Wednesday, 9 July 2025
NEWS FEED

รัฐมนตรีอิ่ม มอบแนวทางการขับเคลื่อนและพัฒนากองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพิ่มศักยภาพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้สมาชิกกองทุนฯ ใช้เทคโนโลยีแฟลตฟอร์มดิจิทัล สนับสนุนให้สมาชิกกองทุนฯ

(21 พ.ย. 67) “นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (คกส.) ครั้งที่ 11/2567 และคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร  (อกส.กทม.) มอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ยินดีทีมีส่วนร่วมสานต่อนโยบายพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสตรี โดยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเท่าเทียมในการประกอบอาชีพของสตรีให้เกิดขึ้น รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเงินทุนหมุนเวียนให้สมาชิกสตรีที่ตั้งใจพัฒนาสินค้า บริการ สามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดกิจการของกลุ่ม พร้อมๆ กับการเสริมสร้างวินัยทางการเงินของกลุ่มสมาชิกกองทุน จะทำงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกรมการพัฒนาชุมชน ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้งปัญหาด้านโครงสร้างบุคลากร ปัญหาการไม่ได้รับสนับสนุนงบประมาณเงินอุดหนุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เนื่องจากในช่วงพิจารณางบประมาณปี 2568 ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ก่อนมาสู่รัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งมีความตั้งใจสนับสนุนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้เป็นกองทุนที่ดีกว่าเดิม มุ่งหวังที่จะเพิ่มเงินทุนให้กับลูกหนี้ชั้นดี เพิ่มโอกาสให้กลุ่มสมาชิกสตรีรายใหม่ๆ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มมากขึ้น สะดวกขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลสมาชิก/การยื่นความประสงค์กู้ยืมเงินกองทุนกับแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เป็นต้น

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญกุศลและรับฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือ เนื่องในวันกองทัพเรือ

(20 พ.ย. 67) กองเรือยุทธการ จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันกองทัพเรือ โดยมี พลเรือโท กรวิทย์ ฉายะรถี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้นำกำลังพลจากหน่วยในสังกัดร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร ณ กองบัญชาการกองเรือยุทธการ เวลา 07.00 น. และร่วมพิธีทำบุญเลี้ยงพระ ณ พุทธสถานกองเรือยุทธการ เวลา 10.00 น. โดยในเวลา 08.30 น. กำลังพลจากหน่วยงานในสังกัดทัพเรือภาคที่ 1 ได้แก่ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1, เรือในกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1, ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด และศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง ได้ตั้งแถวรับฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือโดยพร้อมเพรียง ณ ที่ตั้งหน่วย นอกจาก กิจกรรมทางศาสนาและการรับฟังสารแล้ว ทัพเรือภาคที่ 1 ยังจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาทำความสะอาดบริเวณอุโบสถวัดทรงเมตตา เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสร้างความสามัคคีในหมู่กำลังพล อีกด้วย ความสำคัญของวันกองทัพเรือ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญที่ระลึกถึงการก่อตั้งโรงเรียนนายเรืออย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2449 โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาสำหรับทหารเรือ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการปกป้องประเทศ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาทหารเรือยังประเทศอังกฤษ และกลับมาก่อตั้งโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ตั้งแต่นั้นมา กองทัพเรือได้ยึดถือวันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น “วันกองทัพเรือ” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ไทยที่ทรงวางรากฐานกิจการทหารเรือ ให้มั่นคงจนถึงปัจจุบัน

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง นำกำลังพลแถวฟังสารจากผู้บัญชาการทหารเรือเนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567

(20 พ.ย.67) พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมผู้บังคับบัญชาหน่วย นำกำลังพลแถวฟังสารจาก ผู้บัญชาการทหารเรือ เนื่องในวันกองทัพเรือ ประจำปี 2567 ทางวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ ณ กองบัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกาธน พุทธศักราช 2458 พระบาทสมเด็จพระจุสจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ธนบุรี กองทัพเรือ จึงได้ถือเอาวันมหามงคลนี้เป็น 'วันกองทัพเรือ' ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญในการปกป้องอธิปไตยของชาติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตลอดจนความมั่นคงของประเทศ และเหนือสิ่งอื่นใดคือการพิทักษ์รักษา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริ การสนับสนุนนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชน 

ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการขับเคลื่อนและพัฒนากองทัพเรือ ให้เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการตามวิสัยทัศน์ที่กองทัพเรือตั้งไว้

(อำนาจเจริญ) กกล.สุรนารี บูรณาการ 'จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมือง ชายแดน จังหวัดอำนาจเจริญ’

เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.67) เวลา 17.50 น. กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี โดย พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้จัดกำลังพลจาก กองร้อยเฉพาะกิจทหารพราน ที่ 23 ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทำการซุ่มเฝ้าตรวจ หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าจะมีการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง

โดยผิดกฎหมาย บริเวณริมแม่น้ำโขง อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ พบบุคคลต้องสงสัยบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง จึงทำการเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นราษฎรชาวลาว 29 คน (ชาย 3 คน หญิง 26 คน) และผู้นำพาชาวไทย 1 คน (ชาย) 

จากการสอบถามทราบว่าเป็นการลักลอบเข้ามาเพื่อรับจ้างเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร(เกี่ยวข้าว) จึงได้ควบคุมและส่งมอบผู้กระทำความผิดให้กับ สถานีตำรวจภูธรชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

(อุบลราชธานี) กกล.สุรนารี บูรณาการ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 118,000 เม็ด พร้อมรถกระบะ 1 คัน ที่ชายแดนเขมราฐ 

เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.67) เวลา 19.00 น. กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี โดย พลตรี สมภพ  ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้จัดกำลังพลจาก กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 227 ร่วมกับ ตำรวจภูธรเขมราฐ และ ฝ่ายปกครอง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ทำการซุ่มสกัดจับเป้าหมายยาเสพติด ตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์รีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน บธ 5707 จังหวัดนครพนม วิ่งมาในพื้นที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี

จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น รถกระบะคันดังกล่าว ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้  จึงเข้าตรวจสอบ สามารถตรวจยึด ยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) จำนวน 59 มัด ประมาณ 118,000 เม็ด พร้อมรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์รีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน บธ 5707 จังหวัดนครพนม จำนวน 1 คัน จึงได้ส่งมอบของกลางให้กับ สถานีตำรวจภูธรเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ชลบุรี...กลุ่มบริษัทยูนิไทย ร่วมกับ ซียูอีแอล จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล 'UNITHAI-CUEL Run for Charity 2025 ครั้งที่ 3 วิ่งด้วยใจ ในสวนสวย ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง' มอบให้โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา

สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี ดร.อรรถสิทธิ์ กอชัยพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Engineering & Fabrication กลุ่มบริษัทยูนิไทย และ บริษัท ซียูอีแอล จำกัด พร้อมด้วย กัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา พญ.กรวิกา จิระตุลธร ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา นายยุทธนา สร้อยเสนา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ และ น.ส. นริศรา ทิพยางกูร ปลัดอาวุโสอำเภอศรีราชา ร่วมแถลงข่าว จัดงานวิ่งการกุศล 'UNITHAI - CUEL Run for Charity 2025 ครั้งที่ 3 วิ่งด้วยใจ ในสวนสวย ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง' มอบให้โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย ในวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี โดยมี แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

ดร.อรรถสิทธิ์ กอชัยพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Engineering & Fabrication กลุ่มบริษัทยูนิไทย และ บริษัท ซียูอีแอล จำกัด กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทยูนิไทย ดำเนินธุรกิจด้านอู่ซ่อมเรือชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย งานวิศวกรรมโครงสร้างบนบกและนอกชายฝั่ง พลังงานหมุนเวียน รวมทั้งบริษัทในเครือต่าง ๆ ที่ให้บริการด้านซัพพลายเชนโซลูชั่นแบบครบวงจร ท่าเรือเอกชน คลังสินค้า บริการด้านขนส่งและโลจิสติกส์ มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย  

สำหรับการจัดกิจกรรมงานวิ่งการกุศลในครั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ และส่งต่อกำลังใจให้กับผู้ป่วยมะเร็ง อีกทั้งรณรงค์ส่งเสริมให้พนักงานในองค์กร รวมถึงประชาชนทั่วไป หันมาใส่ใจการออกกำลังกายเพื่อสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี ห่างไกลโรคมะเร็ง ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะสมทบทุนในการช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยมะเร็ง โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกให้ดียิ่งขึ้น ตามพันธกิจขององค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนาความเจริญด้านชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม”

ดร.อรรถสิทธิ์ กล่าวเสริมว่า นักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันจะได้สัมผัสกับเส้นทางวิ่งในสวนสวย ผ่านจุดไฮไลท์ที่สำคัญต่าง ๆ ของสวนนงนุช หนึ่งในสิบสวนที่สวยที่สุดในโลกสำหรับประเภทการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ 1. ระยะวิ่ง 4 กิโลเมตร ค่าสมัคร 588 บาท (ไม่มีการแข่งขัน)  2. ระยะวิ่ง 8 กิโลเมตร ค่าสมัคร 788 บาท  และ3. ระยะวิ่ง 12 กิโลเมตร ค่าสมัคร 888 ทั้งนี้ผู้ที่ได้อันดับ 1-3 ของทุกรุ่นอายุรับเงินรางวัลและรางวัล Overall ชาย-หญิง ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://www.runlah.com/events/ucrc2025 หรือติดต่อสอบถามได้ที่ 089-962-6229 และ 089-939-9128

ปล่อยซาว์ดสัมภาษณ์ ดร.อรรถสิทธิ์ กอชัยพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Engineering & Fabrication กลุ่มบริษัทยูนิไทย และ บริษัท ซียูอีแอล จำกัด

'พล.ต.ท.กรไชยฯ' ตรวจการปฏิบัติด้านงานจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานครชั้นใน กำชับตำรวจดูแลการจราจรอย่างเต็มกำลัง และขอความร่วมมือผู้ปกครองและนักเรียนไม่จอดแช่ 'จอด ลง ส่ง ไป'

(20 พ.ย.67) เวลา 06.30 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจการปฏิบัติด้านงานจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร ชั้นใน ที่บริเวณหน้าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ถ.สามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยมี พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผบก.จร. และผู้เกี่ยวข้องร่วมตรวจการปฏิบัติ

พล.ต.ท.กรไชยฯ ได้ตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร ในการอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษา และได้พูดคุยสอบถามปัญหาการจราจร และชี้แจงการปฏิบัติกับครู ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนของทั้ง 2 โรงเรียนด้วย

ทั้งนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า จากการตรวจการปฏิบัติด้านงานจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาในวันนี้ พบว่าภาพรวมเจ้าหน้าที่ตำรวจและสถานศึกษาร่วมดูแลอำนวยความสะดวกการจราจรได้เป็นอย่างดี โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกการจราจรอย่างเต็มกำลัง เพื่อจัดการจราจรให้เด็กนักเรียนทุกคนถึงโรงเรียนด้วยความรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมขอความร่วมมือผู้ปกครองที่ขับรถมาส่งนักเรียนหน้าโรงเรียนทุกแห่ง ขอให้ไม่จอดแช่ โดยขอให้เด็กๆ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนถึงหน้าโรงเรียน และพร้อมลงจากรถทันทีเมื่อผู้ปกครองขับรถมาส่งหน้าโรงเรียน เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด ตามหลักการ 'จอด ลง ส่ง ไป'

จากนั้น พล.ต.ท.กรไชยฯ เดินทางโดยรถจักรยานยนต์ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ เพื่อตรวจการปฏิบัติด้านจราจร และตรวจเส้นทางการจราจรตั้งแต่บริเวณหน้าโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง จนถึง ถ.พระรามที่ 1 พบว่าบางเส้นทางมีการจราจรหนาแน่น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอยู่ประจำจุดคอยอำนวยความสะดวกไม่ให้เกิดปัญหารถติดสะสม

ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ มอบนโยบายแก่ครูฝึก ครูประจำหมวดวิชา ให้ปลูกฝังระเบียบวินัย ความรักสถาบัน 

น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ มอบนโยบายในการฝึกแก่ครูฝึก ครูประจำหมวดวิชา ณ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดยได้ถ่ายทอดนโยบาย ข้อสั่งการ รวมทั้งข้อห่วงใยของผู้บัญชาการทหารเรือ ที่มุ่งเน้นการสร้างระเบียบวินัย ความเป็นทหาร , ปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ , ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับทหารเรือ , ปลูกฝังความสามัคคีและความเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ , การเป็นแบบอย่างที่ดีของครูฝึก , ฝึกบนพื้นฐานความปรารถนาดีต่อกัน , มีการประเมินผลการฝึกที่เป็นระบบ , ความโปร่งใสเกี่ยวกับการเบิกจ่าย/ตัดเบี้ยเลี้ยง เป็นต้น   

ในการนี้ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ ได้มอบแนวทางการปฏิบัติ ข้อเตือนใจในการปฏิบัติต่อนักเรียนพลทหาร เน้นย้ำให้ครูฝึก ครูหมวดวิชาทุกนายยึดถือนโยบายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ภายใต้กรอบของความปลอดภัย เพื่อสร้างนักเรียนพลทหารให้เป็นทหารที่องอาจ สมชายชาติทหาร และเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ

พิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 3/67 ปฐมบทเส้นทางลูกผู้ชาย 2,928 นาย สู่การเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือที่องอาจ

น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 3/67 ณ สนามฟุตบอล ศฝท.ยศ.ทร. ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดพิธีเปิดการฝึกฯ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และความภาคภูมิใจ แก่ทหารใหม่ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชา ครูฝึก และครูประจำหมวดวิชาเข้าร่วมพิธีฯ ถือเป็นการเข้าสู่การฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ

นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.67  ทหารใหม่ เดินทางเข้ารายงานตัว ณ ศฝท.ฯ บัดนี้ ทหารใหม่ จำนวน 2,928 นาย ได้ผ่านการเตรียมร่างกาย จิตใจ ตลอดจนผ่านการคัดกรองโรคต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีความพร้อมในการปฏิบัติตามตารางการฝึกอบรม 

ทั้งนี้ ผบ.ศฝท.ยศ.ทร. มอบโอวาท ถึงแนวทางในการปฏิบัติความตอนหนึ่งว่า “...ครูฝึกและครูประจำหมวดวิชาให้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ จะต้องคำนึงถึงกฎระเบียบและนโยบายของผู้บังคับบัญชา ตลอดจนการปกครองอย่างยุติธรรม ให้ความรักความเมตตาเสมือนลูกหลานหรือญาติมิตรของเรา และให้ทหารใหม่ทุกนายอุทิศตน ตั้งใจฝึกหัดศึกษาหาความรู้ ด้วยความอดทนและอย่าได้ท้อถอย สิ่งที่ทุกคนจะได้เรียนรู้จาก ณ สถานแห่งนี้ จะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นทหารผู้ที่มีเกียรติสง่างาม ในเครื่องแบบทหารเรือ แห่งราชนาวีไทยต่อไป...”

‘สนธิ’ ลั่นเดินหน้าฟ้องกราวรูด ‘ช่องวัน’ พร้อมผู้เกี่ยวข้อง แม้ออกแถลงการณ์ขออภัย แต่ช้าไปต่างจาก ‘TOP News’ ที่ทำทันที

(20 พ.ย.67) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ 'คุยทุกเรื่องกับสนธิ' หรือ Sondhitalk กล่าวถึงกรณีสื่อ 2 ช่อง TOP Newsและ ช่องวัน นำเสนอข้อมูลจากนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวพาดพิงทำให้เสียหาย โดยระบุว่า ทางช่อง TOP News ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการออกแถลงการณ์ขออภัยทันที กรณีเสนอข่าวบทสัมภาษณ์ทนายเดชาคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้บริจาคเงินจำนวน 100,000 บาท ให้กับมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ของพลตรีจําลอง ศรีเมือง อีกด้วย

“ยังเหลืออีกหนึ่งราย คือช่องวัน ไม่ต้องแถลงขอโทษแล้ว เพราะว่าผมรอคุณมานานแล้ว รอไปเจอผมที่ศาลก็แล้วกันคุณส่งคําแถลงมาขอโทษที่ล่าช้าไป ผมไม่รับแล้วตอนนี้ คุณต้องขึ้นศาล และฝากไปบอกผู้บริหารช่องวันด้วยว่า ผมจะฟ้องถึงผู้บริหาร ทั้งคุณบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ หากยังมีชื่อเป็นผู้บริหารอยู่ก็ต้องโดนด้วย เผลอ ๆ จะรวมไปถึงผู้ถือหุ้นด้วย ใครเป็นผู้ถือหุ้นช่องวันก็ระวังไว้ละกันทั้งหมดทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง”

นายสนธิ ยังย้ำด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้เปิดโอกาสให้ขอโทษแล้ว ก็ไม่ยอมขอโทษ ส่วนกับ TOP News นั้นไม่มีอะไรต่อกันแล้ว เพราะได้แก้ไขปัญหาทันที โดยยื่นความจํานงมาตั้งแต่ต้นว่า จะขอโทษ ซึ่งตนก็ตั้งเงื่อนไขช่องวันแบบเดียวกับ TOP News ซึ่งทาง TOP News ได้ตอบสนองในทันที พร้อมแก้ไขปัญหาแบบง่าย ๆ แต่แสดงออกถึงความจริงใจ ในขณะที่ช่องวัน กลับไม่ยอมตอบสนอง อาจจะถือตนว่าเป็นช่องไฮโซหรืออย่างไร ทั้ง ๆ ที่เพิ่งโดนชาวบ้านด่าทั่วบ้านทั่วเมืองในเรื่องของการทรมานสัตว์ สุดท้ายขอย้ำอีกครั้งว่า เตรียมตัวรับหมายศาลจากตนได้เลย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top