Saturday, 10 May 2025
SPECIAL

‘ตำรวจ’ กระจายกำลังตรวจค้น 30 จุดในอีสาน ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดได้ 2.5 พันล้านบาท

(14 ธ.ค. 65) ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ประกาศจะปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อจะตัดวงจรของเครือข่ายยาเสพติด โดยยึดอายัดทรัพย์สินตลอดจนการป้องกันและปราบปรามแหล่งชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ชุมชนที่เชื่อว่าเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด และพื้นที่ล่อแหลม

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม) /ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2 รับนโยบายและได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลเครือข่ายที่เคยถูกจับกุมไปแล้วว่ามีความเคลื่อนไหวหรือไม่ และ มีเครือข่ายหน้าใหม่หรือไม่ สืบเนื่องการจับกุม นายวัฒนา ศรีวิไล พร้อมของกลางยาบ้า 1,976,000 เม็ด ได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าจึงขยายผลโดยใช้ข้อมูลจาก Big Data จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คน และพบว่าเครือข่ายนี้มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติดจากภาคอีสานลงสู่พื้นที่ภาคใต้ แล้วหลายครั้ง กระทั่งเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 จับกุมเครือข่ายได้อีก 2 รายคือ น.ส.รวิวรรณ วรรณฟัก ได้ที่หน้าโรงเรียนอนุบาลเพ็ญจันทร์ ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร และจับกุมตัว นายจักรพงษ์ คำชนะ ได้ที่หน้าหอพักพลอยสุข อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยแฝงด้วยการเป็นธุรกิจรับจ้างขนส่งสินค้าทั่วไประหว่างประเทศและในประเทศ

เจอด่านต้องทำอย่างไร! ศจร.ตร.ชี้วิธีสังเกตจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรที่ถูกต้อง แนะการถ่ายภาพ - คลิป พิจารณาก่อนแชร์

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) แจ้งประชาสัมพันธ์ประชาชน เรื่องการตั้งจุดตรวจของตำรวจจราจร ตามแนวปฏิบัติในการกวดขันวินัยจราจรเพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนท้องถนน 

พล.ต.ต.นิธิธรฯ กล่าวว่า ตำรวจจราจร ตำรวจทางหลวง เป็นเจ้าพนักงานจราจรตามกฎหมาย พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มีอำนาจหน้าที่ตั้งจุดตรวจ เพื่อกวดขันวินัยจราจรป้องกันอุบัติเหตุ และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนท้องถนน ป้องกันปราบปราม สอดส่องดูพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบนท้องถนน โดยด่านตรวจ หรือจุดตรวจ ต้องมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ระดับรองสารวัตรขึ้นไปเป็นหัวหน้ากำกับควบคุม

พล.ต.ต.นิธิธร ฯ กล่าวด้วยว่า เมื่อพบจุดตรวจ หรือด่านตรวจ กรุณาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ สอบถาม แสดงเอกสารหลักฐาน ทั้งนี้การขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 ผู้ใดต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการต่อสู้หรือขัดขวางนั้น ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือ ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้หากขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งสั่งการตามอำนาจตามกฎหมาย โดยไม่มีเหตุ หรือข้อแก้ตัวอันสมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผบ.ตร.ลุยเอง!! เร่งขยายผล คดีผับจินหลิง มั่นใจ ทุกฝ่ายทำงานไร้ปัญหา เข้าขากันดี

(13 ธ.ค 65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม กรณีผับจินหลิง ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ รปภ.ว่าจะมีความเห็นต่างระหว่าง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. หรือไม่

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ได้มีความเห็นแตกต่าง ต้องเข้าใจว่าทุกคนปรารถนาดี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ปรารถนาดี ทางคณะทำงานที่มี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน และมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้ากำกับดูแลและรายงานผม ส่วนสาเหตุที่แจ้งข้อหาหัวหน้า รปภ. เปิดสถานบริการ เป็นเจ้าของกิจการ จริง ๆ แล้วในวันนั้น ที่ ผบช.น.เข้าไปตอนแรก ส่วนใหญ่จะพบคนจีนแต่มีหัวหน้า รปภ.มาแสดงตนว่าเป็นผู้ดูแลสถานที่นี้ จึงต้องมีการแจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน ต่อมามีการประกันตัวในชั้นศาล

ภายหลังจากการสอบสวนและมีพยานหลักฐาน พบว่าไม่ใช่ผู้ดูแลที่แท้จริง เมื่อสอบลึกไปก็ทราบว่าใครเป็นเจ้าของตัวจริง ซึ่งจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ไม่ได้มีเจตนาที่จะจับแพะ เพียงแต่เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงแต่ละขณะไม่เหมือนกัน ต้องมองภาพก่อนว่าคดีจินหลิงเกิดเหตุในพื้นที่นครบาล ทางพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น ได้เข้าไปด้วยตัวเอง ผมได้ยกระดับให้ท่านเป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ส่วนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มทุนจีนสีเทาที่มีการไปตรวจค้นนอกพื้นที่นครบาล หรือในพื้นที่นครบาล ส่วนหนึ่งจะมีทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ไปช่วยขยายผลกับทาง สอท. ส่วนภาพรวมในการสืบสวนในที่ต่าง ๆ มีทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ควบคุม นำจิ๊กซอว์มารวมกัน ส่วนไหนที่เป็นคดีเกี่ยวเนื่องกับคดีจินหลิงก็จะเป็นทาง ผบช.น. หากเกี่ยวเนื่องกับคดีอื่นต่าง ๆ อาจจะมีการเพิ่มเติมในคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนต่อไป

'เจือ ราชสีห์' ซบ 'รวมไทยสร้างชาติ' บู๊เขต 1 สงขลา เผชิญหน้า 'สรรเพชญ' ลูกชาย 'นิพนธ์ บุญญามณี'

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า 'เจือ ราชสีห์' ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตัดสินใจย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากมีปัญหาพื้นที่เลือกตั้งทับซ้อนกับ 'สรรเพชญ บุญญามณี' จากพรรคประชาธิปัตย์ที่จะลงเขต 1 สงขลา ในนามพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน

กล่าวสำหรับเจือ ราชสีห์ เคยเป็น ส.ส.เขต 1 ในนามประชาธิปัตย์มา 4 สมัย แต่การเลือกตั้งครั้งปี 62 พรรคประชาธิปัตย์ส่ง 'เพชญ' ลูกชายของนิพนธ์ บุญญามณี ลงสมัครแทนตามผลโพล 'เจือ' จึงต้องไปลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อแบบ 'ไม่เต็มใจ' และผลการเลือกตั้ง 'เจือ' ก็ไม่ได้เป็น ส.ส. จนกระทั่งเพิ่งจะได้รับเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.หลังจาก ส.ส.บางคนลาออก เท่ากับว่าสมัยนี้เจือได้เป็น ส.ส.แค่ 4-5 เดือนเท่านั้น

เมื่อเขตเลือกตั้งทับซ้อนกัน และเจือยังยืนยันจะลงระบบเขต เนื่องจากบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าลำดับเกิน 20 ก็คงยากที่จะได้รับเลือกเป็นเป็น ส.ส. ซึ่งคราวที่แล้วเจืออยู่ลำดับที่ 27 ถ้ายังอยู่ลำดับเดิม หรือขยับมา 20-25 ก็เป็นลำดับที่ไม่ได้ จึงย้ายไปลงระบบเขตของพรรครวมไทยสร้างชาติ

ถ้าเป็นอย่างนี้ 'เจือ' ก็ต้องไปสู้กับ 'เพชญ' ซึ่งมีฐานะเป็นหลาน (ลูกของเพื่อน) ฤๅการเมืองก็ต้องไปว่ากันในสนามเลือกตั้ง ประชาชนจะเป็นคนติดสิน

ปชป.รอวันฟื้น!! เชื่อ! จะกู้วิกฤตศรัทธาคืนมาได้อีกครั้ง แม้กระแสนิยม ‘หัวหน้าพรรค’ ตกต่ำสุดขีด

เมื่อพลพรรคประชาธิปัตย์สามัคคีกันลุกขึ้นสู้ “เขาจะกลับมาฟื้นตัวเสมอ”

แม้มีคนกล่าวว่า สถานการณ์เวลานี้พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำสุดขีดแล้ว ตายแล้ว ไปที่ไหนก็กระแสไม่ค่อยจะมี อันเป็นการสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา

ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้มาพียง 52 ที่นั่งจากที่เคยได้เกิน 100 มาแล้ว แถมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์สูญพันธุ์ ไม่มี ส.ส.เลยแม้แต่คนเดียว ภาคใต้รังของประชาธิปัตย์ก็ได้มาแค่ 21 ที่นั่ง อันเกิดจากคำพูดเพียงประโยคเดียวของ 'อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ' หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในเวลานั้น “ไม่เอาประยุทธ์” ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งคงคิดว่าเป็นวรรคทองที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งได้ อันอาจจะเกิดจากการประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ว่า คนไทยไม่เอาเผด็จการ ไม่เอาประยุทธ์แล้ว

แต่วรรคทองดังกล่าวกลับเป็นหอกกลับมาทิ่มแทงพรรคประชาธิปัตย์จนถึงทุกวันนี้ และหลังเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ก็นำทีมร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จนถึงทุกวันนี้ อภิสิทธิ์รับผิดชอบด้วยการลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจาก ส.ส. และมี 'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแทน

นั้นคือประเด็น และเหตุผลที่คิดกันว่า พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำ คนไม่เลือกแล้ว แต่ถ้าย้อนกลับไปมองในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยเจอประสบการณ์ตกต่ำมาแล้วหลายครั้ง และเมื่อไหร่ก็ตามที่พรรคประชาธิปัตย์กลับมาสามัคคีกัน สร้างเนื้อตั้งตัวใหม่ ประชาธิปัตย์ก็จะกลับมาฟื้นเหมือนเดิน

ย้อนกลับไปเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งขึ้นโดยบุคคลคณะหนึ่ง มี 'ควง อภัยวงศ์' เป็นหัวหน้าพรรค ประกาศเจตนารมณ์ และจุดยืนชัดเจน 10 ข้อ ที่โดดเด่น เช่น ไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงสนับสนุนผลักดันให้มีการกระจายอำนาจให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารในท้องถิ่น อันถือเป็นนโยบายที่ก้าวหน้า และทันสมัยที่ยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน

พรรคประชาธิปัตย์ก้าวเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ล้มแล้วลุกตามสถานการณ์ทางการเมือง

จนถึงปี 2522 ผลการเลือกตั้งไม่น่าเป็นที่พอใจนัก ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นยุคตกต่ำ ผลการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานครพรรคประชาธิปัตย์ได้มาเพียง 1 คน คือ พันเอก (พิเศษ) ถนัด คอร์มันตร์ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคคนที่ 2 ในเวลานั้นรับผิดชอบด้วยการลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พันเอก (พิเศษ) ถนัด คอร์มันตร์ ได้รับเลือกให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่กอบกู้พรรค พันเอก (พิเศษ) ถนัด คอร์มันตร์ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างปี พ.ศ. 2522 - 2525 หลังหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคคนที่ 2 ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นช่วงวิกฤตที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ ที่กระแสความนิยมตกต่ำอย่างรุนแรงและสมาชิกในพรรคเกิดความแตกแยกกัน 

พันเอกพิเศษถนัด คอร์มันตร์ เป็นนักกฎหมาย เป็นนักการทูต เป็นนักการเมืองที่ฉะฉานนักข่าวถ้าไม่แน่จริง ไม่ชัดเจนในประเด็น ไปถาม พันเอก (พิเศษ) ถนัด คอร์มันตร์ จะถูกย้อนถามกลับมา ทำเอา “นักข่าวก็ไปไม่เป็น” เหมือนกัน สมัยนั้นต้องระดับ 'สุทธิชัย หยุ่น' ถึงจะเอาอยู่ แต่ก็ถูกพันเอกพิเศษถนัด คอร์มันตร์ ถามย้อนกลับเอาไม่น้อยเหมือนกัน แต่ด้วยความเขี้ยวของสุทธิ หยุ่น ก็ถือว่า 'เอาอยู่' 

พันเอก(พิเศษ) ดร.ถนัด คอมันตร์ ต้องเข้ารับภาระในตำแหน่ง หัวหน้าพรรค เพื่อประคองพรรคให้อยู่รอดต่อไปได้

กล่าวกันว่า พันเอก (พิเศษ)ถนัด คอมันตร์ ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นการบริหารที่ยาก เป็นการบริหารท่ามกลางความขัดแย้ง ไม่ลงรอยกับอีกขั้วการเมืองในพรรค คือขั้วของ 'พิชัย รัตตกุล' ซึ่งในขณะนั้นนายพิชัยเป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่ด้วย เนื่องจากมีสภาพเหมือนคู่แข่งกัน ในการทำงานระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่คนละรัฐบาล และต่างขั้วกัน โดยกล่าวกันในวงสนทนาว่า ถ้ามีผู้ใดถามถึง พิชัย กล่าวกันว่า พันเอก(พิเศษ) ดร.ถนัด คอมันตร์ จะตอบเสมอ ๆ ว่า "ไม่รู้จักคน ๆนี้”

หมดยุคของพันเอก(พิเศษ) ในปี 2525 พิชัย รัตตกุล ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์ นำพาพรรคให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ด้วยผลการเลือกตั้งที่คว้าชัยมาถึงหลัก 100 ที่นั่ง ถือว่า พรรคประชาธิปัตย์กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แต่พิชัยก็ก้าวพลาดจนได้ เมื่อนำพาพรรคเข้าร่วมรัฐบาล แต่กลับไม่ทำตามข้อตกลงกับกลุ่ม 'เฉลิมพันธ์-วีระ' ในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับกลุ่ม ส.ส.ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

ความขัดแย้งก่อตัวขึ้นอีกครั้งสะสมมาเรื่อย ๆ จนมาแตกหักในวันที่ 10 มกราคม 2530 อันเป็นวันเลือกตั้งหัวหน้าพรรค มีการแข่งขันกันสองขั้ว ขั้วหนึ่งมี 'ชวน หลีกภัย' เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรค อีกขั้ว มี 'เฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์' ลงชิง ต่างฝ่ายต่างมีผู้สนับสนุน อันนำมาซึ่ง 'กบฏ 10 มกรา' แถลงข่าวไล่เตะ ไล่ถีบกันรายวัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นำทีมเปิดปฏิบัติการค้น 53 จุดใน 18 จังหวัด ปราบเอเจนซี่เปิดมูลนิธิเอื้อประโยชน์ต่อวีซ่ากลุ่มทุนจีนสีเทา

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสืบสวนจับกุม กลุ่มทุนจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจสถานบันเทิงในประเทศไทยโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี แต่แอบแฝงด้วยธุรกิจสีเทา ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ขยายผลสืบสวนจับกุมกลุ่มทุนจีนสีเทาเหล่านี้ และเข้าตรวจค้นยึดทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมาก ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอข่าวไปแล้ว นั้น

​จากการสืบสวนขยายผลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่กลุ่มทุนจีนเหล่านี้สามารถเข้ามาภายในราชอาณาจักรและขออนุญาตอยู่ต่อได้นั้น ได้ใช้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา หรือเป็นอาสาสมัครมูลนิธิต่างๆ เพื่อขยายเวลาในการอยู่ต่อทุกครั้ง โดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบโดยละเอียดว่ามีการดำเนินการตามที่แจ้งจริงหรือไม่ จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับกลุ่มเอเจนซี่ที่รับต่อวีซ่าโดยเปิดตัวเป็นมูลนิธิหรือสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่ามีการดำเนินการจริงหรือไม่

​โดยเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.65 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนประสานความร่วมมือไปยัง บช.น. ,บช.ภ.1 , บช.ภ.2 ,บช.ภ.3 ,บช.ภ.4 , บช.5 บช.ภ.7 สตม. และ บช.ทท. เปิดปฏิบัติการเข้าค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 53 จุด อยู่ใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ ลำพูน น่าน หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา ยโสธร อำนาจเจริญ ขอนแก่น และอุดรธานี โดยผลการตรวจค้น

กลุ่มที่ 1. มูลนิธิและสถานศึกษา ตรวจยึดเอกสารการสมัครเรียนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบความผิดปกติจำนวนมาก

กลุ่มที่ 2 ผับเบบี้เฟส ซูเปอร์คลับ เอกมัย ตรวจยึด/อายัดทรัพย์ เพื่อตรวจสอบ ลำโพง ยี่ห้อ aike Audio จำนวน 82 ตัว, ไฟสแกน (ไฟ Beam) จำนวน 176 ตัว , เครื่องทำควัน/ไอน้ำ จำนวน 25 ตัว , ไฟสำหรับทำแสงเลเซอร์ จำนวน 10 ตัว  ตรวจยึดทรัพย์ ไฟสแกน (ไฟ Beam) จำนวน 3 ตัว ,กระสุนปืนพลุ จำนวน 261 ชิ้น ,ปืนสำหรับยิงพลุ (กระบอกเล็ก) จำนวน 11 กระบอก ,ปืนสำหรับยิงพลุ (กระบอกใหญ่) จำนวน 2 กระบอก ,น้ำยาสโมค ยี่ห้อ DJ RABBIT จำนวน 10 ลัง (40 แกลลอน) ,น้ำยาสโมค ยี่ห้อ YEROMCA จำนวน 6 ลัง (24 แกลลอน)
ผับ Space Plus และบริษัท สเปซ พลัส คลับ ตรวจยึด/อายัดทรัพย์ เพื่อตรวจสอบ ,ไฟติดตั้งเวที (LED+BEAM) จำนวน 150 ชิ้น , ไฟติดตั้งเวที BEAM XD-LIGHT) จำนวน 35 ชิ้น ,จักรยานออกกำลังกาย (PS300) จำนวน 81 คัน, ไฟสปอร์ตไลท์ ยี่ห้อ ACME จำนวน 4 ชิ้น, ไฟสปอร์ตไลท์ ยี่ห้อ ADJ จำนวน 4 ชิ้น, ลูมอม มีไฟ จำนวน 1000 ชิ้น, พลุ แบบยาว(ใช้ไฟฟ้า) (ลังละ 20 อัน) จำนวน  260 ลัง, รถไฟฟ้าเด็กเล่น จำนวน 3 คัน, กำไลข้อมือเรืองแสง (ลังละ 48 อัน) จำนวน 50 ลัง, แก้วน้ำพลาสติก (ลังละ 100 อัน) จำนวน 93 ลัง, ซองกันน้ำโทรศัพท์ (ลังละ 500 อัน) จำนวน 40 ลัง, ถังขยะ (ลังละ 6 อัน) จำนวน 3 ลัง, แก้วน้ำ จำนวน 60 ชิ้น, แก้วน้ำโปเกม่อน จำนวน 60 ชิ้น, แก้วยาว (ลังละ 72 อัน) จำนวน 40 ลัง, น้ำยาควันเวที  DT4 (ลังละ 70 อัน) จำนวน 4 ลัง เพื่อตรวจสอบความผิดตามเกี่ยวกับ พรบ.ศุลกากร

กลุ่มที่ 3 ความผิดเกี่ยวกับนายหลิน หลง ตรวจพบเสื้อคล้ายเครื่องแบบทหารพร้อมเครื่องหมายประดับคล้ายยศพันเอก จำนวน 1 รายการ ,ไวน์และสุราต่างประเทศ โดยตรวจยึดตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต และศุลกากร

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากช่วงที่ผ่านมา ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลเกี่ยวกับการจับกุมกลุ่มทุนจีนสีเทาที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในการทำธุรกิจในไทย ทำให้พบแผนประทุษกรรมที่เป็นรูปแบบใกล้เคียงกันของกลุ่มดังกล่าว โดยพบว่ากลุ่มดังกล่าวจะใช้เหตุผลในการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรไทยโดยอ้างเหตุจากการศึกษา หรือเป็นอาสาสมัครมูลนิธิต่างๆ ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ได้มีการดำเนินการตามที่กล่าวอ้าง ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบกลุ่มเอเจนซี่เหล่านี้ เพื่อมิให้คนไม่ดีใช้เป็นเครื่องมือหรือเป็นช่องทางในการอยู่อาศัยเพื่อกระทำความผิดในประเทศไทยเราได้ นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบถึงเจ้าของหรือผู้เปิดมูลนิธิหรือสถานที่เหล่านี้ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยว่า ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนจีนสีเทาหรือไม่ หากพบการกระทำความผิดจะขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ผบ.ตร.แจงทุกประเด็นคดีทุนจีนสีเทา ยืนยันทำตรงไปตรงมา ไม่กลัวอิทธิพล แต่ตำรวจต้องสั่งคดีตามพยานหลักฐาน โดยทำงานร่วมทั้ง ปปส., ป.ป.ง. และ อัยการ

จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถึงความคืบหน้าการเดินหน้าแฉกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย ‘วิ่ง สู้ ฟัด’ ตำรวจทำคดี ‘ตู้ห้าว’ ตั้งข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ไร้ข้อหา ‘ฟอกเงิน’ พร้อมตั้งคำถามถึงผบ.ตร. ว่าอาจจะกลัวอิทธิพล ‘ตู้ห้าว’ นั้น

วันที่ 11 ธันวาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า นายชูวิทย์ อาจจะมีการเข้าใจผิดในหลายเรื่องที่อาจจะทำให้ไม่มั่นใจในตำรวจขึ้นมา เริ่มต้นคดีผับจินหลิงเกิดจากพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ต้องให้เครดิตท่าน เนื่องจากมีการสืบทางลึกมาและได้ใช้กำลังที่ไม่เกี่ยวกับท้องที่ เพื่อไม่ให้มีการข่าวรั่ว โดยได้เข้าไปดำเนินการเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก ที่นายชูวิทย์บอกว่าตรวจปัสสาวะเหลือ 6 คน ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเข้าใจกันผิด ทั้งนี้ได้มีการตรวจสารเสพติดเบื้องต้นเป็นผลบวก  104 คน ซึ่งได้ส่งทั้งหมดไปที่โรงพยาบาลธัญลักษณ์ เพื่อตรวจยืนยันผล เพราะตามกฎหมายต้องยืนยันผล ทางโรงพยาบาลได้ยืนยันผลมา 77 ราย รับสารภาพ 66 ราย ก็ได้ส่งฟ้องศาล ปฏิเสธ 11 ราย โดยมีหนึ่งรายได้ประกันตัวและหลบหนี 1 ซึ่งทั้งหมด 76 รายอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของทางการ ส่วนใหญ่ที่เป็นคนจีนต้องรอส่งกลับเมื่อคดีเสร็จสิ้น เป็นความคืบหน้าว่าได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งทางผู้บัญชาการก็รู้รายละเอียดดีจึงเป็นสาเหตุให้ผมได้แต่งตั้ง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทันทีที่คดีเกิดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ทางพล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6. ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ไปร่วมในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งท่านก็พึ่งมาใหม่ได้เพียงไม่กี่วันก็ได้แต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนโดยให้รองผู้บังคับการที่ดูแลด้านสืบสวนสอบสวนนครบาล 6 เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ทางผบก.น.6 ไม่ได้ให้สน.ยานนาวาทำโดยลำพัง ต่อมาผมเห็นว่าคดีนี้เป็นที่น่าสนใจและเป็นคดีที่อาจจะมีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับคดีต่างๆ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานโดยมีผบช.น. เป็นหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวนโดยผมได้เซ็นคำสั่งเอง 

นอกจากนั้นได้มอบหมายให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เป็นหัวหน้ากำกับดูแลงานสืบสวนสอบสวนด้วย ซึ่งท่านสามารถมีอำนาจเต็มแทนผมได้อยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถ้าคุณชูวิทย์ไปพูดแล้วทำให้คนอื่นเข้าใจคลาดเคลื่อน ผมจะมากำกับดูแลใกล้ชิดด้วยตนเอง เพื่อจะได้ตัดปัญหาความคลางแคลงใจในเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งผมก็มั่นใจว่าคดีนี้ไม่ใช่เป็นคดีมวยล้มต้มคนดู

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้รายงานความคืบหน้ากับผมเป็นระยะๆ เบื้องต้นอย่างที่ทุกท่านทราบว่าคดีนี้ สามารถจับกุมขยายจากคดีเสพมาเป็นคดีครอบครองได้หลายคน ต่อมาได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาที่เปิดสถานบริการด้วย จากนั้นได้ขยายผลต่อจนเป็นคดีสมคบเรื่องยาเสพติด ออกหมายจับและอยู่ในความควบคุมตัวของตำรวจ 9 ราย รวมนายตู้ห้าว ซึ่งพยานหลักฐานในตอนนี้เป็นเจ้าของกิจการ ทุกคนยังอยู่ในเรือนจำอยู่ ศาลได้พิจารณาหลักฐานของตำรวจโดยทางผบช.น.ไปขออนุมัติหมายจับ ซึ่งศาลก็ได้อนุมัติ เป็นผลการปฏิบัติเบื้องต้นที่มั่นใจได้

ผบ.ตร. กล่าวว่า หากถามว่าทำไมยังไม่ดำเนินคดีฟอกเงินต้องชี้แจงว่าคดียาเสพติดข้อหาสมคบตามพ.ร.บ.มาตรการ เจ้าพนักงานป.ป.ส.สามารถยึดและอายัดทรัพย์สินได้ครอบคลุมอยู่แล้วตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ซึ่งสะดวก รวดเร็ว ครอบคลุม เมื่อยึดอายัดทรัพย์สินแล้ว ภาระการพิสูจน์ทรัพย์สินของนายตู้ห้าวทั้งหมด นายตู้ห้าวจะต้องมาแสดงว่าได้ทรัพย์สินมาได้อย่างไร ถูกต้องหรือไม่อย่างไร ส่วนปปง.ก็ไม่ได้ทิ้งก็จะตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินที่ถ่ายทอดไปยังบุคคลอื่นอย่างไร โดยได้ทำงานคู่ขนานกันไป พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่ปปง.มาร่วมตรวจสอบด้วย ทั้งนี้กรณีที่มีผู้จัดหาผลประโยชน์ รับเงิน โอนเงิน หรือฟอกเงิน ไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เรามีการแจ้งแน่นอน แต่จะใช้ กม เน้นปราบปราม ตัดวงจร ซึ่งขอระยะเวลาในการรวบรวม

‘ตร.- ปคม.’ บุกทลายร้านสปาย่านเมืองนนท์ รวบ ‘สองผัวเมีย’ ค้ากามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

เมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. ที่สภ.บางศรีเมือง พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.สภ.บางศรีเมือง, พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บางศรีเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์, กองกำกับการสืบสวนจังหวัดนนทบุรี ร่วมกันเข้าจับกุม นาย วิทยา อิ่มหนำ กับ น.ส. ธนภร ชัยมูลวงศ์ สามีและภรรยา เป็นเจ้าของร้าน ถูกจับและตั้งข้อหาจำนวน 10 ข้อหา จะเน้น 2 ข้อหาหลักคือ 

1.ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 

2. ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์ อายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี พร้อมด้วยเยาวชนหญิงอายุ 15-17 ปี จำนวน 8 คน ที่ร้านนวดดีน่าสปา ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

โดยใช้วิธีการล่อซื้อบริการทางเพศกับเยาวชนกลุ่มดังกล่าว พบว่ามีการซื้อบริการทางเพศจริงภายในร้านดังกล่าว ลักษณะร้านเป็นตึกแถว 3 ชั้น แต่ละชั้นจะมีห้องรับรองแขกจำนวน 2-3 ห้อง หลังจากการตรวจสอบทราบว่าเด็กเยาวชนทั้งหมดเดินทางจากบ้านเกิดที่จังหวัดอุดรธานี มาทำงานในร้านดังกล่าวในจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากมีเพื่อนแนะนำมา ในการใช้บริการทางเพศจะมีราคา 500 บาท 800 บาท และ 1,000 บาท ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, บ้านพักเด็กและครอบครัว เพื่อทำหนังสือส่งตัวเยาวชนทั้งหมดไปที่บ้านพักเด็ก จ.นนทบุรี และจะทำการติดต่อผู้ปกครองของเด็กทุกคน ซึ่งผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่ามีการมาทำงานขายบริการทางเพศ

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2565 : หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ

ไม่มีปาฏิหาริย์ใด
จะอัศจรรย์เท่ากับการฝึก
อบรมพัฒนาตนเอง
จากปุถุชนสู่ความเป็นอริยชน

ไม่รอด!! ‘กรมศุลกากร’ ร่วมกับหน่วย SITF ปิดเส้นทาง ยึดเฮโรอีน 45 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1,350 ล้านบาท เตรียมส่งออกออสเตรเลีย

วันนี้ (10 ธันวาคม 2565) เวลา 13.00 น. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม และหน่วย SITF 

โดย พ.ต.อ. จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว รอง ผบก. ปส.1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเรือโทภูมิ แสงคำ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ ร่วมแถลงข่าว การตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 45 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1,350 ล้านบาท (ประเทศปลายทาง) ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ กรมศุลกากร

โดย นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากปัญหาการลักลอบส่งออกยาเสพติดที่ปรากฎในปัจจุบัน กรมศุลกากรในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออก ยาเสพติด 

‘ตร. PCT’ บุกทลายเว็บพนันทายผลฟุตบอลโลก พบเงินหมุนเวียนสะพัดกว่า 100 ล้านบาท

วันที่ 10 ธ.ค. 65 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ ศูนย์ PCT สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค./หน.ด้านปฏิบัติการฯ, พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สพฐ.ตร./หน.ด้านข่าวสารฯ, พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ แจ้งอริยวงศ์ ผบก.ส.2/หน.ชป.ชุดที่ 4, พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ รอง ผบก.ปส.4 และพ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส ตม3 จนท.ศปอส.ตร.ชุดที่ 4 เข้าตรวจค้นหลังสืบสวนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายมีการกระทำผิดเว็บพนันบอลโลกออนไลน์ ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี รวบรวมหลักฐาน และขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญาเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ ผลการปฏิบัติกรณีจับกุมกลุ่มการเงินเว็ปพนัน G2G168C.com

1. จับกุมผู้ต้องหาเป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน รวม 4 คน พร้อมด้วยของกลางประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง 2.2 จอคอมพิวเตอร์ จำนวน 4 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง มูลค่าประมาณกว่า 80,000 บาท มีผู้เสียหายกว่า 16,409 ราย โดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 100ล้านบาทต่อเดือน

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน’ นำส่ง สภ.แสนสุข 

'ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย' เปิดศึกนครศรีธรรมราช ฟาก 'พปชร.' หวั่น!! รทสช.แย่งแชร์ หลังบิ๊กตู่ซบ

นาทีนี้ คงต้องมาเป่านกหวีดเช็คความพร้อม สนามเลือกตั้งเมืองคอนกันสักเล็กน้อย หลังจากสนามนี้ 'ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย' พร้อมเปิดศึกกันเต็มอัตรา ส่วน พลังประชารัฐ อาจจะอ้อแอ้ เมื่อลุงตู่มาร่วมทัพรวมไทยสร้างชาติ จนทำให้พรรคคึกคักขึ้น

ย้อนความไปเมื่อพลันที่พรรคภูมิใจไทย เปิดตัว 8 ผู้สมัครนครศรีธรรมราช พร้อมประกาศลั่นพร้อมสู้ทั้ง 9 เขต หวังปักธงอย่างน้อย 3 เขต ทำให้ต้องมาเช็กสนามกันอีกรอบ เพื่อสำรวจความพร้อมของแต่ละพรรค    

เพราะนาทีนี้ "นครศรีธรรมราชไม่เงียบนะ" เป็นคำตอบยืนยันมาจาก 'แทน-ชัยชนะ เดชเดโช' ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ รองเลขาธิการพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวผู้สมัครไปแล้ว 8 เขตเช่นกัน

8 คนที่ประชาธิปัตย์ได้ตัวผู้สมัครแล้วนั้นเป็นทั้งคนหน้าเก่าและหน้าใหม่ ได้แก่…

- นายราชิต สุดพุ่ม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี

- นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ที่ปรึกษารมช.พาณิชย์

- น.ส.อวยพรศรี เชาวลิต สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช 3 สมัย

- ว่าที่ร.ท.ยุทธการ รัตนมาศ อดีตรองนายกอบจ.นครศรีธรรมราช

- นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช 5 สมัย

- นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช 9 สมัย และอดีตรมช.ศึกษาธิการ

- นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

- น.ส.ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ บุตรสาวของนายชินวรณ์ และเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

โซนหัวไทร, ชะอวด, เชียรใหญ่ ทำโพลเสร็จพบ  'ยุทธการ' ชนะ 'พงศ์สิน เสนพงศ์' น้องชายของเทพไท เสนพงษ์ โดย ยุทธการ รัตนมาศ เป็นอดีตรองนายกฯ อบจ.นครศรีธรรมราช, นายกสมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นป้ายแนะนำตัวเต็มเขตเลือกตั้งแล้ว ส่วนพงศ์สินเคยลงสมัครเมื่อครั้งเลือกตั้งซ่อม เขต 3 ซึ่งก็คือพื้นที่โซนนี้แหละ แต่แพ้ให้กับอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่ง ก็จำเป็นต้องหาที่ยืนใหม่ สุดท้ายก็ไปลงที่รวมไทยสร้างชาติ

ไม่ว่าจะเป็นพงศ์สิน หรือยุทธการ ในมุมมองของ #นายหัวไทร เชื่อว่า มีฐานเสียงเดียวกัน คือโซนชะอวด ฐานเสียงโซนหัวไทรจะเบาบางทั้งคู่

"เรามีวิธีในการเรียกคะแนนจากประชาชน ขอให้สนามเลือกตั้งเปิดก่อน" เป็นคำยืนยันจาก 'ชัยชนะ'

'แทน-ชัยชนะ' ยังเชื่อมั่นอีกว่า เลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนพรรคประชาธิปัตย์จะชนะยกจังหวัด 9 ที่นั่ง ส่วน 'ภูมิใจไทย' คงสู้เต็มที่ทุกเขต แต่หากยืนอยู่บนความเป็นจริง ขอส่วนแบ่งไม่น้อยกว่า 3 เขต

การที่ภูมิใจไทย หวัง 3 เขต แปลความได้ว่าจะต้องไปแบ่งมาจากประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ เพราะภูมิใจไทยไม่มี ส.ส.นครศรีธรรมราชมาก่อน เหลืออีก 6 เขต ประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐก็ต้องไปสู้ส่วนแบ่งกัน ซึ่งดูจากเนื้อผ้าแล้ว เชื่อว่าพลังประชารัฐจะได้น้อยกว่าเดิม เพราะ 'สายัณห์ ยุติธรรม' ไปกับลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ชัดเจนแล้วว่า จะไปรวมไทยสร้างชาติ ก็จะเหลือ ส.ส.เก่าพลังประชารัฐที่ปักหลักสู้อยู่กับพรรคเดิม คือ ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ที่จะต้องประดาบกันหนักกับ 'ราชิต สุดพุ่ม' อดีตผู้ว่าฯปัตตานี ที่ผันตัวเองมาใส่เสื้อสีฟ้าประชาธิปัตย์ ก็ไม่ใช่หมูในอวยแน่นอน

ส่วนตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย อย่าง 'ผู้การฯ ติ๊ก' ก็จะมาแย่งคะแนนไปได้ไม่น้อยกับเครือข่ายศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมะ ที่ทุกวันนี้ผู้การฯ ติ๊กนั่งเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าเบญจมะอยู่ด้วย ทราบว่า หลังจากลงคลุกพื้นที่ขยันเดินพบปะ คะแนนตีตื้นขึ้นมาไล่บี้ 'รงค์-ราชิต' แล้ว ราชิตก็พยายามตีโอมล้อม 'ป่าล้อมเมือง' เข้ามาประชิตรั้ว ดร.รงค์แล้ว อยู่ที่ว่า ดร.รงค์ยังจะลงเขตเหมือนเดิม หรือขึ้นบัญชีรายชื่อ ปัญหาของ ดร.รงค์ คือ คนใกล้ตัวลงแข่งหมด

ด้าน อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ สองปีกับการเป็นผู้แทนยังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ ‘ทุกคะแนนไม่สูญเปล่า’ เครือข่ายเพื่อนฝูง-ญาติพี่น้องเยอะ ช่วยได้มาก แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยช่วยให้ชนะการเลือกตั้งกระจัดกระจายกันไปหมดแล้ว คงทำให้อาญาสิทธิ์มีปัญหาบ้าง และให้จับตาคนใกล้ตัวอย่างนายหัวอาจจะลงแข่งกับอาญาสิทธิ์ด้วย ซึ่งคงจะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ เพราะนายหัวคือผู้เกื้อหนุนอาญาสิทธิ์มาก่อน

'บิ๊กโจ๊ก' เข้าใจดี เหตุ 'ชูวิทย์' ไม่ไว้ใจ หลังไม่เอาผิดข้อหาฟอกเงิน 'ตู้ห่าว'

(9 ธ.ค 65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดเผย ถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เริ่มไม่ไว้ในการทำงานของตนเองเนื่องจากยังไม่มีการดำเนินคดีตู้ห่าว รวมถึง น.ส.พัชรินทร์ และพวกที่เป็นอมินีในความผิดฐานฟอกเงิน โดยตนมองว่าการออกมาในลักษณะดังกล่าวเป็นเพราะนายชูวิทย์ 'เป็นห่วง' เพราะได้นำข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ มาให้แล้วกลัวว่าตำรวจทำสำนวนไม่แน่นหากสรุปสำนวนแล้วอัยการหรือศาลยกฟ้องได้ 

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนายชูวิทย์ เข้าใจว่า สน.ยานนาวา ทำคดี สน.เดียวไม่มีความชำนาญ แต่ยืนยันว่าคดีนี้เป็นคดีใหญ่ และ ผบ.ตร.ได้แต่งตั้งเป็นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งมีทั้งตนเองและตำรวจนครบาล มีการระดมพนักงานสอบสวนฝีมือดีจากทั่วประเทศ รวมถึงมีอธิบดีอัยการคดียาเสพติด ปปส.และปปง.มาร่วมทำงานด้วย จึงขอให้นายชูวิทย์ มั่นใจว่าตำรวจทำคดีนี้อย่างรอบคอบรัดกุม และหากคดีนี้ตนทำไม่ดีคนที่เสียหายนอกตนเองแล้ว ประชาชนก็จะไม่ศรัทธาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องนี้ขออย่ากังวลใจ 

‘พล.ต.ท.ศานิตย์’ ลุยอุดรธานี ช่วยเหยื่อถูกหลอกไปทำงานญี่ปุ่น

พล.ต.อ.อดุลย์ ปธ.กมธ.แรงงาน ส่ง พล.ต.ท.ศานิตย์ 'น.1 บึ่งทุกที่' ลุยอุดรธานี เร่งบูรณาการช่วยเหยื่อถูกหลอกไปทำงานญี่ปุ่น พร้อมเตรียมขยายผลดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง

(8 ธ.ค. 65) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร 'น.1 บึ่งทุกที่' ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการจัดหางานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อประชุมหารือแก้ปัญหากรณีคนไทยถูกหลอกลวงโดยอ้างว่าสามารถพาไปทำงานที่ญี่ปุ่นได้ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามฝ่าย ฝ่ายตำรวจนำโดย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.อุดรธานี และ ผกก.ท้องที่เกิดเหตุ ฝ่ายกระทรวงแรงงาน นำโดย นายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และมีตัวแทนผู้เสียหาย 6 คน เข้าร่วมประชุมด้วย ณ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี

พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย

พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top