Friday, 16 May 2025
SPECIAL

'ปุ้มปุ้ย'​ สุดทน!! ถูกแขวะไม่เปิดหน้าลูกเพราะกลัวไม่เหมือนพ่อ เตรียมจัดหนักโซเชียลสายเผือก ลั่น!! จะเอาให้ร้องขอชีวิต

'ปุ้มปุ้ย'​ สุดทน แค่ไม่เปิดหน้าลูก กลับถูกแขวะไม่เปิดหน้าเพราะลูกหน้าไม่เหมือนพ่อ เอาไว้เปิดทีเดียวในงานศพ ซัดจะเอาให้หนัก ให้ร้องขอชีวิต ก่อนแชร์ข้อความจากทนายดัง สังคมไทยขี้เสื-ก ลั่นได้ค่าเทอม

กลายเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์วิจารณ์กันหนัก กรณีเกรียนคีย์บอร์ดเข้าไปแสดงความคิดเห็นถึง 'น้องไซอันบลู สกาย ดูวาล'​ ลูกชาย 'ปุ้มปุ้ย พรรรณทิพา'​ และ 'กวินท์ ดูวาล'​ ด้วยข้อความที่รุนแรง ทั้งการที่ไม่ให้เห็นหน้าลูกเป็นความเวอร์วัง, ลูกหน้าไม่เหมือนพ่อ? หรือลูกปากแหว่ง? และที่แรงสุดบอกว่าอย่าโชว์เถอะหน้าลูกรำคาญเยอะ ลูกเทวดามาเกิด เก็บหน้าไว้ทำทีเดียวงานศพ ซึ่งทำสาวปุ้มปุ้ยปรี๊ดแตก บอก เดน, อย่าลบ จะเอาให้ร้องขอชีวิต

นอกจากนี้ สาวปุ้มปุ้ย​ ยังได้แชร์ข้อความจากเฟซบุ๊ก 'ทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ'​ ที่ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ว่า “สังคมไทยคนขี้เสื-กเยอะ ถึงขนาดว่าต้องมาพิมพ์ด่าปุ้ย พรรณทิพา Pantipa.a ในเรื่องการเลี้ยงลูกของเขาเลยหรอ ทั้งที่ก็เป็นสิทธิโดยแท้ของเขา และเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด

"แต่นั่นยังไม่เท่ากับด่าพาลไปถึงเด็กไร้เดียงสา ว่าปากแหว่งแน่หละ หน้าตาอัปลักษณ์มั่งหละ เป็นเอ๋อมั่งล่ะ จิตใจคนที่พิมพ์แบบนั้นได้แสนชั่วช้า

" พาลอยากไปเห็นวงจรการเติบโตของคนแบบนั้นมา จนสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตเป็นมากๆ ว่าผ่านอะไรมาบ้างถึงได้ต่ำตมกับเด็กได้ถึงเพียงนี้

"เสื-กถึงขั้นละเมิดต่อเด็กขนาดนี้ก็ไม่ไหว ประเทศจะเอาอะไรไปเจริญกับเรื่องต้องมารุมด่าแม่ด่าเด็กเพียงเพราะแค่อยากเห็นว่าเด็กเขามีหน้าตาเป็นอย่างไร รู้หรือยังอาชีพทนายทำไมถึงรวย!! #ทนายนิด้า #ทนายหญิงสายลุย” ด้วยข้อความว่า “ได้ค่าเทอมอีกละ”

อดีต 'รมว.คลัง'​ เผยเอกสารลับสหรัฐฯ ที่เคยรับปากรัสเซีย ระบุ!! จะไม่ขยายเขตนาโตแม้แต่นิ้วเดียว

อดีต รมว.คลัง เผยเอกสาร เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯและยุโรป ร่วมเจรจาให้คำมั่นกับ “มิคาอิล กอร์บาชอฟ” อดีตผู้นำโซเวียต ว่า จะไม่ขยายขอบเขตของนาโต “แม้แต่นิ้วเดียว” แต่กลับเบี้ยว นำไปสู่สงครามยูเครน

ไม่นานมานี้​ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 'Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล'​ เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนว่า...

“กอร์บาชอฟบอกว่า: แม้แต่นิ้วเดียว เข้าใจไม่ตรง”

รูป 1 สื่อ Russia Beyond สัมภาษณ์กอร์บาชอฟ อดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต เกี่ยวกับ ‘แม้แต่นิ้วเดียว’ ปรากฏว่าคำตอบน่าสนใจมาก

สื่อถามว่า: ปัญหาหลักอย่างหนึ่ง เกี่ยวข้องกับยูเครน ก็คือการขยายเขตโดยนาโต้ไปทางตะวันออก คุณคิดว่าประเทศตะวันตกที่วางแผนเกี่ยวกับยุโรปตะวันออกโกหกกับคุณหรือเปล่า?

กรณีที่เจมส์ เบเคอร์สัญญาว่านาโต้จะไม่ขยายไปทางตะวันออก ‘แม้แต่นิ้วเดียว’ นั้น ทำไมคุณไม่เรียกร้องให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร?

กอร์บาชอฟ: ไม่มีการพูดคุยหัวข้อ ‘การขยายเขตนาโต้’ เลย แม้ในห้วงเวลาต่อจากนั้น (หลังปี 1990) ผมพูดอย่างรับผิดชอบเต็มที่

และไม่มีประเทศยุโรปตะวันออกใดที่ยกประเด็นนี้ขึ้น แม้ภายหลังข้อตกลง Warsaw Pact ยกเลิกไปแล้วในปี 1991 ส่วนผู้นำตะวันตกก็ไม่ได้ยกขึ้นเช่นกัน

ประเด็นหนึ่งที่เรายกขึ้นพูดกัน คือโครงสร้างของนาโต้จะไม่ขยายเข้าไปในเยอรมันตะวันออกหลังรวมประเทศ คำพูดของเบเคอร์เป็นเรื่องนี้ โคลและเกนซเลอร์พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้

(ประเทศตะวันตก) ได้มีการทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ตามข้อตกลงทางการเมืองแล้ว ข้อตกลงสุดท้ายเรื่องเยอรมนีระบุว่าจะไม่มีโครงสร้างทางทหารใหม่ในเยอรมันตะวันออก จะไม่วางอาวุธ weapon of mass destruction ที่นั่น และประเทศตะวันตกก็ยอมปฏิบัติตามนั้น

ดังนั้น โปรดอย่าไปเล่าขานกันว่ากอร์บาชอฟและรัฐบาลสหภาพโซเวียตไม่ทันเกม และถูกตะวันตกหลอกลวง

ถ้าจะมีความไม่ทันเกม ก็คือห้วงเวลาหลังจากสหภาพโซเวียตแตกสลายกลายเป็นรัสเซียแล้ว(คือกอร์บาชอฟพ้นตำแหน่งไปแล้ว) รัฐบาลรัสเซียไม่ได้ประท้วงการขยายเขตนาโต้ตั้งแต่เริ่มต้น(ในปี 1999)

(If there was naïveté, it was later, when the issue arose. Russia at first did not object.)

สหรัฐและนาโต้ตัดสินใจขยายเขตนาโต้ไปทิศตะวันออกในปี 1993 (ในปีนั้น เริ่มเจรจากับโปแลนด์) ผมเห็นว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาดตั้งแต่แรก และการขยายเขตดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนเจตนารมณ์และคำมั่นที่ให้กับเราไว้ในปี 1990

(It was definitely a violation of the spirit of the statements and assurances made to us in 1990.)

กรณีเยอรมนีนั้น มีการระบุไว้เป็นเอกสารสัญญาและประเทศตะวันตกก็ปฏิบัติตาม

(With regards to Germany, they were legally enshrined and are being observed.)

สัมภาษณ์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 .. 2014 เกิดขึ้นหลังจากรัสเซียในสมัยปูติน บุกเข้าไปในแหลมไครเมียในเดือน ก.. 2014 การที่สื่อมาสัมภาษณ์กอร์บาชอฟ ก็คงจะเพื่อเอาเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ มาอ้างสนับสนุนการบุกดังกล่าว

แต่เมื่อกอร์บาชอฟสัมภาษณ์เช่นนั้น สื่อสหรัฐก็เอาไปขยายความเพื่อลบล้าง ‘แม้แต่นิ้วเดียว’

ผมวิเคราะห์ว่า ตรงนี้ กอร์บาชอฟพูดตรงกับเหตุการณ์ และการเจรจาเน้นทำเป็นสัญญาเกี่ยวกับเยอรมันตะวันออกเท่านั้น ไม่ได้มีการทำสัญญาเกี่ยวกับประเทศยุโรปตะวันออกอื่นด้วยเลย

เป็นเพราะเหตุใด?

รูป 2 แสดงสมาชิกนาโต้ปัจจุบัน โดยประเทศสมาชิกใหม่หลังปี 1990 ที่อยู่ระหว่างสองลูกศรสีน้ำเงิน ก็คือประเทศที่เดิมอยู่ภายใต้ร่มเงาของสหภาพโซเวียต

รูป 3 แสดงการรับสมาชิกใหม่ของนาโต้ โดยก่อนเยอรมนีรวมตัวมี 3 รอบ ในรอบที่หนึ่งปี 1952 รับกรีซกับตุรกี รอบที่สองปี 1955 รับเยอรมันตะวันตก รอบที่สามปี 1982 รับสเปน

ส่วนประเทศยุโรปตะวันออกนั้น เริ่มรับในรอบที่สี่เป็นต้นไป เริ่มด้วยปี 1999 เชค ฮังการี โปแลนด์ ปี 2005 ล๊อตใหญ่ บุลกาเรีย เอสโตเนีย แลตเวีย ฯลฯ

สรุปแล้ว ในการประชุมปี 1990 ที่เบเคอร์กล่าวถึง ‘แม้แต่นิ้วเดียว’ นั้น มุ่งไปที่เส้นแบ่งเขตอิทธิพลหลักระหว่างนาโต้กับสหภาพโซเวียตในขณะนั้น

Laptop from Hell 'แฉ​ -​ เรื่องจริง หรือ​ ทฤษฎีสมคบคิด​'​ ด้านมืด​ 'วงศ์วาน'​ ของผู้นำแห่ง​ USA

Hunter และ ประธานาธิบดี Joe Biden ผู้เป็นบิดา

เรื่องราวเล่าลือของ Laptop from Hell นั้น มีการอ้างว่า เกิดจากการ Hunter Biden บุตรชายคนที่สองของประธานาธิบดี Joe Biden ที่ไม่ได้ไปรับคืน Laptop (MacBook Pro) ซึ่งได้ส่งไปซ่อมที่ร้านซ่อม Mac แห่งหนึ่งในมลรัฐ Delaware ในฤดูใบไม้ผลิของปี พ.ศ. 2562 เป็นเวลาเพียงหกวันก่อนที่ Joe Biden บิดาของเขาจะประกาศสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยตามกฎหมายแล้ว Laptop เครื่องนี้จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของร้านซ่อม Mac ดังกล่าวในทันทีที่ปรากฏว่า ลูกค้าไม่จ่ายเงิน แต่เรื่องเล็ก ๆ นี้กลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อ John Paul Mac Isaac เจ้าของร้านเปิดเครื่องดูข้อมูลภายในพบการโต้ตอบอีเมลจำนวนมากกว่า 26,000 ฉบับ รวมถึงภาพและคลิปโป๊ มันจึงกลายเป็นระเบิดเวลาในเงามืดระหว่างการรณรงค์หาเสียงของ Jo Biden

หนึ่งในภาพฉาวของ Hunter Biden ซึ่งอ้างว่า มาจาก Laptop เครื่องดังกล่าว

มีการกล่าวอ้างว่า มีการพบความลับสุดสกปรกปรากฏอยู่ใน Laptop ของ Hunter ซึ่งเกือบทำให้การรณรงค์หาเสียงในตำแหน่งประธานาธิบดีของบิดาของเขาพังพินาศ และกลายเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดการปกปิดข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ในสื่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นเรื่องราวที่ยังเปิดเผยเรื่องราวที่อยู่ภายใน Laptop และทำให้จีนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Biden โดยนักข่าว New York Post ซึ่งเป็นผู้ที่เปิดเผยเรื่องนี้ แต่การเปิดโปงถูกดำเนินการเซ็นเซอร์ซึ่งประสานกันโดย Big Tech ในการจัดตั้งสื่อและอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเพื่อระงับยับยั้งการรายงานข่าวของ New York Post ในการใช้อำนาจทางการเมืองสามสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2563 ข้อมูลต่าง ๆ นั้นประกอบด้วยเอกสารขององค์กร อีเมล ข้อความ รูปถ่าย และคลิปบันทึกเสียง ซึ่งเก็บไว้ร่วมทศวรรษใน Laptop เครื่องดังกล่าวปรากฏเป็นหลักฐานชั้นต้นว่า ประธานาธิบดี Joe Biden มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการของบุตรชายใน จีน ยูเครน และที่อื่น ๆ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตาม

นอกจากนั้นยังมีการระบุว่า มีคลิปโป๊ที่ไม่ธรรมดาเป็นคลิปแสดงการร่วมเพศกับหญิงสาวที่ดูเหมือนว่าอายุไม่ถึง 20 ปี แล้วมีการคุย Sex Phone กับบุตรสาวของวุฒิสมาชิกคนหนึ่งโดยทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือย มีการกล่าวอ้างว่า เจ้าของร้านได้ส่งหลักฐานทั้งหมดให้หน่วยงานรัฐบาลคือ FBI และตำรวจของมลรัฐเดลาแวร์ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ และเป็นถิ่นที่อยู่ของตระกูล Biden แต่เมื่อส่งหลักฐานต่าง ๆ ไปแล้วในปี พ.ศ. 2562 แต่กลับไม่มีการตรวจสอบใดๆ เกิดขึ้น ทั้งยังมีการโยงไปถึงอดีตประธานาธิบดี Trump ซึ่งถูกมองว่าเป็นคู่อริกับ FBI ดังนั้นทุกคนจึงมองว่า FBI กำลังช่วยเหลือ Biden และลูกชายในการปกปิดความจริงอะไรบางอย่างอยู่

โดยที่เจ้าของร้านซ่อม Mac รายดังกล่าวเกรงว่า ตนเองและครอบครัวจะไม่ปลอดภัย เพราะส่งเรื่องนี้ไปให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อทำการสอบสวน จึงก๊อบปี้ไฟล์ทั้งหมดส่งให้กับ หนังสือพิมพ์ New York Post จึงเกิดการแฉครั้งใหญ่ขึ้น เพราะนอกจากจะเรื่องของภาพอนาจารเด็ก (Child pornography) แล้ว แต่ที่เสียหายมากที่สุดคือ การที่บุคคลในครอบครัวเข้ามาแทรกแซงการทำงานในการบริหารประเทศซึ่งถือว่า เป็นความผิดอย่างรุนแรง จนนักการเมืองที่เกี่ยวข้องไม่สามารถดำรงตำแหน่งต่อได้ ด้วยมีการอ้างว่า ปรากฏข้อความในอีเมล์ว่า เมื่อตอน Biden เยือนจีน ใครที่ต้องการจะเข้าพบ Biden ต้องจ่ายเงินให้ Hunter ก่อน โดย Hunter ตั้งบริษัทในจีนชื่อว่า Chino Hawk และทั้งคู่ก็ได้เงินมหาศาลจากการติดต่อทำการค้ากับจีน โดยมีอดีตหุ้นส่วนออกมาแฉว่า Biden และ Hunter บุตรชายได้ใช้บริษัทนี้ในการฟอกเงิน

เชื่อกันว่ามีการเซ็นเซอร์ข่าวฉาวดังกล่าวโดยกลุ่ม Big Tech ด้วยการจัดตั้งทีมงานรับมือกับสื่อโดยมีอดีตสมาชิกของหน่วยข่าวกรองเพื่อยับยั้งการรายงานข่าวของ New York Post 2-3 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2563

ทั้งยังมีการอ้างถึงการค้นพบว่า Hunter ใช้อำนาจในฐานะบุตรชายของรองประธานาธิบดี เข้าไปมีส่วนในธุรกิจในประเทศยูเครนมากมายมหาศาล อันเป็นที่มาของการที่อดีตประธานาธิบดี Trump ใช้ในการฟาดฟัน Biden ในเรื่องการคอร์รัปชันทั้งในการดำเนินนโยบายกับจีนและยูเครนมาโดยตลอด ตั้งแต่ตอนที่ Biden ประกาศลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยอ้างว่า Biden ผู้ลูกเป็นกรรมการและที่ปรึกษาของบริษัทก๊าซในยูเครน แถมยังมีข่าวว่าในอีเมลที่หลุด ๆ นั้นได้เอ่ยถึงการแบ่งผลประโยชน์ให้ Big Boss ซึ่งก็น่าจะเป็น Biden ผู้พ่อ ในหนังสือฯ มีกล่าวถึงว่า Biden ผู้ลูกน่าจะได้รับผลตอบแทนจากคอร์รัปชันในยูเครน รวมถึงจากนักธุรกิจจีนมากกว่า 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Miranda Devine คอลัมนิสต์ New York Post ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Laptop from Hell

Miranda Devine คอลัมนิสต์ New York Post และ Fox News ผู้ซึ่งติดตามเรื่องราวอื้อฉาวของ Hunter และเป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง Laptop from Hell เธอยังทำงานให้กับสื่อออสเตรเลียในฐานะคอลัมนิสต์ของ Daily Telegraph และ Sky News เกิดใน เขตควีนส์ มลรัฐนิวยอร์ก เติบโตในกรุงโตเกียวและนครซิดนีย์ และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์นในนครชิคาโก เป็นนักคณิตศาสตร์ปฏิรูปและคุณแม่ลูกสอง ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในนครนิวยอร์กกับสามี

ทฤษฎีสมคบคิด Biden-ยูเครน เป็นเรื่องราวอื้อฉาวที่ยังไม่มีการยืนยัน ซึ่งมีประเด็นอยู่ที่ข้อกล่าวหาเท็จว่า ในขณะที่ Joe Biden ยังเป็นรองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เขามีส่วนร่วมในการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบุตรชาย Hunter Biden โดย Burisma บริษัทก๊าซของยูเครน ข่าวลือถูกแพร่กระจายในความพยายามที่จะทำลายชื่อเสียงของ Joe Biden ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี พ.ศ. 2563 จากการวิเคราะห์ของชุมชนข่าวกรองของสหรัฐอเมริกาที่เผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 ระบุว่า มีการรับงานจากหน่วยข่าวกรองของรัสเซียเพื่อสนับสนุนการเผยแพร่เรื่องราวที่ทำให้เข้าใจผิดหรือไม่มีมูลเกี่ยวกับ Biden "ต่อองค์กรสื่อของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และบุคคลที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ รวมทั้งบุคคลบางส่วนที่ใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดี Trump และคณะบริหารของเขา โดย The New York Times รายงานเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 ว่า การสอบสวนทางอาญาของรัฐบาลกลางกำลังตรวจสอบบทบาทที่เป็นไปได้โดยเจ้าหน้าที่ยูเครนทั้งปัจจุบันและอดีต รวมทั้งระบุว่า Rudy Giuliani อดีตทนายความส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดี Trump ว่า อาจมีส่วนทำให้ผลการสอบสวนของรัฐบาลกลางแตกต่างกันไป เพื่อทำให้เกิดกระจายเรื่องของการกล่าวหาที่ไม่มีมูล (ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาสองครั้งหลัง มักมีข่าวว่า รัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง)

Viktor Shokin อัยการยูเครนผู้ถูกกล่าวหามากมายหลายประเด็นจนรัฐสภายูเครนต้องปลดจากตำแหน่ง ด้วยแรงกดดันจาก รัฐบาลสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

และนักทฤษฎีสมคบคิดยังอ้างด้วยว่า รองประธานาธิบดี Biden ในขณะนั้นระงับการค้ำประกันเงินกู้เพื่อกดดันให้ยูเครนปลดอัยการเพื่อป้องกันการสอบสวนการทุจริตใน Burisma และเพื่อปกป้องบุตรชายของเขาด้วย ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ระงับความช่วยเหลือของรัฐบาลเพื่อกดดันให้ยูเครนถอดถอนอัยการ ตามนโยบายอย่างเป็นทางการ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมกับ สหภาพยุโรป ธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เชื่อว่าอัยการรายดังกล่าวทุจริตและไร้ประสิทธิภาพ ทั้งยังมีท่าทีโอนอ่อนผ่อนปรนจนเกินไปในขณะทำการสืบสวนสอบสวน Burisma และผู้มีอำนาจ ตลอดจนเจ้าของบริษัท มีคลิปวิดีโอเมื่อมกราคม พ.ศ. 2561 แสดงให้เห็นว่า Biden ได้รับเครดิตในการระงับการค้ำประกันเงินกู้เพื่อให้ยูเครนปลดอัยการรายดังกล่าว โดยทำหน้าที่นำนโยบายพรรคสองฝ่ายของสหรัฐอเมริกามาใช้แทนเหตุผลตามที่ทฤษฎีสมคบคิดกล่าวอ้าง

Rudy Giuliani อดีตทนายความส่วนตัว (ซ้าย) และ Steve Bannon อดีตหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์ (ขวา) ของอดีตประธานาธิบดี Trump)

'ตำรวจ PCT'​ ทลายออฟฟิศใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา หลังพบหลอกเป็น สภ.เมืองเชียงใหม่ DHL​ และ Fed EX

(24 มี.ค.65) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร.) หรือ PCT: Police Cyber Taskforce, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 PCT, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 ร่วมแถลงผลการจับกุมแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ จับกุมผู้ต้องหา 28 ราย ช่วยเหลือเหยื่อคนไทย 5 ราย อยู่ระหว่างคัดแยกอีก 28 ราย รวม 61 ราย ใจกลางเมืองพระสีหนุ หลังสืบทราบว่า หลอกเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ และ พนักงาน DHL Fed EX ผู้เสียหายจำนวนมาก 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ขยายผลจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุกราย คดีนี้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ฯ นำทีมสืบสวนจนทราบแหล่งกบดานของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้ ซึ่งใช้อาคารในเมืองพระสีหนุ เป็นฐานปฏิบัติการ จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ฯ เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อประสานขอความร่วมมือกับตำรวจประเทศกัมพูชา 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่าในวันที่ 20 มี.ค.65 เวลาประมาณ 14.00 น. พล.ต.อ.Sar Theth รอง ผบ.ตร.แห่งกัมพูชา ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.Wan Wera ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระสีหนุ สนธิกำลังกับตำรวจฝ่ายไทย นำกำลังเข้าตรวจค้นออฟฟิศแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 แห่ง ในจังหวัดพระสีหนุ 

จุดที่ 1 โรงงานร้างไม่มีเลขที่ ถ.Santepheap จ.พระสีหนุ  ซึ่งจุดนี้จะมีแผนประทุษกรรมในการหลอกลวงโดยการโทรศัพท์ไปหาเหยื่อแล้ว "อ้างว่ามีพัสดุจากบริษัทขนส่ง DHL หรือ FedEX และถูกด่านของกรมศุลกากรอายัดไว้และมีสิ่งของผิดกฏหมาย จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ติดต่อไปเพื่อทำการตรวจสอบบัญชีหรือตรวจสอบการเงินเพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ โดยใช้รูปโปรไฟล์ในแอพพลิเคชั่นเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุด ผบ.ตร.มาแอบอ้างทำให้ประชาชนตกเป็นเหย

ผลการตรวจค้นพบจับกุมผู้ต้องหา 28 คน โดยเป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับไว้แล้วทั้งหมด คือ 

นายซิน ฮัง เต หรือนายอาเต๋อ อายุ 28 ปี สัญชาติจีน (ไต้หวัน) หัวหน้าใหญ่, นายจาง เจียน เทียน หรือนายอาหู อายุ 41 ปี สัญชาติจีน (ไต้หวัน) หัวหน้าใหญ่ และ นายพรศักดิ์ รีพล อายุ 30 ปี สัญชาติไทย พร้อมพวกคนไทยอีก 25 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ร่วมกันเป็นซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันฟอกเงิน” นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบพยานหลักฐานสำคัญ คือ 

1.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Iphone จำนวน 30 เครื่อง

2.วิทยุสื่อสาร จำนวน 8 เครื่อง

3.คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค จำนวน 4 เครื่อง

4.สคลิปเตรียมบทพูดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ , เจ้าหน้าที่จาก DHL และ FedEx

5.เอกสารหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเอกสารปลอม

6.เอกสารหมายจับศาลอาญา ซึ่งเป็นเอกสารปลอม

7.เอกสารหมายเรียกของสำนักคดีการเงินการธนาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นเอกสารปลอม

จุดที่ 2 อาคาร Diwei Entertainment City ถนน 2 Thnou เมืองพระสีหนุ ซึ่งเปิดเป็นบ่อนคาสิโนบังหน้า ลักลอบทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์บนชั้น 5 ของตึก ซึ่งจุดนี้จะมีแผนประทุษกรรมในการหลอกลวงโดยการ "หลอกลวงให้หลงรักในแอ็พพลิเคชั่น Tinder จากนั้นชักชวนลงทุนเทรดเงินดิจิตัล โดยจะให้โอนเหรียญชนิด Usdt เข้าไปในกระดาษเทรดเหรียญเถื่อน บางรายที่เทรดเป็นอยู่แล้ว ก็จะถูกชักจูงให้เทรดในโหมด Futures Trade ซึ่งมีความเสี่ยงสูง และหากผู้ถูกหลอกสามารถเทรดจนได้กำไรในพอร์ต ก็ไม่สามารถถอนเงินออกได้อยู่ดี และขั้นตอนสุดท้ายคือจะถูกหลอกให้เสียเงินภาษีเพื่อถอนเงินในพอร์ตออกมา แต่เมื่อผู้ถูกหลอกโอนเงินเข้าไปแล้ว ก็ไม่สามารถถอนเงินออกจากพอร์ตได้เลย"

นอกจากนี้ ยังใช้วิธีการหลอกลวงให้ร่วมลงทุน กับการขายสินค้าแอ็พพลิเคชั่น Lazada ให้ผลตอบแทนสูง 

ผลการตรวจค้น พบคนไทย 33 คนขณะกำลังทำงานคุยกับลูกค้า ซึ่งจะต้องทำการคัดแยกต่อไปว่าใครเป็นเหยื่อ ใครเป็นผู้ต้องหา เบื้องต้นสอบถามมี 5 คนที่สมัครใจอยากกลับประเทศไทย ซึ่งได้ส่งตัวไปยังสถานกงสุลไทยในกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบพยานหลักฐานสำคัญ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบ All in one จำนวน 68 เครื่อง รวมทั้ง 2 จุด พบเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 61 คน คนจีน

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้เตือนสติให้กับผู้ต้องหาถึงภัยอันตรายของการมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสุดท้ายก็จะถูกขายและถูกใช้แรงงานไม่ต่างจากทาส และจะวนเวียนในวัฏจักรดังกล่าวไม่จบไม่สิ้น และเมื่อกลับประเทศไปก็จะต้องถูกดำเนินคดีทุกราย โดยหลังตรวจค้นจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศกัมพูชา ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายในประเทศกัมพูชาก่อน และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตามกฎหมายของประเทศกัมพูชาแล้ว จะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้ประเทศไทย ทั้งนี้ได้สั่งการให้พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่างผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.อิทธิพร  โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เตรียมรอรับตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป 

ที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากกงสุลประจำสถานทูตไทยในพนมเปญ โดยนายวรินทร  ตันวิเชียร ประสานความร่วมมือระหว่างตำรวจกัมพูชา กับตำรวจไทย ในการช่วยเหลือคนไทย ทั้งที่เป็นเหยื่อถูกหลอกมาทำงาน และเป็นผู้ต้องหา โดยการจัดสวัสดิการที่พักและอาหารให้กับทุกคนในฐานะประชาชนคนไทย รอง ผบ.ตร.กล่าว 

ผอ.PCT ย้ำอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความกังวลปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ปัจจุบันระบาดหนักและมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ จึงสั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปรามอย่างจริงจัง และหาแนวทางเสริมภูมิความรู้ให้กับประชาชน 

ตร. เตือน จ้างวานทำเอกสารราชการปลอม เสี่ยงติดคุก แถมอาจถูกต้มตุ๋นเสียเงินฟรี

(23 มี.ค.65) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

จากกรณี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้สืบสวนจนสามารถออกหมายจับและนำไปสู่การจับกุม แก๊งขายใบตรวจโควิด วุฒิการศึกษา บัตรข้าราชการ ใบขับขี่ บัตรประจําตัว ประชาชน บัตรข้าราชการ โฉนดที่ดิน และทะเบียนรถ ปลอม ซึ่งวิธีการของแก๊งคนร้ายจะโพสต์ประกาศผ่านเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าผู้ซื้อสามารถนำเอกสารไปใช้ติดต่อราชการหรือนำไปใช้ได้เสมือนเอกสารจริง โดยมีพี่น้องประชาชนใช้บริการที่ผิดกฎหมายดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และผู้ต้องหาได้รับเงินจากปลอมแปลงเอกสาร รวมเป็นเงินกว่า 5,000,000 บาท 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนที่คิดจะซื้อและนำเอกสารราชการปลอมไปใช้ จะมีความผิดและต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดฐาน ใช้เอกสารราชการปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพ ได้ทำการโพสต์ข้อความชักชวนให้ใช้บริการปลอมแปลงเอกสารในลักษณะเดียวกัน โดยคิดค่าบริการในการทำเอกสารปลอมเป็นเงินจำนวนมาก และหลังจากที่มีผู้หลงเชื่อ ติดต่อไปใช้บริการ ก็จะให้โอนเงินค่าบริการล่วงหน้า จากนั้นก็จะตัดการติดต่อไป ทำให้มีประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย  ดังนั้นขอให้อย่าหลงเชื่อบุคคลที่อ้างว่าสามารถทำเอกสารราชการปลอมเป็นอันขาด เพราะเป็นความผิดตามกฎหมาย และอาจเป็นกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสมาหลอกลวงพี่น้องประชาชน

ตร. เตือน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปลี่ยนแนว พยายามหลอกเอาข้อมูลจากหน่วยงานรัฐและเอกชน

วันที่ 21 มี.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้มีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายในการหลอกลวง เป็นหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรเอกชนมากขึ้น โดยมักจะแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เช่น อัยการ ศาล ปปช. ปปท. และหน่วยงานรัฐอื่น ๆ โทรศัพท์เข้ามายังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น  และภาคเอกชนต่าง ๆ โดยอ้างว่าต้องการประสานงาน หรือขอความร่วมมือ ในการติดตามบุคคลเพื่อขอหมายจับ หรือต้องการข้อมูลว่าบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในบ้าน หรือทำงานในบริษัท มีใครบ้าง บางครั้งอาจพยายามหลอกให้เจ้าหน้าที่เข้าไปติดต่อกับเป้าหมายโดยตรง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในการหลอกลวงพี่น้องประชาชน

"ตำรวจเตรียมความพร้อม ถอดบทเรียนรับมือเด็กแว๊น ป่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565"

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ศปข.ตร.) เรียกประชุมด่วน ผบช.น. ภ.1-9 เตรียมวางมาตรการป้องกันและปราบปรามเด็กแว๊นช่วงสงกรานต์ 2565 ที่จะถึงนี้ โดยการถอดบทเรียนจากเทศกาลฯ ปีที่ผ่านมา 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งเตรียมความพร้อมรับมือเด็กแว๊นแต่เนิ่นๆ ก่อนถึงเทศกาลฯ ซึ่งอาจมีการรวมตัวแข่งรถสร้างความเดือดร้อนแก่รถที่สัญจรไปมาและผู้ที่พักอาศัย จึงให้ทุกหน่วยระดมปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่อเนื่องจนกว่าจะถึงห้วงเทศกาลฯ เพื่อป้องปรามไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมาย 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า  ศปข.ตร. ทำงานเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ทีมสืบสวนทางโซเชียลเฝ้าติดตามการนัดรวมตัวแข่งรถทุกช่องทาง ส่งผลให้สถิติการรวมตัวหรือการแข่งรถลดลงอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดี การปราบปรามก็ยังคงดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 28 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีกับผู้ขับขี่และผู้สนับสนุนไปแล้ว 1,621 ราย ยึดรถยนต์ 936 คัน รถจักรยานยนต์ 18,936 คัน จัดทำประวัติผู้กระทำความผิดและผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแข่งรถในทางอีก 8,049 ราย

ล่าสุดในเดือน มี.ค.65 จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 11 ราย ริบรถของกลางตามคำพิพากษา 10 คัน โดยมีที่น่าสนใจหลายคดีด้วยกัน รายแรก ที่ ภ.จว.อยุธยา ทีมสืบสวนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวการวมตัวแข่งรถ จนจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย ศาลมีคำพิพากษาริบรถของกลาง รายที่สอง บก.น.5 ทีมโซเชียลและฝ่ายสืบสวนติดตามสืบจับแอดมินเพจ "ประเทศคลองเตย" ที่โพสชักชวนแข่งรถในทางบริเวณห้าแยกระนอง ส่งฟ้องศาลดำเนินคดี 

รายต่อมา บก.น.6 ฝ่ายสืบสวนพิสูจน์ทราบแอดมินเพจดัง Three Brothers Channel ขับรถ จยย.ฮาเลย์ ประมาทหวาดเสียว ผิดปกติวิสัย ยืนขับขี่บนเบาะนั่ง กลางถนนเยาวราช ศาลสั่งริบรถ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และรายล่าสุด ภ.จว.ขอนแก่น พิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด ที่ปรากฏตัวอยู่ในคลิปหนุ่มนอนหมอบขับขี่ บนถนนมิตรภาพ นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ซึ่งเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในจังหวัดขอนแก่น ในข้อหาขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ขับขี่รถประมาทหวาดเสียว และข้อหาอื่นๆ รวม 5 ข้อหา ศาลพิพากษาริบรถ 

‘สมเกียรติ จันทรา’ สร้างประวัติศาสตร์ ขึ้นแท่นคนไทยคนแรกคว้าแชมป์ "โมโตทู"

‘ก้อง’ สมเกียรติ จันทรา จากทีม "อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย" นักบิดหนุ่มวัย 23 ปี บิดโหด สร้างประวัติศาสตร์คนไทยคนแรกคว้าแชมป์ "โมโตทู" ไปครองได้สำเร็จ ในรายการ "อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์"

ศึกมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก คลาส "โมโตทู" รายการ "อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์" เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยในรอบแข่งขันจริง

ปรากฎว่า "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา นักบิดหนึ่งเดียวจากไทยสังกัดทีม "อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย" ที่ได้ออกจากสตาร์ทจากกริดที่ 4 โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เร่งเครื่องขึ้นมาเป็นผู้นำตั้งแต่โค้งแรกของการแข่งขัน

สุดท้ายยอดนักบิดชาวไทยวัย 23 ปี รักษาระยะห่างในการเป็นผู้นำกับผู้ตามได้อย่างยอดเยี่ยม นำม้วนเดียวจบ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ด้วยเวลา 25 นาที 40.876 วินาที ผงาดแชมป์ "อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์" ไปครองได้สำเร็จ

ส่วนอันดับ 2 เป็นของ เคเลสติโน เวียตติ นักบิดชาวอิตาเลียน สังกัดมูนีย์ วีอาร์ 46 เรซซิ่งทีม ตามหลัง 3.230 วินาที และอันดับ 3 เป็นของ อารอน คาเน็ต นักบิดชาวสแปนิช สังกัดทีมเฟล็กซ์บ็อกซ์ เอชพี 40 ตามหลัง 4.366 วินาที

แรมโบ้ ร่ายยาว เตือนสติ อุ๊งอิ๊ง อย่าเดินลงเหว ชะตากรรมจะไม่ต่างจาก พ่อ-อา จี้ รีบตัดสินใจยุติบทบาทการเมืองก่อนสายเกินแก้ 

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยตั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หาสมาชิกพรรคสู่เป้าหมายชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ประกาศต้านรัฐประหาร ว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย คงทราบดีว่าไม่สามารถที่จะกอบกู้คะแนนนิยมจากประชาชนได้ จึงอาศัยคนในตะกูลชินวัตร หวังมีคะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้น 

นายเสกสกล กล่าวว่า การที่ประกาศจะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์นั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะประชาชนรู้พฤติกรรมของพรรคเพื่อไทยดี ทำตัวเป็นฝ่ายค้าน มุ่งแต่ช่วยเหลือพ่อและอาให้พ้นผิด กลับประเทศไทย ที่น.ส.แพทองธารบอกจะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และระบบเผด็จการต้องหมดไปนั้น อยากจะทำความเข้าใจใหม่ว่า หากหมายถึงนายกฯประยุทธ์ ยืนยันว่ามาถูกต้องตามกติกาทุกอย่าง เข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ที่อาของน.ส.แพทองธารสร้างไว้ นายกฯประยุทธ์ เป็นคนที่แก้ไขปัญหา พัฒนาประเทศมากมายให้กับประเทศมาจนดีขึ้นจนถึงทุกวันนี้  ซึ่งแตกต่างจากพ่อและอาของน้องอุ๊งอิ๊งมากที่บริหารประเทศจนกลายเป็นนักโทษหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ

"น้องอุ๊งอิ๊ง ยังไม่เข้าใจความหมายระบบเผด็จการรัฐสภา ที่คุณพ่อทักษิณและคุณอายิ่งลักษณ์เคยใช้บังคับส.ส.ในคอกมาแล้ว ถ้ามีโอกาส อยากจะได้นำเสนออธิบายให้น้องอุ๊งอิ๊งฟังอย่างเข้าใจชัดแจ้ง ว่าพฤติกรรม เสียงข้างมากลากไปโดยไม่ฟังเสียงข้างน้อยออกกฏหมายเพื่อประโยชน์ตัวเองและครอบครัว คุณพ่อและคุณอาใช้วิธีการอย่างไรจะได้เล่าสู่น้องอุ๊งอิ๊งฟังอย่างละเอียด สำคัญที่สุดคือการบีบบังคับบรรดา ส.ส. ในคอกให้ยกมือตามอำเภอใจของเจ้าของคอกสุนัข เพื่อออกกฏหมายแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้องนั้นทำอย่างไร มีวิธีอย่างไร จนคุณพ่อคุณอา ถูกดำเนินคดีข้อหาโกงกิน จนต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ตราบเท่าทุกวันนี้ นี่ที่เรียกว่าเผด็จการรัฐสภาตัวจริง เสียงจริง หนักหนาสาหัสมากกว่าเผด็จการในความหมายที่น้องอุ๊งอิ๊งเข้าใจเสียอีก"นายเสกสกล กล่าว

นายเสกสกล กล่าวว่า "มีคนมากมายฝากมาบอกด้วยความห่วงใย และสงสารน้องอุ๊งอิ๊งกลัวโดนชะตากรรมวิบากกรรมเหมือนคุณพ่อและคุณอาเป็นที่สุด สิ่งที่คุณพ่อและคุณอากำลังจะทำให้น้องอุ๊งอิ๊งเข้ามาสู่อำนาจเพื่อที่จะออกกฏหมายโดยมิชอบหรือใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตัวช่วยเหลือเรื่องคดีล้างมลทินนำคุณพ่อและคุณอากลับบ้านอีก โดยเฉพาะการที่คุณพ่อบอกว่าจะกลับบ้านในพ.ศ. นี้และจะกระซิบบอกน้องอุ๊งอิ๊งเป็นคนแรก ความหมายนัยยะนี้แปลว่าอะไร ช่วยตอบคำพูดของคุณพ่อในข้อนี้ ชี้แจงความหมายให้ประชาชนคนไทย ได้รับรู้และเข้าใจอย่างกระจ่างชัดเจนว่าที่คุณพ่อพูดมาแปลว่าอย่างไร จะกระซิบให้ดำเนินการอย่างไร"

‘ปูติน’ ปลดฟ้าผ่าจนท.เครมลินยกชุด 1,000 คน ตั้งแต่พ่อครัวยันเลขา หวั่นคนใกล้ตัวลอบสังหาร

กองทัพยูเครนยืนยันนายพลรัสเซียคนที่ 5 เสียชีวิตเมื่อวานนี้(19 มี.ค)ที่เมืองเคอร์ซอน ขณะที่มีรายงานประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งปลดเจ้าหน้าที่เครมลินถึง 1,000 คน หวั่นอาจตกเป็นเป้าถูกลอบสังหารจากคนใกล้ตัว

บิสซิเนสอินไซเดอร์ รายงานวันศุกร์(18 มี.ค)ว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในเดือนกุมภาพันธ์สั่งปลดเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดในทำเนียบเครมลินถึง 1,000 คนในคราวเดียวกัน

อ้างอิงจากเดลีบีสต์ พบว่าในกลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกสั่งปลดนั้นมีตั้งแต่พ่อครัว พนักงานซักล้าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเลขา โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัสเซีย

ผู้เชี่ยวชาญซึ่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองลับฝรั่งเศสจากแผนกความมั่นคงภายนอก DGSE เคยทำหน้าที่วางแผนส่งสายลับออกไปปฎิบัติการเปิดเผยกับเดลีบีสต์ว่า เขา่เชื่อว่า "ความพยายามลอบสังหารน่าจะมาจากภายในเครมลินไม่ใช่มาจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติ " และเป้าประสงค์อาจเพื่อต้องการให้สงครามยูเครนยุติ

การใช้ยาพิษเป็นสิ่งที่ชื่นชอบสำหรับรัสเซีย ยกตัวอย่างเช่น ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซีย อเล็กเซ นาวาลนี ที่เกือบเสียชีวิตจากสารพิษทำลายประสาทโนวีช็อกในไซบีเรียเมื่อสิงหาคม ปี 2020 ซึ่งอดีตสายลับฝรั่งเศสกล่าวว่า ปูตินนิยมการใช้ยาพิษสำหรับการลอบสังหาร และเขายังชี้ต่อว่า ถึงแม้ว่าการใช้ยาพิษในหลายประเทศสามารถกระทำได้แต่ไม่มีใครเชี่ยวชาญได้มากเท่าพวกรัสเซีย

แต่ทว่าการใช้ยาพิษเพื่อลอบสังหารปูตินนั้นไม่ง่าย โดยแหล่งข่าวระดับสูงชั้นในระดับองค์กรของกระทรวงรัสเซียชี้ว่า ในเดือนกุมภาพันธ์มีการเปลี่ยนชุดเจ้าหน้าที่ทำงานยกชุด 1,000 คนที่ทำงานใกล้ชิดให้กับผู้นำรัสเซียในชีวิตประจำวัน ซึ่งทั้งพ่อครัว พนักงานซักล้าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเลขา ถือเป็นคนที่ใกล้ชิดและต้องทำงานให้กับปูตินและมีโอกาสสูงที่จะวางยาพิษเขาได้ และได้มีทำการเปลี่ยนให้ชุดใหม่เข้ามาแทน

เดลีบีสต์อธิบายว่า เคยมีการพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต โจเซฟ สตาลิน ในปี 1952 จากฝีมือของอดีตประธานาธิบดีจีน เหมา เจ๋อตง มาแล้วด้วยการส่งเชฟเข้าไปในสหภาพโซเวียต

โดยในปี 1952 ซึ่งเป็นปีที่โรงแรมปักกิ่งตั้งอยู่ที่จัตุรัสมายาคอฟสกี( Mayakovsky) เกือบใกล้เสร็จเพื่อการเฉลิมฉลองสัมพันธภาพซิโน-รัสเซีย พบว่าประธานเหม๋าได้จัดส่งเชฟชาวจีนคนโปรดมายังกรุงมอสโกสำหรับการเปิดภัตตาคารอาหารจีนที่อยู่ภายในโรงแรม และถือเป็นภัตตาคารอาหารจีนเพียงแห่งเดียวในกรุงมอสโกเวลานั้น

ทั้งนี้เชฟชื่อดังแท้จริงแล้วเป็นนักฆ่าที่ถูกส่งมาเพื่อลอบสังหารสตาลินโดยเฉพาะ แต่ฝ่ายโซเวียตไหวตัวทัน สั่งให้ KGB เข้าจัดการเขาก่อน พวก KGB ใช้มีดปังตอเฉาะไปที่ศีรษะดับชีพนักฆ่า อ้างอิงจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับโรงแรมแห่งนี้ที่เปิดอย่างเป็นทางการในปี 1955 พบว่าวิญญาณของพ่อครัวนักฆ่ายังคงล่องลอยอยู่ภายในโรงแรมเพื่อตามหาสตาลิน เดลีบีสต์รายงาน

ข่าวการเปลี่ยนตัวยกชุดของปูตินเกิดขึ้นในขณะที่กองทัพยูเครนในวันเสาร์(19) ออกแถลงการณ์อ้างว่า มีนายพลรัสเซียจำนวน 5 คนเสียชีวิตไปแล้วนับตั้งแต่สงครามบุกยูเครนเริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์

เดอะมิเรอร์ สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(19)ว่า พลโท อันเดรย์ มอร์ดวิเชฟ ( Andrey Mordvichev) ผู้บัญชาการกองกำลังที่ 8 ของกองทัพเขตใต้รัสเซียเสียชีวิตในวันเสาร์(19) และกลายเป็นนายพลรัสเซียคนที่ 5 ที่เสียชีวิต

อ้างอิงจาก  โอเลคซี อเรสโตวิช (Oleksiy Arestovych )อดีตที่ปรึกษาผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน ในรายงานของสื่ออินเตอร์แฟกซ์( Interfax)เปิดเผยว่า มอร์ดวิเชฟเสียชีวิตขณะที่กองกำลังทหารยูเครนเข้าทำลายที่ตั้งกองบัญชาการทหารตั้งอยู่ในลานบินชอร์โนเบยิฟกา( Chornobayivka) ใกล้กับสนามบินเมืองเคอร์ซอน(Kherson)ทางใต้ของยูเครนเมืองเคอร์ซอนเป็นเมืองแรกในยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียแต่กองกำลังยูเครนพยายามต่อสู้เพื่อยึดคืน โดยในวันเสาร์(19)ฝ่ายยูเครนยังอ้างว่าสามารถสังหารกองกำลังรัสเซียไปทั้งหมด 14,400 คนแต่สหรัฐฯออกมาประเมินว่า รัสเซียน่าจะสูญเสียไปราว 7,000 คน บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงาน

เสนาธิการทหารบกยูเครนกล่าวผ่านแถลงการณ์ในวันเสาร์(19)มีใจความว่า “เป็นผลจากยิงไปที่ข้าศึกจากฝีมือของกองกำลังยูเครนทำให้ผู้บัญชาการกองกำลังที่ 8 ของเขตใต้กองทัพรัสเซีย พลโท อันเดรย์ มอร์ดวิเชฟ ถูกสังหาร”

สมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม(ไทย) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564  (อย่างอบอุ่น)

วันที่ 20 มีนาคม 2565 สมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม(ไทย) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ตามข้อบังคับสมาคมและที่ประชุมมีมติเห็นชอบ”กรอบยุทธศาสตร์เครือข่ายออทิสติกประเทศไทย”พ.ศ.2566-2570 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ การพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก ตามเป้าหมาย”การพัฒนาที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นPromise หรือคำมั่นของเครือข่ายออทิสติกทั่วประเทศที่จะเคลื่อนให้เกิดผลผลิตตามเป้าประสงค์และแนวทางการพัฒนา พร้อมเลือกตั้ง”คณะกรรมการบริหารสมาคม”แต่งตั้ง”คณะกรรมการที่ปรึกษาสมาคมและที่ปรึกษาพิเศษสมาคม”
ดำเนินการตามครรลองของวิถีDemocracy หรือประชา ธิปไตยอย่างมีส่วนร่วม ทุกมติ เป็นเอกฉันท์ทุกประเด็น
  นับเป็น”ก้าวที่มั่นคงขององค์กรสมาคมที่มีมาตรฐานการปฎิบัติที่ดี “โดยประธานการเลือกตั้งคือ “คุณณัฐอร อินทร์ดีศรี”ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ”
 ผลงานสมาคม 2 ปีที่ผ่านมานับเป็นที่ประจักษ์ ติดตามศึกษารายละเอียด
ที่เวปออทิสติกไทย
ผลงาน แบ่งเป็น 7 กลุ่มประเด็น
1.การส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพ เช่น”การมีประกาศ สปสช เรื่อง หน่วยร่วมบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ” สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพคนพิการ 25 รายการ เช่นการเยียวยาคนพิการช่วงโควิด วัคซีนสำหับกลุ่มเปราะบาง รพ.สนามสำหรับเด็กพิเศษและอื่นๆ
  2.ด้านการศึกษา นอกจากการศึกษาในระบบที่ผลักดันให้มีการอบรมครูห้องเรียนคู่ขนาน 9รุ่น สำหรับครูกว่า 500คน อบรมเครือข่ายศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติก 4รุ่น จำนวนกว่า 400คน ยังสามารถช่วยเหลือเด็กออมิสติกให้ได้รับการฝึกเดือนละ กว่า 1000 คน บังริเริ่มผลักดัน”ห้องเรียนกศน สำหรับเด็กพิเศษ”นำร่อง 15แห่ง โดยการสนับสนุนนโยบายจาก รมช ศธ. ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์

ศีล บรรเทากิเลสอย่างหยาบ สมาธิ บรรเทากิเลสอย่างกลาง ปัญญา บรรเทากิเลสอย่างละเอียด และขจัดอวิชชา

ศีล บรรเทากิเลสอย่างหยาบ
สมาธิ บรรเทากิเลสอย่างกลาง
ปัญญา บรรเทากิเลสอย่างละเอียด และขจัดอวิชชา

- สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) -

เปลี่ยนใจใน 9 ชั่วโมง! เปิดใจ ‘อาสามัครต่างชาติ’ เท ‘รบยูเครน’ หลัง ‘รัสเซีย’ ยิงขีปนาวุธถล่มฐานฝึก!

อาสาสมัครชาวต่างชาติที่เดินทางไปรบกับกองทัพรัสเซียหลายคนพากันหนีออกจากยูเครนหลังรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มฐานฝึกซ้อม เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจว่าจะเจอความเป็นจริงอันโหดร้ายของการทำสงครามกับกองทัพที่ทันสมัยของรัสเซีย

หลังจากประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประกาศรับสมัครอาสาสมัครต่างชาติมาช่วยรบกับรัสเซียก็มีช่าวต่างชาติจากกว่า 50 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐ อังกฤษ และแคนาดาขันอาสากว่า 16,000 คน

ทว่าเมื่อวันที่ 13 มี.ค. รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มฐานฝึกซ้อมของอาสาสมัครเหล่านี้ในเมืองยาโวริฟใกล้กับชายแดนโปแลนด์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 35 รายส่วนใหญ่เป็นชาวยูเครน และบาดเจ็บอีก 134 รายตามตัวเลขของทางการยูเครน แต่รัสเซียอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้

เหตุการณ์นี้ทำให้อาสาสมัครต่างชาติหลายคนที่ไม่พอใจเรื่องการจัดการที่ไม่ค่อยดี การขาดแคลนอาวุธและการฝึกซ้อม และการเซ็นสัญญาที่ไม่กำหนดเวลาสิ้นสุดที่ชัดเจนเป็นทุนเดิมกันอยู่แล้ว เริ่มเปลี่ยนใจกลับบ้านกันมากขึ้น

หนึ่งในนั้นคือ เจสเปอร์ โซเดอร์ (Jesper Söder) ชาวสวีเดนที่เล่าถึงการโจมตีเมื่อวันที่ 13 กับสำนักข่าว AP ว่า “นรกชัดๆ ทั้งเสียงยิง เสียงตะโกน ความหวาดกลัว ไหนจะระเบิดกับขีปนาวุธอีก”

หลังถูกโจมตีโซเดอร์และกลุ่มอาสาสมัครต่างชาติรวมทั้งชาวสแกนดิเนเวีย อังกฤษ และอเมริกันออกจากฐานฝึกซ้อมกลับไปยังชายแดนโปแลนด์

ทหารผ่านศึกชาวอเมริกันที่ใช้ชื่อว่า ฮิว (Hieu) ที่รอดชีวิตจากการถูกรัสเซียโจมตีเผยกับ Task & Purpose ว่า “ผมรอดเพราะขีปนาวุธตกใส่โครงสร้างที่แข็งแรงแทนที่จะเป็นเต็นท์ที่ผมอยู่ ยูเครนเสนอจะพาคนที่ไม่ต้องการรบแล้วหลังถูกขีปนาวุธถล่มกลับไปยังชายแดน”

ฮิวซึ่งเป็นอดีตพลรถถัง M1 Abrams ที่เคยไปรบที่อัฟกานิสถานเมื่อปี 2012 เล่าว่า อาสาสมัครที่อยู่ในเต็นท์เดียวกับเขา 23 คน มีเพียง 7 คนที่ตัดสินใจอยู่ต่อ

ส่วนในชุมชนออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Reddit ผู้ใช้คนหนึ่งซึ่งลบบัญชีไปแล้วโพสต์คลิปให้เห็นสภาพหลังการโจมตีลงในฟอรัม “อาสาสมัครเพื่อยูเครน” พร้อมกับเตือนว่า ให้คิดดีๆ ก่อนไปยูเครน เพราะสถานการณ์แย่มาก

“ไปร่วมกับกองกำลังต่างชาติเลยพวก ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม แต่ให้คิดให้ดีว่าเคียฟจะแย่แค่ไหน แล้วก็รู้ไว้ด้วยว่ารัสเซียมีเครื่องบินรบ และพวกนายแทบจะไม่มีอะไรเลย แล้วจงยอมรับว่ามีโอกาสตาย พวกเราที่ออกมา รวมทั้งกองกำลังพิเศษจากหลายๆ ประเทศแค่ต้องการลดความเสี่ยง ไม่มีใครอยากตายในการต่อสู้ที่ไม่เป็นธรรมหรอก และหลังจากโดนขีปนาวุธถล่มอย่างหนักวันนี้ ผมอยากให้พวกคุณคิดให้ดีก่อนจะไป”

เจ้าของบัญชีรายนี้ระบุอีกว่า “มีชาวต่างชาต 60 คนรวมทั้งผมออกมาหลังถูกโจมตี พวกเขาส่งคนที่ไม่เคยฝึกซ้อมไปแนวหน้าโดยมีกระสุนน้อยนิดกับอากาห่วยๆ แล้วคนพวกนี้ก็ถูกฆ่า...พวกที่ยังอยู่จะถูกส่งไปที่เคียฟและอีกหลายคนจะต้องตาย กองกำลังต่างชาติมีกำลังคนน้อยกว่า และมีผู้นำยูเครนบ้าๆ อีก 2-3 คนเท่านั้น”

เช่นเดียวกับ เจค ไพรเดย์ (Jake Priday) ครูจากเมืองคาร์ดิฟฟ์ของอังกฤษบอกกับ The Economist ว่า เขาออกมาจากยูเครนหลังไปเหยียบที่นั่นได้เพียง 9 ชั่วโมง หลังจากทราบว่าจะต้องเซ็นสัญญาที่ผูกกับกฎอัยการศึกซึ่งกำหนดให้พวกเขารบโดยไม่มีกำหนดตายตัว โดยไม่มีการอธิบายขยายความใดๆ จากยูเครน

“สำหรับผมมันคือการหลอกลวง” ครูวัย 25 ซึ่งผ่านการเป็นทหารมาแล้วเผย “พวกเขาขายฝันให้คุณ คุณสามารถช่วยชาวยูเครน! แล้วจากนั้นคุณกลับถูกส่งตัวไปยังที่ที่แย่ที่สุดในสมรภูมิ”

ไพรเดย์ยังกังวลว่าหากถูกรัสเซียจับตัวไปจะเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้รัสเซียประกาศเตือนว่านักรบต่างชาติจะถูกดำเนินคดีในฐานะอาชญากร เจสัน เฮ (Jason Haigh) อดีตแพทย์ทหารที่เคยไปรบในอิรักเผยกับ The Sun เมื่อช่วงต้นเดือนว่า เขาออกมาจากยูเครนแล้วหลังจากเผชิญหน้ากับกองกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ของรัสเซียระหว่างสู้รบที่เมืองอันโตนอฟในช่วงแรกๆ ของสงครามยูเครน

อดีตแพทย์ทหารวัย 34 ถูกฝูงเครื่องบินเจ็ตของรัสเซียยิงจรวดใส่ระหว่างร่วมกับกองทัพยูเครนมุ่งหน้าไปยังสนามบินฮอสโตเมลในกรุงเคียฟ ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์โจมตีของรัสเซียอีกฝูงหนึ่งจะตามมาสมทบ

เขาเล่าว่า “ทันใดนั้นประตูนรกก็เปิดรอต้อนรับพวกเรา พวกเราเกือบถูกถล่ม ผมไม่เคยเจอการยิงที่มีอานุภาพขนาดนี้มาก่อน และไม่คิดว่าคนในยุคนี้เคยเห็นเหมือนกัน อิรักกับอัฟกานิสถานแตกต่างอย่างสิ้นเชิง กองทัพรัสเซียทันสมัยมาก”

เฮเล่าอีกว่าหลังการสู้รบ เขากับเพื่อนชาวอเมริกันอีก 1 คนถูกเจ้าหน้าที่ยูเครนคุมตัวและทุบตีจนสะบักสะบอมเพราะคิดว่าเป็นฝ่ายรัสเซียและถูกนำตัวไปสอบสวนที่ฐาน 3 ชั่วโมง แต่สุดท้ายก็ถูกปล่อยตัวออกมา เขาตัดสินใจขึ้นรถไฟหนีไปยังเมืองลวิวก่อนจะข้ามชายแดนเข้าโปแลนด์

คนรุ่นใหม่ มุ่งมั่นทำงาน! ‘พลังประชารัฐ’ เปิดตัว ‘3 ผู้ท้าชิง’ ‘เก้าอี้ ส.ก.’ ย่านฝั่งธนบุรี!

(19 มี.ค. 65) นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กรุงเทพ ในฐานะหัวหน้าภาค กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานเลือกตั้ง ส.ก. เขตบางกอกใหญ่ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. โซนกรุงธนเหนือ "คนรุ่นใหม่ มุ่งมั่นทำงาน" ประกอบด้วย นายพีรพัทธ์ ศรีสิงห์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตธนบุรี นายอาชวิน สีตบุตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตคลองสาน และน.ส.ภัณฑ์ธิรา ณิชยสุรีย์กุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่

นายจักรพันธ์ กล่าวว่า ซึ่งทั้ง 3 คน มีความพร้อมที่จะทำงานให้กับประชาชนในพื้นที่ ด้วยผลงานที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ผ่านงานทางด้านภาคเอกชนและภาคสังคม มีความพร้อมเข้ามาพัฒนาพื้นที่ฝั่งธนบุรี โดยมีนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กรุงเทพ ของพรรค พร้อมแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ในพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบด้วย นายชลพฤกษ วงศ์อรุณนิยม เขตทวีวัฒนา นายผาด นิสัยชล เขตบางกอกน้อย นายชูชาติ ยิ้มงาม เขตภาษีเจริญ นายสิทธิโชค คล้อยแสงอาทิตย์ เขตตลิ่งชัน นายเริง ม่วงชุ่ม เขตบางแค 

ทั้งนี้ ทางพรรคได้เปิดให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีบทบาททางการเมือง โดยผู้สมัครล้วนเป็นคนหนุ่ม คนสาว คนรุ่นใหม่ โปรไฟล์ดี เต็มไปด้วยความรู้ ความสามารถ และที่สำคัญพวกเขามีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะเข้ามาทำงาน เพื่อพัฒนากรุงเทพมหานคร

‘หมอของขวัญ’ ทัวร์ลง! หลังวิจารณ์ปม ‘พิมรี่พาย’ ให้พ่อ ‘5 ล้าน’ เท่ากับ ‘กตัญญู’  ดัน #หมอของขวัญ พุ่งติดเทรนด์อันดับหนึ่งทวิตเตอร์!

จากกรณีดราม่า พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์คนดัง ที่ไลฟ์สดตามปกติของเธอ แต่มีชาวเน็ตได้เข้าไปคอมเมนท์ว่าคนดูน้อยจัง ทำให้พิมรี่พายอารมณ์ขึ้นกลางไลฟ์รวมไปถึงได้ใช้คำพูดที่ดูคล้ายว่าเธอจะเหยียดคนจนนั้น

ล่าสุด “หมอของขวัญ” คนดังในโลกออนไลน์ ที่มักจะออกมาแสดงความคิดเห็นในหลายๆเรื่องบนโลกโซเชียล ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องราวดราม่าดังนี้ด้วย ว่า ขอเข้าข้างพิมรี่พาย เพราะมองว่าพิมรี่พายไม่ได้ดูถูกใคร แต่เป็นการพูดโดยรวม แล้วคุณหมอยังเตือนสติชาวเน็ตให้ลองถามตัวเองว่า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top