Saturday, 10 May 2025
SPECIAL

ปปส กทม จับมือฝ่ายสืบสวน และพิสูจน์หลักฐาน เปิดรถของกลาง 11 คันในผับจินหลิง เก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ พบยังไม่เคยถูกตรวจสอบ จากที่ตรวจยึดไว้ทั้งหมด 35 คัน ผอ.ปปส. กทม. เผย ยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องในคดี 4,400 ล้านแล้ว

วันนี้ (27 ธ.ค.65) เวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พ.ต.อ.กู้เกียรติ เจริญบุญ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด  นายอุดมชัย โลหณุต. ผอ.สำนักงาน ปปส.​กทม. และกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเปิดรถยนต์ของกลางจำนวน 11 คัน จากที่ตรวจยึดไว้ 35 คัน ในผับจินหลิง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 

โดยพบว่ารถทั้ง 11 คันยังไม่เคยถูกเปิดและเก็บลายนิ้วมือ รวมทั้งดีเอ็นเอและเอกสารภายในรถ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นรถของนายทุนจีนสีเทา ที่มีความเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว โดยเฉพาะรถยนต์ อัลพาร์ด สีดำทะเบียน 7 กภ 1234 ซึ่ง จากเอกสารภายในรถพบว่าเป็นของนายหยาง เฉิน ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของนายตู้ห่าว 

และอีกคันคือรถยนต์โรลสรอยส์  ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท โดยพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีความเชื่อมโยงไปถึงคอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านตากสิน โดยก่อนหน้านี้มีการตรวจค้นไปแล้วสองครั้งและตรวจยึดอายัดทรัพย์สินไว้จำนวนมาก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นวันนี้เป็นการตรวจเก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอภายในรถแต่ละคันซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้เปิดตรวจ จึงต้องทำให้ครบถ้วนนอกจากนี้ยังมีหลักฐานอีกหลายรายการที่ไม่ได้ถูกตรวจเช่นกันไม่ว่าจะเป็นชิปแลกเงินสำหรับเล่นการพนัน ถาดรองไม้ซึ่งน่าจะใช้เป็นถาดรองยาเสพติดสำหรับสูดดม และยังมีหลอดสำหรับเสพยาตกกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ 

โดยยืนยันว่าขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้ ดำเนินการในส่วนของคดีนายตู้หาว ครบแล้ว 100% ที่เหลือเป็นส่วนของสำนวนการสอบสวนซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้รับผิดชอบ ทางทีมสืบสวน ไม่มีความเกี่ยวข้อง 

ส่วนปัญหาที่นายชูวิทย์ เป็นห่วงนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวลเพราะถึงปัจจุบันนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เข้ามาดูแลเรื่องสำนวนการสอบสวนด้วยตัวเองดังนั้นการทำงานจากนี้ไปก็ต้องเป็นไปตามกลไกส่วนจะมีการบันทึกหลักฐานชิ้นใดเกี่ยวข้องกับในคดีใดบ้างส่วนนี้เป็นหน้าที่ของนครบาล

'สืบนครบาล' รวบเสี่ยณัฐพระโขนงหลอกนำทองปลอมหลอกขายพริตตี้สาว

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบที่กระทำความผิดสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก  ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMBได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนจากประชาชนอาชีพพริตตี้ถูกคนร้ายนำทองปลอม น.น. 2 บาท มาหลอกขาย เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายจำนวน 30,000 บาท  และจากการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์คนร้ายที่ก่อเหตุเคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และฉ้อโกงมาแล้ว 2 ครั้ง 

ต่อมาวันที่ 26 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 18.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ  ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB และเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯบก.สส.บช.น. ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัว 

นายณัฐอินทร์ทัช อายุ 34 ปี ที่อยู่ เลขที่ 7 ซอยวชิรธรรมสาธิต 74 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ โดยกล่าวหาว่าฉ้อโกง ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 622/2565 ลงวันที่  2 กันยายน พ.ศ.2565 สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณลานจอดตลาดรถวิน ภายในซอยศรีนครินทร์ 40 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

จากการซักถามปากคำในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่าเมื่อ มิ.ย.65 ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะนำทองปลอมน้ำหนัก 2 บาท มาเสนอขายให้แก่พริตตี้สาวผู้เสียหาย แต่ทองดังกล่าวอ้างว่าตนได้มาจากการรับซื้อมาจากคนที่เล่นเสียพนัน โดยในวันเกิดเหตุเมื่อตนได้ทองมาจากผู้เล่นเสียพนันให้ตนแล้ว ตนได้นัดพริตตี้สาวให้มาพบ ต่อมาตนมีธุระที่จะต้องใช้เงินด่วนจึงได้เสนอให้พริตตี้โอนเงินเข้าบัญชีตนจำนวน 30,000 บาท เพื่อแลกกับสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนมิได้ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ต้องหาเป็นคนที่มีความรู้ด้านการสั่งทำกรอบพระ สั่งทำเครื่องประดับ ที่ทำจากเงินและทองไม่บริสุทธิ์ โดยมีร้านรับทำกรอบพระย่านศรีนครินทร์เป็นของตนเอง จึงมีความรู้ในการสั่งซื้อสั่งทำเครื่องประดับ รวมทั้งรู้แหล่งซื้อทองปลอมราคาหลักพัน ประกอบกับเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์กระทำความผิดของผู้ต้องหาพบว่าก่อนหน้าที่จะมาถูกจับกุมในครั้งนี้ ผู้ต้องหาดังกล่าวเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และ ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน มาแล้ว 2 ครั้ง คือ

ลุ้น!! ‘ประยุทธ์’ สลายขั้วขัดแย้งได้จริงหรือ เมื่อ ‘คู่กัด’ เมืองหอยใหญ่โคจรมาอยู่พรรคเดียวกัน

คุยกันสนั่นลั่นสภากาแฟแถวปักษ์ใต้ ตั้งแต่ชุมพร ยันสงขลาว่ามันจะเป็นไปได้เหรอที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เปิดอกแบไต๋ออกมาแล้วว่าจะทิ้งพลังประชารัฐ และไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมกับการเปิดตัว ‘บิ๊กเนม’ อย่าง ‘ไตรรงค์ สุวรรณคีรี’, ‘กำนันศักดิ์-พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว’ นายก อบจ.สุราษฏร์ธานี และ ‘ชุมพล กาญจนะ’ อดีต ส.ส.สุราษฏร์ 7 สมัย และ ‘ชัช-เตาปูน’ หรือ ‘ชัชวาลย์ คงอุดม’ จากพรรคพลังท้องถิ่นไทย

คนอื่นไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับ ‘กำนันศักดิ์’ กับ ‘ชุมพล กาญจนะ’ ที่แม้จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกฯ อีกสมัย แต่ทั้งคู่ คือ ‘คู่กัด’ ที่โคจรมาอยู่ในพรรคเดียวกัน

หากย้อนเวลากลับไปเมื่อปลายปี 2563 กำนันศักดิ์ ผู้สร้างฐานอำนาจมาจาก สจ.มากบารมีจากฟาร์มหอยแครง กับ ชุมพล ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ในศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.สุราษฏร์ธานีนั้น จะพบว่าต่างฝ่ายต่างงัดกลยุทธ์มาสู้กันทุกรูปแบบ และท้ายที่สุด กำนันศักดิ์ เอาชนะ ชุมพล กาญจนะ ไปได้ ม้วนเดียวจบ แต่มิวายก็มีการยื่นคำร้องเรียน ว่าทีมงานกำนันศักดิ์ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จ่ายเงินทำบุญงานบวช แต่สุดท้าย กำนันศักดิ์ ก็สู้จนชนะในชั้นศาลอุทธรณ์และนั่งเป็นนายกฯ อบจ.สุราษฎร์ธานีจนถึงทุกวันนี้

เก่าแก่ที่สุด!!

รู้จัก ‘พรรคประชาธิปัตย์’ หรือชื่อย่อ ปชป. (Democrat Party) สถาบันการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2489 โดยนายควง อภัยวงศ์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึง 76 ปี และผ่านสถานการณ์การเมืองมาแล้วทุกรูปแบบ

บิ๊กเด่น แถลงผลงาน ตำรวจ ปส.ขยายผลทลายเครือข่ายภาคเหนือ ลอบขนยาบ้า 4.6 ล้านเม็ด  ส่งลูกค้าภาคกลาง

วันนี้เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เดินทางมาเป็นประธานแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติดพร้อมยาบ้าจำนวนมาก พร้อมด้วย พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส. และ พล.ต.ต.เอกภพ อินทวิวัฒน์ ผบก.ขส.บช.ปส. ซึ่งจากนโยบายเร่งด่วนของ ผบ.ตร. ในการปราบปรามยาเสพติด เดินหน้าเชิงรุกทุกมิติการทำงานเพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและในชุมชนทำลายเครือข่ายค้ายาเสพติดให้ครอบคลุม รวมทั้งขยายผลยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดให้สิ้นซาก

จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยในกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดสกัดกั้นจับกุมและสืบสวนขยายผลการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บช.ปส. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจข่าวกรองยาเสพติด บช.ปส. สนธิกำลังจับกุม 2 ผู้ต้องหา คือ นายอลงกรณ์ โรจนวิภาต อายุ 28 ปี และ นายทวีศักดิ์ สุกงาม อายุ 47 ปี ได้ริมถนนภายในหมู่บ้านหนองแรต ม. 8 ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จว.นครสวรรค์ และ บริเวณทางเข้า บ้านเลขที่ 11/2 ม.9 ต.ท่าข้าม อ.ค่ายบางระจัน จว.สิงห์บุรี  

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2565 : หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

การกระทำใด ๆ ที่ทำไปโดยต่อเนื่อง

ของเล็ก...ก็จะกลายเป็นของใหญ่

บุญน้อย...ก็จะกลายเป็นบุญมาก

ทำดีไม่ได้ผล เพราะทำตนลุ่ม ๆ ดอน ๆ

ทำดีที่ได้ผล เพราะทำตนสม่ำเสมอ

วาทกรรมอำพราง สูตรสำเร็จนักการเมืองที่ใช้ครองใจมวลชน แต่ผลกรรมตกอยู่ที่ประชาชนร่ำไป

จากการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองโดยมีประชาชนเป็นแกนหลัก ภายใต้นาม ‘พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย’ (พธม.) ตั้งแต่กลางสมัยรัฐบาล ‘ทักษิณ 1’ ต่อเนื่องกระทั่งประเทศไทยเดินเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2549 สังคมไทยเริ่มถูกแบ่งด้วยขั้วการเมืองออกเป็นสองฝักฝ่ายอย่างชัดเจน เป็นเหตุให้ความสามัคคีของชนชาวสยามซึ่งพร้อมจะขาดผึงอยู่รอมร่อถูกทุกทำลายลงอย่างไร้หนทางหลีกเลี่ยง

เริ่มจากมีคนกลุ่มคน ‘สวมเสื้อสีแดง’ เข้าลอบทำร้ายผู้ชุมนุมพันธมิตรซึ่ง ‘สวมเสื้อสีเหลือง’ อันมีนัยหมายถึง ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

ลองไปหาดูได้ไม่ยากว่าสีแดงแรกเริ่มนั้นสกรีนบนอกเสื้อว่าอะไร

แม้ดูเหมือนความชุลมุนจะจบลงที่เหตุรัฐประหาร 29 กันยายน ของปีเดียวกัน โดย ‘คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ’ (คมช.) ความระส่ำระสายแตกแยกของผู้คนก็ไม่มีทีท่าเบาบางจางลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับมีมวลชนจัดตั้งจากฝ่ายการเมืองผู้สูญเสียผลประโยชน์ โดยตั้งเป้าหลักคือต่อต้านการยึดอำนาจ เริ่มจากกลุ่มคนเล็กๆ ปราศรัยในสนามหลวง จนเติบโตกลายเป็น ‘กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ’ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง

เข็นเสื้อแดง นปช. ออกมาชนเสื้อเหลือง พธม. อย่างเต็มรูปแบบ

สร้าง ‘ตีนตบ’ (พลาสติก) ออกมาฉะสู้กับ ‘มือตบ’ ประมาณนั้น

สิ่งเหล่านี้ล้วนคือน้ำมือนักการเมืองผู้กระสันแย่งชิงความได้เปรียบทั้งสิ้น

แม้กลุ่มคนผู้รวมตัวเรียกร้องทางการเมืองในภายหลัง ซึ่งเรียกตนเองว่าเป็น ‘ประชาชน’ ที่รับรู้ทั่วไปว่ามาจากการ ‘จัดตั้ง’ โดยกลุ่มนักการเมืองผู้สูญเสียประโยชน์และอำนาจยืนกำกับการแสดงอยู่เบื้องหลัง และหันมาใช้วิธีการดั้งเดิม คือ สร้างสูตรสำเร็จทางความเชื่อด้วย ‘วาทกรรม’

นักการเมืองไทยทุกยุคทุกสมัยรู้ดีว่า ‘วาทกรรม’ คือ ‘สูตรสำเร็จของการครองใจคน’ เปรียบประดุจอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน โดยผู้บริโภคไม่ต้องคอยกังวลใส่ใจว่าส่วนผสมหรือกรรมวิธีการปรุงนั้นมีที่มาอย่างไร เพียงแค่ผลิตป้อนให้รสชาติอร่อย ‘แซบ ลำ นัว หรอย’ ถูกปากถูกใจ (สาวก) เป็นพอ

คำ ‘ไพร่ อำมาตย์ และฝ่ายประชาธิปไตย’ จึงถือกำเนิดจนถูกจดจำนำมาใช้ต่ออย่างแพร่หลายยาวนาน นั่นเพราะ ‘วาทกรรม’ บริโภคง่ายไม่ต้องอาศัยกระบวนการทางความคิดมาบดย่อยให้ยุ่งยาก ไม่ต่างจากเหตุการณ์ต่อสู้ชิงอำนาจ ‘ฝ่ายประชาธิปไตย’ กับ ‘ฝ่ายอนุรักษ์นิยม’ ยุค พ.ศ. 2475 ที่ใช้การแจก โปรยใบปลิวตามท้องถนน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นวาทกรรมบิดเบือนให้ร้าย และถูกผลิตจากโรงงานการเมือง

ศ.ดร.ธีรยุทธ บุญมี อดีตแกนนำนักศึกษา และอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย เคยกล่าวถึงเรื่องวาทกรรมไว้อย่างน่าสนใจว่า “...น่าเป็นห่วงวิกฤติรอบใหม่ในลักษณะวาทกรรมที่จะรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ และจะค่อยทำลายคนที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มอื่น หรือคนอื่น ทีละเล็กทีละน้อย”

โฆษก ตร. เตือนภัย แชร์ลูกโซ่บ้านออมทอง เพจเฟซบุ๊ก เฟื่อง โกลด์ ดัง ออมทอง ขายทองออนไลน์ อ้างดารามีชื่อร่วมโปรโมต เหยื่อสูญเงินกว่า 700 ล้านบาท


วันนี้ (24 ธ.ค. 65) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยกรณี บ้านออมทอง เพจเฟซบุ๊ก เฟื่อง โกลด์ ดัง ออมทอง ขายทองออนไลน์ โพสต์โฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนออมทอง อ้างดารามีชื่อร่วมโปรโมท หลอกให้ร่วมลงทุนและเป็นตัวแทนหาสมาชิกมาร่วมลงทุนออมทองผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนเชิดเงินหลบหนีไปรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 700 ล้านบาท

โฆษก ตร. กล่าวว่า ตามที่เป็นข่าวกรณี บ้านออมทอง ซึ่งมีหน้าร้านอยู่ที่จังหวัดสระบุรี โดยใช้ชื่อว่าร้านทองเฟื่อง โกลด์ ดัง และมีเพจเฟซบุ๊กชื่อเฟื่อง โกลด์ ดัง ออมทอง ขายทองออนไลน์ โพสต์โฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนออมทอง อ้างได้ค่าตอบแทนสูง ลงทุนระยะสั้น 23,000 บาท ครบ 1 เดือน จะได้รับทองคำน้ำหนัก 1 บาท ซึ่งราคาต่ำกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ยังชักชวนให้เป็นตัวแทนหาสมาชิกมาร่วมลงทุนออมทอง โดยจะได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าตอบแทน 300 บาท ต่อการลงทุนออมทองคำน้ำหนัก 1 บาท คนร้ายสร้างความเชื่อถือโดยการช่วงแรกมีการจ่ายปันผล ได้รับทองคำ หรือ ค่าตอบแทนจริง ประกอบกับมีกลุ่มตัวแทน หรือหน้าม้า คอยรีวิวสร้างความมั่นใจ กับบ้านออมทองแห่งนี้ เพราะมีที่ตั้งร้านทองชัดเจน เปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 1 ปี 5 เดือน และทุกเดือนพวกเขาก็ได้เงินตรงตลอด ส่วนทองคำลูกค้าจะเอาเมื่อไรก็ไม่เคยเบี้ยว อีกทั้งอ้างว่าเคยมีการเชิญ อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 มาร่วมโปรโมทร้าน ทำให้ดูน่าเชื่อถือ จึงมีเหยื่อหลงเชื่อไปชักชวนคนรู้จักมาร่วมลงทุนรวมกว่า 700 ล้านบาท

โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า วิธีป้องกันตนเองต่อภัยโจรออนไลน์ในหลากหลายรูปแบบ ในกรณีนี้สามารถตั้งข้อ สังเกตว่าอาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ออมทอง ได้ดังนี้

1. ทุกคนสามารถที่จะร่วมลงทุนในการออมทองได้ ไม่จำกัดอายุ อาชีพ เพศ การศึกษา หรือประสบการณ์ใดๆ และสามารถนำเงินมาร่วมลงทุนในการออมทองได้ไม่จำกัด

2. บ้านออมทองแห่งนี้ ลงทุนระยะสั้น 23,000 บาท ครบ 1 เดือน จะได้รับทองคำน้ำหนัก 1 บาท ซึ่งราคาต่ำกว่าท้องตลาด

3. ลักษณะการออมทอง คือการเปิดรับตัวแทน(แม่ข่าย) เน้นการสร้างเครือข่าย รายรับที่ได้มาจากการหาสมาชิกเพิ่ม ตัวแทนจะได้รับรายได้เป็นเปอร์เซ็น เช่น ถ้าลูกข่ายออมทองน้ำหนัก 1 บาท ตัวแทนก็จะได้เงิน 300 บาท

4. มีการสร้างความน่าเชื่อถือ โดยช่วงแรกจ่ายค่าปันผล ได้รับทองคำ หรือค่าตอบแทนจริง อีกทั้งกล่าวอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในสังคมร่วมโปรโมทร้าน

5. การชักชวน ระดมหาสมาชิก จะมีการเร่งรัดให้ตัดสินใจเข้าร่วมให้ลงทุน โดยผู้ชักชวน ปิดบังไม่ให้ข้อมูลให้ครบทุกด้าน

สมุทรปราการ - ‘ทรงพล ทองวิจิตร’ นักธุรกิจชื่อดัง ทุ่มเงินกว่า 15 ล้าน เปิดร้านอาหารสุดหรู ‘ลา คาแนล คาเฟ่’

นายทรงพล ทองวิจิตร ผู้บริหาร ลา คาเเนล คาเฟ่ และ กรรมการบริหาร บริษัท ทรงพลการบัญชีและกฎหมาย จำกัด ถือฤกษ์ดี วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 ตัดลิ๊บบิ้นเปิดร้านอาหารสุดหรู อย่างยิ่งใหญ่อลังการ หลังทุ่มเงินในการก่อสร้างจำนวนกว่า 15 ล้านบาท ในพิธีประกอบไปด้วย การถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสฉลองเปิดร้านอาหารใหม่ สไตล์วิคตอเรียล ซึ่งเป็นสไตล์แนวยุโรป ใช้ชื่อว่า ลา คาเเนล คาเฟ่ โดยร้านนั้นตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง ตรอ. ถนนเทพารักษ์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เยืองกลับธนาคารไทยพาณิชย์ ติดกับโรงพยาบาลสินแพทย์เทพารักษ์

ภายในงานยังได้รับเกียรติ จากท่าน พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้เกียรติมาเป็นประธานตัดริบบิ้นเปิดงานและร่วมแสดงความยินดีกับนายทรงพล ทองวิจิตร ผู้บริหาร ลา คาเเนล คาเฟ่ เนื่องในโอกาสฉลองเปิดร้านอาหารใหม่ ภายในงานยังมี พลตำรวจตรี ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และ ข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจ ร่วมแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก

ภายในงานยังได้พบกับศิลปินชื่อดัง บ่าววีอาร์สยาม / ติ๊ก ชีโร่ / ศร ศรศักดิ์ สวนแก้ว เจ้าของเพลงดัง “ใจปลาซิว” และ รอน อรัญฯ อีกทั้ง ยังได้พบกับ เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟชื่อดังระดับประเทศ ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารไทย มาโชว์การทำอาหารให้กับแขกผู้มีเกียรติได้ลิ้มลอง

โดย นายทรงพล ทองวิจิตร ผู้บริหาร ลา คาเเนล คาเฟ่ กล่าวว่า ตนเองนั้นมีความคิดริเริ่มที่อยากจะเปิดร้านอาหาร ซึ่งเดิมทีสถานที่แห่งนี้เป็นที่รกร้าง ก่อนจะถูกรีโนเวทและถูกสร้างเป็นร้านอาหาร ซึ่งร้านอาหาร ลา คาเเนล คาเฟ่ เป็นเอกลักษณ์ของสภาปัตยกรรม สไตล์วิคตอเรียล ออกแบบการสร้างอย่างสวยหรูโดยนักออกแบบมืออาชีพ และในส่วนการตกแต่งร้านรวมถึงเฟอร์นิเจอร์นั้น เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยการประยุคประสมประสานในรูปแบบสไตล์ยุโรปเข้าด้วยกัน

มีห้องจัดเลี้ยง ที่สามารถรองรับได้ถึง 300-400 คน เป็นอาคารสูงสามชั้น บรรยากาศดี ด้านหลังติดกับคลองสำโรง เหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยงรับรอง งานฉลอง งานเทศกาลปีใหม่ หรืองานสังสรรค์ต่างๆ ในส่วนความโดดเด่นของร้าน ลา คาเเนล คาเฟ่ นั้น มีทั้งอาหาร ไทย จีน ฝรั่ง ในส่วนเชฟประจำร้านเป็นเชฟมืออาชีพ มีประสบการณ์และมีความชำนาญในด้านการปรุงอาหารที่โดดเด่น 

อีกทั้ง ในการฉลองเปิดร้านใหม่ในครั้งนี้ ทางร้าน ลา คาแนล คาเฟ่ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติและผู้ที่มาร่วมภายในงาน โดยทางร้านจะมีส่วนลดพิเศษ 15 % และมีระยะเวลานานถึง 1 ปี สำหรับประชาชนท่านใดที่สนใจจะเดินทางมาลิ้มรสกับรสชาติความอร่อยของร้าน ลา คาแนล คาเฟ่ บรรยากาศแบบธรรมชาติ และมีอาหารที่หลากหลายให้เลือก สามารถโทรสอบถามได้ที่ 095-459-2483 และ 081-554-4435 


คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

รู้จัก ‘พรรคเพื่อไทย’ พรรคใหญ่อันดับ 1 ของการเมืองไทยในแง่จำนวน ส.ส. จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา กับเป้าหมาย ‘แลนด์สไลด์ 

รู้จัก ‘พรรคเพื่อไทย’ พรรคใหญ่อันดับ 1 ของการเมืองไทยในแง่จำนวน ส.ส. จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา กับเป้าหมาย ‘แลนด์สไลด์ 

'อนุทิน' ลุ้น!! ฝ่ากระแส 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' แบ่งเค้ก ส.ส.กทม. หลังดึง 'พุทธิพงษ์' นั่งแท่นว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรค

นาทีนี้แลดู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมั่นใจมากขึ้น สำหรับความหวังในการปักธงสีน้ำเงิน ในสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร หลังจากมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ทยอยลาออกมากรอกใบสมัครเข้าพรรคเพิ่มขึ้น

ผู้อยู่เบื้องหลังในการเจรจาดึงตัว ส.ส.เหล่านั้น คือ 'เสี่ยบี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์' อดีต รมว.ดีอีเอส ว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรคสีน้ำเงิน  

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2565 กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา และ ภาดาท์ วรกานนท์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยก่อนหน้านั้น ก็มี 3 ส.ส.กทม. อย่าง จักรพันธ์ พรนิมิตร, กษิดิ์เดช ชุติมันต์ และพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว รวมๆ แล้ว ส.ส.กทม.พรรคลุงป้อม ที่ย้ายมาพรรคเสี่ยหนู 5 คน ส่วนจากพรรคเพื่อไทย มี 1 คนคือ ส.ส.อ๊อด-ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ (เขตห้วยขวาง-ดินแดง)

จะว่าไป พรรคภูมิใจไทย ก็มี ส.ส.กทม.อยู่แล้ว 2 คนคือ ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย (เขตสวนหลวง) และโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี (เขตจอมทอง) ทั้งคู่เป็น ส.ส.สมัยแรก สังกัดพรรคอนาคตใหม่ ภายหลัง มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ พวกเขาจึงเลือกมาอยู่พรรค ภท. ไม่ไปพรรคก้าวไกล

อย่างไรซะ ภูมิใจไทยของ 'อนุทิน' ก็มีภาพลักษณ์เป็นพรรคบ้านใหญ่ พรรคทุนท้องถิ่น ซึ่งความล้มเหลวในสนาม กทม. เมื่อการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 ก็ให้คำตอบชัดว่า พรรคเสี่ยหนู ไม่ถูกจริตคนเมืองหลวง

แต่เมื่อมีขุมกำลังจากพรรค พปชร.ย้ายเข้ามาอยู่พรรค ภท. เสี่ยหนูจึงแอบหวังว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะได้ ส.ส.กทม. 

เพราะสมัยที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส. 12 ที่นั่ง หลัง 2 ส.ส.อย่าง ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ (เขตบางซื่อ) และสิระ เจนจาคะ (เขตหลักสี่-จตุจักร) เจออุบัติเหตุการเมืองต้องพ้น ส.ส. จึงเหลืออยู่ 10 คน โดย ส.ส.ทั้งหมดนี้ จะไม่มีใครอยู่พรรค พปชร.อีกต่อไป 

อย่างตอนนี้ 5 คน ประกอบด้วย พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ (เขตปทุมวัน-บางรัก), กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา (เขตคลองเตย), ภาดาท์ วรกานนท์ (เขตพญาไท), กษิดิ์เดช ชุติมันต์ (เขตลาดพร้าว) และจักรพันธ์ พรนิมิตร (เขตบางพลัด) ที่เลือกไปพรรคภูมิใจไทย

มีข่าวว่า ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ (เขตบางกะปิ) และ ประสิทธิ์ มะหะหมัด (เขตสะพานสูง) จะไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ 

ศิริพงษ์ รัสมี (เขตหนองจอก) เตรียมย้ายไปสังกัดพรรค ปชป. และกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ (เขตพระนคร) ไปพรรคเพื่อไทย ส่วน ชาญวิทย์ วิภูศิริ (เขตมีนบุรี) มีข่าวว่าจะเว้นวรรค

‘ตำรวจ’ รวบ ‘แก๊งโดราเอม่อน’ พร้อมของกลาง หลังตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพฯ

(22 ธ.ค. 65) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระรองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.โอภาส หาญณรงค์ รอง.ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง.ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.อำนวย เงินนา สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) บก.สส.บก.น.9, สน.หลักสอง, สน.เพชรเกษม, สน.ธรรมศาลา และสภ.กระทุ่มแบนจับกุมนายสุเทพ สงวนนามสกุล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 851/2565 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2565  จับกุมตัวได้ที่ บ้านพักซอยวิภาวดี 16/26 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 

นายอนุสรณ์ หรือเบิร์ด สงวนนามสกุล อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 737/2565 ลง 24 พ.ย. 2565 จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าหอพักบ้านทองอยู่ ซอยเพชรเกษม 126 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 

และนายอมร หรือบอล สงวนนามสกุล อายุ 24 ปี ข้อหา ‘ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือร่วมกันรับของโจร’ จับกุมได้บริเวณบ้านพัก ม.6 ต.อ้อมน้อย อกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า WAVE 110 I สี ดำ, ส้ม เลขตัวถัง : MLHJA1408J5737742 เลขเครื่อง : JA140E-0737742 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ได้จากลักทรัพย์มา และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1ขช 7572 กทม. คันที่ใช้ก่อเหตุ จับกุมได้เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. เวลาประมาณ 07.00 น. ที่ผ่านมา

ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล IDMB รับแจ้งความเดือดร้อนของประชาชน โดยให้ดำเนินการช่วยเหลือทันทีตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สืบทราบว่าแก๊งโดราเอม่อนได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 10 ครั้งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก หลังเมื่อประมาณเดือนต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล IDMB ได้ตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มคนร้ายกลุ่มหนึ่งตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพ โดยกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้จะมีเอกลักษณ์พิเศษคือทุกครั้งที่ก่อเหตุจะสวมใส่เสื้อลาย ‘โดราเอม่อน’ ซึ่งสืบทราบพบว่าเป็นความเชื่อของกลุ่มคนร้ายว่าเหมือนชุดนำโชค โดยก่อเหตุเป็นจำนวนรวมมากกว่า 10 ครั้ง และยังคงหลบหนีการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่มาจนถึงปัจจุบัน 

พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชิต นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ลงพื้นที่สืบสวนแกะรอยกว่า 2 เดือนจนกระทั่งสามารถยืนยันตัวผู้กระทำผิด ซึ่งได้ส่งพยานหลักฐานให้ส่งพนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ นายสุเทพและขออนุมัติศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับ นายอนุสรณ์ 

ต่อมาวันที่ 21 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 09.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ปฏิบัติการปิดล้อมจับกุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.สส.บก.น.9, สน.หลักสอง, สน.เพชรเกษม, สน.ธรรมศาลา และสภ.กระทุ่มแบน นำมาสู่การจับกุม ‘แก๊งโดราเอมอน’ ได้ 3 รายดังกล่าว เหลืออีก 1 รายคือ น.ส.พิมลรัตน์ แก้วเทพ อยู่ระหว่างหลบหนี ทำหน้าที่ย้ายรถไปซุกซ่อนเตรียมหลบหนี

เจ้ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ไฟเขียว!! ตั้ง ‘อารี ไกรนรา’ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง ‘นายอารี ไกรนรา’ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารแถลงการณ์ผลการจับกุมแก๊งค้ายาบ้า 2 ราย 418,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 10.30 น นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พล.ต.ต.ชัชชัย วงศ์สุนะ ผบก.ก.จว.มุกดาหาร พ.ต.อ.สงกรานต์ สันหกรณ์ รอง ผบก.ๆพร้อม พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผกก.สืบสวนฯ และชุดปฏิบัติการฯ กองกำกับการสืบสวน เฝ้าติดตามและสืบสวนจับกุม ทั้งการตั้งด่านเสันทางในพื้นที่ การสะกดรอย ซุ่มสังเกตการณ์ตลอตแนวแม่น้ำโขงเรื่อยมา จนกระทั่ง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 20.00 น. ชุดปฏิบัติการ กองกำกับการสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีการลำเลียงยาเสพติดผ่านในพื้นที่ จ.มุกดาหาร จะมีขบวนการการลักลอบขนยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวนมาก จากเส้นทางถนนบ้านหนองหอย ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร มาทางสี่แยกโพนทราย ต.โพนทราย อ.มือง จ.มุกดาหาร โดยรถคันที่ใช้ขนยาบ้าเป็นรถยนต์กระบะ แคป ยี่ห้ออีซูสุ รุ่นดีแม็ก สีดำ ติตแผ่นป้ายทะเบียน หน้า-หลัง 2ฒล 5739 กทม. 

เมื่อชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ศรุตฯพร้อมพวกวางแผนเพื่อจับกุม จึงได้จัดวางกำลังบริเวณสี่แยกโพนทราย กระทั่งเวลาประมาณ 19.16 น. รถของเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมมองเห็นรถทะเบียน 2ฒล 5739 กทม. จอดติดไฟแดงที่แยกโพนทราย จึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวไเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ขับหลบหนี ขับย้อนกลับไปทางบ้านแก่นเต่า พ.ต.ต.ศรุตฯจึงได้สั่งการให้ไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด แต่รถคันดังกล่าวใช้ความเร็วสูง รถตำรวจชุดจับกุมจึงได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด กระทั่งถึงบริเวณสะพานหัวยหวายดิน ต.พังแดง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร 

ตร. ปส. ระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธปืน พบเครือข่ายยาเสพติดหัวใส อาศัยช่วงน้ำท่วม ลอบขนยาบ้า 4 แสนเม็ด เตรียมส่งลูกค้าช่วงปีใหม่

ปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และส่วนที่เกี่ยวข้องได้เดินหน้าปราบปราม อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการการระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 20-29 ธ.ค. ตามสั่งการของ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ลงพื้นที่ตรวจสถานบริการ สถานบันเทิง สถานประกอบการ และตรวจชุมชนเป้าหมายที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด ภายใต้การอำนวยการ ของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม) /ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส.,พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์  บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1 และ พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธ์ ผบก.ปส.4 ได้สั่งการให้ลงพื้นที่รับผิดชอบในการกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ วานนี้ เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปส.4  ได้สืบสวนขยายผลแกะรอยนักค้ารายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งคาดว่าเตรียมส่งมอบยาบ้าให้ลูกค้าห้วงก่อนปีใหม่ ประกอบกับในพื้นที่ภาคใต้เกิดอุทกภัยน้ำท่วม เบื้องต้นสามารถจับ 4 ผู้ต้องหา 4 คน 

1. นายยามีน อายุ 45 ปี 2. น.ส.รัชนีกร อายุ 26 ปี  3. นายสุเทพ อายุ 33 ปี  4. น.ส.ชัญญานุช อายุ 36 ปี ในพื้นที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 400,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน ซึ่งใช้ซุกซ่อนยาเสพติด และเป็นรถนำทางล่วงหน้า โดยแจ้งข้อหา 'ร่วมกับมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป'


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top