Thursday, 15 May 2025
SPECIAL

2 เมษายน รณรงค์วันตระหนักรู้ออทิสติกโลก ประจำปี 2565  

วันที่ 2 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. ห้องประชุม มูลนิธิออทิสติกไทยกรุงเทพมหานคร  " นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ " นายกสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) และคณะกรรมการจัดงานกล่าวขอบพระคุณ "นายธนสุนทร สว่างสาลี" รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ / "นางณฐอร อินทร์ดีศรี" ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ / คณะกรรมการสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) / ผู้บริหารกลุ่มทรู / เครือเจริญโภคภัณฑ์และองค์กรธุรกิจเอกชน / ผู้แทนชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติกประจำจังหวัด / หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานทุกท่าน ที่กรุณาให้เกียรติ ร่วมงานวันรณรงค์วันจะหนักรู้ออทิสติกโลก ประจำปี 2565 ซึ่งนับเป็นปีที่ 18 ที่องค์การสหประชาชาติและประชาคมอาร์ทิสติกทั่วโลก ร่วมจัดงาน WORLD AUTISM AWARENEESS DAY (WAAD) 

ในวันนี้ ซึ่งสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ 

1.) เพื่อร่วมรณรงค์วันสมัครรู้ วันออทิสติกโลก ซึ่งองค์การสหประชาชาติเชิญชวนประเทศสมาชิกทั่วโลกร่วมจัดกิจกรรมพร้อมกัน ในวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี โดยในปี 2020 องค์การสหประชาชาติปีนี้กำหนด หัวข้อประเด็นรณรงค์ว่า "Inclusion in the Workplace Challenges and Opportunity in a Post-Pandemic World" หรือ "การเป็นส่วนร่วมของหน่วยงาน ความท้าทายและโอกาสในโลกหลังการแพร่ระบาด" ซึ่งองค์การสหประชาชาติมุ่งหมายให้ประเทศสมาชิกถึงการส่งเสริมให้บุคคลออทิสติกและคนพิการมีโอกาสในการทำงานในหน่วยงาน โดยถือเป็นส่วนร่วมของหน่วยงานแล้วว่าจะมีการประชุมประสาทในช่วงการแพร่ระบาด โดยขอให้รัฐสมาชิก ใช้โอกาสนี้สร้างโลกที่เปิดกว้างและเข้าถึงได้มากขึ้นสนับสนุนการมีส่วนร่วมของคนทุกคนรวมถึงบุคคลออทิสติก และคนพิการด้วย และขอเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสโดยร่วมสร้างเศรษฐกิจโลกขึ้นมาใหม่จินตนาการถึงบรรยากาศหรือสถานที่ทำงานใหม่ที่สร้างความหลากหลายยอมรับความเท่าเทียมกันทบทวนระบบการศึกษาและการฝึกอบรมของเราใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลออทิสติกจะได้รับโอกาสที่หลากหลายและตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง 

2.) เพื่อให้ผู้แทนชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติกระดับจังหวัด บุคลากรในพื้นที่ที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสังคม การศึกษา สาธารณสุข ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การจัดความช่วยเหลือบุคคลออทิสติกในระดับชุมชนและนำประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันในการส่งเสริมศักยภาพบุคคลออทิสติกและครอบครัวสู่การปฏิบัติ

ดร.เสรี เรียกร้อง หยุดใช้สายการบินที่แซะสถาบัน ด้านหมอวรงค์ ชี้ ถ้ามีอำนาจจะจัดการให้ถึงที่สุด!!

2 เม.ย. 65 - ดร.เสรี วงษ์มณฑา ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ดังนี้

เป็นสายการบินต่างชาติ มาหากินในประเทศไทย แต่มีพฤติกรรมแซะ ส่อเสียดสถาบันที่ประชาชนคนไทยเทิดทูนและจงรักภักดีเช่นนี้แล้ว เราคนไทยควรสนับสนุนไหมคะ

ขออภัยที่ไม่ได้นำเสนอภาพ Poster ที่ต่ำตมรสนิยมของเขาได้ เอาเป็นว่าถ้าหากเราเป็นคนไทยที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ควรขึ้นเครื่องบินสายนี้

ถ้าหากมีกฎหมายใดเอาผิดได้ เราก็อยากให้กฎหมายจัดการกับสายการบินสายนี้ อย่าให้มาหากินในเมืองไทย แต่ถ้าคนไทยเราไม่ใช้บริการเขา สายการบินนี้คงต้องม้วนเสื่อกลับประเทศ

หยุดสนับสนุน หยุดใช้บริการสายการบินที่ต่ำทรามสายนี้นะคะ

'พนิต' ฟันธง อัศวินอยู่ใต้เงาประยุทธ์ หลังลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง เตือนระวังคนกรุงไม่เอา 

“พนิต” ปชป.ฟันธง นายกฯ ตรวจคลองโอ่งอ่างสะท้อน “อัศวิน” อยู่ใต้เงา “บิ๊กตู่” เตือนระวังคนกรุงไม่เอา ภาพชัดต้องการสืบทอดอำนาจ จับตาใช้กลไกรัฐเอาเปรียบคู่แข่งทำลายบรรยากาศเลือกตั้งในรอบ 9 ปี เชื่อ 22 พ.ค.เป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการ

วันนี้ (2 เม.ย.) นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว Panich Vikitsreth - พนิต วิกิตเศรษฐ์ เรื่อง "บิ๊กวิน" ในเงา "บิ๊กตู่"? ว่า หนึ่งภาพล้านความหมาย! ผมเชื่อว่า มีคนตั้งคำถามถึงท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในช่วงไม่กี่วันมานี้ โดยเฉพาะการลงพื้นที่และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

โดยเฉพาะในวันที่ 30 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แม้จะระบุว่า ไม่ได้เชียร์ใคร แต่คนส่วนใหญ่ที่ได้ยินได้อ่าน ต่างตีความว่า หมายถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

“ฉะนั้น ถ้าจะหาเสียงลองถามต่อไปสิว่าของเดิมที่ทำมาแล้วมีอะไรบ้าง เขารู้หรือยัง และจะทำอะไรต่อตรงนั้น หรือจะทำอะไรใหม่ ถ้ามารื้อทิ้งทั้งหมดถามว่าจะไปได้อย่างไร” คำว่า “จะทำอะไรต่อ” มันสอดรับกับสโลแกนของ พล.ต.อ.อัศวิน ที่ว่า “กรุงเทพฯต้องไปต่อ” อย่างบังเอิญ?

อีกวันต่อมา ช่วงเย็น 31 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ควงแขน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน โดยเป็นภารกิจที่ไม่ได้อยู่ในกำหนดการอีกครั้ง

นายพนิต กล่าวว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้คงไม่แปลกอะไร หากแต่การเลือกลงพื้นที่คลองโอ่งอ่างในช่วงนี้ และวันเดียวกับที่มีการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครวันแรก มันยิ่งทำให้คนปักใจเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังช่วย พล.ต.อ.อัศวิน หาเสียงทางอ้อม แม้ไม่ได้มีประโยคไหนสื่อถึงก็ตามที

เพราะการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง จนได้รับรางวัลต้นแบบในการปรับปรุงภูมิทัศน์ในเขตเมืองของเอเชียประจำปี ค.ศ. 2020 (2020 Asian Townscape Award) จากโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Settlements Programme: UN-HABITAT) ซึ่งประกาศรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 เป็นสิ่งที่ พล.ต.อ.อัศวิน ใช้เป็นผลงานมาโดยตลอดและนำมาหาเสียงในครั้งนี้ด้วย

พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่วันแรกที่รับสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มันจึงสร้างความหวาดระแวง และไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า จะจัดการเลือกตั้งได้บริสุทธิ์ยุติธรรมจริงหรือไม่ และจะมีการใช้กลไกฝ่ายอำนาจมาเอื้อให้กับผู้สมัครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษหรือไม่ ในเมื่อผู้นำยังทำตัวสองแง่สามง่ามลับๆ ล่อๆ

‘เซเลนสกี’ ปัดตอบส่ง ฮ. ยิงถล่มคลังน้ำมันรัสเซีย ด้านปูตินสั่งยกระดับป้องกันชายแดนตะวันตก

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนปฏิเสธที่จะให้คำตอบว่าเป็นผู้สั่งยิงถล่มคลังน้ำมันรัสเซียในเมืองเบลโกร็อด (Belgorod) หรือไม่ ขณะที่รัสเซียประกาศเสริมกำลังป้องกันชายแดนด้านตะวันตกเพื่อสกัดการโจมตีในอนาคต

แม้การเจรจาสันติภาพระหว่างเจ้าหน้าที่ยูเครนกับรัสเซียจะเกิดขึ้นอีกครั้งผ่านระบบวิดีโอลิงก์ แต่ทำเนียบเครมลินเตือนว่าเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ยิงโจมตีคลังน้ำมันที่เบลโกร็อด อาจจะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันลำบากขึ้น

รัฐบาลเคียฟไม่ขอยอมรับหรือปฏิเสธว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้หรือไม่ โดย เซเลนสกี ให้สัมภาษณ์กับสื่อฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯ ว่า “ขอโทษด้วย ผมไม่ขอชี้แจงเรื่องคำสั่งต่างๆ ที่ผมได้สั่งการไปในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด (commander in chief)”

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวหายูเครนว่าส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำบินในระดับต่ำเข้ามาในเขตแดนของรัสเซีย ก่อนจะยิงมิสไซล์ถล่มคลังน้ำมันที่เมืองเบลโกร็อด ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนอยู่เครนประมาณ 35 กิโลเมตร เมื่อเวลาราว 5.00 น. ของวันที่ 1 เม.ย.

ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นแสงสว่างวาบคล้ายขีปนาวุธถูกยิงในระดับที่ต่ำมาก ก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้น

ปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้รุนแรง และต้องมีการอพยพประชาชนบางส่วนออกนอกพื้นที่ ทว่า อันตอน อิวานอฟ นายกเทศมนตรีเมืองเบลโกร็อด ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สามารถดับไฟลงได้ทั้งหมดแล้ว

“ไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อชีวิตและสุขภาพ ประชาชนทุกคนสามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้” อิวานอฟ แถลงผ่านสื่อออนไลน์

บริษัทน้ำมัน รอสเนฟต์ (Rosneft) ซึ่งเป็นเจ้าของคลังน้ำมันยืนยันว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า คลังน้ำมันแห่งนี้ใช้ประโยชน์ในด้านพลเรือนเท่านั้น

'ไทยเวียตเจ็ท'​ เล่นมุก​ 'ไม่ขำ'​ ในวันเมษาหน้าโง่​ โดนชาวเน็ตด่ายับ หลังโพสต์เปิดเส้นทางใหม่ 'น่าน-มิวนิค'​ เริ่มที่ 1,010 บาท 

สายการบิน “ไทยเวียตเจ็ท” เกาะกระแสวัน “เอพริลฟูลเดย์” โพสต์ทวิตเตอร์เล่นมุกเปิดบินเส้นทางใหม่ “น่าน-มิวนิค” เริ่มต้น 1,010 บาท สุดท้ายโดนชาวเน็ตด่ายับ จนต้องลบทวิตดังกล่าวทิ้ง

ถือเป็นอีกหนึ่งทอล์คออฟเดอะทาวน์ในโลกโซเชียล เมื่อสายการบิน “ไทยเวียตเจ็ท” เกาะกระแสวัน “เอพริลฟูลเดย์” หรือ “วันเมษาหน้าโง่” 1 เมษายน ซึ่งเป็นวันโกหกของฝรั่ง โดยโพสต์ทวิตเตอร์เล่นมุกสายการบินไทยเวียตเจ็ทเปิดบินเส้นทางใหม่ “น่าน-มิวนิค” เริ่มต้น 1,010 บาท พร้อมทั้งมีการติดแฮชแท็ก April Fool's Day ไว้ที่ช่วงท้ายของภาพ

ผจญภัยใน ‘Bergün’ รัน ‘เลื่อน’ ท้า ‘ลมหนาว’ ความสนุกแบบ ‘สุดเสียว' แค่ครั้งเดียว​ เกินพอ!! 

ถ้าพูดถึงอากาศหนาวที่สวิตเซอร์แลนด์ เชื่อว่าหิมะ เป็นสิ่งแรก ๆ ที่คุณผู้อ่านจะต้องนึกถึงและแน่นอนว่าหากมีหิมะ แล้วกิจกรรมสุดฮิตที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือการ ‘เล่นเลื่อน’ ซึ่งจริง ๆ แล้ว วีวี่ เองมีแพลนไว้ ว่าอยากไปเล่นเลื่อนมานานมากแล้ว แต่ก็มัวรอจังหวะเหมาะ ๆ อากาศดี ๆ พอได้เวลาประจวบเหมาะก็วางแผนปักหมุด เตรียมมุ่งหน้าไปที่ Prättigau ซึ่งจากการหาข้อมูลระยะทางก็ไม่ใกล้ ไม่ไกล เพียง 12 กิโลเมตร 

แต่ต้องขอบอกก่อนว่าที่ Prättigau เขามีมาตรการป้องกันโควิด 2G ที่ค่อนข้างแน่นหนาพอสมควร (ณ วันที่ 23 มกราคม)  ซึ่งสถานที่นี้ก็ยินดีต้อนรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว หรือผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วรักษาหายขาดแล้วเท่านั้น และแน่นอนว่างานนี้ วี่ต้องกินแห้วไปตามระเบียบ เพราะวี่ไม่ได้ฉีดวัคซีน เรียกได้ว่า แพลนล่มไม่เป็นท่าเลยสิคะท่านผู้อ่าน

แต่อย่าคิดว่างานนี้จะทำให้วี่ยอมแพ้! ที่นี่ไปไม่ได้ เราก็หาที่ใหม่สิครับผมมม วี่ก็ได้หาข้อมูลวางแพลนใหม่อีกรอบอย่างว่องไว และก็ดันไปนึกถึง Bergün อีกสถานที่ ที่จะสานฝันการเล่นเลื่อนของวี่ให้เป็นจริง! แต่ต้องบอกก่อนว่า Bergün เนี่ยวี่เคยไปเยือนมาแล้ว แต่ก็นะ 10 กว่าปีมาแล้วนานจนจำความรู้สึกไม่ได้แล้วว่าสถานที่นั้นเป็นอย่างไร และน่าตื่นเต้นอย่างไรบ้าง

พอหาสถานที่แพลนพร้อม ข้อมูลพร้อม เราก็มุ่งหน้าไปที่ Bergün กันเลย โดยวิธีการเดินทางมายังที่นี่วี่เลือกที่จะขับรถมาเอง ถึงปุ๊บก็หาที่จอดที่สถานีรถไฟเลย (ราคาไม่แพงด้วย) นอกจากนี้ตรงสถานีรถไฟ Bergün เนี่ยยังมีที่ให้เช่าเลื่อนด้วยนะ แต่ว่าเรายังไม่เช่าตั้งแต่ตรงนี้หรอกนะ ต้องบอกเลยว่าเราโชคดี ที่มีแพลนและหาข้อมูลมา วี่เลยได้จองตั๋วรถไฟไว้ที่สถานีปลายทางตรงจุดเล่นเลื่อน คือ สถานี Preda เลยไม่ต้องไปเบียดกับคนอื่นเพื่อเช่าเลื่อน โดยการเดินทางก็แสนง่าย เราก็นั่งรถไฟไปที่ Preda แล้วนั่งเลื่อนกลับไป Bergün ด้วยระยะทาง 6 กิโลเมตร

ทีนี้เรามาคุยกันเรื่องเส้นทางเล่นเลื่อนกันดีกว่าต้องขอบอกเลยว่า ‘เส้นทางเล่นง่ายมาก’ แทบไม่ต้องเอาขาแตะพื้นเลย เพราะเลื่อนที่เช่าคือลื่นปรื๊ดมากกกก แถมต้องบอกว่าเป็นความโชคดีของวี่ที่เราไปค่อนข้างเช้า คนเลยยังน้อย ทำให้พื้นที่ไปเล่นยัง Fresh อยู่มาก ทำให้ยังไม่ค่อยมีรอยทำให้ควบคุมเลื่อนให้ไปซ้ายขวาหรือเช้าโค้งได้ง่ายมาก ทำให้เล่นเพลินกันจุก ๆ ไปเลยถึง 2 รอบ พอรอบ 2 มาถึงข้างล่าง ตรงจุดสิ้นสุดจะมีกระเช้าต่อไปที่ Darlux 

ซึ่งจริง ๆ แล้วเพื่อนวี่ เองก็เล่นเลื่อนลงมาได้อีกเส้นทาง แต่ถ้าใครไม่ชอบ จากจุดสิ้นสุดนี้ก็เดินกลับไปที่สถานีรถไฟ Bergün เพื่อกลับไปเล่นเลื่อนที่ Preda ได้อีก แต่วี่เห็นว่าไหน ๆ ก็มาแล้ว ก็ขอนั่งกระเช้าห้อยขาต่อไปที่ Darlux แล้วเล่นเลื่อนลงมาที่ Bergün ซะหน่อยแล้วกันจะได้มาไม่เสียเที่ยว 

แต่นั่นแหละค่ะความอยากไปสุดทุกทางของวี่ ต้องขอบอกเลยว่า ‘แค่ครั้งเดียวพอ’! เพราะเส้นทางเล่นเลื่อนสุดชิว กลายเป็นเล่นเลื่อนแบบท้าตาย! ต้องขออธิบายก่อนว่าระยะทางการเล่นเลื่อนลงมาที่ Bergün ใช้ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร ซึ่งตลอดทางขอบอกเลยว่า ‘ทางชันขั้นสุด’ 

แถมทางที่เล่นยังเป็น Shadow Side คือ แดดเข้าไม่ถึง แถมพื้นยังเป็นน้ำแข็ง และพอความชันบวกน้ำกับแข็งที่พื้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ‘ลื่นแบบเบรกไม่อยู่’! ถึงขนาดต้องเอาเท้าสองข้างลงเบรกตลอด แต่แม้ว่าจะพยายามเบรกตลอดทางแล้ว ก็ยังเร็วจนขนลุกเลยทีเดียว 

ภารกิจ 'แก้จน' ของจีน เป็นแบบอย่างแก่โลก พาปชช. หลุดพ้นความจนเกือบ 800 ล้านคน

2 เม.ย. 65 รายงานที่ร่วมเผยแพร่โดยกระทรวงการคลังและศูนย์วิจัยการพัฒนาแห่งคณะรัฐมนตรีจีน ร่วมกับธนาคารโลก เมื่อวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) ระบุว่าความสำเร็จในการบรรเทาความยากจนของจีนถือเป็นแบบอย่างแก่โลก

ช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา จีนนำพาประชาชนหลุดพ้นความยากจนเกือบ 800 ล้านคน เมื่ออ้างอิงเส้นแบ่งความยากจน ระดับโลกที่กำหนดไว้ 1.9 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 63.57 บาท) ต่อวัน โดยจำนวนดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 75 ของการบรรเทาความยากจนทั่วโลก

'วิโรจน์' เยือนศาลเจ้าแม่ทับทิม ชี้!! การพัฒนาเมืองต้องคำนึงถึงจิตวิญญาณชุมชน 

วิโรจน์ เยือนศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง พร้อมยกตัวอย่างว่าเป็นการพัฒนาพื้นที่ที่ล้มเหลว หวังกทม. ถอดบทเรียนการพัฒนาพื้นที่ที่ไม่ทิ้งผู้คน

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยกลุ่มนิสิตจุฬาฯ พิทักษ์ศาลเจ้าแม่ทับทิม เดินทางไปยังศาลเจ้าแม่น้ำทับทิม สะพานเหลือง ในเวลา 09.00 น. เพื่อพูดคุยสอบถามและรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาที่ดิน ซึ่งปัจจุบันมีการไล่ที่ประชาชนและพยายามย้ายศาลเจ้าแม่ทับทิมไปไว้ที่สถานที่ใหม่

บริบททางประวัติศาสตร์ของศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง เป็นศาลเจ้าที่มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี เกิดขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 5 โดยชุมชนชาวจีนอพยพที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ สะท้อนให้เห็นถึงการดำรงอยู่อย่างร่วมสมัยผ่านกาลเวลา เมื่อมีการพัฒนาพื้นที่เป็นย่านธุรกิจ ทำให้ต้องมีการเคลื่อนย้ายศาลดั้งเดิม ที่มีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมและคุณค่าทางจิตใจ โดยในกรณีนี้ วิโรจน์ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า การพัฒนาเมืองต้องคำนึงถึงหัวใจและจิตวิญญาณของชุมชนด้วย ไม่ใช่เพียงตอบสนองผลประโยชน์ของทุนใหญ่

หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ รับโล่รางวัล รณรงค์วันตระหนักรู้ออทิสติกโลก ประจำปี 2565  

วันที่ 2 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. ห้องประชุม มูลนิธิออทิสติกไทยกรุงเทพมหานคร "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการแห่งประเทศไทย และตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร และ ผู้อำนวยการข่าวหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ ตาม เข้ารับโล่รางวัล องค์กรที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จาก นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยได้รับเกียรติจาก "นายธนสุนทร สว่างสาลี" รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้แทนมอบรางวัล  

ในการนี้ "นายชูศักดิ์ จันทยานนท์" นายกสมาคม สมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้มีเกียรติทุกท่านที่กรุณาให้เกียรติ ร่วมงานวันรณรงค์วันจะหนักรู้ออทิสติกโลก ประจำปี 2565 ซึ่งนับเป็นปีที่ 18 ที่องค์การสหประชาชาติและประชาคมอาร์ทิสติกทั่วโลก ร่วมจัดงาน WORLD AUTISM AWARENEESS DAY (WAAD) ในวันนี้ ซึ่งสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ 

1.) เพื่อร่วมรณรงค์วันสมัครรู้ วันออทิสติกโลก ซึ่งองค์การสหประชาชาติเชิญชวนประเทศสมาชิกทั่วโลกร่วมจัดกิจกรรมพร้อมกัน ในวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี โดยในปี 2020 องค์การสหประชาชาติปีนี้กำหนด หัวข้อประเด็นรณรงค์ว่า "Inclusion in the Workplace Challenges and Opportunity in a Post-Pandemic World" หรือ "การเป็นส่วนร่วมของหน่วยงาน ความท้าทายและโอกาสในโลกหลังการแพร่ระบาด" ซึ่งองค์การสหประชาชาติมุ่งหมายให้ประเทศสมาชิกถึงการส่งเสริมให้บุคคลออทิสติกและคนพิการมีโอกาสในการทำงานในหน่วยงาน 

โดยถือเป็นส่วนร่วมของหน่วยงานแล้วว่าจะมีการประชุมประสาทในช่วงการแพร่ระบาด โดยขอให้รัฐสมาชิก ใช้โอกาสนี้สร้างโลกที่เปิดกว้างและเข้าถึงได้มากขึ้นสนับสนุนการมีส่วนร่วมของคนทุกคนรวมถึงบุคคลออทิสติก และคนพิการด้วย และขอเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสโดยร่วมสร้างเศรษฐกิจโลกขึ้นมาใหม่จินตนาการถึงบรรยากาศหรือสถานที่ทำงานใหม่ที่สร้างความหลากหลายยอมรับความเท่าเทียมกันทบทวนระบบการศึกษาและการฝึกอบรมของเราใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลออทิสติกจะได้รับโอกาสที่หลากหลายและตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง

2.) เพื่อให้ผู้แทนชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติกระดับจังหวัด บุคลากรในพื้นที่ที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสังคม การศึกษา สาธารณสุข ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การจัดความช่วยเหลือบุคคลออทิสติกในระดับชุมชนและนำประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันในการส่งเสริมศักยภาพบุคคลออทิสติกและครอบครัวสู่การปฏิบัติ

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ดำเนินการ 3 วันโดยการประชุมแบบผสมผสานทั้งการประชุมพบกลุ่มและประชุมระบบ Virtual Meeting ผ่านระบบ TRUE VROOM และเพจ Autisticthai Foundation ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยผู้ปกครอง ครู และอาสาสมัครจำนวน 1,000 คนในพื้นที่ทั่วประเทศ หัวข้อการสัมมนามีทั้งสถานการณ์ที่เกี่ยวกับบุคคลออทิสติกในระดับนานาชาติการพัฒนาการศึกษาในระบบนอกระบบเชื่อมต่อและเปลี่ยนทางสู่การทำงานความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย 

'วิลล์ สมิธ' ลาออกจากการเป็นสมาชิก 'ออสการ์' หลังตบหน้า คริส ร็อก กลางเวทีประกาศรางวัล

วิลล์ สมิธ ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกสถาบันออสการ์แล้ว โดยเขาน้อมรับผลการตัดสินทางวินัยที่จะมีตามมา พร้อมยืนยันจะไม่ให้ความรุนแรงครอบงำเหตุผลอีกต่อไปแล้ว

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า วิลล์ สมิธ ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง เจ้าของรางวัลออสการ์นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมปีล่าสุด ได้ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิก สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ ซึ่งเป็นผู้จัดมอบรางวัลออสการ์ แล้วเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) หลังจากที่เขาได้ก่อเหตุฉาวตบหน้าคริส ร็อก เพื่อนนักแสดงและพิธีกรบนเวทีประกาศรางวัล ที่กล่าวล้อเลียนเจดา พิงเก็ตต์ สมิธ ภรรยาของเขาที่ป่วยด้วยโรคผมร่วง

ทั้งนี้ สมิธออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (1 เม.ย.) ระบุว่า เขากำลังจะลาออกจากการเป็นสมาชิกสถาบัน และจะยอมรับผลที่ตามมา ตามแต่สถาบันจะเห็นสมควร ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการระบุออกมาว่าสมิธจะถูกริบรางวัลคืนหรือไม่

“การเปลี่ยนแปลงนั้นต้องอาศัยเวลา ผมจะมุ่งมั่นทำสิ่งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผมจะไม่ปล่อยให้ความรุนแรงเข้ามาครอบงำและอยู่เหนือเหตุผลได้อีกต่อไป” ช่วงท้ายแถลงการณ์ของสมิธระบุ

การลาออกจากสถาบันออสการ์หมายความว่า สมิธจะไม่มีสิทธิ์ออกเสียงโหวตให้กับภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อหรือรางวัลอื่น ๆ แต่ผลงานของเขาจะยังสามารถได้รับการพิจารณาและเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลได้

เขายอมรับว่า พฤติกรรมของเขาในงานประกาศผลรางวัลออสการ์เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เจ็บปวด และไม่อาจให้อภัยได้ โดยรายชื่อของบุคคลที่เขาเคยทำร้ายนั้นมีมากมาย ซึ่งรวมถึงคริส ครอบครัวของเขา เพื่อนรักของเขาและคนที่เขารักอีกหลายคน รวมถึงผู้ร่วมงานทั้งหมดและผู้ชมทั่วโลกซึ่งรับชมอยู่ทางบ้าน

'ภรรยา' ไลฟ์ขายแบรนด์เนมสามี หลังจับได้มีชู้ เหน็บแรง "สินค้าทุกชิ้นสภาพดีค่ะ ดีหมด ยกเว้นเจ้าของ"

"ภรรยา" ชาวฟิลิปปินส์ ไม่ไหวจะเคลียร์ ไลฟ์สดขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมของสามีหลังจาก ที่ทิ้งเธอไปกับหญิงอื่น ชาวเน็ตแห่ถูกใจกันยกใหญ่

กลายเป็นไวรัลข้ามคืน ทำเอาโลกโซเชียลสะเทือนเลยทีเดียวสำหรับ "ภรรยา" สาวรายนี้ Jamille Margarita Galvez เธอเป็นสาวจากประเทศฟิลิปปินส์ ที่ได้ไลฟ์ขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมของสามีหลังจาก ที่ทิ้งเธอไปกับหญิงอื่น

ในการไลฟ์นั้น "ภรรยา" ตั้งชื่อไลฟ์ว่า "ไลฟ์ขายสิ่งของ ของคนที่จากบ้านนี้ไปแล้ว" (Mga gamit ng sumakabilang-bahay live selling) ซึ่งเป็นการเล่นคำได้อย่างแสบๆ คันๆ จากคำว่า sumakabilang-buhay ในภาษาฟิลิปปินส์ ที่แปลว่า ผู้ที่ตายจากไป แล้วได้ด้วย โดยในการไลฟ์ของเธอนั้นมีผู้ที่เข้ามารับชมมากกว่า 28,000 คนเลยทีเดียว

'ปูติน' พร้อมฉีกสัญญาซื้อ-ขายก๊าซกับชาติตะวันตก ย้ำคำเดิมรับเฉพาะ 'เงินรูเบิล' เท่านั้น

วันนี้เป็นวันที่สงครามเศรษฐกิจตึงเครียดมาก เมื่อผู้นำรัสเซียออกคำสั่งรับชำระค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น ตอบโต้ชาติยุโรปที่ใช้มาตรการลงโทษกับตน ประกาศกร้าวพร้อมฉีกสัญญา หยุดส่งก๊าซ

ผู้นำรัสเซียนำอาวุธหนักออกรบในสงครามเศรษฐกิจ ประกาศพร้อมที่จะฉีกสัญญาซื้อขายก๊าซกับประเทศที่ไม่เป็นมิตรในวันนี้ หากผู้ซื้อไม่จ่ายเงินเป็นเงินรูเบิล ตามคำสั่งของนาย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ใครที่ต้องการซื้อก๊าซธรรมชาติของรัสเซียต้องเปิดบัญชีกับธนาคารของรัสเซียโดยใช้เงินสกุลรูเบิลชำระเงินเท่านั้น เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในเมื่อชาติตะวันตกใช้ระบบการเงินมาเป็นอาวุธทำร้ายรัสเซีย อายัดทรัพย์สินในรูปเงินดอลลาร์และยูโร ดังนั้นรัสเซียก็จะไม่ยอมรับเงินตะวันตกอีกแล้ว หากไม่ใช่รูเบิล สัญญาซื้อขายใดๆ ต้องล้มเลิกไป

สินค้าพลังงานเป็นปัจจัยทางยุทธศาสตร์ ที่ทำให้หลายชาติเกรงใจรัสเซียมานาน ยุโรปพึ่งพาก๊าซร้อยละ 40 จากรัสเซีย มูลค่าซื้อขายต่อวันระหว่าง 7,000 - 30,000 ล้านบาท สื่อรัฐบาลรัสเซีย ชี้รัฐบาลยังเล็งใช้มาตรการรูเบิลแบบเดียวกันนี้กับสินค้าอื่นๆ ด้วย

ชาติยักษ์ใหญ่ในยุโรปที่พึ่งพาก๊าซรัสเซียสูงที่สุด อย่างเยอรมนี ยกความศักดิ์สิทธิ์ของสัญญา ยืนยันว่าจะจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินยูโรตามที่ตกลงไว้เท่านั้น รัฐมนตรีคลังของเยอรมนี หารือและเห็นพ้องกับรัฐมนตรีของฝรั่งเศส สัญญาต้องเป็นสัญญา เรื่องพลังงานไม่อาจนำมาใช้ข่มขู่ทางการเมือง สื่อของรัสเซียเตือนด้วยว่า หากไม่ทำตามเศรษฐกิจยุโรปอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ ในส่วนของรัสเซีย แม้รายได้จะหายไปก็สามารถหันไปหาเอเชียแทนได้

สงครามเศรษฐกิจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูง เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า กำลังเป็นปัญหาการเมืองทำลายความนิยม ผู้นำสหรัฐจึงงัดมาตรการนำน้ำมันจากคลังปิโตรเลียมสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมาใช้วันละ 1 ล้านบาร์เรล เป็นเวลา 6 เดือน เป็นปริมาณสูงที่สุดในรอบ 50 ปี เพื่อบรรเทาปัญหาและดึงราคาน้ำมันให้ลดลง

จริงหรอ? พบสิ่งแปลกปลอมในน้ำปลาร้ายี่ห้อดัง คาด!! ผู้ใช้อาจเก็บไม่ดี

จากการมีผู้ใช้ Tiktok รายหนึ่งชื่อ ‘panceke123’ ได้โพสต์คลิปหลังจากเจอสิ่งแปลกๆ ที่อยู่ในขวดน้ำปลาร้ามีลักษณะเป็นแผ่นยุ่ยๆ คล้ายเห็ด ซึ่งชาวเน็ตคาดการณ์กันไปหลายกรณี ทั้งเห็ดรา หรือพยาธิใบไม้

ล่าสุดเจ้าของแบรนด์น้ำปลาร้า ได้ติดต่อชี้แจงทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ระบุว่า ทางบริษัทมีกรรมวิธีการผลิตที่สะอาดปลอดภัยได้มาตรฐาน และไม่ใส่สารกันบูด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการจัดเก็บ เนื่องจากน้ำปลาร้าเป็นวัตถุดิบที่ละเอียดอ่อน หากเปิดฝาทิ้งไว้ หรือเก็บในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม ก็อาจเกิดการก่อตัวของจุลินทรีย์ ซึ่งก่อให้เกิดราได้ ซึ่งข้างขวดได้ระบุเตือนเอาไว้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ได้ติดต่อสอบถามไปยังลูกค้าที่ประสบปัญหาแล้ว อย่างไรก็ตามยังคงยืนยันกับลูกค้าว่าน้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในผลิตภัณฑ์อย่างแน่นอน 

ขณะเดียวกันฟากชาวเน็ตที่ลูกค้าประจำของน้ำปลาร้าแบรนด์ดังกล่าว ต่างออกมาโพสต์ถึงความเชื่อมั่นในสินค้าที่มีความสะอาด รสชาติดี ราคาเหมาะสม พร้อมทั้งเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าว อาจจะมาจากการเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้องของผู้ใช้งานก็เป็นได้ 

เปิดข้อเท็จจริง!! ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ

จากคำขอของพี่นวลอนงค์ สุวรรณเรือง ซึ่งบอกมาว่า “อาจารย์คะ รบกวนเล่าที่มาของสนธิสัญญา อินโด-แปซิฟิก หน่อยได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ” ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ได้เล่าถึงองค์การ SEATO ซึ่งเปรียบเสมือนองค์การ NATO แห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (แต่แทบจะไม่มีบทบาทอะไรเลย) จนยุบเลิกไปในที่สุด โดยเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องราวส่วนแรกของ ‘ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก’ ครับ

ฉะนั้นสำหรับบทความรอบนี้ จึงขอเล่าเรื่องราวส่วนที่สอง อันเป็นภาคจบด้วยข้อเท็จจริงของ ‘ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก’ ซึ่งได้ขอความอนุเคราะห์มาจาก ท่านหน่อย ‘ธานี แสงรัตน์’ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ท่านเป็นเพื่อนของรุ่นน้องที่สนิทสนมกัน และราว 30 ปีก่อนเคยไปเยี่ยมท่านที่ขณะเป็นนักศึกษาปริญญาโท University of Pittsburgh  

ถ้าพร้อมแล้ว ก็มาเริ่มกันเลยครับ...

ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 รถถังของเวียดนามเหนือสนธิกำลังกับเวียดกงชนประตูรั้วเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนามใต้

แต่ก่อนที่จะไปถึงเรื่องราวข้อเท็จจริงของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่มาจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเล่าถึงเหตุการณ์หลังจากความพ่ายแพ้ของทุกรัฐบาลในอินโดจีนที่สหรัฐฯ สนับสนุน และเหตุการณ์ต่อจากนั้นกระทั่งถึงยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกในยุคปัจจุบันกันก่อน 

ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 เมื่อรถถังของเวียดนามเหนือสนธิกำลังกับเวียดกงชนประตูรั้วเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนามใต้อันเป็นการแสดงถึงชัยชนะต่อรัฐบาลเวียดนามใต้ที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯ และสหรัฐฯ ต้องถอนกำลังออกจากสามประเทศอินโดจีน อันได้แก่ ลาว, กัมพูชา และเวียดนามใต้ อย่างบอบช้ำ และชัยชนะดังกล่าวทำให้ทั้งสามประเทศสถาปนาตัวเองเป็นประเทศสังคมนิยมคอมมิวนิสต์โดยสมบูรณ์

แต่หลังจากชัยชนะของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ที่เกิดขึ้นทั้งในสามประเทศไม่นาน ก็ดันเกิดความขัดแย้งด้วยอาวุธระหว่างสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและกัมพูชาประชาธิปไตย โดยสงครามเริ่มขึ้นด้วยการปะทะตามพรมแดนทางบกและทางทะเลของเวียดนามและกัมพูชาระหว่าง พ.ศ. 2518 ถึง 2520 

ต่อมาในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2521 เวียดนามเริ่มปฏิบัติการรุกรานกัมพูชาเต็มขั้นและยึดครองประเทศได้หลังล้มล้างรัฐบาลเขมรแดง โดยวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2521 ทหารเวียดนาม 150,000 นาย บุกเข้ายึดครองกัมพูชาประชาธิปไตย และสามารถชนะกองทัพปฏิวัติกัมพูชาได้ในเวลาเพียงสองสัปดาห์

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2522 มีการจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาที่นิยมเวียดนามในกรุงพนมเปญ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการยึดครองกัมพูชาของเวียดนามยาวนานนานสิบปี แต่ระหว่างการยึดครองนั้นรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตยของเขมรแดงยังคงได้รับการรับรองโดยสหประชาชาติว่าเป็นรัฐบาลโดยชอบธรรมของกัมพูชา พร้อมทั้งมีการจัดตั้งกลุ่มต่อต้านติดอาวุธหลายกลุ่มขึ้นเพื่อสู้รบกับการยึดครองของเวียดนาม 

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน แห่งรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา ซึ่งนิยมเวียดนาม ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลผสมกัมพูชาประชาธิปไตย เพื่อเริ่มการเจรจาสันติภาพ ภายใต้แรงกดดันทางการทูตและเศรษฐกิจอย่างหนักจากประชาคมนานาชาติ รัฐบาลเวียดนามจึงเริ่มนำการปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจและต่างประเทศหลายอย่างมาใช้ และนำไปสู่การถอนตัวออกจากกัมพูชาในเดือนกันยายน พ.ศ. 2532 

ในระหว่างการยึดครองกัมพูชาของเวียดนาม มีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เกิดขึ้นหลายครั้ง อาทิ 17 กุมภาพันธ์ - 16 มีนาคม พ.ศ. 2522 จีนได้การโจมตีเวียดนามตามแนวชายแดนจีน-เวียดนาม และจีนสามารถยึดครองเมืองเกาบังได้ในวันที่ 2 มีนาคม และเมืองลาวเซินในวันที่ 4 มีนาคม จากนั้นมุ่งหน้าต่อไปยังกรุงฮานอย แม้การส่งกำลังบำรุงไม่ดีพอ แต่อีกไม่กี่วันต่อมากองกำลังของจีน ก็สามารถเข้าสู่เวียดนามตอนเหนือและยึดเมืองต่างๆ ของเวียดนามได้หลายเมืองใกล้ชายแดน กระทั่ง วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2522 ประเทศจีนประกาศว่า ประตูสู่กรุงฮานอยได้ถูกเปิดออกแล้ว และสรุปว่า ภารกิจลงโทษลุล่วงแล้ว ก่อนถอนทหารทั้งหมดออกจากประเทศเวียดนาม โดยทั้งประเทศจีนและเวียดนามต่างอ้างชัยชนะในสงครามครั้งนี้

ในส่วนของประเทศไทยเอง ก็ได้รับผลกระทบจากการยึดครองกัมพูชาของเวียดนาม โดยเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย-เวียดนาม ด้วยกองกำลังทหารกัมพูชาส่วนใหญ่ที่ได้อพยพมาอยู่ทางด้านตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งติดกับชายแดนไทย โดยมีกลุ่มกัมพูชาติดอาวุธที่ต่อต้านการยึดครองของเวียดนามอยู่ 3 กลุ่ม คือ...

(1) กลุ่มกัมพูชาประชาธิปไตย (Democratic Kampuchea) หรือกลุ่มเขมรแดงของ พล พต และเขียว สัมพันธ์ มีสมาชิกประมาณ 40,000 นาย มีฐานที่ตั้งอยู่บริเวณพนมกระวันและบริเวณตะวันตกของจังหวัดพระตะบอง

(2) กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยชาติเขมร (Khmer People’s National Liberation Front - KPNLF) ภายใต้การนำของซอนซาน มีสมาชิกประมาณ 4,000 นาย 

และ (3) กลุ่มพรรคฟุนซินเปก (Front d"union national pour un Cambodge independant, pacifiaue et cooperatif - FUNCINPEC) ภายใต้การนำของสมเด็จนโรดม สีหนุ กลุ่มต่อต้านทั้งสามกลุ่มนี้มีฐานกองกำลังใกล้กับชายแดนไทยเพื่อง่ายต่อการหลบหนีเมื่อถูกกำลังเวียดนามบุกเข้าโจมตี กำลังกัมพูชาก็หลบหลีกเข้าสู่ดินแดนไทย ในการนี้เวียดนามเห็นว่าไทยยินยอมให้ชาวกัมพูชาฝ่ายต่อต้านใช้พื้นที่เป็นที่หลบหนีและคุ้มกันการโจมตีของกำลังเวียดนามและกำลังของเฮง สัมริน

หลายครั้งที่การโจมตีของกำลังเวียดนามต่อกลุ่มกัมพูชาติดอาวุธที่ต่อต้านการยึดครองของเวียดนามทั้ง 3 กลุ่ม มักมีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย ซึ่งขณะนั้นถือได้ว่ากองทัพไทยหากเปรียบเทียบกับกองทัพเวียดนามแล้ว ต้องบอกว่าว่าเทียบกันไม่ติด เนื่องจากกองกำลังทางทหารของฝ่ายไทยไม่เคยผ่านการรบมาก่อนหรือถ้าผ่านก็เป็นการรบแบบสมัยใหม่ ซึ่งมีแนวทางในปฏิบัติการรบแบบสหรัฐอเมริกา แตกต่างกับเวียดนาม

พิจารณาได้จากกองกำลังของเวียดนามซึ่งมีทักษะในการรบที่ดีกว่า และรู้วิธีการรบแบบกองโจร แถมทหารของเวียดนาม ก็ยังมีประสบการณ์รบจากสงครามเวียดนาม 

โดยขณะที่เวียดนามบุกกัมพูชานั้น กองกำลังทางทหารของเวียดนามมีจำนวน 875,000 นาย โดยที่ยังไม่รวมกำลังทหารของฝ่ายเฮง สัมริน ที่ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน ภายใต้ยุทธวิธีการรบแบบกองโจร และการรบแบบสมัยใหม่ 

ส่วนฝ่ายไทยนั้นมีประสบการณ์เพียงเรื่องการปราบปรามกองโจร และมีกำลังทหารหน่วยที่ผ่านสงครามในลาวและเวียดนาม แต่ก็ชำนาญการรบตามหลักนิยมของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งต้องอาศัยอำนาจการยิงที่เหนือกว่า จึงจะทำการรบได้ 

นอกจากนี้เวียดนามยังมีอาวุธของสหรัฐฯ ที่เหลือทิ้งไว้จากยุคสงครามเวียดนามอยู่มาก รวมทั้งในระหว่างปี พ.ศ. 2521 - 2531 นี้ เวียดนามก็ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากสหภาพโซเวียตเป็นจำนวนมหาศาล เพื่อพัฒนากองทัพให้ทันสมัย และเพื่อการปราบปรามฝ่ายต่อต้านในกัมพูชา จึงกล่าวได้ว่า ไทยมีขีดความสามารถที่ด้อยกว่าเวียดนามอยู่มาก 

ทั้งนี้ ข้อตกลงสันติภาพปารีส การเจรจาสันติภาพยังคงดำเนินต่อไป โดยการประชุมสันติภาพปารีสเกี่ยวกับกัมพูชาครั้งแรกจัดขึ้นใน พ.ศ. 2532 หลังจากการถอนทหารเวียดนาม ต่อมาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533 ได้จัดการประชุมจาการ์ตาครั้งที่สาม และจัดตั้งสภาสูงสุดแห่งชาติกัมพูชา เพื่อรับรองอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา ในเวลาเดียวกัน ฮุน เซนได้เปลี่ยนชื่อพรรคปฏิวัติประชาชนกัมพูชามาเป็นพรรคประชาชนกัมพูชา

WHO เตือนโอไมครอนลูกผสม “XE” แพร่เชื้อง่ายและรวดเร็ว เหนือกว่า BA.2 ถึง 10%

WHO เตือนโอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” แพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าทุกสายพันธุ์ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ถอดรหัสพันธุกรรมพบแล้ว 1 ราย รอยืนยันด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกครั้งหนึ่ง

เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics โพสต์วันที่ 2 เม.ย. 65 รายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับโอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” ที่แพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าไวรัสโคโรนา 2019 ทุกสายพันธุ์ที่เราเคยประสบมา

“XE” เป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.1 X BA.2” ไม่ใช่ “เดลตาครอน” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง “เดลตา X โอไมครอน” WHO ยังไม่ตั้งชื่อให้อย่างเป็นทางการจนกว่า “XE” จะแสดงอาการทางคลินิกที่รุนแรงแตกต่างไปจากสายพันธุ์อื่นอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับสายพันธุ์ลูกผสม “เดลตาครอน” หรือ “XD” WHO แจ้งว่าไม่พบการระบาดที่รวดเร็ว (transmissibility) และอาการที่รุนแรง (severity) แต่ประการใด

ล่าสุดศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสม “XE” จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างสวอปจากผู้ติดเชื้อ ชาวไทย 1 ราย และจากการตรวจกรองด้วยเทคโนโลยี “Massarray Genotyping” พบสายพันธุ์ลูกผสม “เดลตาครอน (เดลตา X โอมิครอน)” อีก 1 ราย ซึ่งต้องยืนยันด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกครั้งหนึ่ง

โอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 โดยมีการถอดรหัสพันุกรรมทั้งจีโนมและอัปโหลดขึ้นไปแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิด-19 โลกแล้วมากกว่า 600 ตัวอย่าง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top