Sunday, 8 June 2025
NEWS FEED

'ผู้ช่วยฯโจ๊ก' สั่งเชือด ผกก. กับพวกรวม 5 คน อ้างชื่อ หลอกเอาเงิน ว่าจะช่วยประกันตัว สูญเงินกว่า 6 ล้าน

'ผู้ช่วยฯโจ๊ก' สั่งเชือด ผกก. กับพวกรวม 5 คน อ้างชื่อ หลอกเอาเงิน ว่าจะช่วยประกันตัว สูญเงินกว่า 6 ล้าน

เมื่อวันที่ (19 ก.ค. 2565) ที่ สน.ปากคลองสาน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากกรณีได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ธิรวรรณ์ เขียวงาม ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ นาย Ritesh Patel ชาวอังกฤษ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ภายในสถานกักกันคนต่างด้าว กก.3 บก.สส.สตม. ว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ ตน สามารถช่วยเหลือทางคดีและสามารถประกันตัว นาย Ritesh Patel ได้ ทำให้ น.ส.ธิรวรรณ์ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้มอบเงินกว่า 6,000,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้ต้องหา แต่ปรากฎว่าจนถึงปัจจุบัน นาย Ritesh Patel ก็ยังไม่ได้รับการประกันตัวหรือได้รับการปล่อยตัวแต่อย่างใด นั้น

 

ตนจึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.สน.ปากคลองสาน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีการแอบอ้างผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อให้มีการดำเนินคดีผิดไปจากระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎหมาย

จากการสืบสวนและทำให้ทราบพฤติการณ์ในคดี กล่าวคือ เมื่อวันที่ (27 มิ.ย. 65) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว นาย Ritesh Patel ชาวอังกฤษ ซึ่งพบว่ามีหมายแดง (หมายจับตำรวจสากล) และถูกส่งตัวไปกักขังเพื่อรอดำเนินการส่งกลับไปยังประเทศอังกฤษ ไว้ที่สถานกักกันคนต่างด้าว กก.3 บก.สส.สตม. โดยในระหว่างที่ นาย Ritesh Patel ผู้ต้องกัก ได้อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองนั้น ได้มี น.ส.ธิรวรรณ์ ผู้เสียหาย เข้ามาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอประกันตัวผู้ต้องกัก แต่ไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัว ต่อมา น.ส.ธิรวรรณ์ฯ จึงได้ขอความช่วยเหลือเรื่องประกันตัวไปยัง นายธนัญวัธน์ ธนันธัญภัทรน์ 

ซึ่ง นายธนัญวัธน์ฯ แจ้งว่า ได้มี นายวิทยา สงวนนามสกุล อ้างว่าสามารถช่วยประสานดำเนินการในประกันตัวผู้ต้องกักได้ เนื่องจากตนรู้จักกับ พ.ต.อ.ราเมศ ขอสงวนนามสกุล ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ซึ่งอ้างว่าเป็นชุดทำงานและเป็นเพื่อน นรต.รุ่นเดียวกับ ตน มั่นใจได้ว่าจะสามารถทำเรื่องประกันตัวหรือทำให้ได้รับการปล่อยตัวอย่างแน่นอน ทำให้ น.ส.ธิรวรรณ์ฯ และ นายธนัญวัธน์ฯ หลงเชื่อว่าสามารถดำเนินการได้จริง โดยนายวิทยาฯ ได้แจ้งว่าต้องมีค่าดำเนินการที่จะต้องชำระให้กับนายวิทยาฯ จำนวน 6 ล้านบาทให้เรียบร้อยก่อน

ต่อมาเมื่อวันที่ (29 มิ.ย. 65) เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ผู้ต้องกักอยู่ในความควบคุมที่สถานกักกันคนต่างด้าว (บางเขน) นายธนัญวัธน์ ฯ ได้เดินทางมากับ นายวิทยาฯ เข้าติดต่อร้อยเวรรักษาการณ์ประจำสถานกักกันคนต่างด้าว (บางเขน) เพื่อขอพบกับผู้ต้องกัก ซึ่งร้อยเวรรักษาการณ์แจ้งว่าไม่สามารถเข้าพบได้ แต่นายวิทยาฯ ได้พยายามให้พูดคุยโทรศัพท์กับบุคคลซึ่งอ้างตัวว่าคือ พ.ต.อ.ราเมศฯ เป็นชุดทำงานของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล จะขอติดต่อเข้าพบผู้ต้องกักคนดังกล่าว และยังอ้างว่าผู้ต้องกักดังกล่าวเคยทำงานเป็นสายให้กับตนเอง และพยายามจะขอให้เข้าพบผู้ต้องกัก แต่ร้อยเวรรักษาการณ์ก็ได้ปฏิเสธเนื่องจากขัดต่อระเบียบปฏิบัติและให้ติดต่อกับผู้บังคับบัญชาโดยตรง ต่อมา นายวิทยาฯ ได้แจ้งให้นายธนัญวัธน์ฯ และ น.ส.ธิรวรรณ์ฯ ไปทำการโอนเงินตามบัญชีธนาคารที่นายวิทยาฯ แจ้งไว้ โดยให้โอนให้ครบตามจำนวน ยอดรวมเป็นเงิน 6,000,000 บาท 

เมื่อโอนเงินครบแล้ว นายธนัญวัธน์ฯ ได้พยายามติดต่อเรื่องการขอประกันตัวกับ นายวิทยาฯ แต่ก็นายวิทยาฯ ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดและไม่สามารถติดต่อได้ในภายหลัง น.ส.ธิรวรรณ์ฯ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงเอาเงินไปโดยทุจริต ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ปากคลองสาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายวิทยา ได้มีการติดต่อกับ พ.ต.อ.ราเมศ ในห้วงเวลาเกิดเหตุจริง และมีพยานบุคคลยืนยันว่าบุคคลทั้งสองได้มีการกล่าวอ้างถึง ตนซึ่งเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในการติดต่อขอประกันตัวหรือขอเข้าพบผู้ต้องกักเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และได้ทำการหลอกลวงผู้เสียหายว่าสามารถจะช่วยเหลือได้จริง โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่กำหนดไว้ รวมความเสียหาย 6,000,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า ได้มีการโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคารของ พ.ต.อ.ราเมศ และบัญชีอื่นๆ ของบุคคลในครอบครัวของ พ.ต.อ.ราเมศ รวมทั้งบัญชีธนาคารของนายวิทยา  จึงเชื่อได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจริงโดยแบ่งหน้าที่กันทำ

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่เชียงราย ถอดบทเรียนการก่อเหตุจากผู้กราดยิง ปิดล้อมกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่เชียงราย ถอดบทเรียนการก่อเหตุจากผู้กราดยิง (Active Shooter) และปิดล้อมกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ หวังป้องกันและลดโอกาสการกระทำความผิดซ้ำ

วันนี้ ที่ สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแผนปฏิบัติการด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือแบบเบ็ดเสร็จ (พ.ศ. 2562-2565) ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม และสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ (14 ก.ค. 65) มีเหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงคนในหมู่บ้าน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย ในท้องที่ สภ. แม่สรวย จ.เชียงราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าระงับเหตุและจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ 

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม มีความห่วงใยในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการระงับเหตุกราดยิง จึงมอบหมายให้ตน ซึ่งรับผิดชอบกำกับดูแลงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 เดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อร่วมกับ ผู้แทน ภ.5, ภ.จว.เชียงราย, บก.สส.ภ.5 และ หน.สถานีตำรวจในสังกัด ภ.จว.เชียงราย ประชุมศึกษาเหตุการณ์การก่อเหตุจากผู้กราดยิง (Active Shooter) เพื่อถอดบทเรียนและนำไปเป็นกรณีศึกษา และกำชับการปฏิบัติในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้กำชับการปฏิบัติดังนี้

1. ให้ถอดบทเรียนจากกรณีศึกษาเหตุกราดยิง สภ.แม่สรวย ให้เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ฝึกทบทวนยุทธวิธีตามหลักปฏิบัติ SOP ในแต่ละสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพื้นที่อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อม จัดหาวัสดุอุปกรณ์ สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในการระงับป้องกันเหตุให้พร้อมและเพียงพอ
 2. ฝึกทบทวนการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุร่วมกับประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนให้ความรู้ และแนวทางการปฏิบัติเมื่อประชาชนประสบเหตุเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เช่น หนี ซ่อน สู้
3. ให้ X-ray ค้นหาผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดอย่างเป็นระบบ และสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าด้วยระบบ ccoc ให้มีผลการปฏิบัติชัดเจน เป็นรูปธรรม 
4. ปิดล้อม ตรวจค้นระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท เน้นความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน เพราะก่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง  
5. ประสานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนฯ (Stronger Together) อย่างมีประสิทธิภาพ และบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนอย่างเคร่งครัด
         
 

ตำรวจมอบรางวัลอาสาตาจราจร

ตำรวจมอบรางวัลอาสาตาจราจร ส่งคลิปกล้องหน้ารถ รวม 100,000 บาท
พร้อมแจ้งเริ่มใช้มาตรการตัดคะแนนการขับรถ มกราคม 2566 เพื่อสร้างวินัยการขับขี่  

 

ตำรวจ จับมือ วิริยะประกันภัย มูลนิธิเมาไม่ขับ จส.100 และ สวพ.91 มอบเงินรางวัลคลิปกล้องหน้ารถ รอบเดือน พ.ค. และ มิ.ย.65  รวม 100,000 บาท  เพื่อช่วยสร้างอาสาตาจราจรบนท้องถนน

วันนี้ (19 ก.ค. 65) เวลา 10.30 น. ณ ห้องศรียานนท์ โซนซี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์  รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ,พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. , พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เอกราช  ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้แทนสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100  ร่วมแถลงผลการมอบรางวัลและเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร ประจำเดือน พ.ค. และ มิ.ย. 65 ให้แก่เจ้าของคลิปวิดีโอที่ได้รับคัดเลือก รวมจำนวน 20 คลิป  เงินรางวัลรวม 100,000 บาท  

ประชาชนสามารถร่วมเป็นอาสาตาจราจร โดยส่งคลิปกล้องหน้ารถ หรือคลิปจากโทรศัพท์มือถือ ที่บันทึกอุบัติเหตุ หรือ การกระทำความผิดจราจร บนท้องถนนต่าง ๆ ส่งมายังช่องทางมูลนิธิเมาไม่ขับ , ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.  ,จส.100 , สวพ.91 , Facebook เพจตำรวจทางหลวง และ Facebook เพจกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยคลิปที่ได้รางวัลที่ 1 เงินรางวัลจำนวน 20,000 บาท  รางวัลที่ 2 จำนวน 10,000 บาท  และรางวัลที่ 3 จำนวน 6,000 บาท ที่เหลือเป็นรางวัลชมเชย รวมเป็นเงิน 50,000 บาท  ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวิริยะประกันภัยฯ  

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ  กล่าวว่า โครงการอาสาตาจราจร เป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนน สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแสการทำผิดกฎจราจร ให้สังคมเป็นเกราะป้องกัน และสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบ สำหรับคลิปที่ได้รางวัลที่ 1 ของเดือน พ.ค.65 คือ คลิปรถจักรยานยนต์ขับขี่ชนคนข้ามทางม้าลาย ขณะที่สัญญาณไฟเป็นสีแดง เหตุเกิดเมื่อวันที่ (17 พ.ค. 65) พื้นที่ สน.บางขุนเทียน ส่วนคลิปที่ได้รางวัลที่ 1 ของเดือน มิ.ย.65 คือ คลิปอุบัติเหตุรถกระบะขับข้ามเลนชนประสานงา ถ.โอ่งไหม อ.อู่ทอง จว.กาญจนบุรี พื้นที่ สภ.อู่ทอง ซึ่งทั้ง 2 คดี พงส. ได้รับคำร้องทุกข์ และอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ทำผิด 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตร. ได้แก้ไข พ.ร.บ.จราจร ทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ซึ่งมีหลักการสำคัญ เช่น 
1) การเพิ่มโทษของผู้ที่กระทำผิดซ้ำข้อหาเมาแล้วขับภายใน 2 ปีนับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับตั้งแต่ 50,000 – 100,000 บาท     
2) กำหนดอำนาจในการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดและสารเสพติดในร่างกายของผู้ขับขี่ที่หมดสติซึ่งไม่อาจให้ความยินยอมได้  
3) เพิ่มอัตราโทษปรับขั้นสูงในกฎหมายจราจร จากเดิมโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท แก้ไขเพิ่มเป็นปรับสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท  
และ 4) การกำหนดให้ใช้ที่นั่งนิรภัยหรือมีวิธีป้องกันอันตรายสำหรับเด็กอายุไม่เกิน  6 ปี ขณะโดยสารรถยนต์ ซึ่ง ตร. อยู่ระหว่างจัดทำประกาศรูปแบบที่นั่งนิรภัย รวมถึงเปิดช่องทางผ่อนคลายสำหรับประชาชนที่ไม่สามารถจัดหาที่นั่งนิรภัยเด็กไว้โดย โดยให้ปฏิบัติตามวิธีการป้องกันอันตราย ซึ่งจะกำหนดรูปแบบที่ประชาชนสามารถปฏิบัติได้ง่าย ไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่าย 

‘แอนโทนี่’ รุดเยี่ยม ให้กำลังใจ ครอบครัว ‘ปานเพชร’ หัวหน้าค่าย เผยนักชกฝรั่งเศส ช็อกถึงขั้นร้องไห้คนเดียว

‘แอนโทนี่’ รุดเยี่ยม ให้กำลังใจ ครอบครัว ‘ปานเพชร’ หัวหน้าค่ายเผย นักชกชาวฝรั่งเศส ช็อกหนัก ซึมเศร้า-ร้องไห้คนเดียว หลัง ‘ปานเพชร’ สมองตาย อาการโคม่า

จากกรณีช็อกในวงการมวย ในการชก “ศึกมวยไฟเตอร์ X” เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่เวทีมวยเยาวชนกองทัพอากาศ ในคู่ระหว่าง ปานเพชร ผดุงชัยมวยไทย ชกกับ แอนโทนี่ ทีเอฟซี มวยไทย นักชกชาวฝรั่งเศส

ผลปรากฏว่า ปานเพชร โดนศอกกลับแพ้น็อกไป ซึ่งจังหวะดังกล่าว ปานเพชร หลับกลางอากาศหัวฟาดพื้นอย่างแรงจนเลือดคั่งในสมอง ซึ่งขณะนี้ ปานเพชร ยังอยู่ในอาการโคม่าจากภาวะสมองตาย

ล่าสุด วันที่ 19 ก.ค. 65 เพจ TFC Muaythai Gym ทีเอฟซีมวยไทยยิม ได้โพสต์ข้อความว่า จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (15 กรกฎาคม) ปานเพชร ผดุงชัยมวยไทยยิม พลาดท่าโดนศอกกลับของ แอนโทนี่ ทีเอฟซีมวยไทยยิม เป็นเหตุทำให้ปานเพชรหมดสติและล้มลงหัวฟาดพื้น ซึ่ง ณ ขณะนี้ น้องปานเพชรยังโคม่า และมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด

ทางค่ายติดตามข่าวสารอาการของปานเพชรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพยายามหาช่องทางการติดต่อไปยังภรรยาของปานเพชร

ทางหัวหน้าค่ายมวยทีเอฟซี และทุกคนในค่ายรวมทั้ง แอนโทนี่ รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง

แอนโทนี่ มีอาการซึมเศร้า ร้องไห้คนเดียว ทุกคนในค่ายรู้สึกเเย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมถึงตัวผมด้วย

'อัษฎางค์' เปิดถ้อยคำทูตสหรัฐฯ คนใหม่ "สหรัฐฯ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย"

(19 ก.ค. 2565) อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ระบุว่า “ความพยายามในการทำให้การละเมิดกฎหมาย เป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” ของฝ่ายที่เรียกตนเองว่า ฝ่ายปฏิรูป

ข่าวที่นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค Robert F. Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่ ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภาสหรัฐ

ไม่มีประเด็น ม.112 แต่อย่างใด

แต่ที่เกิดประเด็นขึ้นนั้น เกิดมาจากการตีไข่ใส่ซีอิ๊วน้ำปลาของพวกที่ต่อต้าน ม.112 และเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น

อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี ที่ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว

กล่าวคือ ฝ่ายที่ต่อต้าน 112 และสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ตีปีกฮึกเหิมว่าอเมริกาแสดงท่าทีเข้าข้างพวกตน ส่วนฝ่ายที่จงรักภักดีก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ว่าสหรัฐฯ ก้าวก่าย

ซึ่งข่าวนี้ได้รับการยืนยันจากวงในว่า ไม่มีอะไรในกอไผ่ มีแต่การบิดเบือนสาระสำคัญจากถ้อยคำของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ของฝ่ายปฏิกษัตริย์นิยมเท่านั้น

ท่านทูตโกเดคกล่าวเพียงว่า

“The United States respects the institution of the Thai monarchy and we understand the esteem with which the Thai people hold the royal family.

สหรัฐฯ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และเรา (สหรัฐฯ) เข้าใจดีว่าคนไทยเทิดทูนราชวงศ์

Freedom of expression is critical.

เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนั้นเป็นเรื่องสำคัญ

and I would emphasize both publicly and privately the importance of allowing people to freely express their ideas without threat of arrest.”

และผมเน้นย้ำทั้งต่อสาธารณะและโดยส่วนตัวถึงความสำคัญในการให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี โดยปราศจากการข่มขู่ว่าจะจับกุม

จะเห็นได้ว่า ท่านทูต เกริ่นมาตั้งแต่ต้นว่า

สหรัฐฯ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย และสหรัฐฯ เข้าใจดีว่าคนไทยเทิดทูนราชวงศ์

ดังนั้น ในเมื่อคนไทยเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วจะมีเหตุผลใดที่คนไทยจะใช้ความมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์

ในทางเดียวกัน จะมีเหตุผลใดที่รัฐหรือสถาบันพระมหากษัตริย์จะข่มขู่ว่าจะจับกุมคนไทยซึ่งเทิดทูนสถาบันฯ

ยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐอเมริกาได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้นำของโลกเสรีนิยม ซึ่งสนับสนุนให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี “ภายใต้กรอบของกฎหมาย” โดยปราศจากการข่มขู่ว่าจะจับกุม

ผ่านครึ่งปี 65 "เสือดุ" พรากคนบันเทิง

ปีเสือดุของจริง!!
ปี 2565 เรียกได้ว่าเป็นปีที่วงการบันเทิงสุดเศร้า เพราะสูญเสียศิลปิน ทั้ง นักร้อง และนักแสดง ไปแล้วหลายราย ระยะเวลาเพียงแค่ครึ่งปี แต่ได้พรากชีวิตคนในวงการบันเทิง ไปแล้วถึง 13 คน 

ย้อนรำลึกถึงดาวแต่ละดวงที่ต้องจากไปชั่วนิรันดร์มีใครบ้าง

'กระทรวงดิจิทัลฯ' กร้าว!! ดำเนินการอย่างเข้มงวด 'สื่อลามก-ยาเสพติด-ความรุนแรง' บนโลกออนไลน์

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ รับข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความห่วงใยต่อเด็กและเยาวชน กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่าในขณะนี้มีการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย

ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์มาโดยตลอด และได้ดำเนินมาตรการในการป้องกันด้วยการสร้างการตระหนักรู้ในการใช้สื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ ชี้ให้เห็นถึงอันตรายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและวิธีการในการรับมือแต่ละสถานการณ์ 

รวมทั้งจัดให้มีหน่วยงานรับแจ้งเบาะแสและให้คำปรึกษาเมื่อประชาชนพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมบนโลกออนไลน์ ควบคู่ไปกับเข้มงวดในการปราบปรามด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ภายใต้หลักสิทธิเสรีภาพในการเข้าถึงสื่อบนโลกออนไลน์

ปธ.ชมรมแม่บ้าน บช.น. พร้อมคณะ นำถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือ มอบให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง

ปธ.ชมรมแม่บ้าน บช.น. พร้อม ปธ.กต.ตร.กทม.(ภาคประชาชน), ปธ.กต.ตร.บก.น.1 พร้อมคณะ นำถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือ มอบให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง เพื่อเป็นการบำรุงขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจ ในสังกัด บช.น. ตามโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน”

18 ก.ค.65 เวลา 15.00 น. คุณศิริเพ็ญ ตั้งทวีสุโข นวลมา ประธานชมรมแม่บ้าน บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ. เอกลักษณ์ เปาอินทร์ รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม, พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง, ดร.พีรวัฒน์ สุรเศรษฐ ประธาน กต.ตร.กทม.(ภาคประชาชน) และประธาน กต.ตร.สน.ชนะสงคราม, ดร.ธัชวิน สุรเศรษฐ ประธาน กต.ตร.บก.น.1 และ บก.สปพ.191, ข้าราชการตำรวจและคณะแม่บ้าน บช.น. ร่วมนำถุงยังชีพและเงินบำรุงขวัญ ไปมอบให้กับ ร.ต.ต.สาธิต สังข์ทอง รอง สว. (จร.สน.ชนะสงคราม, ต.ต.อัศวิน อินทร์ภิรมย์ ผบ.หมู่ (จร.)สน.ชนะสงคราม และ ต.ช.ยงยศ สมสันต์ บุตรของ ต.ต.ศรุต สมสันต์ ผบ.หมู่ (จร.) สน.นางเลิ้ง ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง เพื่อเป็นการบำรุงขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจ ในสังกัด บช.น. ตามโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน”

ศย.กลางปฎิบัติภารกิจสำคัญ ช่วยเหลือและติดตามเยาวชน “คืนเด็กดีสู่สังคม”

วันที่18 กรกฎาคม 2565 เวลา 9.30 น. นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มอบหมายให้ นางวิรา ยากะจิ ณ พิกุล รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางพร้อมนางณัฐา อินทวงศ์ รองประธานผู้พิพากษาสมทบฝ่ายติดตามเด็กเเละเยาวชน นำผู้พิพากษาสมทบคณะทำงานโครงการติดตามแนะนำช่วยเหลือเด็กและเยาวชนชุดที่2 ออกเยี่ยมเยียน ให้คำปรึกษา เเนะนำช่วยเหลือ เด็กและเยาวชนที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และศาลเยาวชนและครอบครัวจากทั่วประเทศมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ส่งตัว ไปควบคุมเพื่อฝึกอบรม ณ สถานแรกรับและศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านปรานี  และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านมุทิตา อำเภอคลองโยง จังหวัด นครปฐม อันเป็นภารกิจของศูนย์ติดตามแนะนำช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของศาลให้ปรับเปลี่ยนพฤตินิสัยกลับตนเป็นคนดีมีความประพฤติที่ดีสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างไม่หวนกลับมากระทำความผิดซ้ำอีก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงจากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอ พบสปายแวร์เพกาซัสในโทรศัพท์ของผู้เห็นต่างจากรัฐที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอถึงประเด็นพบสปายแวร์เพกาซัสในโทรศัพท์ของผู้เห็นต่างจากรัฐที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม

ขอเรียนชี้แจงว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมถึงการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และภารกิจความมั่นคงของราชอาณาจักรรวมถึงการปฏิบัติการอื่นใด ตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

โดยการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องได้ให้กรอบในการดำเนินการไว้ และในส่วนของภารกิจที่เกี่ยวกับความมั่นคงไม่ได้มีการใช้สปายแวร์ เพื่อสอดแนมหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใดแต่อย่างใด ซึ่งการปฎิบัติหน้าที่ด้านความมั่นจะดำเนินการพร้อมประสานงานการปฎิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั้งหน่วยงานภายในและหน่วยงานต่างประเทศมาโดยตลอด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top