Saturday, 7 June 2025
NEWS FEED

กองเรือยุทธการร่วมมอบเงินสมทบทุนงานกาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่ 48 พ.ศ 2565 “90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราชนาวีถวายพระพรชัยมงคล”

วันที่ (19 กรกฎาคม 2565) พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการแถลงข่าว การจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 48 ปี พ.ศ. 2565 “90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราชนาวีถวายพระพรชัยมงคล” ณ หอดุริยางค์ กองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ โดยมี พลเรือโท ไพศาล มีศรี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการกองเรือยุทธการมอบเงินสมทบทุนงานกาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่ 48 พ.ศ 2565  “90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราชนาวีถวายพระพรชัยมงคล”

กองทัพเรือ ร่วมกับสภากาชาดไทย กำหนดจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 48 ประจำปีพุทธศักราช 2565 “90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราชนาวีถวายพระพรชัยมงคล” เพื่อหารายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายทูลเกล้าถวาย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย อันเป็นการสนองในพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ที่จะให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลเพื่อนมนุษย์ผู้เจ็บป่วยทั้งมวลให้ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อีกทั้งเป็นการเผยแพร่ดนตรีแนวคลาสสิกให้เป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวไทย กองทัพเรือ ได้จัดให้มีการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ตั้งแต่ปี 2504 เป็นต้นมา และได้จัดแสดง เป็นประจำทุกปี จะมีเว้นบ้างตามสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย โดย วงดุริยางค์ราชนาวีนับได้ว่าเป็นวงซิมโฟนีออเคสตร้าแนวคลาสสิกชั้นนำวงหนึ่งของประเทศไทยที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างสูง 

ได้มีโอกาสบรรเลงในงานพระราชพิธี รัฐพิธี ตลอดจนงานสำคัญต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ ในช่วงสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) แต่กองทัพเรือก็ยังมีความมุ่งมั่นที่จะสนองพระราชปณิธาน ในการเผยแพร่ดนตรีแนวคลาสสิค และหารายได้บำรุงสภากาชาดไทย โดยเป็นการจัดการแสดงในรูปแบบการ Live สด ผ่านทางสื่อออนไลน์ สำหรับในปีนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดต่าง ๆ ได้คลี่คลายลงแล้ว การจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต จึงได้มาจัดอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง 

โดยการจัดการแสดงทุกครั้งที่ผ่านมา บรรเลงโดยวงซิมโฟนีออเคสตร้า ดุริยางค์ราชนาวี จากกองทัพเรือ ร่วมด้วยศิลปินรับเชิญ ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน ร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทยเป็นประจำเสมอมา สำหรับปีนี้ ได้รับเกียรติจากศิลปินรับเชิญร่วมขับร้องหลายท่าน อาทิ เรือตรี สันติ  ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ร่วมด้วย วิชญาณี  เปียกลิ่น หรือ แก้ม เดอะสตาร์ โดม ปกรณ์ ลัม  อิสริยา  คูประเสริฐ และ ศรัณย์  คุ้งบรรพต โดยมี นาวาเอก พฤทธิธร   สุมิตร ผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ เป็นผู้อำนวยการดนตรี นาวาเอก ศุภกร  แตงน้อย เป็นผู้อำนวยเพลง (ภาคแรก) และ เรือโท กฤษฎา  อยู่บรรยงค์ เป็นผู้อำนวยเพลง (ภาคหลัง)

สำหรับการแสดงแบ่งออกเป็น 2 ภาค ดังนี้ 
ภาคแรก เพลง Light Cavalry Overture และ Intermezzo Form Cavalleria Rusticana ขับร้องโดย จ่าเอกหญิง โสธิดา  ไชยฤทธิชัย 
เพลง Rhapsody In Blue บรรเลงเดี่ยวมาริมบาโดย พันจ่าเอก กุลธวัช  แก้วสมัคร เพลง Mission : Impossible  
และ Pomp and Circumstance Marches, Op.39 : March No.1 in D ขับร้องโดย นักร้องวงดุริยางค์ ราชนาวี และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ

ภาคหลัง เพลง รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา ขับร้องโดย ศรัณย์  คุ้งบรรพต นักร้องวงดุริยางค์ราชนาวีชาย เพลงอยู่อย่างพอเพียง ขับร้องโดย ปกรณ์ ลัม เพลง ภาพที่งดงาม ขับร้องโดย อิสริยา  คูประเสริฐ และนักร้องวงดุริยางค์ราชนาวีหญิง เพลง ตับวิวาห์พระสมุทร ขับร้องโดย อิสริยา  คูประเสริฐ และ ศรัณย์ คุ้งบรรพต เมดเล่ย์เพลง ชม ยู ดี ที - ชมประดู่ ขับร้องโดย เรือตรี สันติ  ลุนเผ่ พันจ่าเอก อินทัช  ฤกษ์เย็น และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ เพลง คนดีไม่มีวันตาย ขับร้องโดย นักร้องวงดุริยางค์ราชนาวีชาย และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ เพลง We’re All in This Together และเพลง Part of Your World ขับร้องโดย วิชญาณี เปียกลิ่น เพลง ยิ่งรักเธอ ขับร้องโดย ปกรณ์ ลัม เพลง รักในซีเมเจอร์ ขับร้องโดย อิสริยา คูประเสริฐ เพลง A Million Dreams ขับร้องโดย พันจ่าเอกหญิง สราญรัตน์ ชูอำนาจ เพลง Anthem ขับร้องโดย ศรัณย์  คุ้งบรรพต และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ และเพลง แผ่นดินของเรา ร่วมขับร้องโดยศิลปินรับเชิญ นักร้องวงดุริยางค์ราชนาวี และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ กำหนดจัดการแสดงรอบประชาชน ในวันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 และ รอบเสด็จพระราชดำเนิน วันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2565 เวลา 19.30 น.

สำหรับผู้บริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทยในครั้งนี้ จะได้รับสิทธิประโยชน์จากสภากาชาดไทย โดยผู้บริจาคสามารถนำใบเสร็จรับเงินจากสภากาชาดไทยไปลดหย่อนภาษีได้ และผู้บริจาคเงินตั้งแต่ 4 หมื่นบาทขึ้นไป สามารถขอสิทธิ์การเป็นผู้มีอุปการคุณสภากาชาดไทย ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามสัดส่วนของเงินบริจาค เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และได้รับสิทธิลดหย่อนเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขตามที่ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข กำหนด นอกจากนั้น ผู้ที่บริจาคตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป ยังจะได้รับ เข็มกลัดเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยด้านบนจะเป็นทับทิมสีแดงซึ่งสื่อถึงสภากาชาดไทยโอบล้อมด้วยดอกประดู่บานและตูมด้านล่างเป็นรูปสมอเรือซึ่งสื่อถึงกองทัพเรือ ด้านข้างของสมอเรือเป็นตัวโน๊ตดนตรี อันจะสื่อถึงการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบคือแบบแรกสำหรับ

ผู้ที่บริจาคตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปตัวเรือนทำจากทองคำ 18k ประดับเพชรแท้จำนวน 20 เม็ดเม็ดละ 0.5 กะรัต จัดทำจำนวน 8 ชิ้น และแบบที่ 2 สำหรับผู้ที่บริจาคตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไปตัวเรือนทำด้วย silver 925 ระดับพลอยสังเคราะห์จำนวน 20 เม็ดเมตรละ 0.5 กะรัต จัดทำจำนวน 50 ชิ้น นอกจากนั้น
ยังจะได้รับหนังสือขอบคุณ และภาพถ่ายขณะเข้ารับของที่ระลึกพร้อมกรอบเป็นที่ระลึก  

ทั้งนี้ สภากาชาดไทย ขอเชิญชวนผู้มีจิตอันเป็นกุศล ร่วมบริจาคเงินตามช่องทางต่าง ๆ หรือโอนเงินเข้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขา กองบัญชาการกองทัพเรือ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “กาชาดคอนเสิร์ตกองทัพเรือ ครั้งที่ 48” เลขบัญชี 115 - 1 - 07533 - 8 หรือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขา กองทัพเรือวังนันทอุทยาน บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “กาชาดคอนเสิร์ตกองทัพเรือ ครั้งที่ 48” เลขบัญชี 661 - 4 - 18987 - 5

ภาพ/ข่าว สมนึก เชื้อสนุก

กองเรือยุทธการร่วมมอบเงินสมทบทุนงานกาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่ 48 พ.ศ 2565 '90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราชนาวีถวายพระพรชัยมงคล'

(19 ก.ค.65) พลเรือเอก สมประสงค์  นิลสมัย  ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการแถลงข่าว การจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 48 ปี พ.ศ.2565 '90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราชนาวีถวายพระพรชัยมงคล' ณ หอดุริยางค์ กองดุริยางค์ทหารเรือฐานทัพเรือกรุงเทพ โดยมี พลเรือโท ไพศาล มีศรี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการกองเรือยุทธการมอบเงินสมทบทุนงานกาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่ 48 พ.ศ 2565  '90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราชนาวีถวายพระพรชัยมงคล'

กองทัพเรือ ร่วมกับสภากาชาดไทย กำหนดจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 48 ประจำปีพุทธศักราช 2565 '90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราชนาวีถวายพระพรชัยมงคล' เพื่อหารายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายทูลเกล้าถวาย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย อันเป็นการสนองในพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ที่จะให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลเพื่อนมนุษย์ผู้เจ็บป่วยทั้งมวลให้ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อีกทั้งเป็นการเผยแพร่ดนตรีแนวคลาสสิกให้เป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวไทย กองทัพเรือ ได้จัดให้มีการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ตั้งแต่ปี 2504 เป็นต้นมา และได้จัดแสดง เป็นประจำทุกปี จะมีเว้นบ้างตามสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย

โดยวงดุริยางค์ราชนาวีนับได้ว่าเป็นวงซิมโฟนีออเคสตร้าแนวคลาสสิกชั้นนำวงหนึ่งของประเทศไทยที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้มีโอกาสบรรเลงในงานพระราชพิธี รัฐพิธี ตลอดจนงานสำคัญต่างๆ อยู่เป็นประจำ ในช่วงสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) แต่กองทัพเรือก็ยังมีความมุ่งมั่นที่จะสนองพระราชปณิธาน ในการเผยแพร่ดนตรีแนวคลาสสิค และหารายได้บำรุงสภากาชาดไทย โดยเป็นการจัดการแสดงในรูปแบบการ Live สด ผ่านทางสื่อออนไลน์ 

สำหรับในปีนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดต่างๆ ได้คลี่คลายลงแล้ว การจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต จึงได้มาจัดอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยการจัดการแสดงทุกครั้งที่ผ่านมา บรรเลงโดยวงซิมโฟนีออเคสตร้า ดุริยางค์ราชนาวี จากกองทัพเรือ ร่วมด้วยศิลปินรับเชิญ ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน ร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทยเป็นประจำเสมอมา สำหรับปีนี้ ได้รับเกียรติจากศิลปินรับเชิญร่วมขับร้องหลายท่าน อาทิ เรือตรี สันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ร่วมด้วย วิชญาณี เปียกลิ่น หรือ แก้ม เดอะสตาร์ โดม ปกรณ์ ลัม อิสริยา คูประเสริฐ และ ศรัณย์  คุ้งบรรพต โดยมี นาวาเอก พฤทธิธร สุมิตร ผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ เป็นผู้อำนวยการดนตรี นาวาเอก ศุภกร แตงน้อย เป็นผู้อำนวยเพลง (ภาคแรก) และ เรือโท กฤษฎา อยู่บรรยงค์ เป็นผู้อำนวยเพลง (ภาคหลัง)

สำหรับการแสดงแบ่งออกเป็น 2 ภาค ดังนี้...

ภาคแรก เพลง Light Cavalry Overture และ Intermezzo Form Cavalleria Rusticana ขับร้องโดย จ่าเอกหญิง โสธิดา ไชยฤทธิชัย เพลง Rhapsody In Blue บรรเลงเดี่ยวมาริมบาโดย พันจ่าเอก กุลธวัช แก้วสมัคร เพลง Mission : Impossible  และ Pomp and Circumstance Marches, Op.39 : March No.1 in D ขับร้องโดย นักร้องวงดุริยางค์ ราชนาวี และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ 

ภาคหลัง เพลง รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา ขับร้องโดย ศรัณย์  คุ้งบรรพต นักร้องวงดุริยางค์ราชนาวีชาย เพลงอยู่อย่างพอเพียง ขับร้องโดย ปกรณ์ ลัม เพลง ภาพที่งดงาม ขับร้องโดย อิสริยา  คูประเสริฐ และนักร้องวงดุริยางค์ราชนาวีหญิง เพลง ตับวิวาห์พระสมุทร ขับร้องโดย อิสริยา คูประเสริฐ และ ศรัณย์ คุ้งบรรพต เมดเล่ย์เพลง ชม ยู ดี ที - ชมประดู่ ขับร้องโดย เรือตรี สันติ ลุนเผ่ พันจ่าเอก อินทัช ฤกษ์เย็น และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ เพลง คนดีไม่มีวันตาย ขับร้องโดย นักร้องวงดุริยางค์ราชนาวีชาย และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ เพลง We’re All in This Together และเพลง Part of Your World ขับร้องโดย วิชญาณี เปียกลิ่น เพลง ยิ่งรักเธอ ขับร้องโดย ปกรณ์ ลัม เพลง รักในซีเมเจอร์ ขับร้องโดย อิสริยา คูประเสริฐ เพลง A Million Dreams ขับร้องโดย พันจ่าเอกหญิง สราญรัตน์ ชูอำนาจ เพลง Anthem ขับร้องโดย ศรัณย์ คุ้งบรรพต และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ และเพลง แผ่นดินของเรา ร่วมขับร้องโดยศิลปินรับเชิญ นักร้องวงดุริยางค์ราชนาวี และคณะนักร้องประสานเสียง กองดุริยางค์ทหารเรือ กำหนดจัดการแสดงรอบประชาชน ในวันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 และรอบเสด็จพระราชดำเนิน วันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2565 เวลา 19.30 น.

สำหรับผู้บริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทยในครั้งนี้ จะได้รับสิทธิประโยชน์จากสภากาชาดไทย โดยผู้บริจาคสามารถนำใบเสร็จรับเงินจากสภากาชาดไทยไปลดหย่อนภาษีได้ และผู้บริจาคเงินตั้งแต่ 4 หมื่นบาทขึ้นไป สามารถขอสิทธิ์การเป็นผู้มีอุปการคุณสภากาชาดไทย ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามสัดส่วนของเงินบริจาค เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และได้รับสิทธิลดหย่อนเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขตามที่ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข กำหนด นอกจากนั้น ผู้ที่บริจาคตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป ยังจะได้รับเข็มกลัดเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยด้านบนจะเป็นทับทิมสีแดงซึ่งสื่อถึงสภากาชาดไทยโอบล้อมด้วยดอกประดู่บานและตูมด้านล่างเป็นรูปสมอเรือซึ่งสื่อถึงกองทัพเรือ ด้านข้างของสมอเรือเป็นตัวโน๊ตดนตรี อันจะสื่อถึงการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบคือแบบแรกสำหรับ...

ผู้ที่บริจาคตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปตัวเรือนทำจากทองคำ 18k ประดับเพชรแท้จำนวน 20 เม็ดเม็ดละ 0.5 กะรัต จัดทำจำนวน 8 ชิ้น และแบบที่ 2 สำหรับผู้ที่บริจาคตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไปตัวเรือนทำด้วย silver 925 ระดับพลอยสังเคราะห์จำนวน 20 เม็ดเมตรละ 0.5 กะรัต จัดทำจำนวน 50 ชิ้น นอกจากนั้น ยังจะได้รับหนังสือขอบคุณ และภาพถ่ายขณะเข้ารับของที่ระลึกพร้อมกรอบเป็นที่ระลึก

‘เชียงราย’ เปิดแล้วสำนักงานใหม่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่ฟ้าหลวง

เมื่อวันที่ (19 กรกฎาคม 2565) ที่ผ่านมา นาย จรรยา วัฒนกุล รองผู้ว่าการการไฟฟ้าภาค1 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ให้เกียรติมาเป็นประธานพิธีเปิดสำนักงานใหม่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงรายโดยมีนาย พลยุทธ บุญมา ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่ฟ้าหลวงเป็นผู้กล่าวเปิดงานพร้อมด้วย

ว่าที่ร้อยโท พงค์ กุลนรา นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง นาย วรายุทธ คอมบุญ นายอำเภอแม่จัน พันตำรวจโท ประทีป เสียงดัง รองผู้กำกับการปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเวียงชัยช่วยราชการสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง นาย ประสงค์น้อยหมอ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่จัน นาย อดุลย์ จันทาพูน ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สายมอบหมายให้นาย ณัฎฐ์คเนศ จรัสรวีสิริกุล รองผู้จัดการด้านเทคนิคปฎิบัติงานแทนและผู้บริหารหัวหน้าส่วนราชการ

พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เข้าร่วมภายในงานในครั้งนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาแม่ฟ้าหลวงจากเดิมเป็นอาคารเก่าและเช่าอาคารของเอกชนเป็นที่ทำการซึ่งมีพื้นที่คับแคบประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการมาใช้บริการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ตระหนักถึงความสำคัญในด้านการให้บริการผู้ใช้ไฟฟ้าตามค่านิยมองค์กร"ทันโลก บริการดีมีคุณธรรม"ประกอบกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขา

อำเภอแม่ฟ้าหลวงมีผู้ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากการเจริญเติบโตด้านธุรกิจอย่างรวดเร็วการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงอนุมัติให้มีการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ซึ่งใช้งบประมาณของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและใช้เวลาในการก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนดเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าที่มาใช้บริการและการพัฒนาสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาแม่ฟ้าหลวงให้เป็นสำนักงานที่ทันสมัยสวยงานและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยเพียงพอต่อการให้บริการของประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นอย่างดีต่อไป

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

พนักงานขายแบรนด์หรูโพสต์เหยียดลูกค้า ใครพลิกดูป้ายราคา เท่ากับ ‘จน’ อย่าเสียเวลาคุย

กลายเป็นดราม่าใหญ่โตในโลกโซเชียล เมื่อเพจ ‘TEEPR 亮新聞’ ในไต้หวันได้แชร์ข้อความของหญิงคนหนึ่งที่อ้างว่าตัวเองเป็นพนักงานขายสินค้าแบรนด์เนม (Sales associate หรือ SA) โดยเธอได้ออกมาแชร์มุมมองที่ทำเอานักช้อปส่วนใหญ่ ‘หัวร้อน’ กันเลยทีเดียว

หญิงนิรนามคนนี้บอกว่า เธอทำงานเป็น SA ให้แบรนด์สินค้าหรูมา 7-8 ปี และเธอสังเกตว่าลูกค้าที่ดูป้ายราคาส่วนใหญ่มักจะไม่ซื้อ

“ถ้าคุณดูป้ายราคา หรือแม้กระทั่งพลิกป้าย นั่นแปลว่าคุณจน ฉันจะไม่เสียเวลากับลูกค้าแบบนั้น” เธอบอก

“มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันกำลังให้บริการลูกค้ารายหนึ่งอยู่ ผู้จัดการร้านตะโกนผ่านหูฟังมาเลยว่า ไม่ต้องไปเสียเวลากับคนนี้มาก แล้วสุดท้ายลูกค้าคนนั้นก็แค่จับของดูนิดหน่อย แล้วก็เดินออกไป”

ชาวเน็ตไต้หวันส่วนใหญ่บอกว่ารู้สึก ‘ตะลึง’ กับความคิดของพนักงานรายนี้ที่ดูถูกลูกค้าเพราะพวกเขาต้องการรู้ราคาของก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งมันก็เป็นสิทธิที่ลูกค้าทุกคนสามารถทำได้

และนี่คือความเห็นบางส่วนที่ชาวเน็ตอยากฝากไปถึง SA คนนี้…

“ฉันว่าที่เธอพูดแบบนี้ เพราะเธอยังเป็นแค่พนักงานขายไง ถ้าผู้หญิงที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วก็จะคิดเป็น” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าว

เพจสถานทูตจีนแจงชัด ไม่ได้สั่งห้ามทัวร์มาไทย โต้ ‘จาตุรนต์’ ทัวร์จีนยกเลิกไม่เกี่ยวกัญชาเสรี

(19 ก.ค. 65) จากกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 14 ก.ค. แสดงความเห็นถึงนโยบายกัญชาเสรี ว่าอาจจะกลายเป็นซอฟท์พาวเวอร์ด้านลบ ที่ทำให้ชาวต่างประเทศเสื่อมความนิยมชมชอบที่มีต่อค่านิยมและวัฒนธรรมของไทย ยิ่งไปกว่านั้นในตอนหนึ่งได้อ้างว่า สถานทูตจีนออกมาเตือนประชาชนของตนและกำหนดโทษไว้อย่างร้ายแรง นำมาสู่การยกเลิกกำหนดการท่องเที่ยวในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย

ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดย โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยตอบคำถาม กรณีร้อนจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของไทย ซึ่งกำลังเปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกันอยู่

โดยโฆษกสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนฯ Q&A ดังนี้…

อภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ ทำไมฟังแล้วเหมือนฝ่ายค้านกำลังโจมตีรัฐบาลชุดก่อนหน้าปี 2557

อภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ ทำไมฟังแล้วเหมือนฝ่ายค้านกำลังโจมตีรัฐบาลชุดก่อนหน้าปี 2557...งงในงง!!

ศรชล. ภาค 1 ร่วมเสวนา “เหลียวหน้าแลหลัง ทางออกวิกฤตการค้ามนุษย์ประมงไทย”

พลเรือตรีชำนาญ พวงเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายอำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ผอ.สน.ฝอ.ศรชล.ภาค 1) เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “เสวนาเหลียวหน้าแลหลัง ทางออกวิกฤตการค้ามนุษย์ประเทศไทย” ณ วิทยาลัยการศึกษาและการจัดการทางทะเล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดสมุทรสาคร โดยหัวข้อของการเสวนาจะแบ่งออกเป็น การเสวนาปัญหาการค้ามนุษย์ในแรงงานประมง โดยตัวแทนชาวประมงในพื้นที่ และการเสวนากฎหมายคนงานประมง จากทะเลสู่ฝั่งเพื่อลดปัญหาการค้ามนุษย์ โดยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการค้ามนุษย์ เมื่อ (18 ก.ค. 65)

'ผู้ช่วยฯโจ๊ก' สั่งเชือด ผกก. กับพวกรวม 5 คน อ้างชื่อ หลอกเอาเงิน ว่าจะช่วยประกันตัว สูญเงินกว่า 6 ล้าน

'ผู้ช่วยฯโจ๊ก' สั่งเชือด ผกก. กับพวกรวม 5 คน อ้างชื่อ หลอกเอาเงิน ว่าจะช่วยประกันตัว สูญเงินกว่า 6 ล้าน

เมื่อวันที่ (19 ก.ค. 2565) ที่ สน.ปากคลองสาน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากกรณีได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ธิรวรรณ์ เขียวงาม ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ นาย Ritesh Patel ชาวอังกฤษ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ภายในสถานกักกันคนต่างด้าว กก.3 บก.สส.สตม. ว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ ตน สามารถช่วยเหลือทางคดีและสามารถประกันตัว นาย Ritesh Patel ได้ ทำให้ น.ส.ธิรวรรณ์ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้มอบเงินกว่า 6,000,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้ต้องหา แต่ปรากฎว่าจนถึงปัจจุบัน นาย Ritesh Patel ก็ยังไม่ได้รับการประกันตัวหรือได้รับการปล่อยตัวแต่อย่างใด นั้น

 

ตนจึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.สน.ปากคลองสาน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีการแอบอ้างผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อให้มีการดำเนินคดีผิดไปจากระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎหมาย

จากการสืบสวนและทำให้ทราบพฤติการณ์ในคดี กล่าวคือ เมื่อวันที่ (27 มิ.ย. 65) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว นาย Ritesh Patel ชาวอังกฤษ ซึ่งพบว่ามีหมายแดง (หมายจับตำรวจสากล) และถูกส่งตัวไปกักขังเพื่อรอดำเนินการส่งกลับไปยังประเทศอังกฤษ ไว้ที่สถานกักกันคนต่างด้าว กก.3 บก.สส.สตม. โดยในระหว่างที่ นาย Ritesh Patel ผู้ต้องกัก ได้อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองนั้น ได้มี น.ส.ธิรวรรณ์ ผู้เสียหาย เข้ามาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอประกันตัวผู้ต้องกัก แต่ไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัว ต่อมา น.ส.ธิรวรรณ์ฯ จึงได้ขอความช่วยเหลือเรื่องประกันตัวไปยัง นายธนัญวัธน์ ธนันธัญภัทรน์ 

ซึ่ง นายธนัญวัธน์ฯ แจ้งว่า ได้มี นายวิทยา สงวนนามสกุล อ้างว่าสามารถช่วยประสานดำเนินการในประกันตัวผู้ต้องกักได้ เนื่องจากตนรู้จักกับ พ.ต.อ.ราเมศ ขอสงวนนามสกุล ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ซึ่งอ้างว่าเป็นชุดทำงานและเป็นเพื่อน นรต.รุ่นเดียวกับ ตน มั่นใจได้ว่าจะสามารถทำเรื่องประกันตัวหรือทำให้ได้รับการปล่อยตัวอย่างแน่นอน ทำให้ น.ส.ธิรวรรณ์ฯ และ นายธนัญวัธน์ฯ หลงเชื่อว่าสามารถดำเนินการได้จริง โดยนายวิทยาฯ ได้แจ้งว่าต้องมีค่าดำเนินการที่จะต้องชำระให้กับนายวิทยาฯ จำนวน 6 ล้านบาทให้เรียบร้อยก่อน

ต่อมาเมื่อวันที่ (29 มิ.ย. 65) เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ผู้ต้องกักอยู่ในความควบคุมที่สถานกักกันคนต่างด้าว (บางเขน) นายธนัญวัธน์ ฯ ได้เดินทางมากับ นายวิทยาฯ เข้าติดต่อร้อยเวรรักษาการณ์ประจำสถานกักกันคนต่างด้าว (บางเขน) เพื่อขอพบกับผู้ต้องกัก ซึ่งร้อยเวรรักษาการณ์แจ้งว่าไม่สามารถเข้าพบได้ แต่นายวิทยาฯ ได้พยายามให้พูดคุยโทรศัพท์กับบุคคลซึ่งอ้างตัวว่าคือ พ.ต.อ.ราเมศฯ เป็นชุดทำงานของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล จะขอติดต่อเข้าพบผู้ต้องกักคนดังกล่าว และยังอ้างว่าผู้ต้องกักดังกล่าวเคยทำงานเป็นสายให้กับตนเอง และพยายามจะขอให้เข้าพบผู้ต้องกัก แต่ร้อยเวรรักษาการณ์ก็ได้ปฏิเสธเนื่องจากขัดต่อระเบียบปฏิบัติและให้ติดต่อกับผู้บังคับบัญชาโดยตรง ต่อมา นายวิทยาฯ ได้แจ้งให้นายธนัญวัธน์ฯ และ น.ส.ธิรวรรณ์ฯ ไปทำการโอนเงินตามบัญชีธนาคารที่นายวิทยาฯ แจ้งไว้ โดยให้โอนให้ครบตามจำนวน ยอดรวมเป็นเงิน 6,000,000 บาท 

เมื่อโอนเงินครบแล้ว นายธนัญวัธน์ฯ ได้พยายามติดต่อเรื่องการขอประกันตัวกับ นายวิทยาฯ แต่ก็นายวิทยาฯ ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดและไม่สามารถติดต่อได้ในภายหลัง น.ส.ธิรวรรณ์ฯ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงเอาเงินไปโดยทุจริต ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ปากคลองสาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายวิทยา ได้มีการติดต่อกับ พ.ต.อ.ราเมศ ในห้วงเวลาเกิดเหตุจริง และมีพยานบุคคลยืนยันว่าบุคคลทั้งสองได้มีการกล่าวอ้างถึง ตนซึ่งเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในการติดต่อขอประกันตัวหรือขอเข้าพบผู้ต้องกักเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และได้ทำการหลอกลวงผู้เสียหายว่าสามารถจะช่วยเหลือได้จริง โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่กำหนดไว้ รวมความเสียหาย 6,000,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า ได้มีการโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคารของ พ.ต.อ.ราเมศ และบัญชีอื่นๆ ของบุคคลในครอบครัวของ พ.ต.อ.ราเมศ รวมทั้งบัญชีธนาคารของนายวิทยา  จึงเชื่อได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจริงโดยแบ่งหน้าที่กันทำ

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่เชียงราย ถอดบทเรียนการก่อเหตุจากผู้กราดยิง ปิดล้อมกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่เชียงราย ถอดบทเรียนการก่อเหตุจากผู้กราดยิง (Active Shooter) และปิดล้อมกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ หวังป้องกันและลดโอกาสการกระทำความผิดซ้ำ

วันนี้ ที่ สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแผนปฏิบัติการด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือแบบเบ็ดเสร็จ (พ.ศ. 2562-2565) ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม และสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ (14 ก.ค. 65) มีเหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงคนในหมู่บ้าน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย ในท้องที่ สภ. แม่สรวย จ.เชียงราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าระงับเหตุและจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ 

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม มีความห่วงใยในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการระงับเหตุกราดยิง จึงมอบหมายให้ตน ซึ่งรับผิดชอบกำกับดูแลงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 เดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อร่วมกับ ผู้แทน ภ.5, ภ.จว.เชียงราย, บก.สส.ภ.5 และ หน.สถานีตำรวจในสังกัด ภ.จว.เชียงราย ประชุมศึกษาเหตุการณ์การก่อเหตุจากผู้กราดยิง (Active Shooter) เพื่อถอดบทเรียนและนำไปเป็นกรณีศึกษา และกำชับการปฏิบัติในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้กำชับการปฏิบัติดังนี้

1. ให้ถอดบทเรียนจากกรณีศึกษาเหตุกราดยิง สภ.แม่สรวย ให้เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ฝึกทบทวนยุทธวิธีตามหลักปฏิบัติ SOP ในแต่ละสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพื้นที่อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อม จัดหาวัสดุอุปกรณ์ สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในการระงับป้องกันเหตุให้พร้อมและเพียงพอ
 2. ฝึกทบทวนการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุร่วมกับประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนให้ความรู้ และแนวทางการปฏิบัติเมื่อประชาชนประสบเหตุเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เช่น หนี ซ่อน สู้
3. ให้ X-ray ค้นหาผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดอย่างเป็นระบบ และสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าด้วยระบบ ccoc ให้มีผลการปฏิบัติชัดเจน เป็นรูปธรรม 
4. ปิดล้อม ตรวจค้นระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท เน้นความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน เพราะก่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง  
5. ประสานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนฯ (Stronger Together) อย่างมีประสิทธิภาพ และบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนอย่างเคร่งครัด
         
 

ตำรวจมอบรางวัลอาสาตาจราจร

ตำรวจมอบรางวัลอาสาตาจราจร ส่งคลิปกล้องหน้ารถ รวม 100,000 บาท
พร้อมแจ้งเริ่มใช้มาตรการตัดคะแนนการขับรถ มกราคม 2566 เพื่อสร้างวินัยการขับขี่  

 

ตำรวจ จับมือ วิริยะประกันภัย มูลนิธิเมาไม่ขับ จส.100 และ สวพ.91 มอบเงินรางวัลคลิปกล้องหน้ารถ รอบเดือน พ.ค. และ มิ.ย.65  รวม 100,000 บาท  เพื่อช่วยสร้างอาสาตาจราจรบนท้องถนน

วันนี้ (19 ก.ค. 65) เวลา 10.30 น. ณ ห้องศรียานนท์ โซนซี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์  รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ,พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. , พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เอกราช  ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้แทนสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100  ร่วมแถลงผลการมอบรางวัลและเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร ประจำเดือน พ.ค. และ มิ.ย. 65 ให้แก่เจ้าของคลิปวิดีโอที่ได้รับคัดเลือก รวมจำนวน 20 คลิป  เงินรางวัลรวม 100,000 บาท  

ประชาชนสามารถร่วมเป็นอาสาตาจราจร โดยส่งคลิปกล้องหน้ารถ หรือคลิปจากโทรศัพท์มือถือ ที่บันทึกอุบัติเหตุ หรือ การกระทำความผิดจราจร บนท้องถนนต่าง ๆ ส่งมายังช่องทางมูลนิธิเมาไม่ขับ , ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.  ,จส.100 , สวพ.91 , Facebook เพจตำรวจทางหลวง และ Facebook เพจกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยคลิปที่ได้รางวัลที่ 1 เงินรางวัลจำนวน 20,000 บาท  รางวัลที่ 2 จำนวน 10,000 บาท  และรางวัลที่ 3 จำนวน 6,000 บาท ที่เหลือเป็นรางวัลชมเชย รวมเป็นเงิน 50,000 บาท  ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวิริยะประกันภัยฯ  

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ  กล่าวว่า โครงการอาสาตาจราจร เป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนน สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแสการทำผิดกฎจราจร ให้สังคมเป็นเกราะป้องกัน และสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบ สำหรับคลิปที่ได้รางวัลที่ 1 ของเดือน พ.ค.65 คือ คลิปรถจักรยานยนต์ขับขี่ชนคนข้ามทางม้าลาย ขณะที่สัญญาณไฟเป็นสีแดง เหตุเกิดเมื่อวันที่ (17 พ.ค. 65) พื้นที่ สน.บางขุนเทียน ส่วนคลิปที่ได้รางวัลที่ 1 ของเดือน มิ.ย.65 คือ คลิปอุบัติเหตุรถกระบะขับข้ามเลนชนประสานงา ถ.โอ่งไหม อ.อู่ทอง จว.กาญจนบุรี พื้นที่ สภ.อู่ทอง ซึ่งทั้ง 2 คดี พงส. ได้รับคำร้องทุกข์ และอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ทำผิด 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตร. ได้แก้ไข พ.ร.บ.จราจร ทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ซึ่งมีหลักการสำคัญ เช่น 
1) การเพิ่มโทษของผู้ที่กระทำผิดซ้ำข้อหาเมาแล้วขับภายใน 2 ปีนับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับตั้งแต่ 50,000 – 100,000 บาท     
2) กำหนดอำนาจในการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดและสารเสพติดในร่างกายของผู้ขับขี่ที่หมดสติซึ่งไม่อาจให้ความยินยอมได้  
3) เพิ่มอัตราโทษปรับขั้นสูงในกฎหมายจราจร จากเดิมโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท แก้ไขเพิ่มเป็นปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท  
และ 4) การกำหนดให้ใช้ที่นั่งนิรภัยหรือมีวิธีป้องกันอันตรายสำหรับเด็กอายุไม่เกิน  6 ปี ขณะโดยสารรถยนต์ ซึ่ง ตร. อยู่ระหว่างจัดทำประกาศรูปแบบที่นั่งนิรภัย รวมถึงเปิดช่องทางผ่อนคลายสำหรับประชาชนที่ไม่สามารถจัดหาที่นั่งนิรภัยเด็กไว้โดย โดยให้ปฏิบัติตามวิธีการป้องกันอันตราย ซึ่งจะกำหนดรูปแบบที่ประชาชนสามารถปฏิบัติได้ง่าย ไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่าย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top