จันทบุรี หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังตลาดพลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี เพื่อขอคะแนนเสียงให้กับ ทันตแพทย์(ท.พ.)”อิทธิพล จังสิริมงคล หรือหมอตี๋ ผู้สมัคร ส.ส. จันทบุรี เขต 1 เบอร์ 8

โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่า ตนจะไม่ได้มีตำแหน่งในพรรคปชป. ก็ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ เราเป็นเลือดสีฟ้า เป็นเลือดที่เข้มข้น จะไม่ยอมทิ้งกันอย่างแน่นอน ขอให้สบายใจได้ พรรคปชป.ยังมีความสามัคคีกลมเกลียวกันอย่างเหนียวแน่น ในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่งก็ถือว่าทำประโยชน์ให้พรรคได้ และพร้อมที่จะสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 3 เขตเพื่อพัฒนาจังหวัดจันทบุรีและภาคตะวันออกของเราให้ก้าวไปข้างหน้าในทิศทางเดียวกันได้อย่างมั่นใจ 

‘เศรษฐา’ เปิดอกคุย ‘ไก่ย่างเขาสวนกวาง’ ปัญหารอบด้าน ลั่น!! เป็นรัฐบาลแก้ให้ทันที

‘เพื่อไทย’ เปิดอกคุย ‘ไก่ย่างเขาสวนกวาง’ ค่าเช่าที่แพง เข้าไม่ถึงแหล่งทุน จดลิขสิทธิ์ยาก ‘เศรษฐา’ ให้คำมั่น นโยบายเราพร้อม หากเป็นรัฐบาล เดินหน้าแก้ปัญหาทันที 

(19 เม.ย.66) ที่อำเภอเขาสวน จังหวัดขอนแก่น แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค ผู้บริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น ประกอบด้วย จตุพร เจริญเชื้อ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เขต 3 เบอร์ 5, มุกดา พงษ์สมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เขต 4 เบอร์ 11 พบกลุ่มผู้ประกอบการปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมไก่ย่างเขาสวนกวาง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น เพื่อรับฟังปัญหา

ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าไก่ย่างเขาสวนกวาง สะท้อนปัญหาว่า 1.ในกลุ่มสมาชิกกว่า 420 ร้านค้า เป็นแผงลอยชั่วคราวเกือบครึ่งหนึ่ง ไม่มีร้านค้าขายหรือแผงเป็นของตนเอง ค่าเช่าแพงและไม่แน่นอน ค่าน้ำค่าไฟแพงเพราะเป็นร้านเช่า 2. ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ถูกกฎหมาย จึงต้องไปกู้นอกระบบมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จึงขอให้ตั้งกองทุนเช่น กองทุนพัฒนาอาชีพ หรือกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเข้ามาช่วยเหลือ 3. ไม่สามารถจดลิขสิทธิ์เป็นของชุมชน จึงต้องไปซื้อลิขสิทธิ์นายทุนมาขาย และสุดท้าย 4.แม้จะเป็นไก่ย่างเขาสวนกวางแท้ๆ แต่มีปัญหาการควบคุมคุณภาพ รสชาติ เพราะว่าทุกคนเอาชื่อไปใช้ได้หมดโดยที่ควบคุมไม่ได้

ด้านตัวแทนผู้ประกอบการโรงเชือด สะท้อนปัญหาว่า ต้นทุนอาหารสัตว์สูงขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เข้าถึงแหล่งทุนยาก เมื่อเจอโรคระบาดไม่ว่าจะโรคระบาดไก่ หรือโรคระบาดคน ก็ไม่มีเงินพยุงกิจการได้ และสุดท้าย อยากให้สร้าง “เขาสวนกวาง” ให้เป็นแลนด์มาร์ก ส่งเสริมเศรษฐกิจและท่องเที่ยวได้ชัดเจน

‘ธนาธร’ ช่วยหาเสียงชลบุรี-ระยอง รับฟังปัญหาชาวประมง ย้ำหลักการกระจายอำนาจ เพิ่มเสียงชาวประมง-ท้องถิ่น

(19 เม.ย.66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ออกเดินสายช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล อย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้เดินทางไปที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครหลายคน ทั้ง ชวาล พลเมืองดี ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 3 (เบอร์ 3), นภัสวรรณ มณีรัตน์โรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 4 (เบอร์ 8), กฤช ศิลปชัย ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 2 (เบอร์ 5) และ ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 4 (เบอร์ 2)

โดยช่วงบ่ายมีการเปิดวงพบปะพูดคุยกับประชาชน ที่ท่าเทียบเรือสหกรณ์กลุ่มประมงบ้านเพ ต.บ้านเพ อ.เมือง จ.ระยอง ร่วมกับ กฤช ศิลปชัย ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 2 เพื่ออัปเดตความคืบหน้าร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง 2558 และสิ่งที่พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าทำต่อในสภาฯ สมัยหน้า เพื่อแก้ปัญหาชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก. ดังกล่าว

ในวงดังกล่าว ตัวแทนชาวประมงหลายคนได้สะท้อนปัญหาในทิศทางเดียวกัน ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากปัญหา พ.ร.ก.การประมง ไม่ได้ดีขึ้นและยังย่ำแย่ลงในบางเรื่อง โดยเฉพาะยังคงมีการออกกฎระเบียบมาควบคุมชาวประมงเพิ่มเติมอีกหลายเรื่อง แม้ช่วงหลังชาวประมงจะออกไปเรียกร้องกันบ่อยขึ้น แต่ก็มีแต่การรับฟังโดยไม่มีการแก้ไขปัญหา

ในส่วนของธนาธร ได้สรุปความเป็นไปล่าสุดของการแก้ไข พ.ร.ก.ประมง โดยระบุว่าในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่มาจนเป็นพรรคก้าวไกล ตนและเพื่อนร่วมงานได้พูดคุยและรับฟังปัญหาจากชาวประมงทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง จนได้ประเด็นในการแก้ไข พ.ร.ก.การประมง และทำการยื่นร่างกฎหมายไปฉบับหนึ่งในเดือนตุลาคม 2564 และอีกฉบับในเดือนกันยายน 2565

แต่เสียดายที่อำนาจในการดึงร่างกฎหมายที่มีการยื่นเข้าสภาฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือหลัง อยู่ที่ฝ่ายบริหาร ประธานสภาฯ และเสียงข้างมากในสภาฯ พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลมีเสียงไม่มากพอ ร่างกฎหมายประมงจึงไม่ได้รับการผลักดันเข้าสู่การพิจารณาเสียที จนใกล้เลือกตั้งทุกพรรคต่างยื่นร่างเข้ามาประกบรวมกันเป็น 7 ร่าง แต่ก็ยังต้องผ่านอุปสรรคปัญหาสภาล่มบ่อยครั้ง แม้จะผ่านวาระ 1 ไปได้พอดี แต่ก็ยังจบไม่ได้ในสภาฯ ชุด 2562 ต้องยกยอดไปสู่การพิจารณาต่อในสภาฯ ชุด 2566 ต่อไป

ธนาธรยังกล่าวต่อไป ว่าหลังจากการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมสิ้นสุดลง การเปิดสมัยประชุมสภาฯ ครั้งแรกน่าจะเริ่มต้นในราวต้นเดือนกรกฎาคม หากสภาฯ นำเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาต่อเลย ร่างแก้ไขกฎหมายประมงก็น่าจะผ่านสภาฯ ได้ในช่วงปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประธานสภาฯ จะเป็นใคร ทิศทางของฝ่ายบริหาร และเสียงข้างมากของสภาฯ เป็นอย่างไร แต่จากที่ตนติดตามพรรคก้าวไกล ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อไรก็ตามที่ พ.ร.บ.ประมงเข้าสู่วาระ 2 และ 3 เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นหนึ่งในพรรคที่ผ่านให้แน่นอน

ทั้งนี้ ในรายละเอียดของร่างกฎหมาย ชาวประมงทุกคนที่เฝ้าติดตาม แสดงความเห็น และขับเคลื่อนเรียกร้องน่าจะเข้าใจดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลมองว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษ นอกจากเรื่องการปรับลดโทษให้เหมาะสมได้สัดส่วนแล้ว ก็คือการให้มีตัวแทนชาวประมง ทั้งพาณิชย์และพื้นบ้าน รวมทั้งตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าไปอยู่ในกรรมการประมงจังหวัดให้มากขึ้น

'บิ๊กตู่' ยกทัพ รทสช.หาเสียง ‘เยาวราช’ พรุ่งนี้ เน้น ‘ขึ้นเวที-รถแห่-เดินตลาด’ เข้าถึงมวลชน

‘บิ๊กตู่’ ขนทีม รทสช. หาเสียงเยาวราช พรุ่งนี้ พรรคปรับกลยุทธ์โค้งสุดท้าย เสนอแคมเปญ-นโยบาย อัดแน่นคิวหาเสียง ‘ลุงตู่’ ขึ้นเวที-รถแห่-เดินตลาด พร้อมเน้นจังหวัดใหญ่ทุกภาค

(19 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.39 น. โดยวันเดียวกันนี้ไม่มีวาระการประชุมอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้มีรายงานว่าในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปสวดมนต์เป็นการส่วนตัวที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพื่อเสริมสิริมงคล เนื่องจากวันเดียวกันนี้เป็นวันที่ดาวพฤหัสย้ายหลังเทศกาลสงกรานต์

จากนั้นในวันที่ 20 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะลงพื้นที่หาเสียงที่เยาวราช พร้อมด้วยแกนนำพรรคและผู้สมัคร ส.ส.กทม.ในช่วงบ่ายถึงช่วงเย็น ต่อจากนั้นวันที่ 21 เม.ย. เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จะไปเป็นประธานในการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาและพิธีบวงสรวงสังเวยตามพิธีพราหมณ์ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาองค์พระหลักเมืองประจำปี 2566 ก่อนลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5

เช็กจุดยืน 10 พรรคการเมืองในเรื่อง มาตรา 112 ใครกั๊ก-ใครชัด มาดูกัน!!

“มาตรา 112 ไม่ใช่คดีการเมือง ไม่มีปัญหา คนในประเทศส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อน” 
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ 

“ผมมองมาตรา 112 ว่าไม่มีปัญหา”
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย 

“มาตรา 112 ไม่มีปัญหา ที่มีปัญหา เพราะคนเข้าไปมีปัญหาเอง”
จุติ ไกรฤกษ์ ตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ 

'ทีมศก.ปชป.' ประกาศยกระดับนโยบายด้านพลังงาน ลั่น!! ดันเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

'มิสเตอร์เอทานอล' ลุยเต็มสูบตั้งเป้าลดรายจ่ายครัวเรือนเพิ่มรายได้ชุมชน หนุนยานยนต์ไฟฟ้าเดินหน้าพลังงานไฮโดรเจน-เอทานอล-ไบโอดีเซล ปูพรมโรงผลิตก๊าซชีวภาพทุกหมู่บ้านพลังงานแสงอาทิตย์ทุกครัวเรือนโซล่าฟาร์มทุกแปลงเกษตร ดันกัญชงเข้าอุตสาหกรรมยานยนต์และก่อสร้าง เล็งพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานส่งออกสร้างเงินเข้าประเทศ

(19 เม.ย.66) ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว วาระประเทศไทย ครั้งที่ 2 'ปชป. ชูรื้อโครงสร้างราคาพลังงาน ลดรายจ่ายคนไทย' นำโดย ดร.พิสิฐ  ลี้อาธรรม อดีตรมช.กระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทยประธานคณะกรรมการต่างประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ และนายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ ณ ห้องประชุมชั้น 3 พรรคประชาธิปัตย์ อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ อดีตรมช.พาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน และอดีตรมต.เงาพลังงาน เจ้าของฉายา 'มิสเตอร์เอทานอล' ในฐานะทีมเศรษฐกิจแถลงนโยบายพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานของพรรคประชาธิปัตย์ ชูแนวทาง 'ก้าวสู่พลังงานสีเขียวพลังงานสะอาดสู่สังคมคาร์บอนต่ำ' (Go Green Go Clean Go Low Carbon) โดยกล่าวว่า...

วิสัยทัศน์เชิงรุกพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความสำคัญสูงสุดสำหรับนโยบายพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานโดยยกระดับเป็นเป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วน (National Urgent Agenda) เพื่อ...

1.ลดค่าใช้จ่ายพลังงานในภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาครัฐ
2.ลดภาระต้นทุนของประเทศโดยชะลอการลงทุนด้านการจัดหาพลังงานของประเทศ
3.ยืนบนขาตัวเองตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
4.เพิ่มโอกาสส่งออกพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงาน 

เหล่านี้ เป็นการแปรวิกฤติพลังงานเป็นโอกาสสามารถสร้างเงินสร้างคนสร้างชาติโดยมีเป้าหมายยกระดับประเทศไทยเป็นผู้นำพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานในภูมิภาคเอเชียภายในปี 2030 ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ยังได้ตัวอย่างนโยบายสำคัญ ๆ เป็นไฮไลท์ เช่น นโยบายส่งเสริมการวิจัยพัฒนานวัตกรรมโครงการ พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Energy ) โครงการ เอทานอล100 (E100) ไบโอดีเซล (B 100), โครงการ โซลาร์รูฟ ทุกบ้าน ทุกอาคาร ด้วยระบบหักกลบไฟฟ้าที่ผลิตได้เองกับที่ใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและนครหลวง (Net Metering) และ การส่งเสริมอุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ไฟฟ้า (Energy storage), โครงการโซล่าฟาร์มและเกษตรอัจฉริยะประหยัดพลังงานสำหรับฟาร์มพืช ประมงและปศุสัตว์

นายอลงกรณ์ยังแถลงต่อไปว่า นโยบายอนุรักษ์พลังงานของประชาธิปัตย์เป็นนโยบายปฏิรูปเชิงโครงสร้างพลังงานทดแทน เช่น นโยบายโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 โรงแก๊สชีวภาพ 1 โรงปุ๋ยชีวภาพชุมชน, โครงการ 1 ตำบล 1 โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน, โครงการ 1 อำเภอ 1 ศูนย์ยานยนต์เครื่องจักรกลไฟฟ้าและการปรับเปลี่ยนยานยนต์เครื่องจักรกลเก่าเป็นระบบไฟฟ้า (Ev Conversion Center) (รถเก่ากว่า 40 ล้านคัน), โครงการ 1 จังหวัด 1 โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

ตำรวจ จับวัยรุ่นใช้เฟซบุ๊กอำพราง ลอบขายเฮโรอีน พบเพียง 4 เดือน เงินหมุนเวียนกว่า 1.3 พันล้านบาท

ตำรวจ ปส. (NSB) จับแก๊งวัยรุ่นสร้างตัว ใช้ เฟซบุ๊ก ชื่อ ‘ด.ช.พาระ หนี้สินรอบตัว’ ลักลอบขายเฮโรอีนย่านดินแดง พบ 4 เดือน มีเงินหมุนเวียนกว่า 1.3 ล้านบาท

(19 เม.ย.66) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1, สั่งการให้ พ.ต.อ.สาคร เจิมขุนทด ผกก.1 บก.ปส.1 พร้อมชุดปราบปรามยาเสพติดของ บก.ปส.1(นปส.นานา) สืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดทางโซเชียล ทั้งทาง Facebook และแอพพลิเคชันต่างๆ จนสามารถจับกุม น.ส.สุพร อายุ 25 ปี  นาย ลภน  อายุ 27 ปี  น.ส.ดาริน อายุ 23 ปี ข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) และมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน,ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน พร้อมของกลาง เฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 9.75 กรัม ,โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง , รถ จยย. จำนวน 1 คัน จับได้บริเวณข้างบ้านเลขที่ 127 ซอยสุพรรณิกา 1 และบ้านเลขที่ 133/9 ซอยประชาสงเคราะห์ 47 แขวงและเขตดินแดง กทม. ต่อเนื่องกัน

‘องอาจ-มาดามเดียร์’ ลุยช่วย ‘ชยิน’ เขตราษฎร์บูรณะ-​ทุ่งครุ  พบปะเกษตรกร ชู นโยบายด้านชุมชน-แก้ปัญหาน้ำท่วมเบ็ดเสร็จ

(19 เม.ย.66) ที่ตลาดใหม่ทุ่งครุ นายองอาจ​ คล้ามไพบูลย์​ รองหัวหน้า​พรรค​ประชาธิปัต​ย์ (ปชป.) ดูแลกทม. พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค​ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง​ ลงพื้นที่หาเสียงสนับสนุนให้​ นายชยิน​ พึ่งสาย ผู้สมัคร ส.ส. ​กทม​ เขตราษฎร์บูรณะ ​-​ ทุ่งครุ หมายเลข 7 โดยบรรยากาศขณะลงพื้นที่ตลาดใหม่ทุ่งครุ​ เป็นไปอย่างคึกคักมีบรรดาแฟนคลับขอถ่ายภาพ​ร่วมกันอย่างเป็นกันเอง​ ก่อนขึ้นขบวนรถแห่ ไปตามถนนพุทธบูชา ไปยังวัดพุทธบูชา​ เพื่อนั่งเรือจากวัดพุทธบูชาตามคลองบางมด​​ เพื่อมาพบปะกับเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอม​ ซึ่งแต่เดิมปลูกส้ม​ บางมด ​แต่ได้รับผลกระทบจากการหนุนของน้ำเค็ม​ จึงต้องเปลี่ยนเป็นการปลูกมะพร้าวแทน​ รวมถึงได้ล่องเรือไปเยี่ยมชมการรวมกลุ่มของชุมชนกลุ่มกำปงในดงปรือ​ และดารุลอิบาดะห์​ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของคนในชุมชน​ แปรรูป​ผลิตภัณฑ์​จากนมแพะ​

จุดยืน 7 แคนดิเดตนายกฯ ต่อประเด็นสังคมไทยที่ต้องชัด ใครชัดเจน - ลังเล - ไม่เทใจ มาชม!!

หลากประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงในสังคมไทย ถูกฟันธงผ่าน 7 แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคต่างๆ ที่ประกาศชัดว่า 'เอาด้วย' หรือ 'ไม่เอาด้วย' มีอะไรบ้าง? เชิญชม

‘จุรินทร์’ พร้อมคณะ บุก ‘บ้านโป่ง’ ขอคะแนนเสียงกา ปชป. เผย เสียดายคนเก่าออกไป แต่ไม่ท้อ ยังมีคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง

(19 เม.ย.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค พร้อมคณะ เดินทางไปขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้นายธนากร เลี้ยงฤทัย ผู้สมัครส.ส. เขต 4 หมายเลข 4 ที่บริเวณหอนาฬิกาบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่าเชื่อว่าคะแนนที่จังหวัดราชบุรีเราจะได้ดีมาก และเราสู้ทุกเขตทั้ง 5 เขต ซึ่งผู้สมัครทุกคนล้วนมีคุณสมบัติที่ดี มีศักยภาพสูง สู้กับคู่แข่งของพรรคการเมืองอื่นได้ ขอฝากทั้งคนทั้งพรรค และขอฝากสมาชิกพรรคทุกคนที่เป็นฐานกำลังสำคัญที่จังหวัดราชบุรี ช่วยกันหนักแน่นมั่นคง ยืนหยัดอยู่กับพรรค แล้วช่วยกันหาเสียงพาคนใหม่ๆ มาช่วยกันลงคะแนนให้กับพรรคด้วย

“ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อมประชาธิปัตย์ก็ชนะ แต่เสียดายที่คนของเราจากไป ย้ายไปอยู่พรรคอื่น แต่พรรคก็ไม่ท้อแท้ ท้อถอย ไม่เป็นไร เรามีคนรุ่นใหม่ สิ่งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญให้ ซึ่งเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสของประชาธิปัตย์ และของพี่น้องชาวบ้านโป่ง ที่จะได้ผู้แทนคนใหม่ที่มีศักยภาพไม่แพ้ใคร” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

‘ชัยวุฒิ’ ชี้ ‘ลุงป้อม’ เป็น Soft Power ที่จะทำให้ทุกคนสามัคคีกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อก้าวข้ามความยากจน 

“ทุกวันนี้สังคมไทยมีการขัดแย้งทางการเมืองกันแบบสุดโต่ง ทั้งซ้ายจัด ขวาจัด บางคนอยากเปลี่ยนประเทศ คนไทยก็รับไม่ได้ และอาจทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในอนาคต และบางคนก็คิดแต่เรื่องที่เป็นเรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัวมากเกินไป ทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งก็รับไม่ได้เช่นเดียวกัน 

ผมคิดว่าความขัดแย้งต่างๆ มีโอกาสเกิดขึ้นแน่นอน ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นหลังเลือกตั้ง ผมว่าจะส่งผลต่อการบริหารราชการแผ่นดินนะครับ และทำให้บ้านเมืองมีปัญหาได้ในอนาคต 

ลุงป้อมจะเป็น Soft Power ที่ทำให้ทุกคนทำงานร่วมกัน รักกัน สามัคคีกันได้ สิ่งนี้คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติเราเดินหน้าไปได้ ประชาชนก็จะอยู่ดีกินดี ก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อก้าวข้ามความยากจน 

'เพื่อไทย' ผวา 'แลนด์ไถล' หลัง 'คะแนนนิยมนิ่ง-คู่แข่งจ่อ' ต้องออกใบเตือนผู้สมัคร 'เสาไฟฟ้า' ให้ทำงาน-ลงพื้นที่

อาการของพรรคเพื่อไทยยามนี้ไม่สู้ดีนัก..ประมาณว่า 'พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก' ก็มิปาน

วันที่ 5 เม.ย.2566 จัดบิ๊กแคมเปญ เปิด 3 แคนดิเดทฝตนายกฯ ภายใต้ธีม 'ONE TEAM FOR ALL THAIS' และให้หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ 'เศรษฐา ทวีสิน'   ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท กะว่าจะเปรี้ยงปร้างระเบิดเถิดเทิงสมราคาคุย...คิดใหญ่ทำเป็น

แต่อนิจจา...ที่ไหนได้ นโยบายนี้กลายเป็นบั้งไฟที่ไปไม่สุด เกิดอาการแป๊ก...เสียฟอร์ม เสียรังวัดไม่น้อย...ว่ากันว่าถ้าเป็นโค้ง 7 วันสุดท้ายคงหวิดตายหมู่...แบบว่าคงแลนด์ไถลเหลืออย่างมากแค่ 170 ที่นั่งเหมือนที่โพลลับฝ่ายความมั่นคงเขาทำไว้เป็นแน่แท้...

ตอนนี้บรรดาเสนาธิการ และนักรบในห้องแอร์ทั้งหลายต้องช่วยกันแก้เกมเรื่องนโยบายหมื่นบาท ทั้งในส่วนคำชี้แจงต่อ กกต.และคำอธิบายต่อสาธารณชน ซึ่งอย่าว่าแต่ชนชั้นกลางเลยที่มีคำถามเลย ระดับรากหญ้าเองก็เริ่มมีคำถาม เพราะผู้บริหารพรรคบางคนพูดชัดเจนว่า...ใครที่มารับบริการเงินดิจิทัลหมื่นบาท ต้องสละสิทธิ์การรับสวัสดิการจากบัตรคนจน...

ร้อนจนวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 'ภูมิธรรม เวชชชัย' รองหัวหน้าพรรค และตัวนายเศรษฐาเอง ต้องรีบออกมาดับไฟเสียแต่ต้นลมว่า...นโยบายนี้จะเดินหน้าโดยไม่ยกเลิกบัตรคนจน...

จะเป็นเพราะนโยบายแจกเงินหมื่นบาทด้วยหรือเปล่าก็มิทราบได้...ผลปรากฏว่าการทำโพลของค่ายต่างๆ ระบุว่า แม้คะแนนของแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง และพรรคเพิ่อไทยจะยังคงนำ แต่เป็นการนำในลักษณะหยุดนิ่ง ในขณะที่คู่แข่งดีวันดีคืน โดยเฉพาะคู่ต่อสู้อย่างพรรคก้าวไกลเริ่มหายใจรดต้นคอ...

ไม่แต่เท่านั้น โพลของค่ายมติชน-เดลินิวส์ ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 8-14 เม.ย.ระบุชัดว่าคะแนนตำแหน่งว่าที่นายกฯ นั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แห่งก้าวไกล แซงอุ๊งอิ๊ง ห่างในระดับ 29 ต่อ 23 เปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว...

ขณะเดียวกันบรรดา FC ของพรรคได้ร้องเรียนไปยังพรรคว่า มีผู้สมัครจำนวนไม่น้อยที่ไม่ลงพื้นที่ หวังโหนกระแสพรรคเป็นหลัก...ทำให้เมื่อวันที่ 16 เม.ย. กองอำนวยการเลือกตั้งต้อง ทำจดหมายน้อยกระตุกเตือนบรรดาผู้สมัคร ทั้งที่เป็นอดีตส.ส.และผู้สมัครหน้าใหม่ที่ทำตัวเป็นพวก 'เสาไฟฟ้า' แบบประชาธิปัตย์ภาคใต้เมื่อหลายปีก่อนโน้น คือไม่หาเสียง โหนกระแสพรรค อาศัยยี่ห้อพรรคเข้าสภา...

“...ถ้าพวกท่านยังขยันไม่พอและไม่เข้าหาประชาชน..เราคงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการแลนด์สไลด์ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยวดยิ่ง...” ตอนหนึ่งของจดหมายเตือนระบุ

‘จุรินทร์’ ปัดหนุนจับขั้วการเมืองทั้งที่ยังไม่ลงคะแนน  ยัน!! ประชาธิปัตย์ ขอให้เกียรติคะแนนเสียงคนไทย 

‘จุรินทร์’ นำประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ลุยหาเสียงราชบุรี ชาวบ้านตะโกน ปาฏิหาริย์มีจริง! ช่วยเลือกธนากร เบอร์ 4 เป็นผู้แทนบ้านโป่ง

(19 เม.ย.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค และคณะเดินทางไปขอคะแนนเสียงสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นายธนากร เลี้ยงฤทัย เบอร์ 4 ที่บริเวณหอนาฬิกาบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 

โดยนายจุรินทร์ ได้แนะนำผู้สมัคร ส.ส. ที่ตนมาช่วยหาเสียงในวันนี้ว่า จังหวัดราชบุรี เป็นจังหวัดที่มีสมาชิกพรรคจำนวนมาก และมีฐานเสียงที่ดีมาทุกยุคทุกสมัยกระจายอยู่ทุกอำเภอ จากการเลือกตั้งหลายครั้งทำให้คะแนนพรรคมาเป็นที่ 1 เสมอ สำหรับการเลือกตั้งเที่ยวนี้ตนก็หวังว่าพี่น้องชาวราชบุรีก็จะไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะสมาชิกพรรคยังมีความหนักแน่น มั่นคงกับพรรค ซึ่งสิ่งนี้เป็นแต้มต่อสำคัญสำหรับผู้สมัครของพรรค รวมทั้งบัตรใบที่ 2 ที่ใช้เลือกบัญชีรายชื่อของพรรคด้วย หากทุกอย่างเป็นไปตามนี้ ตนก็เชื่อว่าคะแนนที่จังหวัดราชบุรีเราจะได้ดีมาก และเราสู้ทุกเขตทั้ง 5 เขต ซึ่งผู้สมัครทุกคนล้วนมีคุณสมบัติที่ดี มีศักยภาพสูง สู้กับคู่แข่งของพรรคการเมืองอื่นได้ 

“ขอฝากทั้งคนทั้งพรรค และขอฝากสมาชิกพรรคทุกคนที่เป็นฐานกำลังสำคัญที่จังหวัดราชบุรี ช่วยกันหนักแน่นมั่นคง ยืนหยัดอยู่กับพรรค แล้วช่วยกันหาเสียงพาคนใหม่ๆ มาช่วยกันลงคะแนนให้กับพรรคด้วย ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อมประชาธิปัตย์ก็ชนะ แต่เสียดายที่คนของเราจากไป ย้ายไปอยู่พรรคอื่น แต่พรรคก็ไม่ท้อแท้ ท้อถอย ไม่เป็นไร เรามีคนรุ่นใหม่ สิ่งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญให้ ซึ่งเป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาสของประชาธิปัตย์ และของพี่น้องชาวบ้านโป่ง ที่จะได้ผู้แทนคนใหม่ที่มีศักยภาพไม่แพ้ใคร” นายจุรินทร์กล่าว 

พร้อมกับระบุว่า วันนี้ทีมเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ มีการแถลงนโยบายพลังงานจากที่ทำการพรรค และยืนยันว่าประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานเป็นพิเศษ รวมถึงการมีนโยบายเกี่ยวกับการปรับลดค่าไฟฟ้า แก๊ส น้ำมัน และพลังงานทดแทน นอกเหนือจากการดูแลเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน สตาร์ตอัป เอสเอ็มอี และพี่น้องประชาชน

ส่วนการที่มีหลายพรรคการเมืองพยายามพูดถึงการจับขั้วตั้งรัฐบาลในช่วงนี้ นายจุรินทร์กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ขอให้ประชาชนตอบก่อน เพราะประชาธิปัตย์ให้เกียรติประชาชน และเคารพเสียงประชาชน เราไม่สนับสนุนการไปจับขั้วกันตั้งรัฐบาล เพราะประชาชนยังไม่ได้ลงคะแนนเสียงให้ ไม่อย่างนั้นเราจะมีเลือกตั้งไปทำไม 

“การเลือกตั้งมีไว้ก็เพื่อนับหนึ่งให้กับพรรคการเมืองต่างๆ ว่าประชาชนจะเลือกให้ไปทำหน้าที่อะไร เขาให้มากี่เสียง เพราะหลักของระบบนี้คือ ใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล การไปรวมเสียงก่อนการเลือกตั้ง มันไม่มีหลักประกันอะไรว่าจะเป็นจริงได้หรือเป็นจริงไม่ได้ แต่ประชาธิปัตย์ถือหลักว่าขอให้มีการเลือกตั้งก่อน และเป็นหลักสำคัญที่ผมได้ประกาศมาตลอด พรรคไหนจะไปประกาศรวมกับพรรคไหนก็รวมได้ แต่ประชาธิปัตย์ยังไม่ได้คุยกับใครว่าจะไปรวมกับใครไม่รวมกับใคร” นายจุรินทร์กล่าว 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางเกี่ยวกับมาตรา 112 ของพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ตอบว่า เรื่องนี้ประชาธิปัตย์มีความชัดเจนว่า เราไม่สนับสนุนให้ยกเลิก เพราะมาตรา 112 นั้น ว่าด้วยบทของการคุ้มครองประมุขของประเทศ ที่หลายประเทศในโลกก็มีกันทั้งนั้น เราจึงเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องมีไว้ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายก็ไปแก้ไขที่การบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้องเหมาะสม เป็นธรรม แต่ไม่ใช่การยกเลิกตัวบทกฎหมาย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top