Sunday, 6 July 2025
NEWS FEED

‘หมอธีระ’ เผย แม้ WHO ประกาศยุติภาวะฉุกเฉิน แต่การระบาดยังมีอยู่ ย้ำ!! ‘คนไทย-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง’ อย่าประมาทโควิด-19

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 66 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 48,348 คน ตายเพิ่ม 295 คน รวมแล้วติดไป 687,652,147 คน เสียชีวิตรวม 6,870,442 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รัสเซีย และเวียดนาม

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 9 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.38 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 97.28

อัพเดต XBB.1.16.x ข้อมูลจาก GISAID (Cr: Rajnarayanan R) พบว่าตอนนี้ Omicron สายพันธุ์ย่อย XBB.1.16.x นั้นมีรายงานตรวจพบเพิ่มเป็น 48 ประเทศแล้ว สัดส่วนสายพันธุ์ในอเมริกา รายงานจาก US CDC ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบัน XBB.1.5 ยังครองการระบาดอยู่ราว 67% ในขณะที่ XBB.1.16 และ XBB.1.9.x นั้นมีสัดส่วนพอๆ กันราว 13%

ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern: PHEIC) เป็นคนละเรื่องกับการระบาดทั่วโลก (Pandemic)

เมื่อคืนนี้องค์การอนามัยโลกได้ประกาศยุติการประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ก่อนมีการประชุมเมื่อวานนี้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนลักษณะการรายงานของประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงจำนวนเสียชีวิตโดยรวมที่ลดลง การได้รับวัคซีนที่มากขึ้น และแรงกดดันในด้านเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ

ชุดเครื่องมือทางนโยบายจากประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศนั้น ไม่ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ระบาดปัจจุบันที่มีการระบาดต่อเนื่องยาวนานเป็นระยะที่เรียกว่า subacute to chronic phases แบบในปัจจุบัน

ดังนั้น หลังยุติการประกาศ PHEIC ลงแล้ว จะเป็นช่วงเวลาที่จะพิสูจน์ว่าแต่ละประเทศจะรับมือ และจัดการสถานการณ์ระบาดที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด

ทั้งระบบเฝ้าระวัง การกระตุ้นเตือนและให้ความรู้ประชาชน การควบคุมป้องกันโรค การเข้าถึงบริการ ยา วัคซีน รวมถึงการจัดการคน เงิน และทรัพยากรอื่นที่จำเป็น ทางองค์การอนามัยโลกได้เตือนไว้อย่างชัดเจนว่า การระบาดทั่วโลกยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่กังวล และย้ำเตือนให้ระวังคือ

“The worst thing any country could do now is to use this news as a reason to let down its guard, to dismantle the systems it has built, or to send the message to its people that COVID19 is nothing to worry about”

เศรษฐกิจภาคเหนือ ไตรมาส 1 ปี 2566 ชะลอลงเล็กน้อย แม้ฟื้นตัวดีในช่วงต้นปี

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ (ธปท. สภน.) โดยนางพรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส แถลงข่าว “ภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ไตรมาส 1/2566” โดยภาพรวมภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 1/2566 ชะลอลงเล็กน้อย แม้ฟื้นตัวดีในช่วงต้นปี แต่ชะลอลงหลังพ้นฤดูกาลท่องเที่ยว ประกอบกับสถานการณ์หมอกควันในช่วงปลายไตรมาส กระทบการท่องเที่ยวและบริโภค อย่างไรก็ดี ภาพรวมเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว 

ภาคท่องเที่ยวชะลอลง จากนักท่องเที่ยวไทยปรับลดลงหลังเร่งจัดกิจกรรมไปในไตรมาสก่อนและเทศกาลท่องเที่ยวหมดลง รวมทั้งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์หมอกควันในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. สะท้อนจากอัตราการเข้าพัก และการเดินทางทางอากาศปรับลดลง ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามการเพิ่มเที่ยวบินตรงและการเปิดประเทศของจีน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน และมาเลเซีย ซึ่งได้ประโยชน์จากเที่ยวบินตรงมายังเชียงใหม่ 

รายได้เกษตรกรขยายตัวต่อเนื่อง จากด้านผลผลิตที่ปรับดีขึ้น ทั้งข้าวนาปรังและอ้อยโรงงาน ตามปริมาณน้ำชลประทานและสภาพอากาศเอื้ออำนวย ด้านราคาชะลอลงจากราคาอ้อยโรงงาน ส่วนหนึ่งจากฐานสูงในปีก่อน และปริมาณอ้อยไฟไหม้เพิ่มขึ้นทำให้ราคารับซื้อลดลง อย่างไรก็ดี ราคาข้าว และมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นตามความต้องการจากต่างประเทศ 

ด้านผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้น จากการผลิตหมวดอาหารที่ขยายตัวหลังจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบเกษตรคลี่คลาย และความต้องการยังมีต่อเนื่อง

ด้านหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ปรับดีขึ้นจากชิ้นส่วนยานยนต์ ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์ไม้ เซรามิก และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังหดตัวตามอุปสงค์คู่ค้าที่ชะลอตัว 

การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้น แม้การใช้จ่ายหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคลดลงบ้างจากสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ แต่การใช้จ่ายหมวดบริการโดยรวมยังขยายตัวจากการเร่งตัวในช่วงต้นปี 

นอกจากนี้ หมวดสินค้าคงทนปรับดีขึ้นจากความต้องการรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ รวมถึงการส่งมอบที่ปรับตัวดีขึ้น การลงทุนภาคเอกชนหดตัว ตามการนำเข้าสินค้าทุน จากผลของฐานสูงในปีก่อนที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีการเร่งนำเข้า 

ขณะที่ทิศทางการลงทุนในหมวดยานยนต์และเครื่องจักรกลปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ประกอบกับการลงทุนก่อสร้างปรับดีขึ้น สะท้อนจากยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง การใช้จ่ายภาครัฐกลับมาขยายตัว ตามการเบิกจ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้งงบประจำและงบลงทุน 

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภาคเหนือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากไตรมาสก่อน ตามหมวดอาหารสดและพลังงาน ตลาดแรงงานฟื้นตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบประกันสังคมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจำนวนผู้ว่างงานที่ปรับลดลง

แนวโน้มเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 2/2566 อยู่ในทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับสู่ภาวะปกติ ประกอบกับตลาดแรงงานปรับดีขึ้นต่อเนื่อง และรายได้เกษตรกรขยายตัวดี เป็นปัจจัยสนับสนุนการบริโภคแม้มีแรงกดดันจากค่าครองชีพที่ยังสูง ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การผลิตภาคอุตสาหกรรมคาดว่าขยายตัวจากอุตสาหกรรมอาหาร แต่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยยังคงฟื้นตัวได้ช้าตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว 

ประเด็นที่ต้องติดตาม(1)การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและต้นทุน(2)อุปสงค์ต่างประเทศที่อาจชะลอตัวมากกว่าคาด(3)ความเสี่ยงจาก ภาวะแล้งที่เพิ่มขึ้น

มาตรการทางการเงินและภัยการเงิน แม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวเข้าใกล้ระดับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด 19 แล้ว แต่ยังไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะในภาคบริการบางสาขาที่ยังมีกิจกรรมในระดับต่ำ ดังนั้น ธปท. ร่วมกับกระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี จึงมีมติให้

(1) ขยายระยะเวลามาตรการสินเชื่อฟื้นฟู รวมถึงสินเชื่อเพื่อการปรับตัว ต่อไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 9 เม.ย. 2567
(2) ไม่ขยายอายุโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้ประกอบการที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เริ่มฟื้นตัวจากการเปิดประเทศแล้ว อย่างไรก็ดี ลูกหนี้ยังสามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินได้ 
(3) โอนวงเงินคงเหลือของโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ หลังสิ้นสุดมาตรการ มารวมไว้เป็นวงเงินภายใต้มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูต่อไป
นอกจากนี้ คลินิกแก้หนี้ปรับเกณฑ์คุณสมบัติให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ที่ไม่มีหลักประกันที่ค้างชำระมากกว่า 120 วันขึ้นไป สามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป

กองทัพเรือ เปิดให้พรรคการเมือง เข้าค่ายปราศรัยรวม ดำรงความเป็นกลางทางการเมือง

พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในช่วงเย็น วันนี้ 7 พ.ค. 66 กองทัพเรือ ได้เปิดพื้นที่อาคารพักอาศัยส่วนกลางกองทัพเรือ เขตบางนา ให้พรรคการเมืองต่างๆ จัดกิจกรรมปราศรัยรวม บริเวณลานกีฬา ระหว่างเวลา 16.00 -18.30 น. โดยพรรคการเมืองต่างๆ ที่ได้แจ้งความประสงค์ จะเข้ามาปราศรัยประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทยพรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคไทยสร้างไทย และพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้จัดให้มีลำดับการปราศรัย ดังนี้

เวลา  16.00-16.30 น. พรรคภูมิใจไทย
เวลา 16.30-17.00 น.  พรรคเพื่อไทย
เวลา 17.00-17.30 น.  พรรครวมไทยสร้างชาติ 
เวลา 17.30-18.00 น.  พรรคไทยสร้างไทย
เวลา 18.00-18.30 น. พรรคประชาธิปัตย์

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า  กองทัพเรือ มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึัน โดยการจัดให้มีการปราศรัยได้มีการเชิญ กกต.ประจำพื้นที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการสนับสนุนพื้นที่หน่วยในการปราศรัยหาเสียง รวมถึงการปิดประกาศของผู้สมัคร จะคำนึงถึงความโปร่งใส เท่าเทียม และเป็นกลางและขอเชิญชวนกำลังพลกองทัพเรือ ตลอดจนพี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เข้าร่วมฟังการปราศรัย ดังกล่าว

‘พ่อป่วยอัมพาต’ พยายามเขียนบอกบางอย่าง แต่ดันแปลไม่ออก ชาวเน็ตรวมพลังช่วยแปล พร้อมแนะวิธีที่สื่อสารกับพ่อให้ง่ายกว่าเดิม

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 66 ในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ความรู้รอบตัว” ซึ่งมีสมาชิกกว่า 3.5 แสนคน สมาชิกรายหนึ่งโพสต์ภาพลายมือของคุณพ่อที่ป่วยอัมพาต พยายามเขียนเพื่อบอกบางอย่างกับเขา แต่เขาแปลไม่ออก จึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในโลกออนไลน์

โดยระบุว่า “ใครพอจะแปลได้บ้างไหมครับ พ่อผมป่วยเป็นอัมพาต เขาพยายามจะเขียน ผมก็แปลไม่ออก”

ทั้งนี้ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้าไปให้กำลังใจผู้โพสต์ รวมทั้งช่วยแปลและแนะนำวิธีอื่นเพื่อให้เจ้าของโพสต์สื่อสารกับคุณพ่อรู้เรื่อง เช่น ให้ชี้พยัญชนะภาษาไทยแทน หรือกดจิ้มมือถือ อาจจะทำให้สื่อสารได้ตรงและเข้าใจกว่า เป็นต้นทั้งนี้มีคำแปลที่หลายๆ คนแปลได้ถอดตรงกัน โดยคาดว่าคุณพ่อน่าจะเขียนถึงคำว่า “แบรนด์ ขนม นมแพมเพิส แป้ง”

‘บิ๊กโจ๊ก’ มอบรางวัล ‘ผู้สื่อข่าวดีเด่นภาคสนาม-ทุนการศึกษาแก่บุตรหลานสื่อ’ พร้อมเชิดชู 18 ตร.ผ่านรางวัลต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฏร์

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ มอบรางวัลเชิดชูเกียรติต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ และผู้สื่อข่าวดีเด่นภาคสนาม พร้อม มอบทุนการศึกษาบุตร-ธิดา สมาชิกสมาคม

(6 พ.ค. 66) ที่กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานของนักข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ร่วมมอบทุนจำนวน 120 ทุน

นายไพโรจน์ กล่าวว่า การมอบทุนการศึกษานี้นั้น มอบให้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนจบ ป.ตรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในภาคสนาม นอกจากนี้ ทางสมาคมพิจารณารางวัล และรางวัลเชิดชูเกียรติผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และรางวัลคนดีศรีสังคม ทั้งหมดนี้ เป็นการยกย่องการปฏิบัติหน้าที่ของท่านที่ทำความดีให้สังคม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้เห็นการทำงานของสมาคมตลอด และสมาคมจะเป็นตัวชี้วัดการทำงานของตำรวจทุกปี สะท้อนภาพรวมการทำงานทั้งด้านบวกด้านลบ อีกทั้งสมาคมฯ ยังมีการจัดงานมอบทุนการศึกษาประจำทุกปี เป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง

สำหรับรางวัลเชิดชูเกียรติต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ 18 นาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม อาทิ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สาขาปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ดีเด่น, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สาขาปราบปรามยาเสพติดดีเด่น, พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคเจ็ด สาขาปราบปรามอาชญากรรมดีเด่น, พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว สาขาป้องกันปราบปรามคอรัปชันดีเด่น, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนนครบาลสาขา สืบสวนอาชญากรรมดีเด่น, พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม สาขาจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น, พ.ต.ต.ประเวศน์ แสงพรม สว.กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สาขาจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น

ผบ.ตร.ลงพื้นที่ภาคเหนือ ดูแลการเลือกตั้งล่วงหน้า เข้มห้ามมีซื้อสิทธิ์ขายเสียง สั่งกำชับตำรวจวางตัวเป็นกลาง และจัดการจราจรผู้มาใช้สิทธิ เผยยังไม่พบเหตุบ่งชี้ความรุนแรง เตือนห้ามจำหน่ายจ่ายแจกสุรา มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน

วันที่ 6 พ.ค.66 เวลา 15.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาประชุมติดตามกำชับการดูแลความเรียบร้อยการเลือกตั้งล่วงหน้าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 รอง ผบช., ผบก.ทุกจังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 5

ที่ประชุมรายงานการเตรียมความพร้อมการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งล่วงหน้าของตำรวจภูธรภาค 5 ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน) ใช้กำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความเรียบร้อยจำนวน 1,638 นาย มีประชาชนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า 132,956 คน จำนวน 79 หน่วยเลือกตั้ง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่มีประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากถึง 66,995 คน รองลงมาคือ เชียงราย 23,783 และ ลำพูน 14,518 ราย 

มีจำนวนหน่วยเลือกตั้งที่มีประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่า 5,000 คน มีทั้งสิ้น 7 แห่ง (เชียงใหม่ 4 เชียงราย 2 ลำพูน 1) โดยเฉพาะจุดศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนม์พรรษา จ.เขียงใหม่ มีประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า 31,220 คน , อาคารหอประชุม อบจ.ลำพูน 13,498 คน , อาคารสายธารธรรม ม.พายัพ จ.เชียงใหม่ 10,915 คน 

สำหรับหน่วยที่มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเกิน 1,000 คนขึ้นไป ตำรวจ ภ.5 ได้จัดเจ้าหน้าที่จราจร 20 นาย อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาใช้สิทธิ

ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำ จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน เนื่องจากมีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนมาก หวั่นการจราจรติดขัด สั่งการให้ดูแลอำนวยความสะดวกเต็มที่ 

นอกจากนี้ ที่ประชุม รายงานภาพรวม ตำรวจมีความพร้อมในการปฏิบัติ ยังไม่พบเหตุความรุนแรง มีการรายงานการทำลายป้ายหาเสียงห้วง 1 เม.ย.-2 พ.ค. 137  ป้าย กระทำความผิดเกี่ยวกับอาญาช่วงเลือกตั้ง 17 ครั้ง 

ส่วนภาพรวมทั่วประเทศใช้กำลังตำรวจทั่วประเทศ 16,140 นายดูแลความสงบเรียบร้อย มีประชาชนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งสิ้น 2,235,830 คน จำนวนหน่วยเลือกตั้ง 3,486 หน่วย สถานที่เลือกตั้งนอกหน่วยทั้งสิ้น 667 แห่ง แบ่งเป็นในเขต กทม. 116 แห่ง ต่างจังหวัด 551 แห่ง มีจำนวนหน่วยเลือกตั้งที่มีประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่า 5,000 คน มีทั้งสิ้น 128 แห่ง 

ผบ.ตร.ได้กำชับ ข้าราชการตำรวจวางตัวเป็นกลาง คอยดูแลอำนวยความสะดวก การจราจรให้ประชาชนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งด้านหน้าหน่วยเลือกตั้ง โดยเฉพาะแห่งที่มีประชาชนมาใช้สิทธิจำนวนมาก  ให้ ผกก.หรือ หัวหน้าสถานี ที่มีหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าในพื้นที่ ให้ออกตรวจตรา อำนวยการจราจร และดูแลความสงบเรียบร้อยในภาพรวมด้วยตนเอง ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

เน้นย้ำการป้องกัน การสร้างสถานการณ์ เผาทำลายป้าย ที่ยังต้องเพิ่มความเข้มต่อเนื่อง สั่งขยายการระดมกวาดล้างอาชญากรรมจากเดิม 4-10 พ.ค. เป็น 4-13 พ.ค. ให้เพิ่มความเข้มการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือกฎหมายอย่างอื่น รวมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ระดับสถานี ให้พร้อมปฏิบัติ เข้าระงับเหตุ ตอบโต้ได้ทันทีท่วงที หากได้รับแจ้ง

'บิ๊กจ๋อ' คว้ารางวัลนักสืบดีเด่น ด้าน 'หนุ่ม-กรรชัย' คว้าผู้ประกาศข่าวดีเด่น จากสมาคมสื่ออาชญากรรมฯ

วันที่ 6 พ.ค. ที่ห้องประชุม อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร พร้อมด้วย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ นายสมชาย จรรยา อุปนายกฯ และคณะกรรมการบริหารสมาคม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ ต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ข้าราชการตำรวจ ที่มีผลงานดีเด่น รางวัลผู้สื่อข่าวภาคสนามดีเด่น รางวัลผู้ประกาศข่าวดีเด่น พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษาแก่บุตร-ธิดาของสื่อมวลชน ในสังกัดสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย 

สำหรับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. รับรางวัล “สาขาบริหารพัฒนาองค์กรดีเด่น” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. “สาขาสืบสวนยอดเยี่ยม” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. “สาขาป้องกันและปราบปรามยอดเยี่ยม” พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. “สาขาจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น” พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 “สาขาปราบปรามอาชญากรรมดีเด่น” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. “สาขานักพัฒนาองศ์กรดีเด่น” พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. “สาขาปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ดีเด่น” 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. “สาขาปราบปรามคอร์รัปชันดีเด่น” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. “สาขาสืบสวนอาชญากรรมดีเด่น” พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. “สาขาปราบปรามยาเสพติดดีเด่น” 

ส่วนรางวัลเชิดชูเกียรติต้นแบบ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” สาขาจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ดีเด่น ได้แก่ พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมือง จ.นครปฐม พ.ต.ต.ประเวศน์ แสงพรหม สว.กก.1 บก.ปคม. ร.ต.อ.หญิง สุธาสินี มีอาษา ร.ต.ท.หญิง ธมลวรรณ ชนะเกียรติ รองสว.ฝสสน.5 บก.สสน.บช.ตชด. และ ส.ต.อ.ภูริวัชร์ ภูสิงห์ ผบ.หมู่ ฝสสน.5 บก.สสน.บช.ตชด. ร.ต.ท.ณัฐสรวง ภู่บำเพ็ญ รองสว.กก.6 บก.จร. ส.ต.ท.วรชัย ศิริอัฐ และ ส.ต.ท.นฤชิต กอพงษ์ ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. 

จัดใหญ่อลังการ!! ‘กัมพูชา’ โชว์พิธีเปิดซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ฟากไทย ‘ชนาธิป’ ถือธงนำทัพนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าสู่สนาม

(6 พ.ค. 66) การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ที่สนามกีฬามรดกเตโช กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยมีสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนประเทศไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบหมายให้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนรัฐบาลเข้าร่วมพิธีเปิด

โดยชนาธิป จักรวาฬ นักกีฬาบาสเก็ตบอล ถือธงไตรรงค์ นำทัพนักกีฬาทีมชาติไทย พาเหรดลงสู่สนามในพิธีเปิดการแข่งขันมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งตั้งคณะกรรมการสอบกรณีตำรวจเมาชนท้ายกระบะและพุ่งชนเสาไฟฟ้า กำชับดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับตำรวจรายอื่น

วันนี้ (6 พ.ค. 66) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้า กรณีเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถชนกันบริเวณถนนสายสุรินทร์-ศีรขรภูมิ กม.7 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายใน ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน มีผู้โดยสารเป็นคนงานก่อสร้างนั่งมาในรถ 3 คน อาการปลอดภัย ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถที่ชนรถกระบะคันดังกล่าว เป็นรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียนสุรินทร์ สภาพพุ่งชนเสาไฟฟ้า ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตร ตรวจสอบภายในรถ พบคนขับติดอยู่ 1 ราย สภาพเมาไม่ได้สติพูดจาไม่รู้เรื่อง ทราบชื่อต่อมาคือ พ.ต.ท.ถาวรฯ นั้น

ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว หากตรวจสอบพบการกระทำความผิดข้อหาใด ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกกรณี รวมถึงดำเนินการด้านวินัยเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ข้าราชการตำรวจรายอื่น ๆ 

‘ดาริน ชีพชนแดน’ นักกีฬาจักรยานคนพิการไทย คว้าอันดับ 3 แข่งจักรยานถนนชิงแชมป์โลกที่เบลเยียม

‘น้องหญิง’ ดาริน ชีพชนแดน แรงไม่ตกเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ประเภทไทม์ไทรอัล (ITT) เมื่อวานนี้ (5 พ.ค. 66) ในการแข่งขันจักรยานคนพิการประเภทถนนเวิลด์คัพ รายการ UCI Para-Cycling World Cup 2023 ที่เมือง Oostende ประเทศเบลเยียม ทำให้ UCI Individual Ranking (WH1) ของ ดาริน ชีพชนแดน ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top